.....เพื่อความเป็นธรรมกรณี ตั๊น จิตตภัสร์.....ลองมาฟังอาจารย์อีกฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับการคัดค้านบ้าง.....

กระทู้สนทนา
.

เป็น เฟส จองอาจารย์ ดร.พร วิรุฬห์รักษ์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ที่คุณห่านป่ากรุณานำมาลงที่กระทู้ผมที่คห 91

http://ppantip.com/topic/32242884

ผมไม่ขอวิจารณ์น่ะครับ..เด่วจะหาว่าไม่เป็นมนุษย์คนกลาง

เพราะอ่านแล้ว ผมซาบซึ้งจน " น้ำ้ตาไหลพราก " เป็นสายน้ำแทบไปกองกับเท้า ให้เจ้า มอม สุนัขตัวโปรดของผมเลียจนเคลิ้มไปเลยครับ


ใจความมีดังนี้


@ Dr.Ponn Virulrak - Politics Only

"ขอสนับสนุนจิตภัสร์ กฤดากรเป็นผู้นำบัณฑิตกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณ
ต่อหน้าพระพักตร์ ในพิธีพระราชทนาปริญญาบัตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย"
ผมขอเขียน Article นี้ในฐานะอาจารย์คนหนึ่งที่มีหน้าที่ที่จะต้องนำนิสิต
เข้าพิธีรับพระราชทานปริญญาในปีนี้ และขอเขียนในฐานะคนไทย
และในฐานะผู้สนับสนุน กปปส.

ผมไม่รู้จักเธอคนนี้เป็นการส่วนตัว ผมเคยเห็นเธอปราศรัยบนเวทีเท่านั้น
แต่ผมมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า คณะกรรมการบัณฑิตที่คัดเลือก
จิตภัสร์ กฤดากรได้ใช้วิจารณญาณในการคัดเลือกมาอย่างดีและมีเหตุผลสมควรอย่างยิ่ง
ลองพิจารณาชีวิตของเธอ และสิ่งที่เธอทำมา ประโยคสั้น
ประโยคเดียวที่อธิบายได้ง่ายๆ คือ “เธอไม่จำเป็นต้องทำ”
เธอไม่จำเป็นต้องเป็นแกนนำ
เธอไม่จำเป็นต้องไปประท้วง
เธอไม่จำเป็นต้องไปเสี่ยง
เธอไม่จำเป็นต้องไปร่วม
และ ในความเป็นจริง ใครๆ ก็รู้ว่าเธอไม่ต้องแม้กระทั่ง “ทำงานหาเลี้ยงชีพ”
เพราะเธอคือ เจ้าหญิงที่เกิดมาพร้อมทุกสิ่ง เธอสามารถใช้ชีวิตด้วยการเดินห้าง
เน้นหาความสุขไปวันๆได้ เธอไม่จำเป็นต้องเลือกหนทางนี้
ที่ถึงขนาดต้องมีปัญหากับครอบครัวฝั่งคุณพ่อจนต้องเลิกใช้นามสกุลที่ใช้มาทั้งชีวิต

หลายคนกล่าวหาว่าเธอทำทั้งหมดเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
ซึ่งแน่นอน ของแบบนี้ต้องพิสูจน์กันต่อไปด้วยเวลา
แต่ถ้าหากผลประโยชน์ทางการเมืองในแบบที่เรารู้ๆ กันคือการเข้าสู่อำนาจและ ความร่ำรวย
ก็ต้องถามว่าเธอจะรวยมากไปกว่าที่เธอเป็นนี้สักแค่ไหน ?

แล้วสิ่งที่เธอต้องมาเป็น ผู้ต้องหาคดีกบฏต่างๆ นี้ มันคุ้มมั้ย?
หากท่านได้เห็นเธอบนเวที และเราดูคนกันดีๆ เราจะเห็นว่าเธอคนนี้ “ของจริง” จากข้างใน
เพราะเวลาก็ได้พิสูจน์มาแล้ว ผมเชื่อว่าหลายคนพอเห็นแรกๆ
ก็จะคิดในใจเหมือนๆ กันว่า น้องคนนี้จะไหวหรือ?
แต่เราทุกคนที่คิดแบบนั้นก็ภูมิใจ และดีใจที่เรา “คิดผิด”

ตอนนี้ มี กลุ่มคนที่ มาสร้างเรื่อง change.org รณรงค์ต่อต้านเธอ เป็นพันคน
แต่ผมจะขอเป็นหนึ่งเสียงที่ Counter ความเชื่อนั้นๆ
สิ่งที่คนพวกนี้ทำคือ เอาประโยคที่เธอ Post ใน Facebook ดังต่อไปนี้มาเป็นประเด็น
“เราต้องสู้ค่ะ ปฏิรูปจนกว่าจะชัดเจนว่า คนทุกคนไม่ควรมีสิทธิ์มี
เสียงเท่ากัน คนชั่วไม่ควรมีเสียงเท่าคนดี และคนโง่ไม่ควรมี
เสียงเท่าคนฉลาด”
ซึ่งผมขอบอกในที่นี้ ในฐานะคนที่อยู่ในความเชื่อทางการเมืองเหมือนเธอว่า
“เธอพูดถูกทุกประการ”
และคำอธิบายง่ายๆ ที่จะทำให้คนเข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร มีง่ายๆ สามพยางค์

“ใบ-ขับ-ขี่”

ใบขับขี่ คือสิ่งที่ทุกๆคนมี และต้องมีระบบที่จะคัดเลือกในได้มา
คุณต้อง “เป็นคนดี” และ “เป็นคนฉลาด” ในการที่จะได้ใบขับขี่มา และก็ไม่เห็นมีใครโวยวายอะไร
ใบขับขี่ คือ Privilege ก็คือสิทธิที่ได้รับการมอบให้เป็นพิเศษ
เมื่อคุณมีคุณสมบัติพร้อม ไม่ใช่สิทธิที่มีมาแต่กำเนิดหรือ Right เพราะการได้ Privilege
ต้องมาพร้อมความรับผิดชอบอันมากมาย ดังนั้นคุณจึงต้อง “เป็นคนดี”
และ “เป็นคนฉลาด” พอในเรื่องนั้นๆ จึงมีสิทธิได้ไป
คนที่จะขับรถ ถ้าเป็นคนเลว กฎหมายขีดเส้นชัดเจน ว่า ต้องไม่เคยต้องโทษเมาสุรา
หรือ เคยขับรถโดยประมาท – ส่วนความฉลาด

คนที่ต้องการจะได้ใบขับขี่ก็ต้องมีการสอบเพื่อวัดทักษะความสามารถ
ในการที่คนคนหนึ่งจะออกเสียงเลือกตั้ง ต้องถือว่าเป็นความรับผิดชอบอันหนึ่ง
ที่มีความเสี่ยงต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ประเทศชาติเป็นอย่างมาก
แต่กฎหมายไทยก็ดันวิปริต พอที่จะบอกว่าเป็น “หน้าที่” เพื่อบังคับให้คนไปออกเสียง
การที่คนคนหนึ่งจะออกเสียง ก็ควรจะเป็น “คนดี” คือไม่เคยมีประวัติชั่ว
ประพฤติผิดกฎหมายโดนศาลสั่งลงโทษแล้ว หรือจะมีวิธีวัดความดีอย่างไร มันก็ตีเส้นได้
คนที่บอกว่าความดีจะวัดอย่างไร ตีเส้นไม่ได้ก็ต้องขอบอกจริงๆ ว่า “พวกนั่นล่ะที่ตรรกะมีปัญหา”
ส่วนในแง่ของความฉลาด คนที่จะมาออกเสียงก็ต้อง “รู้เรื่อง”
ว่าเลือก สส. เข้าไปทำอะไร ระบบโครงสร้างการออกกฎหมายคืออะไร
ถ้าไม่รู้ก็เหมือนกับขับรถไม่เป็น แล้วจะให้ออกถนนได้อย่างไร

นี่คือ ตรรกะง่ายๆ ของ ความดีและความฉลาด
ที่สามารถวัดได้ในใบขับขี่ ที่ไม่มีประชาชนโวยวายว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม
นี่คือสิ่งที่เราต่อสู้กันอยู่ เราเรียกร้องให้มิติของ "ความรับผิดชอบ"
เกิดขึ้นต่อผู้ออกเสียง ไม่ใช่สักแต่ว่าจ่ายมาก็กาไป

แล้วถามว่าคนที่โจมตี จิตภัสร์ นั้น?
ตอนที่มีฆ่ากัน ยิงกัน คนล้มตายกัน ไปอยู่แถวไหน ?
แล้วพอเวลารัฐบาลไล่ฆ่าคนไม่มีทางสู้ ตั้งแต่ตอนเริ่มต้นที่รามคำแหง
ออกมาต่อต้านอะไร เคยมาประท้วงตามความเชื่อของตัวเอง
จนต้องถูกรัฐบาลปราบปรามหรือไม่ ? ตัวเองก็เป็นแค่ของปลอม
เดินห้างชูสามนิ้ว ทหารมาก็หายหัว ? ใจคุณก็ไม่ได้ครึ่งของผู้หญิงคนนี้เลยด้วยซ้ำ

สรุปด้วยจิตใจที่ดี และมีความเสียสละ
รวมทั้งกล้าที่จะพูดในสิ่งที่ตัวเองเชื่อเพื่อประโยชน์ของชาติและสังคม
โดยที่ไม่ได้ใส่ใจว่าจะมีคนมองตัวเองอย่างไร
ไม่สนใจว่าจะต้องไปอ้างทฤษฎีหลักการของโลกตะวันตกโดยไร้เหตุผล
ผมจึงเห็นว่านางสาว จิตภัสร์ กฤดากร เป็นตัวอย่างที่ดีของประชาชนไทย
และเป็นตัวอย่างอันประเสริฐของจุฬาฯที่ยอมเสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
ถือเป็นเกียรติแห่งการรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริงที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้

ผมในฐานะอาจารย์จุฬาฯคนหนึ่ง
หากได้มีโอกาสได้ประสานงานเพื่อส่ง จิตภัสร์ กฤดากร
เข้าสู่พิธีการรับพระราชทานปริญญาบัตร
ผมจะถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของผม (แต่คงไม่ได้ทำ เพราะอยู่คนละคณะ)
ส่วนอาจารย์ที่ประท้วงแยกแยะไม่ได้ว่าหน้าที่กับความคิดเห็นส่วนตัวคืออะไร
ผมมีคำฝรั่งสามคำง่ายๆ คือ “Go-To-Hell”

ด้วยความชื่นชมจิตภัสร์ กฤดากร
ดร.พร วิรุฬห์รักษ์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย





.........ไม่สนใจครับ ใครจะวิจารณ์ก็ว่าไป แต่พ้มขอฟังเพลงดีก่า ..........

Cliff Richard - Devil Woman [HQ stereo]

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่