http://www.peopleunitynews.com/web02/2014/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B9%8C-%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9A-2/
สำนักข่าวออนไลน์ พีเพิล ยูนิตี้ - คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังคงเดินหน้าทำงานโดยไม่มีวันหยุดพัก เพื่อ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ตามสโลแกนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.
หนึ่งในภารกิจเร่งด่วนในจำนวนร้อยแปดพันเก้าภารกิจของ คสช. คือ การลุยจัดระเบียบ “ธุรกิจใต้ดิน” ทั้งบ่อน, หวย, ยาเสพติด, แก๊งค้าไม้, ค้าอาวุธ, วิน จยย.-รถตู้-แท็กซี่ ฯลฯ
ท่ามกลางเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญของประชาชนจำนวนมากที่ทหารเข้ามาทำภารกิจนี้ เพราะอันที่จริงภารกิจนี้คือหน้าที่ของ “ตำรวจ” โดยตรง
แต่ก็อย่างที่เห็นกันว่า ทั้งที่มีตำรวจอยู่ทุกพื้นที่ มีสายสืบ และสายข่าวอยู่ทุกโรงพัก แต่ที่ผ่านมาแทบจะไม่มีการลุยจับกุมธุรกิจใต้ดินพวกนี้อย่างจริงจัง
ปล่อยให้ลูกหลานตกอยู่ในการมอมเมาของอบายมุข และปล่อยให้สุจริตชนต้องอยู่ท่ามกลางความหวาดผวา เพราะมีโจรทั้งในและนอกเครื่องแบบอยู่เต็มเมือง!!
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านต่างก็หวังว่า คสช. จะทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง และคงไม่ไล่จับเฉพาะพวกนักเลงคุมซอยปลาซิวปลาสร้อยตัวเล็กๆเพียงเท่านั้น
เพราะอย่างที่รู้กันว่านักเลงปลายซอยพวกนี้คงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีสีกากีนอกแถว-สีเขียวนอกรีต รวมทั้งพวกนักการเมืองตัวเล็ก-ตัวใหญ่คอยเป็น “แบ็กอัพ” คอยคุ้มกะลาหัวให้
ฉะนั้น ถ้า คสช. คิดจะซื้อใจชาวบ้านให้ได้จริงๆ ก็ควรที่จะลุยพวกแบ็กอัพหลังฉากให้เห็นกันสักล็อตใหญ่ๆ ซึ่งถ้าทำได้สังคมคงน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะ และเรตติ้ง คสช. คงพุ่งติดเพดานแน่
เพราะการลุยภารกิจนี้เป็นภารกิจลำดับต้นๆของ คสช. เจตนารมณ์ของ คสช. ต้องการช่วยเหลือประชาชนส่วนใหญ่ที่เป็นชาวบ้านรากหญ้าทั่วไป หากกวาดล้างธุรกิจที่คอยสูบเลือดสูบเนื้อชาวบ้านรากหญ้าไปได้ “คุณภาพชีวิต” ของคนไทยก็จะดีขึ้นอีกมาก ซึ่งนี่ก็คือแนวทางการคืนความสุข และลดความเหลื่อมล้ำรูปแบบหนึ่ง
ทว่า อีกประเด็นหนึ่งที่ถือเป็นผลพลอยได้ของ คสช. คือ ในช่วงที่ผ่านมา แหล่งเงินทุนจากธุรกิจใต้ดินคือ “เส้นเลือดใหญ่” ของตำรวจนอกแถว และบรรดานักการเมือง
หากสามารถตัดเส้นเลือดใหญ่ หรือแม้กระทั่งบีบให้เลือดมาหล่อเลี้ยงได้น้อยลงก็จะทำให้กลุ่มการเมืองต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามอ่อนแรงไปได้
ผลที่จะตามมาในระยะสั้น คือ ท่อน้ำเลี้ยงที่จะหล่อเลี้ยงกลุ่มต่างๆที่จะเคลื่อนไหวก็จะตีบตันลง และส่งผลต่อการสะสมกระสุนดินดำไว้สู้ศึกการเมืองในระยะยาวด้วย
น่าสนใจว่า ผู้ที่คุมทิศทางการเคลื่อนไหวของธุรกิจใต้ดิน คือ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วย ผบ.ทบ. รับผิดชอบงานด้านกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม
พล.อ.ไพบูลย์ ที่ขึ้นชื่อในความเด็ดขาด ตรงไปตรงมา เจ้าของฉายา “ตัวเล็ก ใจใหญ่” ซึ่งบุคคลตามหมายเรียก คสช. คุ้นชินกันดี เพราะท่านเป็นผู้ที่เข้าไปปรับความเข้าใจแทบทุกครั้ง
ขณะที่ พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 ก็มีบทบาทสำคัญในการคุมกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย โดยกำลังในกองทัพภาคที่ 1 – 4 ต้องขึ้นตรงต่อ “บิ๊กหมู” ทั้งหมด
ส่วนโครงสร้างระดับรองลงไปก็มีการวางให้ พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.พล.1 รอ. มาจัดระเบียบวินมอเตอร์ไซค์, พล.ต.สมโภชน์ วังแก้ว ผบ.พล.ม.2 รอ. จัดระเบียบวินรถตู้ และ พล.ต.นิรันดร สมุทรสาคร ผบ.มทบ.11 จัดระเบียบรถแท็กซี่ทั้งใน กทม. และปริมณฑล
จากโครงสร้างคร่าวๆ แสดงให้เห็นว่า มีกำลังในกองพลหลักอย่างน้อย 3 กองพลเข้ามาจัดระเบียบธุรกิจใต้ดิน เพื่อคืนความสุขให้ประชาชน และสร้างความทุกข์ให้เหล่ามิจฉาชีพ
โดยเฉพาะมิจฉาชีพที่อยู่ใต้หลืบเงาของ “การเมือง” คอยเป็นมือเป็นไม้สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายมานานนับ 10 ปี..ต้องเจอ “ทหารพระราชา” ลุยปราบให้สิ้นซาก
วิเคราะห์ // ยุทธการล้างบางธุรกิจใต้ดิน
โดย – เสมา พิทักษ์ราชัน
27 มิถุนายน 2557
12.02 น.
วิเคราะห์ // ยุทธการล้างบางธุรกิจใต้ดิน
สำนักข่าวออนไลน์ พีเพิล ยูนิตี้ - คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังคงเดินหน้าทำงานโดยไม่มีวันหยุดพัก เพื่อ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ตามสโลแกนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.
หนึ่งในภารกิจเร่งด่วนในจำนวนร้อยแปดพันเก้าภารกิจของ คสช. คือ การลุยจัดระเบียบ “ธุรกิจใต้ดิน” ทั้งบ่อน, หวย, ยาเสพติด, แก๊งค้าไม้, ค้าอาวุธ, วิน จยย.-รถตู้-แท็กซี่ ฯลฯ
ท่ามกลางเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญของประชาชนจำนวนมากที่ทหารเข้ามาทำภารกิจนี้ เพราะอันที่จริงภารกิจนี้คือหน้าที่ของ “ตำรวจ” โดยตรง
แต่ก็อย่างที่เห็นกันว่า ทั้งที่มีตำรวจอยู่ทุกพื้นที่ มีสายสืบ และสายข่าวอยู่ทุกโรงพัก แต่ที่ผ่านมาแทบจะไม่มีการลุยจับกุมธุรกิจใต้ดินพวกนี้อย่างจริงจัง
ปล่อยให้ลูกหลานตกอยู่ในการมอมเมาของอบายมุข และปล่อยให้สุจริตชนต้องอยู่ท่ามกลางความหวาดผวา เพราะมีโจรทั้งในและนอกเครื่องแบบอยู่เต็มเมือง!!
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านต่างก็หวังว่า คสช. จะทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง และคงไม่ไล่จับเฉพาะพวกนักเลงคุมซอยปลาซิวปลาสร้อยตัวเล็กๆเพียงเท่านั้น
เพราะอย่างที่รู้กันว่านักเลงปลายซอยพวกนี้คงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีสีกากีนอกแถว-สีเขียวนอกรีต รวมทั้งพวกนักการเมืองตัวเล็ก-ตัวใหญ่คอยเป็น “แบ็กอัพ” คอยคุ้มกะลาหัวให้
ฉะนั้น ถ้า คสช. คิดจะซื้อใจชาวบ้านให้ได้จริงๆ ก็ควรที่จะลุยพวกแบ็กอัพหลังฉากให้เห็นกันสักล็อตใหญ่ๆ ซึ่งถ้าทำได้สังคมคงน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะ และเรตติ้ง คสช. คงพุ่งติดเพดานแน่
เพราะการลุยภารกิจนี้เป็นภารกิจลำดับต้นๆของ คสช. เจตนารมณ์ของ คสช. ต้องการช่วยเหลือประชาชนส่วนใหญ่ที่เป็นชาวบ้านรากหญ้าทั่วไป หากกวาดล้างธุรกิจที่คอยสูบเลือดสูบเนื้อชาวบ้านรากหญ้าไปได้ “คุณภาพชีวิต” ของคนไทยก็จะดีขึ้นอีกมาก ซึ่งนี่ก็คือแนวทางการคืนความสุข และลดความเหลื่อมล้ำรูปแบบหนึ่ง
ทว่า อีกประเด็นหนึ่งที่ถือเป็นผลพลอยได้ของ คสช. คือ ในช่วงที่ผ่านมา แหล่งเงินทุนจากธุรกิจใต้ดินคือ “เส้นเลือดใหญ่” ของตำรวจนอกแถว และบรรดานักการเมือง
หากสามารถตัดเส้นเลือดใหญ่ หรือแม้กระทั่งบีบให้เลือดมาหล่อเลี้ยงได้น้อยลงก็จะทำให้กลุ่มการเมืองต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามอ่อนแรงไปได้
ผลที่จะตามมาในระยะสั้น คือ ท่อน้ำเลี้ยงที่จะหล่อเลี้ยงกลุ่มต่างๆที่จะเคลื่อนไหวก็จะตีบตันลง และส่งผลต่อการสะสมกระสุนดินดำไว้สู้ศึกการเมืองในระยะยาวด้วย
น่าสนใจว่า ผู้ที่คุมทิศทางการเคลื่อนไหวของธุรกิจใต้ดิน คือ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วย ผบ.ทบ. รับผิดชอบงานด้านกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม
พล.อ.ไพบูลย์ ที่ขึ้นชื่อในความเด็ดขาด ตรงไปตรงมา เจ้าของฉายา “ตัวเล็ก ใจใหญ่” ซึ่งบุคคลตามหมายเรียก คสช. คุ้นชินกันดี เพราะท่านเป็นผู้ที่เข้าไปปรับความเข้าใจแทบทุกครั้ง
ขณะที่ พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 ก็มีบทบาทสำคัญในการคุมกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย โดยกำลังในกองทัพภาคที่ 1 – 4 ต้องขึ้นตรงต่อ “บิ๊กหมู” ทั้งหมด
ส่วนโครงสร้างระดับรองลงไปก็มีการวางให้ พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.พล.1 รอ. มาจัดระเบียบวินมอเตอร์ไซค์, พล.ต.สมโภชน์ วังแก้ว ผบ.พล.ม.2 รอ. จัดระเบียบวินรถตู้ และ พล.ต.นิรันดร สมุทรสาคร ผบ.มทบ.11 จัดระเบียบรถแท็กซี่ทั้งใน กทม. และปริมณฑล
จากโครงสร้างคร่าวๆ แสดงให้เห็นว่า มีกำลังในกองพลหลักอย่างน้อย 3 กองพลเข้ามาจัดระเบียบธุรกิจใต้ดิน เพื่อคืนความสุขให้ประชาชน และสร้างความทุกข์ให้เหล่ามิจฉาชีพ
โดยเฉพาะมิจฉาชีพที่อยู่ใต้หลืบเงาของ “การเมือง” คอยเป็นมือเป็นไม้สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายมานานนับ 10 ปี..ต้องเจอ “ทหารพระราชา” ลุยปราบให้สิ้นซาก
วิเคราะห์ // ยุทธการล้างบางธุรกิจใต้ดิน
โดย – เสมา พิทักษ์ราชัน
27 มิถุนายน 2557
12.02 น.