ผมเจอเหตุการณ์นี้เหมือนกัน โดยผมใช้มือถือหัวเหว่ย honor 3c
วันที่ 27 มิ.ย. 57 เวลาช่วงค่ำผมกำลังกินข้าวกับเพื่อนอยู่ ก็เจอเหตุการณ์ขั้นต้น จึงได้โทรติดต่อไปยัง Call Center ทาง Call Center ก็รับเรื่องไว้ แต่ผมก็ร้อนใจ เพราะว่านอกจาก GPS จะเปิดเองตอนเล่นเน็ทแล้ว ก็ยังเปิดเองตอนโทรออกด้วย ซึ่งผมประหลาดใจมาก กลัวว่าเครื่องอาจจะติดไวรัส คืนนั้นผมจึงทำการรีเซ็ทเครื่องใหม่ กว่าจะเสร็จก็ตีสี่ จากนั้นจึงทำการปิดเครื่องแล้วก็หลับไป
วันที่ 28 มิ.ย. 57 หลังจากตื่นขึ้นมาในตอนสาย ผมก็เปิดเครื่องและทดสอบ ปรากฏว่า GPS ก็ยังเปิดเองเหมือนเดิม ไม่ว่าจะตอนเปิดเน็ทหรือโทรออก ถึงแม้ว่าจะบังคับปิด แต่เมื่อเปิดเน็ทหรือโทรออกก็จะเปิดเองทุกครั้ง จึงได้โทรไปยัง Call Center ได้รับคำตอบว่าจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับในเวลา 11.00 น. พอเวลา 11..09 น. (ดูจาก Log ในมือถือ) ก็มีเจ้าหน้าที่ติดต่อเข้ามา ก็แจ้งมาว่าอาจเกิดจากตัวมือถือเอง จึงแนะนำให้รีเซ็ทเครื่อง ผมจึงแจ้งว่าผมได้รีเซ็ทเครื่องแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ชี้แจงเพิ่มเติมว่า เท่าที่ตรวจสอบก็ไม่พบว่ามีการแก้ไขระบบแต่อย่างใด (สรุปว่าโทรมาหาก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น) หลังจากคุยเสร็จ ก็ปรากฏว่ามีสายโทรเข้ามา ทำให้ผมสังเกตเห็นว่า GPS ก็เปิดเมื่อมีสายเข้า ทำให้ผมตัดสินใจไปติดต่ดที่ศูนย์เอไอเอสที่.... ทันทีในช่วงบ่าย
แต่ก่อนที่ผมจะเข้าไปยังศูนย์เอไอเอส ผมก็ไปยังร้าน.. เพื่อไปพบกับพนักงานขายมือถือที่ผมซื้อมา และเล่าเหตุการณ์ให้พนักงานขายที่ร้านฟัง พนักงานขายก็อุธานออกมาว่า พี่ที่ร้านก็เจอเหตุการณ์เดียวกับพี่เลย โดยเกิดขึ้นเมื่อคืนเหมือนกัน และเครื่องที่เป็น เป็นยี่ห้อ Oppo ผมก็เลยชักเริ่มเอะใจ
เมื่อไปถึงที่ศูนย์เอไอเอส ก็ได้ติดต่อพนักงานหญิง (สมมติชื่อน้อง ก)  ซึ่งเธอก็พยายามอธิบายว่า เป็นเพราะมือถือของเราเองมีปัญหา ผมก็แย้งไปว่า ถ้ามีปัญหาแบบนี้ก็น่าจะมีตั้งแต่แรกที่ใช้มือถือรุ่นนี้ แต่ไม่ใช่เพิ่งมาเกิดเหตุการณ์เมื่อคืน น้อง ก จึงให้พนักงานชาย (สมมติว่าชื่อนาย ข) มาดูมือถือให้ หลังจากที่นาย ข มาดูให้ และพยายามที่จะเช็คค่าต่าง ๆ ในมือถือ ก็บอกว่า เท่าที่ดูน่าจะเกิดจากตัวมือถือเอง และบอกว่า "พี่ลองคิดนะ หากผมเอาซิมของพี่ใส่มือถือที่เป็นเครื่องแบบเดียวกับพี่ หรือที่เป็นแอนดรอยด์เหมือนกัน แล้วมันไม่เป็น แล้วพี่คิดว่ามันจะเกิดจากอะไร" ผมก็เลยถามกลับไปว่า "น้อง ถ้าหากพี่รู้ถึงขนาดนั้น พี่จะมาขอความช่วยเหลือจากน้องหรือ"  และผมได้อ้างข้อมูลจากเวปของพันธ์ทิพย์ ซึ่งก่อนนหน้านี้ก็มีคนโพสไว้ น้อง ก ก็เข้าไปดู และบอกว่า ค่ายอื่นก็เป็นไม่ใช่เอไอเอสค่ายเดียว ไม่เชื่อพี่ก็ดูสิ ผมก็เลยบอกว่า ผมไม่ดู เพราะผมมีปัญหากับเอไอเอส และผมต้องการให้ช่วยแก้ปัญหาให้ผม หลังจากนั้นก็มีการทดสอบอะไรต่อมิอะไร โดยไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำนั้น พอจะมีประโยชน์ที่จะช่วยผมได้หรือไม่ โดยสรุปแล้ว ผมติดต่อชั่วโมงกว่า ๆ ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น นอกจากได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าจะให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ
ในวันนั้นผมจึงตัดสินใจสลับซิมเอไอเอสไว้ที่ Slot 2 ส่วนเบอร์ของดีแทคไว้ที่ Slot 1 ซึ่งปรากฏว่า GPS ไม่เปิดเองเหมือนอย่างเคย จนกระทั่งเมื่อวานนี้ ผมจึงสลับซิมคืนดังเดิม ก็ไม่พบเหตุการณ์ดังกล่าวอีก
และในวันนี้ หลังจากที่ผมได้อ่านกระทู้นี้ ผมจึงได้ตัดสินใจไปที่สำนักงานเอไอเอสที่เดิม และได้ผมพบกับน้อง ก ก็เล่าเรื่องที่อ่านเจอในกระทู้นี้ให้ฟัง น้อง ก ก็แจ้งว่า วันที่ผมมาติดต่อ เธอก็ได้โทรไปยัง Engineer แล้ว และยังยืนยันเหมือนเดิมว่า ปัญหาเกิดจากมือถือของผมเอง และเธอก็กดบัตรคิวให้ เพื่อให้ติดต่อกับเคาน์เตอร์ หลังจากที่ผมได้เข้าไปยังเคาน์เตอร์แล้ว เจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์ (สมมติว่าชื่อน้อง ค) ก็แจ้งว่า ปัญหาเกิดจากมือถือผมเอง ก็เลยย้อนถามว่า แล้วที่โพสในกระทู้ของพันธ์ทิพย์ เป็นเจ้าหน้าที่ของเอไอเอสจริงหรือเปล่า ผมก็ส่งมือถือซึ่งโหลดหน้าเวปนี้ไว้ให้ น้อง ค อ่าน เมื่อเธออ่านเสร็จ เธอก็บอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของเอไอเอสเอง ผมจึงถามว่า ทำไมในอินเตอร์เน็ทตอบอีกอย่าง ที่ศูนย์ก็ตอบอีกอย่าง น้อง ค จึงบอกว่าจะรับเรื่องร้องเรียนนี้ไว้เพื่อไว้ปรับปรุงการให้บริการต่อไป ผมจึงถามว่า แล้วสรุปว่าปัญหาเกิดจากอะไรกันแน่ ถ้าเป็นที่มือถือผม ผมจะได้ซื้อเครื่องใหม่ (เพิ่งซื้อเได้ประมาณหนึ่งเดือน) แล้วจะโทรแจ้งวันไหน หลังจากที่ผมคาดคั้นจะเอาคำตอบให้ได้ น้อง ก ก็เดินเข้ามายืนคู่กับน้อง ค และปรึกษากัน พร้อมทั้งยืนดูหน้าจอเป็นพัก ๆ จนกระทั่ง น้อง ก กับ น้อง ค ก็ยอมรับว่า เป็นการทดสอบระบบจริง ผมก็ฟิวส์ขาดเลย ผมก็ถามกลับว่า แล้วการที่เอไอเอสมีการทดสอบระบบ ทำไมจึงไม่แจ้งลูกค้าให้ทราบล่วงหน้า อีกทั้งตอนที่ทดสอบระบบจนทำให้ลูกค้าเดือดร้อนจนต้องโทรขอความช่วยเหลือ ก็ไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด แต่กลับบอกว่าเป็นที่มือถือ ครั้นพอมาติดต่อที่ศูนย์ในวันแรก ก็ยืนยันว่า ไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร และพอมาวันนี้ หลังจากที่ผมได้ข้อมูลจากในเวป ก็ยังยืนยันว่าทาง Engineer แจ้งว่าเป็นข้อผิดพลาดของมือถือของลูกค้าเอง ซึ่งข้อมูลที่ได้มาจากเในเวปและจากข้อมูลที่พนักงานแจ้งมาก็ไม่ตรงกัน จนผมคาดคั้นจะหาสาเหตุให้ได้ จึงค่อยเผยมาว่า มีการทดสอบระบบจริง และจะชดเชยโดยการลดค่าบริการให้ในงวดถัดไปครึ่งหนึ่ง
ผมอยากจะแจ้งให้ทางเอไอเอสทราบว่า การที่ผมได้ติดต่อไปยังเอไอเอสไม่ว่าจะเป็นทางช่องทางใด แสดงว่า ได้รับความเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือจากเอไอเอส แต่เหตุการณ์นี้ทำให้ผมทราบว่านอกจากเอไอเอสจะไม่ช่วยอะไรแล้ว ยังจะปัดความรับผิดชอบของตนออกไปอีก ซึ่งหากผมเป็นตาสีตาสาที่เล่นอินเตอร์เน็ทไม่เป็น หรือไม่มีคนส่งข้อมูลจากทางเวปพันธ์ทิพย์ให้ ผมก็คงจะเป็นตาสีตาสาให้เอไอเอสหลอกอยู่เรื่อยไป
จากเหตุการณ์ทั้งหมด ผมอยากจะบอกกับเอไอเอสว่า
1. การที่คุณจะทำอะไรสักอย่าง และส่งผลกระทบต่อลูกค้า ก็ควรจะแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้า อย่างน้อยลูกค้าจะได้ทราบว่าควรที่จะดำเนินการอย่างไรต่อไป
2. หากการกระทำบางอย่างเป็นการละเมิดต่อลูกค้า ก็ควรจะหลีกเลี่ยง แต่ถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็พยายามสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจ เพื่อให้ลูกค้าเป็นผู้ตัดสินใจ ไม่ใช่ถือสิทธิ์แต่เพียงฝ่ายเดียว
3. การที่เอไอเอสพยายามให้ข้อมูลผ่านช่องทางต่าง ๆ แต่ข้อมูลที่ส่งออกไปนั้นขัดแย้งกัน ก็ควรหาข้อสรุปให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยสื่อสารออกไปจะดีกว่าไหม ไม่อย่างนั้นก็เหมือนกันการแก้ตัวไปวัน ๆ แล้วความน่าเชื่อถือจะหาได้จากที่ไหนครับ