เพราะคำสั่งของ กสท ที่อ้างตามคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 27/2557 จะทำให้คุณเสียช่องฟรีทีวีในดาวเทียมไปไม่ต่ำกว่า 200 ช่องโดยมีการเอื้อประโยชน์กันกับผู้ประกอบการกล่องดาวเทียมบางกลุ่มสั่งปิดช่องดาวเทียม 200 ช่อง และบังคับให้คนดูต้องซื้อกล่องใหม่โดยไม่จำเป็น!!
เป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่าดาวเทียมไม่ใช่คลื่นสาธารณะสามารถเพิ่มได้ไม่จำกัด ไม่เหมือนคลื่นวิทยุหรือโทรทัศน์ และผู้ประกอบการก็อาศัยอยู่ได้ด้วยการขายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ระดับตลาดกลางถึงล่างลงไปเท่านั้นเพราะไม่มีเงินทุนสูงพอจะทำละครหรือเรียกเรทติ้งค่าโฆษณาเหมือนช่องฟรีทีวีปกติได้ แต่ก็ยังพอมีสาระและเนื้อหาดีๆให้ผู้ชมได้ดูบ้างโดยปราศจากเงื่อนไขการเรียกเก็บเงินจากคนดู จึงทำให้ธุรกิจดาวเทียมเติบโตอย่างมากและเริ่มมีการแข่งกันในด้านการพัฒนาคอนเทนท์กันขึ้นตามกลไกตลาด ช่องที่ไม่ดีก็มีคนดูน้อยลงไปจนปิดตัวเองก็มีไม่น้อย
แต่แนวความคิดของ กสท เอง กลับประหลาดผิดโลจิคของสามัญชนธรรมดา จากที่เมื่อเริ่มมารับตำแหน่งอ้างว่าไม่มีการควบคุมโทรทัศน์ดาวเทียมแต่ให้กำกับดูแลกันเอง ซึ่งโดยปกติผู้ประกอบกิจการก็จะต้องใช้บริษัทในนามนิติบุคคลในการเปิดช่องอยู่แล้ว การใช้กฎหมายและพรบโดยปกติสามารถป้องปรามและกำจัดช่องไม่ดีได้อยู่แล้ว อีกทั้งเราต้องเชื่อในหลักการที่ว่าคนดูเป็นคนที่มีสติปัญญาสามารถตัดสินใจได้เองว่าอะไรดีอะไรไม่ดี
กลับกัน กสท กลับไม่เชื่อหลักการ กลไกตลาด ไม่เขื่อสติปัญญาคนดู และไม่เชื่ออำนาจกฏหมายของรัฐ อ้างว่าเป็นคลื่นเหมือนคลื่นทีวีต้องมีการควบคุมเท่านั้น จึงออกกฏหมายพิเศษเข้าควบคุมทีวีดาวเทียม โดยขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและ รัฐธรรมนูญในด้านเสรีภาพในการสื่อสาร และเป็นการใช้กฏหมายที่ไม่ได้ทำประชาพิจารณ์มาบังคับจนเป็นที่มาของคำสั่งเลือกปฏิบัติเอื้อหนุนผู้ประกอบการเพียงบางกลุ่มโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้บริโภคและเอกชนแม้แต่น้อย จนเกิดคดีความฟ้องร้องกับผู้ประกอบการบ่อยๆครั้งเพราะตัวอย่างเช่นคดีล่าสุดที่ทให้รัฐต้องเสียรายได้ไป 427ล้าน เพราะแพ้คดีกับบริษัท RS จากคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยหลักกฏหมายใดๆเลยของประเทศ หรือแม้แต่ช่องโทรทัศน์ยอดนิยมก็กำลังตกเป็นเหยื่อตามการเดินเกมของกสทอีกเหมือนกันซึ่งเราคจะได้ยินข่าวการฟ้องร้องกันเร็วๆนี้
สรุปสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 1 นี้
1.ใครที่ใช้กล่องดาวเมียมในรุ่นต่ำกว่า 2 ปี ลงไปเตรียมใจเตรียมเงินไว้ได้เลยเพราะคุณจะดูฟรีทีวีในระบบดาวเทียมของไทยไม่ได้อีกไม่ว่าช่องไหนก็ตาม เพราะจะมีการเปลี่ยนเป็นระบบ biss key โดยคุณต้องไปซื้อกล่องใหม่มาติดตั้ง เป็นการเพิ่มภาระให้ผู้บริโภคโดยไม่จำเป็นซึ่ง กสท ได้ใช้อำนาจบังคับให้ทุกกล่องต้องปรับตัวเป็นทีวีดาวเทียมแบบบอกรับสมาชิกเท่านั้น ห้ามออกอากาศแบบฟรีทีวี (คงกลัวจะไปแข่งกับช่องดิจิตอลที่ตัวเองได้เงินจากการประมูลมากระมัง เรื่องนี้ให้ข้อสังเกตุว่าเกี่ยวโยงอะไรกับการแจกคูปองแลกกล่องดาวเทียมหรือเปล่า และยังมีข่าวจากผู้ประกอบการว่ามีการเรียกเงินทุจริตใต้โต๊ะจากคณะอนุกรรมการในบอร์ด กสท เรื่องทำให้ได้ออกช่องอีกด้วย รบกวนหน่วยงานที่ตรวจสอบทุจริตตรวจสอบด้วย)
2.กล่องดาวเทียมจะกลายเป็นกล่องที่ดูได้แค่ดิจิตอลทีวี+ช่องเก็บเงิน ไม่มีช่องคอนเทนต์หลากหลายอีกต่อไป ช่องฟรีทีวีที่มีรายการหลากหลายชนิดและประเภทจำพวกช่องน้ำดีร่วมครึ่งร้อยช่องจะหายไปจากระบบ ต่อไปคุณอาจจะไม่ได้ดูรายการดีๆ เพลงดีๆ ไม่ได้ดูคอนเสิตฟรี ไม่ได้ดูหนังฟรี ไม่ได้ดูรายการบันเทิงดีๆฟรี ถ้าอยากได้สิ่งเหล่านี้คือต้องจ่ายเงินรายเดือนอย่างเดียว
3.มีการเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะกับช่องดาวเทียมจากจ้าของกล่องดาวเทียมที่อ้างว่าชัดเว่อ มีการเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะค่าออกกล่อง หากไม่ออกจะไม่ได้ออกในกล่องเขาโดยเขาอ้างว่าฐานคนดูเขาเยอะไม่ออกก็เรื่องของคุณ โดยการเรียกเก็บในตัวเลข 6 หลักต่อเดือน ซึ่งข้อนี้ทำให้หลายช่องต้องปิดตัวลงเพราะสู้ไม่ไหว แต่ช่องที่มีรายได้ดีจากการขายของเยอะก็ยอมจ่ายเพื่อแลกกับที่ยืนของตัวเอง
4.ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ biss key ที่ กสท อ้างเรื่องล็อคการถ่ายทอดกีฬานั้น จริงๆแล้วกล่องที่มีการถ่ายทอดกีฬามีการส่งออกไปขายในประเทศเพื่อนบ้านอยู่แล้วตามหลักข้อเท็จจริง และช่องส่วนใหญ่ไม่ได้ออกการถ่ายทอดกีฬาซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวกันว่าต้องให้ทำ biss key ทุกช่อง ยังมีการอ้างว่า biss key ใช้ควบคุมการออกอากาศซึ่งจริงๆแล้วคนที่ควบคุมคือ mux ที่ไทยคมหรือ nss6 vinasat เท่านั้นที่เป็นตัวควบคุมได้ว่าจะปิดหรือเปิด การบังคับให้ทำ biss key ทุกช่องไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่แต่เป็นการผลักภาระให้ผู้ประกอบการกล่องและช่องรวมถึงประชาชนเฉยๆ
ทั้งนี้ผู้เขียนก็แค่นำข้อเท็จจริงมาแจ้งให้เพื่อนๆที่ใช้กล่องดาวเทียมเหมือนกันทราบข้อเท็จจริงเท่านั้นส่วนอนาคตวงการทีวีบ้านเราจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ผู้บริโภคอย่างเราๆจะตัดสินกันเอง..
มีผู้ฝากถามมาว่า สมมุติผมดูทีวีไม่ได้เหมือนเดิมแล้วจะเอากล่องคืนแบบกรณี RS สามารถคืนกับ PSI GMMZ ได้ไหม? และจะได้รับการชดเชยอย่างไร?
เรื่องเล่าชาวดาวเทียมฝากมาครับ..
มีหลายท่านคิดว่าช่องดาวเทียมมีแต่ขยะขายของไร้สาระแสดงว่าท่านไม่ใช่ขาประจำทีวีดาวเทียมครับเพราะช่องดีๆที่กำลังจะตายและไม่ได้ออกอากาศยังมีเช่น ช่องอนุรักษ์วัฒนะธรรมเพลงเก่า เพลงไทยเดิม เพลงลูกทุ่ง ช่องเพื่อการกุศลช่วยผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ช่องทางศาสนาที่ใช้เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา ช่องสื่อการเรียนการสอนทางไกล หรือสื่อการสอนเพื่อพัฒนาวิชาชีพ ช่องเพื่ออนุรักษ์ศิลปะวัฒนะธรรมประเพณีเช่น ลิเก ลำตัด งิ้ว ช่องรายการให้คำปรึกษาด้านกฏหมาย ช่องภาพยนต์ไทยทั้งปัจจุบันและภาพยนต์ในอดีต แม้แต่ช่องบอกบุญูสร้างวัดวาอาราม เหตุผลที่ช่องเหล่านี้จะหายไปเพราะบางช่องเงินทุนหมดจากคำสั่ง กสท และรายการส่วนใหญ่ไม่ใช่รายการทำเงินหรือดึงดูดโฆษณาจากเอเจนซี่ เพียงแต่เจ้าของช่องทำเพื่ออยากอนุรักษ์หรือส่งเสริมสิ่งเหล่านี้ให้ยังคงอยู่ตามกำลังความสามารถของตนเท่านั้น แน่นอนว่าการทำดาวเทียมต้องใช้เงินเดือนละเกือบสองล้านขึ้นไป ยังไม่รวมอุปกรณ์ที่ต้องลงทุนร่วมสิบยี่สิบล้าน เขาก็ต้องมีรายได้เพราะรัฐไม่เคยสนับสนุนเขา (แต่สนับสนุนบอลโลกนะ) การโฆษณาสินค้าให้กับพ่อค้าคือทางออก แน่นอนวันที่พ่อค้าเดินเข้ามาเขาก็กางให้ดูทั้ง อย. ทั้ง ฆอ. แต่ผู้ประกอบการจะรู้ได้อย่างไรว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จเมื่อมีเอกสารทางราชการยืนยันก็ย่อมเชื่อได้ว่าส่วนหนึ่งจริงอยู่แล้ว แต่ทำไปทำมากลับผิด อย. สคบ.ซะอย่างนั้น แต่ไม่แก้ที่ต้นเหตุคือไม่ลงโทษพ่อค้าเหล่านั้นกลับปล่อยให้ไปออกช่องอื่นแต่ลงโทษเจ้าของช่องที่ไม่รู้เรื่องแทน ทั้งๆที่ไม่ดูเนื้อหาสาระของช่องที่พวกเขาเหล่านั้นทำเพื่อสังคมเลยว่าจริงๆแล้วเขามีเจตนาอะไร ทำผิดก็ไม่เคยแจ้งใหแก้ไข พอผิดพลาดก็ซ้ำทันทีด้วยการสั่งปิดอย่างเดียว แล้วความยุติธรรมคืออะไรกันแน่หรือว่าต้องมีเงินเยอะเท่านั้นถึงจะหาความยุติธรรมได้...
ไปอ่านความเดือดร้อนของผู้ใช้จานดาวเทียมกันดูครับเริ่มมีประชาชนได้รับผลกระทบแล้วและจะมีมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
https://www.facebook.com/psisat
https://www.facebook.com/psisatellitedish
คุณรู้หรือไม่ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2557 นี้ช่องฟรีทีวีในดาวเทียมจะหายไปเกือบ 200 ช่อง
เป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่าดาวเทียมไม่ใช่คลื่นสาธารณะสามารถเพิ่มได้ไม่จำกัด ไม่เหมือนคลื่นวิทยุหรือโทรทัศน์ และผู้ประกอบการก็อาศัยอยู่ได้ด้วยการขายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ระดับตลาดกลางถึงล่างลงไปเท่านั้นเพราะไม่มีเงินทุนสูงพอจะทำละครหรือเรียกเรทติ้งค่าโฆษณาเหมือนช่องฟรีทีวีปกติได้ แต่ก็ยังพอมีสาระและเนื้อหาดีๆให้ผู้ชมได้ดูบ้างโดยปราศจากเงื่อนไขการเรียกเก็บเงินจากคนดู จึงทำให้ธุรกิจดาวเทียมเติบโตอย่างมากและเริ่มมีการแข่งกันในด้านการพัฒนาคอนเทนท์กันขึ้นตามกลไกตลาด ช่องที่ไม่ดีก็มีคนดูน้อยลงไปจนปิดตัวเองก็มีไม่น้อย
แต่แนวความคิดของ กสท เอง กลับประหลาดผิดโลจิคของสามัญชนธรรมดา จากที่เมื่อเริ่มมารับตำแหน่งอ้างว่าไม่มีการควบคุมโทรทัศน์ดาวเทียมแต่ให้กำกับดูแลกันเอง ซึ่งโดยปกติผู้ประกอบกิจการก็จะต้องใช้บริษัทในนามนิติบุคคลในการเปิดช่องอยู่แล้ว การใช้กฎหมายและพรบโดยปกติสามารถป้องปรามและกำจัดช่องไม่ดีได้อยู่แล้ว อีกทั้งเราต้องเชื่อในหลักการที่ว่าคนดูเป็นคนที่มีสติปัญญาสามารถตัดสินใจได้เองว่าอะไรดีอะไรไม่ดี
กลับกัน กสท กลับไม่เชื่อหลักการ กลไกตลาด ไม่เขื่อสติปัญญาคนดู และไม่เชื่ออำนาจกฏหมายของรัฐ อ้างว่าเป็นคลื่นเหมือนคลื่นทีวีต้องมีการควบคุมเท่านั้น จึงออกกฏหมายพิเศษเข้าควบคุมทีวีดาวเทียม โดยขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและ รัฐธรรมนูญในด้านเสรีภาพในการสื่อสาร และเป็นการใช้กฏหมายที่ไม่ได้ทำประชาพิจารณ์มาบังคับจนเป็นที่มาของคำสั่งเลือกปฏิบัติเอื้อหนุนผู้ประกอบการเพียงบางกลุ่มโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้บริโภคและเอกชนแม้แต่น้อย จนเกิดคดีความฟ้องร้องกับผู้ประกอบการบ่อยๆครั้งเพราะตัวอย่างเช่นคดีล่าสุดที่ทให้รัฐต้องเสียรายได้ไป 427ล้าน เพราะแพ้คดีกับบริษัท RS จากคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยหลักกฏหมายใดๆเลยของประเทศ หรือแม้แต่ช่องโทรทัศน์ยอดนิยมก็กำลังตกเป็นเหยื่อตามการเดินเกมของกสทอีกเหมือนกันซึ่งเราคจะได้ยินข่าวการฟ้องร้องกันเร็วๆนี้
สรุปสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 1 นี้
1.ใครที่ใช้กล่องดาวเมียมในรุ่นต่ำกว่า 2 ปี ลงไปเตรียมใจเตรียมเงินไว้ได้เลยเพราะคุณจะดูฟรีทีวีในระบบดาวเทียมของไทยไม่ได้อีกไม่ว่าช่องไหนก็ตาม เพราะจะมีการเปลี่ยนเป็นระบบ biss key โดยคุณต้องไปซื้อกล่องใหม่มาติดตั้ง เป็นการเพิ่มภาระให้ผู้บริโภคโดยไม่จำเป็นซึ่ง กสท ได้ใช้อำนาจบังคับให้ทุกกล่องต้องปรับตัวเป็นทีวีดาวเทียมแบบบอกรับสมาชิกเท่านั้น ห้ามออกอากาศแบบฟรีทีวี (คงกลัวจะไปแข่งกับช่องดิจิตอลที่ตัวเองได้เงินจากการประมูลมากระมัง เรื่องนี้ให้ข้อสังเกตุว่าเกี่ยวโยงอะไรกับการแจกคูปองแลกกล่องดาวเทียมหรือเปล่า และยังมีข่าวจากผู้ประกอบการว่ามีการเรียกเงินทุจริตใต้โต๊ะจากคณะอนุกรรมการในบอร์ด กสท เรื่องทำให้ได้ออกช่องอีกด้วย รบกวนหน่วยงานที่ตรวจสอบทุจริตตรวจสอบด้วย)
2.กล่องดาวเทียมจะกลายเป็นกล่องที่ดูได้แค่ดิจิตอลทีวี+ช่องเก็บเงิน ไม่มีช่องคอนเทนต์หลากหลายอีกต่อไป ช่องฟรีทีวีที่มีรายการหลากหลายชนิดและประเภทจำพวกช่องน้ำดีร่วมครึ่งร้อยช่องจะหายไปจากระบบ ต่อไปคุณอาจจะไม่ได้ดูรายการดีๆ เพลงดีๆ ไม่ได้ดูคอนเสิตฟรี ไม่ได้ดูหนังฟรี ไม่ได้ดูรายการบันเทิงดีๆฟรี ถ้าอยากได้สิ่งเหล่านี้คือต้องจ่ายเงินรายเดือนอย่างเดียว
3.มีการเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะกับช่องดาวเทียมจากจ้าของกล่องดาวเทียมที่อ้างว่าชัดเว่อ มีการเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะค่าออกกล่อง หากไม่ออกจะไม่ได้ออกในกล่องเขาโดยเขาอ้างว่าฐานคนดูเขาเยอะไม่ออกก็เรื่องของคุณ โดยการเรียกเก็บในตัวเลข 6 หลักต่อเดือน ซึ่งข้อนี้ทำให้หลายช่องต้องปิดตัวลงเพราะสู้ไม่ไหว แต่ช่องที่มีรายได้ดีจากการขายของเยอะก็ยอมจ่ายเพื่อแลกกับที่ยืนของตัวเอง
4.ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ biss key ที่ กสท อ้างเรื่องล็อคการถ่ายทอดกีฬานั้น จริงๆแล้วกล่องที่มีการถ่ายทอดกีฬามีการส่งออกไปขายในประเทศเพื่อนบ้านอยู่แล้วตามหลักข้อเท็จจริง และช่องส่วนใหญ่ไม่ได้ออกการถ่ายทอดกีฬาซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวกันว่าต้องให้ทำ biss key ทุกช่อง ยังมีการอ้างว่า biss key ใช้ควบคุมการออกอากาศซึ่งจริงๆแล้วคนที่ควบคุมคือ mux ที่ไทยคมหรือ nss6 vinasat เท่านั้นที่เป็นตัวควบคุมได้ว่าจะปิดหรือเปิด การบังคับให้ทำ biss key ทุกช่องไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่แต่เป็นการผลักภาระให้ผู้ประกอบการกล่องและช่องรวมถึงประชาชนเฉยๆ
ทั้งนี้ผู้เขียนก็แค่นำข้อเท็จจริงมาแจ้งให้เพื่อนๆที่ใช้กล่องดาวเทียมเหมือนกันทราบข้อเท็จจริงเท่านั้นส่วนอนาคตวงการทีวีบ้านเราจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ผู้บริโภคอย่างเราๆจะตัดสินกันเอง..
มีผู้ฝากถามมาว่า สมมุติผมดูทีวีไม่ได้เหมือนเดิมแล้วจะเอากล่องคืนแบบกรณี RS สามารถคืนกับ PSI GMMZ ได้ไหม? และจะได้รับการชดเชยอย่างไร?
เรื่องเล่าชาวดาวเทียมฝากมาครับ..
มีหลายท่านคิดว่าช่องดาวเทียมมีแต่ขยะขายของไร้สาระแสดงว่าท่านไม่ใช่ขาประจำทีวีดาวเทียมครับเพราะช่องดีๆที่กำลังจะตายและไม่ได้ออกอากาศยังมีเช่น ช่องอนุรักษ์วัฒนะธรรมเพลงเก่า เพลงไทยเดิม เพลงลูกทุ่ง ช่องเพื่อการกุศลช่วยผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ช่องทางศาสนาที่ใช้เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา ช่องสื่อการเรียนการสอนทางไกล หรือสื่อการสอนเพื่อพัฒนาวิชาชีพ ช่องเพื่ออนุรักษ์ศิลปะวัฒนะธรรมประเพณีเช่น ลิเก ลำตัด งิ้ว ช่องรายการให้คำปรึกษาด้านกฏหมาย ช่องภาพยนต์ไทยทั้งปัจจุบันและภาพยนต์ในอดีต แม้แต่ช่องบอกบุญูสร้างวัดวาอาราม เหตุผลที่ช่องเหล่านี้จะหายไปเพราะบางช่องเงินทุนหมดจากคำสั่ง กสท และรายการส่วนใหญ่ไม่ใช่รายการทำเงินหรือดึงดูดโฆษณาจากเอเจนซี่ เพียงแต่เจ้าของช่องทำเพื่ออยากอนุรักษ์หรือส่งเสริมสิ่งเหล่านี้ให้ยังคงอยู่ตามกำลังความสามารถของตนเท่านั้น แน่นอนว่าการทำดาวเทียมต้องใช้เงินเดือนละเกือบสองล้านขึ้นไป ยังไม่รวมอุปกรณ์ที่ต้องลงทุนร่วมสิบยี่สิบล้าน เขาก็ต้องมีรายได้เพราะรัฐไม่เคยสนับสนุนเขา (แต่สนับสนุนบอลโลกนะ) การโฆษณาสินค้าให้กับพ่อค้าคือทางออก แน่นอนวันที่พ่อค้าเดินเข้ามาเขาก็กางให้ดูทั้ง อย. ทั้ง ฆอ. แต่ผู้ประกอบการจะรู้ได้อย่างไรว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จเมื่อมีเอกสารทางราชการยืนยันก็ย่อมเชื่อได้ว่าส่วนหนึ่งจริงอยู่แล้ว แต่ทำไปทำมากลับผิด อย. สคบ.ซะอย่างนั้น แต่ไม่แก้ที่ต้นเหตุคือไม่ลงโทษพ่อค้าเหล่านั้นกลับปล่อยให้ไปออกช่องอื่นแต่ลงโทษเจ้าของช่องที่ไม่รู้เรื่องแทน ทั้งๆที่ไม่ดูเนื้อหาสาระของช่องที่พวกเขาเหล่านั้นทำเพื่อสังคมเลยว่าจริงๆแล้วเขามีเจตนาอะไร ทำผิดก็ไม่เคยแจ้งใหแก้ไข พอผิดพลาดก็ซ้ำทันทีด้วยการสั่งปิดอย่างเดียว แล้วความยุติธรรมคืออะไรกันแน่หรือว่าต้องมีเงินเยอะเท่านั้นถึงจะหาความยุติธรรมได้...
ไปอ่านความเดือดร้อนของผู้ใช้จานดาวเทียมกันดูครับเริ่มมีประชาชนได้รับผลกระทบแล้วและจะมีมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
https://www.facebook.com/psisat
https://www.facebook.com/psisatellitedish