หลุมพรางของธุรกิจเครือข่าย (MLM) 5
5. สินค้าที่มีความหลากหลายและการแข่งขันลดราคาสินค้า
สินค้าในธุรกิจเครือข่ายของแต่ละบริษัทมีมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป สินค้าที่เกี่ยวกับความสวยความงาม สินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย ทุกบริษัทต่างผลิตออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการต่อผู้บริโภค ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ที่ผมได้มีโอกาสสัมผัสเป็นสินค้าที่มีคุณภาพค่อนข้างดีและมีราคาที่ไม่ได้แพงจนเกินไป (แต่บางบริษัทก็อาจจะต้องราคาสินค้าของตัวเองไว้ค่อนข้างสูง ซึ่งก็แล้วแต่ความพอใจของผู้ทำธุรกิจเครือข่ายว่าจะยอมรับกับการทำตลาดของบริษัทที่ตนกำลังร่วมทำธุรกิจอยู่ได้หรือไม่)
ผมมักจะแนะนำอยู่เสมอให้คนที่สนใจทำธุรกิจเครือข่าย หันมาทำเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค มากกว่าองค์กรผู้ทำธุรกิจ แต่ผมพบว่ามีน้อยครั้งมากที่ผมจะพบเจอผู้ทำธุรกิจเครือข่ายที่สนใจทำเครือข่ายผู้บริโภคอย่างจริงจัง เพราะข้อเสียที่สำคัญในการทำเครือข่ายผู้บริโภคในสายตาของผมก็คือ สินค้าที่มีความหลากหลายรูปแบบและมีอยู่เป็นจำนวนมากในตลาดนั้นเอง ซึ่งหากนับว่าเป็นข้อดี ก็เป็นข้อดีที่ทำให้ผู้เริ่มต้นทำธุรกิจเครือข่ายมีสินค้าที่หลากหลายมากมายอยู่ในมือ สามารถที่จะทำการตลาดในสินค้าต่างๆ ได้ แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นข้อเสียที่สำคัญทำให้ผู้ทำธุรกิจเครือข่ายที่เพิ่งจะเข้ามาเริ่มต้นทำธุรกิจนั้น ไม่รู้ว่าตัวเขาควรจะเลือกสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ตัวไหนมาทำตลาดดี เพราะการทำตลาดไม่ใช่แค่การเสนอขายสินค้าอย่างดี ผู้ที่จะทำการตลาดนั้นจะต้องรู้ถึงข้อดีข้อเสียของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ตนกำลังทำการตลาดอยู่ สามารถตอบคำตอบหรือให้คำแนะนำเกี่ยวกับสินค้าหรือผลิตภัณฑ์แก่ผู้บริโภคที่สนใจได้
ในความเห็นของผม ผมเห็นว่าผู้เริ่มต้นทำธุรกิจเครือข่าย ควรเริ่มต้นจากสินค้าที่คิดว่าสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ รวมทั้งสามารถแก้ไขปัญหาให้กับพวกเขาได้ และอาจเป็นสินค้าที่ผู้ทำธุรกิจเองชอบใช้ และมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้นดีพอ เพราะหลายๆ สถานการณ์จริงที่ผมได้ประสบพบเจอมักจะเจอผู้บริโภคสอบถามเกี่ยวกับคุณสมบัติสินค้าหรือประเภทนั้นๆ อยู่บ่อยครั้ง ยิ่งเป็นสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพจะต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะสินค้าตัวนั้นอาจจะต้องทานหรือห้ามทานร่วมกับอาหารบางประเภท หรือไม่เหมาะสมกับผู้ป่วยที่เป็นโรคบางชนิด ในมุมมองการทำธุรกิจเครือข่ายของผมอาจจะแตกต่างจากคนอื่นอยู่บ้าง นั้นก็คือ
ผมชอบที่จะมองว่าผู้บริโภคต้องการอะไร? (ดูความต้องการของตลาด)
มีสินค้าอะไรที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค?
สินค้าตัวนี้ผมชอบใช้หรือไม่?
หรือผมมีความรู้เกี่ยวกับสินค้าตัวนี้มากน้อยแค่ไหน?
ซึ่งถ้ายังไม่มีความรู้เกี่ยวกับตัวสินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้นดีพอ ผมจะพยายามเริ่มศึกษาสินค้าตัวนี้อย่างจริงจัง เพราะผมเชื่อว่า "ไม่ใช่ว่าทุกคนในโลกใบนี้จะชื่นชอบสินค้าหรือมีความต้องการในสิ่งที่เรากำลังพยายามจะหยิบยื่นให้แก่พวกเขาเสมอไป"
สินค้าในธุรกิจทุกประเภท ย่อมมี Niche Market (สินค้าที่ตอบสนองความต้องการของคนเฉพาะกลุ่ม) หรือ target market (ผู้บริโภคซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมาย) ในสินค้าชนิดนั้นๆ อยู่เสมอ เช่น หากเป็นผู้หญิงย่อมรักสวยรักงามเป็นธรรม หากเสนอสินค้าด้านความสวยความงามให้กับพวกเธอ พวกเธอย่อมอาจจะมีความสนใจในตัวสินค้าที่เรากำลังเสนอให้เปิดใจมาลองใช้สินค้านั้นดูก็ได้ หรือเป็นสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพ หากตอบโจทย์ในการช่วยเหลือให้ผู้กำลังเจ็บป่วยให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น เขาย่อมที่จะสนใจเลือกและลองใช้สินค้าของเราดู
ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับการหว่านแหไปเรื่อยๆ เพื่อควานหาผู้บริโภคในตลาดแบบไม่มีเป้าหมาย ซึ่งในความคิดของผมนั้นเป็นการเสียเวลาเปล่า ผมเห็นว่าหากสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคในสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของเราได้ จะทำให้เราลดขั้นตอนในการขายสินค้าหรือกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
แต่สิ่งที่น่ากลัวและค่อนข้างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในการทำธุรกิจเครือข่ายทุกประเภทที่ทุกคนต้องประสบพบเจอก็คือ มักมีผู้เริ่มต้นทำธุรกิจเครือข่ายหลายรายใช้วิธีการลดราคาสินค้าเพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาสนใจซื้อสินค้าชนิดนั้นๆ โดยไม่สนผลกระทบที่ตาม ซึ่งมักจะเป็นปัญหาที่สำคัญในการทำตลาดเครือข่าย เพราะทำให้การกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภคเป็นไปด้วยความยากลำบากมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของเรา สามารถจับจ่ายซื้อสินค้าจากผู้ทำธุรกิจเครือข่ายรายอื่นๆ ในราคาที่ต่ำกว่าที่เราเสนอได้ ทำให้เกิดสงครามลดราคาขึ้นมา และเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้บริโภคมักจะเลือกซื้อสินค้าแบบเดียวกันหรือชนิดเดียวกันจากแหล่งอื่นที่สามารถให้ราคาถูกกว่าได้เสมอ และมักจะรู้สึกไม่ดีกับผู้ทำธุรกิจเครือข่ายที่ขายสินค้าในราคาที่สูงกว่า (ราคาเต็ม) เพราะรู้สึกว่ากำลังถูกผู้ทำธุรกิจเครือข่ายเอาเปรียบ และทำให้ผู้บริโภคคิดอยู่เสมอว่าการลดราคาสินค้าเป็นเรื่องธรรมดาของการทำธุรกิจเครือข่าย
http://ppantip.com/topic/32227419 หลุมพรางของธุรกิจเครือข่าย (MLM) 1
http://ppantip.com/topic/32231812 หลุมพรางของธุรกิจเครือข่าย (MLM) 2
http://ppantip.com/topic/32244405 หลุมพรางของธุรกิจเครือข่าย (MLM) 3
http://ppantip.com/topic/32249387 หลุมพรางของธุรกิจเครือข่าย (MLM) 4
http://ppantip.com/topic/32258326 หลุมพรางของธุรกิจเครือข่าย (MLM) 6 (ตอนจบ)
หลุมพรางของธุรกิจเครือข่าย (MLM) 5
5. สินค้าที่มีความหลากหลายและการแข่งขันลดราคาสินค้า
สินค้าในธุรกิจเครือข่ายของแต่ละบริษัทมีมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป สินค้าที่เกี่ยวกับความสวยความงาม สินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย ทุกบริษัทต่างผลิตออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการต่อผู้บริโภค ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ที่ผมได้มีโอกาสสัมผัสเป็นสินค้าที่มีคุณภาพค่อนข้างดีและมีราคาที่ไม่ได้แพงจนเกินไป (แต่บางบริษัทก็อาจจะต้องราคาสินค้าของตัวเองไว้ค่อนข้างสูง ซึ่งก็แล้วแต่ความพอใจของผู้ทำธุรกิจเครือข่ายว่าจะยอมรับกับการทำตลาดของบริษัทที่ตนกำลังร่วมทำธุรกิจอยู่ได้หรือไม่)
ผมมักจะแนะนำอยู่เสมอให้คนที่สนใจทำธุรกิจเครือข่าย หันมาทำเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค มากกว่าองค์กรผู้ทำธุรกิจ แต่ผมพบว่ามีน้อยครั้งมากที่ผมจะพบเจอผู้ทำธุรกิจเครือข่ายที่สนใจทำเครือข่ายผู้บริโภคอย่างจริงจัง เพราะข้อเสียที่สำคัญในการทำเครือข่ายผู้บริโภคในสายตาของผมก็คือ สินค้าที่มีความหลากหลายรูปแบบและมีอยู่เป็นจำนวนมากในตลาดนั้นเอง ซึ่งหากนับว่าเป็นข้อดี ก็เป็นข้อดีที่ทำให้ผู้เริ่มต้นทำธุรกิจเครือข่ายมีสินค้าที่หลากหลายมากมายอยู่ในมือ สามารถที่จะทำการตลาดในสินค้าต่างๆ ได้ แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นข้อเสียที่สำคัญทำให้ผู้ทำธุรกิจเครือข่ายที่เพิ่งจะเข้ามาเริ่มต้นทำธุรกิจนั้น ไม่รู้ว่าตัวเขาควรจะเลือกสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ตัวไหนมาทำตลาดดี เพราะการทำตลาดไม่ใช่แค่การเสนอขายสินค้าอย่างดี ผู้ที่จะทำการตลาดนั้นจะต้องรู้ถึงข้อดีข้อเสียของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ตนกำลังทำการตลาดอยู่ สามารถตอบคำตอบหรือให้คำแนะนำเกี่ยวกับสินค้าหรือผลิตภัณฑ์แก่ผู้บริโภคที่สนใจได้
ในความเห็นของผม ผมเห็นว่าผู้เริ่มต้นทำธุรกิจเครือข่าย ควรเริ่มต้นจากสินค้าที่คิดว่าสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ รวมทั้งสามารถแก้ไขปัญหาให้กับพวกเขาได้ และอาจเป็นสินค้าที่ผู้ทำธุรกิจเองชอบใช้ และมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้นดีพอ เพราะหลายๆ สถานการณ์จริงที่ผมได้ประสบพบเจอมักจะเจอผู้บริโภคสอบถามเกี่ยวกับคุณสมบัติสินค้าหรือประเภทนั้นๆ อยู่บ่อยครั้ง ยิ่งเป็นสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพจะต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะสินค้าตัวนั้นอาจจะต้องทานหรือห้ามทานร่วมกับอาหารบางประเภท หรือไม่เหมาะสมกับผู้ป่วยที่เป็นโรคบางชนิด ในมุมมองการทำธุรกิจเครือข่ายของผมอาจจะแตกต่างจากคนอื่นอยู่บ้าง นั้นก็คือ
ผมชอบที่จะมองว่าผู้บริโภคต้องการอะไร? (ดูความต้องการของตลาด)
มีสินค้าอะไรที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค?
สินค้าตัวนี้ผมชอบใช้หรือไม่?
หรือผมมีความรู้เกี่ยวกับสินค้าตัวนี้มากน้อยแค่ไหน?
ซึ่งถ้ายังไม่มีความรู้เกี่ยวกับตัวสินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้นดีพอ ผมจะพยายามเริ่มศึกษาสินค้าตัวนี้อย่างจริงจัง เพราะผมเชื่อว่า "ไม่ใช่ว่าทุกคนในโลกใบนี้จะชื่นชอบสินค้าหรือมีความต้องการในสิ่งที่เรากำลังพยายามจะหยิบยื่นให้แก่พวกเขาเสมอไป"
สินค้าในธุรกิจทุกประเภท ย่อมมี Niche Market (สินค้าที่ตอบสนองความต้องการของคนเฉพาะกลุ่ม) หรือ target market (ผู้บริโภคซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมาย) ในสินค้าชนิดนั้นๆ อยู่เสมอ เช่น หากเป็นผู้หญิงย่อมรักสวยรักงามเป็นธรรม หากเสนอสินค้าด้านความสวยความงามให้กับพวกเธอ พวกเธอย่อมอาจจะมีความสนใจในตัวสินค้าที่เรากำลังเสนอให้เปิดใจมาลองใช้สินค้านั้นดูก็ได้ หรือเป็นสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพ หากตอบโจทย์ในการช่วยเหลือให้ผู้กำลังเจ็บป่วยให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น เขาย่อมที่จะสนใจเลือกและลองใช้สินค้าของเราดู
ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับการหว่านแหไปเรื่อยๆ เพื่อควานหาผู้บริโภคในตลาดแบบไม่มีเป้าหมาย ซึ่งในความคิดของผมนั้นเป็นการเสียเวลาเปล่า ผมเห็นว่าหากสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคในสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของเราได้ จะทำให้เราลดขั้นตอนในการขายสินค้าหรือกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
แต่สิ่งที่น่ากลัวและค่อนข้างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในการทำธุรกิจเครือข่ายทุกประเภทที่ทุกคนต้องประสบพบเจอก็คือ มักมีผู้เริ่มต้นทำธุรกิจเครือข่ายหลายรายใช้วิธีการลดราคาสินค้าเพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาสนใจซื้อสินค้าชนิดนั้นๆ โดยไม่สนผลกระทบที่ตาม ซึ่งมักจะเป็นปัญหาที่สำคัญในการทำตลาดเครือข่าย เพราะทำให้การกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภคเป็นไปด้วยความยากลำบากมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของเรา สามารถจับจ่ายซื้อสินค้าจากผู้ทำธุรกิจเครือข่ายรายอื่นๆ ในราคาที่ต่ำกว่าที่เราเสนอได้ ทำให้เกิดสงครามลดราคาขึ้นมา และเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้บริโภคมักจะเลือกซื้อสินค้าแบบเดียวกันหรือชนิดเดียวกันจากแหล่งอื่นที่สามารถให้ราคาถูกกว่าได้เสมอ และมักจะรู้สึกไม่ดีกับผู้ทำธุรกิจเครือข่ายที่ขายสินค้าในราคาที่สูงกว่า (ราคาเต็ม) เพราะรู้สึกว่ากำลังถูกผู้ทำธุรกิจเครือข่ายเอาเปรียบ และทำให้ผู้บริโภคคิดอยู่เสมอว่าการลดราคาสินค้าเป็นเรื่องธรรมดาของการทำธุรกิจเครือข่าย
http://ppantip.com/topic/32227419 หลุมพรางของธุรกิจเครือข่าย (MLM) 1
http://ppantip.com/topic/32231812 หลุมพรางของธุรกิจเครือข่าย (MLM) 2
http://ppantip.com/topic/32244405 หลุมพรางของธุรกิจเครือข่าย (MLM) 3
http://ppantip.com/topic/32249387 หลุมพรางของธุรกิจเครือข่าย (MLM) 4
http://ppantip.com/topic/32258326 หลุมพรางของธุรกิจเครือข่าย (MLM) 6 (ตอนจบ)