[CR] [+รีวิว+] การสอบ GED

**ท่านไหนที่จะส่งหลังไมค์มาขอคำแนะนำ รบกวนอ่านข้อมูลในกระทู้ให้ครบถ้วนก่อนนะคะ เพราะได้เขียนคำอธิบายวิชาที่สอบ ณ เวลานั้นและคำแนะนำหลายๆอย่างไว้แล้ว

หากมีคำถามเพิ่มเติมอื่นๆ หลังไมค์มาได้เลยค่ะ

แต่รบกวนระบุด้วยว่าอยากจะรู้เรื่องอะไรเพิ่ม เพราะถ้าส่งมาแค่ว่าอยากได้คำแนะนำก็ไม่รู้จะแนะนำอะไรดีค่ะ
เพราะที่นึกออกก็พิมพ์ในกระทู้นี้ไปหมดแล้วจ้า**


หัวใจหัวใจ !!! ไม่สะดวก add line นะคะ ถ้ามีคำถามอะไร ส่งมาหลังไมค์ได้เลยค่ะ !!!

ยิ้มยิ้มยิ้มยิ้ม

ได้ไปสอบจีอีดีมา ต้องขอบอกก่อน ว่าคะแนนไม่ได้ดีอะไรมากมาย แค่สอบผ่านเท่านั้นค่ะ
และที่ตั้งกระทู้รีวิวนี้ขึ้นมา เพราะบางที ข้อมูลการสอบที่แน่ชัด จะหาได้ยากมาก
ซึ่งเรามีประสบการณ์ในการสอบมาแล้ว เลยอย่างจะขอแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ
ผิดพลาดประการใด ต้องขอโทษด้วย มือใหม่ค่ะ หัวใจ

ก่อนอื่น คงจะต้องอธิบายกันก่อน ว่า GED คืออะไร
GED คือการสอบอย่างนึง ที่สามารถใช้แทนวุฒ ม.6 ได้ค่ะ
แต่ไม่ได้ใช้ยื่นได้ทุกคณะนะคะ ส่วนใหญ่จะเป็นคณะอินเตอร์
คณะส่วนใหญ่จะเอาคะแนน GED แค่ผ่าน ก็สามารถมาสมัครสอบมหาลัยได้เลย
แต่บางคณะ บางที่ จะมีจำกัดคะแนนกัน อย่างเช่นมหิดล จะเอาคะแนน 2800 อัพ

การสอบ GED มีอยู่สองแบบ แต่ที่จะมารีวิบ คือเวอร์ชั่นปี 2002 ค่ะ
อีกเวอร์ชั่นนึงที่เวอร์ชั่นที่เพิ่งออกมาใหม่ปีนี้ ลักษณะข้อสอบจะคล้ายๆแบบเดิม

สำหรับเวอร์ชั่น 2002
คะแนนเต็มของแต่ล่ะวิชา คือ 800 ทุกวิชา ถ้าเอาผ่านคือต้อทำให้ได้อย่างน้อย วิชาล่ะ 410
แต่ต้องเอาคะแนนมารวมกัน แล้วได้เกิน 2250 ให้ได้ ถึงจะถือว่าผ่าน
เช่นสอบ 5 วิชา ได้คะแนน 410 + 410 + 410 + 410 + 410 = 2050 อันนี้คือผ่านของแต่ล่ะวิชา แต่คะแนนรวมไม่ผ่าน
ส่วนแบบนี้ 5 วิชา ได้คะแนน 410 + 410 + 410 + 410 + 610 = 2250 อันนี้ถึงผ่าน คือต่อให้วิชาอื่นได้คะแนนคาบเส้น แต่มีวิชาเดียวที่คะแนนโดดออกมาฉุดคะแนนขึ้นไปได้ ก็ถือว่าผ่าน

ข้อสอบ GED แบบ 2002 แบ่งออกเป็น 5 วิชา คือ
1. Reading
2.Writing
3.Social Studies
4.Science
5.Math

โดยส่วนตัว คือว่าวิชาที่ยากที่สุด คือ Reading -- Social Studies -- Science -- Writing -- Math ตามลำดับ

สำหรับ Reading ข้อสอบจะมีบทความ บทละคร บทสนทณา บทกวีต่างๆ มาให้อ่าน แล้วตอบคำถามค่ะ จะสั้นจะยาว แล้วแต่ข้อค่ะ
คำศัพท์นี่ยากพอตัวเหมือนกัน บางบทความนี่อ่านไม่รู้เรื่องเลย (จากความสามารถส่วนตัวนะ 555) ประเด็นคือต้องพยายามทำความเข้าใจ แล้วเดาศัพท์จากบริบทรอบข้างให้ได้ คำถามจะประมาณว่า คนเขียนบทความนี้ มีจุดประสงค์อะไร อยู่ในอารมณ์ไหน หัวข้อของเรื่องนี้ความชื่ออะไร จงเลือกบทสรุปของบทความนี้ อะไรประมาณนี้ สรุปคือ ถ้าอ่านเรื่องไม่รู้เรื่อง คือจบ วิชานี้ ครั้งแรก สอบได้ 380 คือไม่ผ่าน เมื่อวันก่อนกลับไปสอบใหม่ ได้ 430

ต่อไป Social Studies วิชานี้ ยากในระดับนึง ไม่ต้องมีความรู้ใดๆ แค่อ่านภาษาอังกฤษออก แล้วรู้คือศัพท์เกี่ยวกับวิชาสังคมบ้างก็พอ โดยรวม จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ US ทั้งการเมือง ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ฯลฯ แต่จะมีเรื่องสงครามโลกแทรกมาด้วย จะมีให้ดูแผนที่ ดูกราฟ แล้วตอบคำถาม คำถามก็จะแนวๆเดียวกับ Reading เลย แค่เจาะลึกมาทางสังคมเท่านั้น แต่ความยาก น้อยกว่า Reading สอบครั้งแรก ได้มา 490 สอบครั้งที่สองได้มา 440

รองลงมาคือ Science ค่ะ อันนี้ก็จะมีบทความทางวิทย์ให้อ่านเหมือนกัน แต่จะมีกราฟ มีรูปพวก ดีเอ็นเอ พวกคาน พวกแรงไฟฟ้า อะไรพวกนี้เข้ามา และเหมือนเดิม คือไม่ต้องมีความรู้ทางวิทย์ แค่รู้ศัพท์เบื้องต้นค่ะ คำถามจะประมาณ ให้ดูจากรูปภาพและคำอธิบาย ส่วนนี้จากรูปภาพ ใช้ทำงานอะไร และถ้าขาดส่วนนี้ไป จะกระทบต่ออะไร ประมาณนี้ ส่วนนี้ครั้งแรก ได้ 440 ครั้งที่สอง ได้470

อันที่ง่ายๆหน่อยมีสองอัน อันแรกคือ Writing วิชานี้ มี2พาร์ทนะคะ พาร์ทแรกเป็นข้อช้อยส์ลักษณะประมาณ error นั่นแหละ จะมีบทความยาวๆมาให้ ซึกตรงนั้นไม่จำเป็นต้องอ่าน มันจะเสียเวลา เพราข้อย่อยที่เป็นคำถามของบทความนั้นๆ มันจะยกประโยคมาเฉยๆ เช่นข้อ1. จากประโยคที่ 11 (แล้วข้อสอบจะยกประโยคนั้นๆจากบทความมาให้) ควรจะแก้ไขในจุดไหนบ้าง แล้วก็จะมีตัวเลือกมาให้ แบบ ตัดคอมม่าหลัง and เปลี่ยน Al though เป็น Although อะไรประมาณนี้ อีกแบบนึงคือจะถามว่า ประโยคนี้ควรย้ายตำแหน่งไปอยู่ไหน เช่น คำถามให้ประโยคที่ 9 มา อันนี้เราต้องกลับไปดูที่บทความล่ะ ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร แล้วประโยคนี้ควรย้ายไปตรงไหน หรือควรอยู่ที่เดิม หรือควรตัดออกไปเลย ซึ่งพวกนี้ ข้อสอบจะมีช้อยส์มาให้ ให้เราเลือกว่าจะเอาประโยคนี้ไปไว้หลังพารากราฟ2 เอาไปแทรกหลังประโยคที่ 13 อะไรประมาณนี้ อีกอย่างคือ ข้อสอบจะเอาประโยค 2 ประโยคจากบทความมา แล้วให้เราเลือกว่า ถ้าจะเอาสองประโยคนี้รวมกัน จะเป็นแบบไหน ให้เลือกจากช้อยส์ อีกพาร์ท คือพาร์ทที่สอง ให้เขียนเอสเส่ ในข้อสอบจะไม่มีบอกรายละเอียดอะไรเลย ว่าให้เขียนกี่คำ กี่พารากราฟ แต่โดยหลักการทั่วไปแล้ว ข้อสอบ GED ให้เขียนประมาณ 250 คำ แบ่งเป็น อินโทร1 บอดี้3 สรุป1 หัวข้อที่ให้มา เราไม่ต้องมีความรู้เจาะลึก จะเป็นคำถามทั่วๆไป ที่เราสามารถตอบได้ ซึ่งที่เจอมา ครั้งแรกคือ ให้อธิบายเกี่ยวกับลักษณะนิสัย ประวัติคร่าวๆ ของคนดังที่เราชื่นชอบ เพราะฉะนั้นก็จัดไปเลย ประวัตินิชคุณค่ะ 5555 ได้คะแนนครั้งแรกมา รวมข้อช้อยส์ 500 คะแนน ครั้งที่สอง ได้หัวข้อว่า เราจะสามารถให้ทักษะหรือความสามารถของเราในการช่วยเหลือสังคมยังไงค่ะ ครั้งนี้คะแนนยังไม่ออก เพราะต้องรอส่งไปตรง 5 วันค่ะ

สุดท้าย ที่ง่ายสุดคือ Math อันนี้มีความรู้ รู้วิธีคิดหน่อยก็ดี แต่ไม่ต้องจำสูตรใดๆ เพราะในข้อสอบจะมีหน้าสูตรให้เราแล้วข้อสอบแบ่งเป็น 2 พาร์ทเหมือนกัน พาร์ทแรก ใช้เครื่องคิดเลขได้ (จะมีเครื่องคิดเลขให้ในเครื่อง ไม่ต้องพกไปเองนะคะ) ส่วนพาร์ทสองห้ามให้เครื่องคิดเลขค่ะ สิชานี้ก็ไม่รู้จะอธิบายแนวข้อสอบยังไง ส่วนมากจะเป็นพวก คำถามที่ให้เทียบบัญญัติไตรยาง หรือบวกลบเศษส่วนจากโจทย์ปัญหา ส่วนใหญ่เป็นเลขแบบพื้นฐาน มีให้พล็อทกราฟ ส่วนให้ข้อสอบเป็นช้อยส์ จะมีประมาณ 5 ข้อที่ให้พิมพ์คำตอบเข้าไปเอง มีสัก 2 ข้อที่ให้พล็อทกราฟค่ะ วิชานี้ครั้งแรกสอบได้ 520 คระ้งล่าสุด ได้มา540ค่ะ

ทุกวิชา สอบเสร็จจะได้คะแนนเลย ไปเอาที่หน้าเคาท์เตอร์ ยกเว้น Writing ค่ะ ต้องรอก่อน ภายใน 5 วัน คะแนนจะมาในเว็บค่ะ

หลายๆท่าน คงส่งสัย ว่าคะแนนเกือบทุกวิชาผ่านตั้งแต่รอบแรกแล้ว รอบสองจะไปสอบใหม่ทั้งหมดทำไม
คำตอบของเราจะกลายเป็นคำเตือนให้ทุกๆคนค่ะ สาเหตุคือพนง.หน้าเคาท์เตอร์ค่ะ
พนง.ท่านนี้ไม่สามารถเชื่อถือได้แต่อย่างใด
เนื่องจากการสอบครั้งแรกของเรา คือก่อนวันที่ 2 พ.ค. 57 ซึ่งถ้าใครสังเกตุเห็นหรือจะสมัครสอบ จะพบว่า ในช่วงเวลานั้น หลังวันที่ 2 พ.ค. แล้ว หน้าเว็บไม่เปิดให้สมัครสอบคือกดเลือวันที่สอบหลังวันที่2ไม่ได้เลย
เราก็ตื่นตระหนกตกใจ เลยรีบสมัครสอบตั้งแต่ก่อน 2 พ.ค.
พอไปถึงที่สอบ พนง.ท่านนี้บอกมาว่า หลังวันที่ 2 นี้ไปแล้ว GED แบบปี 2002 จะไม่มีแล้ว จะเปลี่ยนไปเป็นเวอร์ชั่นปีปัจจุบันทั้งหมดเลย ซึ่งคะแนนไม่สามารถนำมารวมกับการสอบแบบเก่าได้
มากไปกว่านั้น คือก่อนหน้า ทางกวดวิชาบอกดเรามาว่า อายุยังไม่ถึง 17 ก็"ปสอบก่อนได้เลย พออายุ17ปุ้ป ใบเซอก็จะมาเอง แต่คุณพนง.ท่านนี้กลับบอกว่า ไม่มีอะไรรับประกัน ว่าใบเซอร์จะมา เนื่องจากอายุไม่ถึงเกณฑ์ เราก็อารมณ์เสีย เพราะคิดว่า ถ้าไม่ได้ใบเซอร์ ทางหน้าเว็บ GED ก็ไม่ควรให้คนคนนั้นสมัครสอบได้
ตอนนั้นก็เฟลเลย อุส่าห์สอบมาตั้งเยอะ ไม่ผ่านวิชานึง คะแนนหมดไปเลย และถึงจะผ่านหมด ใบเซอร์ก็อาจไม่ได้
หลังจากนั้นกลับบ้านไป เปิดดูคะแนนสอบ Writing ลองกดเข้าไปดูตรงที่สมัครสอบดู ปรากฏว่าแบบเก่าก็มีให้สมัคร
เราก็ตื่นเต้นอีก สมัครไปทุกวิชาเลย เพราะดันไปเชื่อพนง.ท่านนี้ ว่าคะแนนไม่สามารถเอามารวมได้
พอไปสอบอีกครั้งนึง พนง.ก็ยังคงยืนยันว่าถึงจะเป็นข้อสอบรุ่นเดียวกันคะแนนก็เอาไปรวมกันไม่ได้ เพราะเว็บไซต์มันตัดไปตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค.แล้ว ๖คือช่วงนั้นที่เว็บมันไม่ให้สมัครเพราะ GED กำลังเปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เฉยๆ ไม่ได้มีไรเลย)
พอสอบออกมาครั้งที่สอง ทุกวิชาได้คำแนนมากว่าเดิมหมด ยกเว้น Social Studies พอเราไปดูในเว็บ คะแนนที่สามารถใช้ขอใบเซอร์ได้ คือคะแนนตัวที่มากว่า ซึ่งก็คือคะแนนอันเก่าที่สอบไปก่อนวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา
และเรื่องอายุ สรุปคือ อายุเกิน16 สามารถสมัคราอบได้แล้ว แล้วพออายุถึง 17 คะแนนที่ครบแล้ว จะสามารถขอใบเซอร์ได้ค่ะ
สรุปคือ หน้าเว็บไม่ได้ผิด เสียเงินไปตั้งเยอะ เพื่อสอบใหม่ ในขณะที่คะแนนเดิมก็ใช้ได้
อยากจะเดินไปขย้ำคอคุณเจ๊พนง.ท่านนี้จริงๆ ทำให้เราเสียเงินไปฟรีๆ 1500x4 = 6000 บาท
คุณพนง.ไม่ได้เสียเงินเองก็จะพูดอะไรก็ได้นี่คะ
วันหลังถ้าไม่รู้จริงก็ไม่ต้องพูดก็ได้ค่ะ ทำงานในหน้าที่ของคุณไปเถอะ
เฮ้ออออ เพลียกับคุณพนง.ท่านนี้จริงๆเลย ปลงล่ะค่ะ

หัวใจหัวใจ
**ท่านไหนที่จะส่งหลังไมค์มาขอคำแนะนำ รบกวนอ่านข้อมูลในกระทู้ให้ครบถ้วนก่อนนะคะ
เพราะได้เขียนคำอธิบายวิชาที่สอบ ณ เวลานั้นและคำแนะนำหลายๆอย่างไว้แล้ว

หากมีคำถามเพิ่มเติมอื่นๆ หลังไมค์มาได้เลยค่ะ
แต่รบกวนระบุด้วยว่าอยากจะรู้เรื่องอะไรเพิ่ม เพราะถ้าส่งมาแค่ว่าอยากได้คำแนะนำก็ไม่รู้จะแนะนำอะไรดีค่ะ
เพราะที่นึกออกก็พิมพ์ในกระทู้นี้ไปหมดแล้วจ้า**


หัวใจหัวใจ !!! ไม่สะดวก add line นะคะ ถ้ามีคำถามอะไร ส่งมาหลังไมค์ได้เลยค่ะ !!!

ขอบคุณทุกๆท่านที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ หวังว่าสิ่งที่เราได้รับรู้มาเกี่ยวกับการสอบสองครั้งนี้ จะมีประโยชน์ต่อทุกท่านนะคะ
มีข้อสงสัยใดๆ ถามมาในคอมเม้นต์ได้เลยค่ะ ถ้าเรารู้ ก็ยินดีจะตอบค่ะ แต่ถ้าเราไม่รู้ เราก็จะไม่ตอบให้ทุกท่านเสียเงิน เสียเวลา เสียความรู้สึก เหมือนที่คุณพนง.ท่านนี้ทำกับเรามาแล้ว

ขอบคุณค่ะ
ยิ้มยิ้มยิ้มยิ้มยิ้มยิ้มยิ้มยิ้มยิ้มยิ้มยิ้มยิ้มยิ้มยิ้ม
ชื่อสินค้า:   GED
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่