เนื่องด้วยวันนี้ผมได้ขึ้นรถแท็กซี่กลับบ้าน
ซึ่งวันนี้ออกไปข้างนอก เพื่อดูแลลูกค้ยื่นวีซ่าอังกฤษที่สุขุมวิท 13
ซึ่งเจ้ากรรม คิวลูกค้า 14.00 แต่กว่าจะสัมภาษณ์และออกมาเกือบ 17.00 น
แน่นอนครับ ช่วงเวลาที่ออกมานั้นเป็นเวลาที่คนเริ่มจะเลิกงานกัน ไม่พอบางที่เงินเดือนออกแล้ว (ของผมยัง ออกวันจันทร์เป๊ะ)
ซึ่งผมต้องโบกรถแท็กซี่เพื่อกลับไปแถวๆ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ (ขอเอาสถานที่ใหญ่ๆเพื่อให้คนมองภาพออก)
ซึ่งวันนี้ผมพยายามโบกรถแท็กซี่ตอน 17.00 หน้า สุขุมวิท 13 ผ่านไป 3 คันไม่รับ
มาคันที่ 4 รับ ไอ้เราก็โล่งใจ แต่ในใจ พี่เขาจะไล่เราลงจากรถไหม ซึ่งบนทางด่วนรถติดแน่ๆ วันศูกร์อีก เงินเดือนหลายๆที่ออกอีก
ก็นั่งมาสักพัก หาที่ขึ้นทางด่วนกัน บร๊ะ หน้าสิริกิต์รถติดหนัก ก็พาเลี้ยวเข้าซอยไผ่สิงห์ (น่าจะชื่อนี้นะ) วนไปวนมา โอเคโผล์ออกมารถก็ติด
กว่าจะได้ขึ้นทางด่วนก็เกือบ ชั่วโมงได้ ก็ระหว่างที่นั่งรถแท็กซี่ก็มีพูดคุยกัน
พี่เขาบอกว่า มีนัดกับเพื่อนๆที่พระราม 2 ตอน 18.00 น ไอ้เราก็คิดละ จะ หกโมงอยู่ละ จะไล่ตูลงรถไหมเนี่ย
พี่เขาก็เฟรนลี่นะครับ ไม่หงุดหงิดหรืออะไรเลย ขับรถไปเรื่อยๆ มีคนโทรมาคุย คาดว่าจะเพื่อนแฟน ก็คุยกันยิ้มไปคุยไป อายุพี่เขาน่าจะ 35-40ปี
แต่พี่เขาใจเย็นมาก เปิดเพลงฟังก็มีดีดนิ้วตามจังหวะ ในใจคิดพี่เขาลืมป่าววะ ว่านัดเพื่อนไว้ หกโมง
จนมาถึงบ้านผม ก็ทุ่มละ ก็แนะนำทางให้พี่เขาไปทางที่สะดวกที่สุดไป
ซึ่งผมคิดว่าคนขับแท็กซี่ดีๆมีเยอะนะครับ แต่บางคันก็ไม่ดีเอาซะเลย ไหนจะขับไปบ่นไป หงุดหงิดไป
บางคันรับเราไป ก็ดันไปส่งเรากลางทางบอกว่าไปไม่ทันส่งรถ เคยเจอมากับตัว
ซึ่งผมเข้าใจว่างานขับรถแท็กซี่เป็นงานบริการที่ต้องใช้ความอดทนต่อลูกค้า ต่อสัญญาณไฟแดง รถติด การจราจร หรืออื่นๆ
ไอ้เราแค่นั่งเฉยๆ ผมยังเมื่อยแทนพี่คนขับเวลารถติดๆ
ผมเข้าใจนะครับ อย่างคนขับรถไปทำงาน กลับบ้านดึกดื่น รถติด คงจะปวดขากันน่าดู
ผมก็ยังไม่ได้มีรถกับเขา เพราะคิดว่ายังไม่จำเป็นต่อผมนัก ค่ารถเวลาไปหาลูกค้าก็เบิกออฟฟิศได้
บ้านกับที่ทำงานก็ห่างกันไม่ไกลนัก เลยไม่ได้ซื้อ
ก็ไม่มีอะะไรมากครับ แค่ชื่นชมพี่แท็กซี่คนขับที่ขับดีและไม่ทิ้งลูกค้าอย่างผม
เสียดายไม่ได้จดเลขทะเบียนรถไว้
ชื่นชมคนขับแท็กซี่ดีๆ แต่ก็แอบสงสารพี่เขา
ซึ่งวันนี้ออกไปข้างนอก เพื่อดูแลลูกค้ยื่นวีซ่าอังกฤษที่สุขุมวิท 13
ซึ่งเจ้ากรรม คิวลูกค้า 14.00 แต่กว่าจะสัมภาษณ์และออกมาเกือบ 17.00 น
แน่นอนครับ ช่วงเวลาที่ออกมานั้นเป็นเวลาที่คนเริ่มจะเลิกงานกัน ไม่พอบางที่เงินเดือนออกแล้ว (ของผมยัง ออกวันจันทร์เป๊ะ)
ซึ่งผมต้องโบกรถแท็กซี่เพื่อกลับไปแถวๆ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ (ขอเอาสถานที่ใหญ่ๆเพื่อให้คนมองภาพออก)
ซึ่งวันนี้ผมพยายามโบกรถแท็กซี่ตอน 17.00 หน้า สุขุมวิท 13 ผ่านไป 3 คันไม่รับ
มาคันที่ 4 รับ ไอ้เราก็โล่งใจ แต่ในใจ พี่เขาจะไล่เราลงจากรถไหม ซึ่งบนทางด่วนรถติดแน่ๆ วันศูกร์อีก เงินเดือนหลายๆที่ออกอีก
ก็นั่งมาสักพัก หาที่ขึ้นทางด่วนกัน บร๊ะ หน้าสิริกิต์รถติดหนัก ก็พาเลี้ยวเข้าซอยไผ่สิงห์ (น่าจะชื่อนี้นะ) วนไปวนมา โอเคโผล์ออกมารถก็ติด
กว่าจะได้ขึ้นทางด่วนก็เกือบ ชั่วโมงได้ ก็ระหว่างที่นั่งรถแท็กซี่ก็มีพูดคุยกัน
พี่เขาบอกว่า มีนัดกับเพื่อนๆที่พระราม 2 ตอน 18.00 น ไอ้เราก็คิดละ จะ หกโมงอยู่ละ จะไล่ตูลงรถไหมเนี่ย
พี่เขาก็เฟรนลี่นะครับ ไม่หงุดหงิดหรืออะไรเลย ขับรถไปเรื่อยๆ มีคนโทรมาคุย คาดว่าจะเพื่อนแฟน ก็คุยกันยิ้มไปคุยไป อายุพี่เขาน่าจะ 35-40ปี
แต่พี่เขาใจเย็นมาก เปิดเพลงฟังก็มีดีดนิ้วตามจังหวะ ในใจคิดพี่เขาลืมป่าววะ ว่านัดเพื่อนไว้ หกโมง
จนมาถึงบ้านผม ก็ทุ่มละ ก็แนะนำทางให้พี่เขาไปทางที่สะดวกที่สุดไป
ซึ่งผมคิดว่าคนขับแท็กซี่ดีๆมีเยอะนะครับ แต่บางคันก็ไม่ดีเอาซะเลย ไหนจะขับไปบ่นไป หงุดหงิดไป
บางคันรับเราไป ก็ดันไปส่งเรากลางทางบอกว่าไปไม่ทันส่งรถ เคยเจอมากับตัว
ซึ่งผมเข้าใจว่างานขับรถแท็กซี่เป็นงานบริการที่ต้องใช้ความอดทนต่อลูกค้า ต่อสัญญาณไฟแดง รถติด การจราจร หรืออื่นๆ
ไอ้เราแค่นั่งเฉยๆ ผมยังเมื่อยแทนพี่คนขับเวลารถติดๆ
ผมเข้าใจนะครับ อย่างคนขับรถไปทำงาน กลับบ้านดึกดื่น รถติด คงจะปวดขากันน่าดู
ผมก็ยังไม่ได้มีรถกับเขา เพราะคิดว่ายังไม่จำเป็นต่อผมนัก ค่ารถเวลาไปหาลูกค้าก็เบิกออฟฟิศได้
บ้านกับที่ทำงานก็ห่างกันไม่ไกลนัก เลยไม่ได้ซื้อ
ก็ไม่มีอะะไรมากครับ แค่ชื่นชมพี่แท็กซี่คนขับที่ขับดีและไม่ทิ้งลูกค้าอย่างผม
เสียดายไม่ได้จดเลขทะเบียนรถไว้