เมื่อแฟนเราแอบกิ๊กกับเพื่อนสนิทเราและแฟนเก่าเพื่อนสนิทก็เหมือนจะแอบมีใจให้เรา (ไม่เหมาะกับคนโลกสวยยาวนิดนึงนะคะ)

สวัสดีค่ะ นี่เปนกระทู้แรกของเรานะค่ะมีเรื่องที่ทุกข์ใจสับสนไม่เข้าใจลำบากใจเสียใจอย่างบอกไม่ถูกค่ะเศร้า

ไม่เหมาะกับมนุษย์ป้า มนุษย์ลุง และพวกโลกสวยนะค่ะ *-*

ชีวิตวัยรุ่นของคนเรามันไม่เหมือนกันค่ะ...

ขอสมมติชื่อเราว่า'หมิว'ละกันนะคะ เรามีเพื่อนสนิทคนนึงค่ะที่เรียนรร.ประจำจังหวัดมาด้วยกันตั้งแต่ม.ปลาย
ขอสมมติชื่อเพื่อนเราว่า 'ก้อย'นะคะ หมิวกับก้อยสนิทกันมากค่ะรู้จักกันเพราะมาสอบรร.ประจำจังหวัดด้วยกัน
รร.รัฐบาลชายหญิงที่จ.สุพรรณบุรี สอบห้องเดียวกันค่ะเราสอบโต้ะติดกันเหตุเพราะก้อยเค้าลืมเอาลิคควิดมา
จึงเปนจุดเริ่มต้นที่เรารู้จักกัน พอสอบเสร็จก้อยเค้าก้รอเราหน้าห้องสอบแล้วก้บอกว่า ขอบใจนะที่ให้เรายืม
เราก้รู้สึกดีค่ะที่มีเพื่อนใหม่ตั้งแต่วันแรกที่มาสอบ     พอ7วันครบวันที่ผลสอบออก


เราสอบติดค่ะได้อยู่ห้องคิงส์แต่เปนห้อง ม.4/2     เราดีใจมากค่ะและอีกใจนึงก้คิดถึงก้อย
ว่าทำไมตอนนั้นไม่ถามชื่อไว้     และผู้หยิงคนนั้นเค้าจะสอบติดหมือนกันมั้ย
พอเรากำลังจะกลับบ้านรอรถสองแถวอยู่หน้ารรค่ะ เ   ราก้ได้เจอกันอีกครั้ง^____^
เค้าเข้ามาทักเราด้วยสีหน้ายิ้มแป้นค่ะ  'เค้าถามเราสอบติดมั้ย' เราก้บอกว่าติด
และที่โชคดีไปกว่านั้นเราได้อยู่ห้องเดียวกัน เรานั่งคุยกันที่หน้ารรสักพักตรงป้ายรถเมล์ค่ะ
ถามชื่อและแลกอีเมลล์กัน (สมัยนั้นยังนิยมเอมเอสเอนยู่)
เราคุยกันทุกวันค่ะตื่นเต้นว่าเมื่อไหร่จะเปิดเทอม คุยกันไว้เปิดเทอมเราต้องมานั่งข้างกันนะ
หลังจากเปิดเทอมมาเราก้ได้สนิทชิดใกล้กันมากขึ้นค่ะ คุยกันทุกเรื่องสนิทกันมากแบบที่ว่ามองตาก้รู้ใจ
เราจะสนิทกันอยู่แค่ 2 คนค่ะ คือเราสองคนนิสัยเหมือนกันแบบว่าเปนคนพูดมาก เสียงดัง เฮฮา หยาบคายบางครั้ง
ละเด็กห้องคิงส่วนมากก็จะนิ่งเงียบๆ เอาแต่เรียน พอจะนึกออกกันนะคะก้เลยไม่ค่อยมีมาสนิทกับเรามากเท่าไหร่555555


จนขึ้นม.5 มีเด็กใหม่ย้ายมาจากจังหวัดอ่างทองค่ะ เป็นเด้กที่เรียนเก่งพอสมควรที่เข้าแทรกชั้นแล้วจะมาอยู่ห้องคิงส์
ชอสมมติชื่ออีกละกันนะคะ ชื่อ'ปลา'ค่ะ เค้านิสัยเหมือนหมิวกับก้อย คือเข้ากันได้อะคะเราเลยไปทำความรู้จักแล้วก้สนิทกันเป็นเกิลแก้งค์ 3 คน


พอเทอม2ไกล้ๆจะปิดเทอม เสาร์-อาทิตย์เราก้จะไปเที่ยวกันตามประสาสาวม.ปลายค่ะ หนังสือหนังหาไม่อ่าน5555ร้องไห้
สมัยนั้นประมานสัก5-6ปีที่แล้ว พวกสถานบันเทิงก็ยังไม่เยอะเท่าไหร่ก้จะมีร้านนั่งดิ๊งประจำของเรา 3 คน อยู่ในตัวเมือง
คือไปบ่อยจนสนิทกับเจ้าของร้านค่ะ เราก็บอกเค้าว่าความจริงพวกเราอายุยังไม่ถึง18เลย
เค้าก้ตกใจแล้วก้ขำ ดีนะที่สนิทกันแล้วไม่งั้นคงให้ลูกน้องลากกลับบ้านไปกินนมแม่แล้ว (สมัยนั้นพวกผับบาร์ไรงี้จะเข้ายากค่ะ)
สาเหตุที่เค้าคิดว่าพวกเราพอดูเป็นผู้ใหญ่แล้วคือเรา 3 คนแต่งหน้าจัดค่ะ แต่งตัวแรงตามแฟชั่นพอสมควร ความจริงก็แต่งหน้าไม่เป็นหรอกตอนแรก
ก็มีก้อยนี่แหละคอยสอน จนตอนนี้เซียนละ^_^ แล้วแบบเวลาจะไปเที่ยวทีนะค่ะก็จะอ้างพ่อแม่ไปทำงานกลุ่มตลอด5555
แล้วก็ค้างคืนที่บ้านก้อย คือรร.เรามันงานกิจกรรมเยอะพอสมควรพ่อแม่ก้เลยเชื่อสนิทค่ะ (ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างนะคะ)


เรา3คนสนิทกันมากค่ะ แต่หมิวจะสนิทกับก้อยมากที่สุด จูบปากกันยังเคยทำมาแล้ว...
พอปิดเทอมใหญ่เตรียมตัวจะขึ้นม.5ค่ะ มีช่วงนึงก้อยเค้าหายไปประมาน2เดือนกว่า แต่ไม่ได้หายไปเลยนะค่ะ
เราเจอกันน้อยลงแล้วก็อยู่ด้วยกันไม่นานมาก เค้าก้บอกต้องรีบกลับไปช่วยแม่ ที่บ้านก้อยเค้าเปิดร้านอาหารค่ะ
เราก็เข้าใจแล้วก็สงสัยนิดหน่อย จนเวลาผ่านมา2เดือน เกือบจะ3เดือนค่ะ เราก็ไปดูหนังรอบดึกกับปลาที่ห้างในเมือง
กำลังจะกลับบ้านรอรถอยู่ค่ะ เจอก้อยเดินลงมาจากรถผู้ชายคนนึงแล้วก็ร้องไห้ค่ะ มันบังเอิญมากที่เราเพื่อนสนิท2คนของก้อย
อยู่ในเหตุการณ์ ก้อยนั่งลงตรงฟุตบาทข้างทางและร้องไห้ หันมาเจอพวกเราที่กำลังยืนมองอยู่อย่างตกใจ
ก้อยวิ่งมาหาหมิวกับปลาทั้งน้ำตาค่ะ รองเท้าไม่ไส่ ขอบตาเขียวเหมือนโดนต่อยมา แล้วก้รอยช้ำตามตัว


ก้อยกอดเราร้องไห้หนักแต่ไม่ยอมบอกว่าเป็นอะไร สนิทกันมาจะ3ปีแทบจะไม่เคยเห็นน้ำตาของเพื่อน
คือเพื่อนเจ็บเราก็เจ็บค่ะเข้าใจอารมป้ะTT ร้องไห้และกอดหมิวกับปลาอยู่อย่างนั้นเกือบ20นาที
แล้วก้พูดออกมาว่า 'มันหลอกกู มันหลอกกู' เราก้ถามใคร ก้อยก้บอกว่าไอยิ้มนั้นไง ผู้ชาย ยิ้ม
เราก้งงค่ะ เลยถามผชที่ลงมาจากรถเค้าใช่มั้ย แล้วก้อยก้ร้องไห้ต่อค่ะ ร้องจนเปนลมลงไปเลย
หมิวเลยโทรให้พี่ชายมารับกลับบ้าน พอถึงบ้านก้อยก้เล่าให้ฟัง ว่าตลอดเวลา 2 -3 เดือนที่ผ่านมาที่ก้อยไม่ค่อยมาเจอเรา
เพราะเค้ามีแฟนแต่ไม่ได้บอกหมิวกับปลาค่ะ เราก้รู้สึกโกรธนิดๆว่าทำไมต้องปิดบัง
ละก้อยก็เล่าต่อทั้งน้ำตาค่ะ ว่าผู้ชายคนนั้นเค้าชื่อ ต้อง เปนเพื่อนเจ้าของบาร์ที่เราไปกันบ่อยๆจนสนิทกับเจ้าของ
บอกว่าพี่ต้องตามจีบมาสักพัก แล้วก้ตกลงเป็นแฟนกันค่ะ พี่ต้องเค้าตี๋ๆขาวๆ อายุประมาน26 ปีค่ะ บ้านมีฐานะ ขับบีเอ็ม
แล้วเราก้ถามว่า มีแฟนก็ไม่เห็นเป็นไร ทำไมถึงไม่บอกเพื่อน แล้วทำไมถึงต้องทำตัวห่างหาย


ก้อยก้เล่าว่าพี่ต้องเค้าให้ก้อย ไปหาที่บ้านทุกวันเลย ถ้าไม่ไปพี่เค้าก็จะเลิก (พี่ต้องคือแฟนคนแรกของก้อยคะ)
ถ้าบอกเราตรงๆเราก็เข้าใจนะค่ะ ไม่เหนต้องปิดบังมารู้ทีหลังเสียความรุ้สึกค่ะ.. แต่ยังไงก้เพื่อนสนิท
หมิวก้บอกว่าไหนเล่าต่อดิ ว่าร้องไห้ทำไม แล้วทำไมเค้าถึงไล่ลงจากรถ พอหมิวพูดก้อยยก้เงียบค่ะ
แล้วก้ปล่อยโฮ ออกมาอีกรอบT^T แล้วก้พูดแต่มันหลอกกู มันหลอกกู อยู่เกือบ 20 ครั้งค่ะ -_-
ด้วยความโมโหที่มันร้องไห้ไม่ยอมหยุดสักที แล้วก้ไม่ยอมบอก หมิวเลยจัดไป 1 ฉาก ค่ะ ที่แก้มข้างซ้าย
เปน ยิ้มไร! ยิ้มกุจะช่วยแก้ปัญหาได้มั้ย ถ้าเอาแต่ร้องไห้อยู่แบบนี้
ไม่ได้ตั้งใจจิงๆค่ะ คงเพราะที่เราเป็นห่วงแล้วก้รักเพื่อนมาก
ก้อยก้หยุดร้องแล้วก้มองหน้าเรา เราก้ขอโทดไป แล้วก้กอดคอร้องไห้กับก้อยแล้วก้บอกที่ทำไปเพราะเป็นห่วงจริงๆ


ก้อยเริ่มดีขึ้นมากคะเค้าก้เล่าว่าพี่ต้อง เค้ามีเมียอยู่แล้วค่ะ แก่กว่าพี่ต้องซะอีกก พอก้อยมันรู้มันก้เสียใจค่ะอาละวาดพี่ต้อง
แล้วประเด็นคือมันโดนฟันแล้วทิ้งค่ะ... ก้อยรู้เพราะสงสัยมานานแล้วว่าทำไมถึงต้องไห้ไปหา ตอนบ่าย2 แบบนี้ทุกวัน
แล้วทำไมต้องกลับก่อนตอน2 ทุ่มตลอด จนมาก่อนวันเกิดเหตุ ก้อยไปบ้านพี่ต้องตอน 3 ทุ่มครี่งค่ะ แอบมองอยู่ตรงรั้ว
แล้วก้สงสัยทำไมมีรถ 2 คัน เพราะปกติมีรถพี่ต้องคันเดียว แอบดูสักพัก ก้อยบอกว่าเหนผู้หญิง ลงมาเปิดรถเอาของค่ะ
ก้เอะใจใครกัน????  มองไปที่ระเบียงน่าห้องพี่ต้องค่ะ เหนพี่ต้องกำลังตากชุดชั้นในผู้หญิงอยู่ ชัดค่ะ...
ของเมียเค้าแน่นอน555555 ละบังเอินพี่ต้องเหนก้อยพอดี พี่ต้องตกใจมากค่ะว่าก้อยมาทำไมตอนนี้ และก้เหนว่าเค้าอาศัยอยู่กับผู้หญิงอีกคน
ก้อยร้องไห้แล้วก้วิ่งไปหน้าปากซอยค่ะ พี่ต้องก้ขับรถตามก้อยแล้วก้กระชากขึ้นรถ
แล้วก้บอกว่ามารุ่มร่าม ที่บ้านกู อย่าให้กูเดือดร้อนหรือเมียกูรู้ไม่งั้นไม่ตายดีแน่!
ช็อคค่ะ...ก้อยบอกปกติที่คบกันจีบกันแรกๆพี่ต้องเป็นสุภาพบุรุษมากกก เจอชอตเด้ด2ต่องี้ ไปต่อไม่ไหวคะ
แล้วก้มีเอฟเฟคกลับมาที่เบ้าตา และตามตัว อย่างที่เห็น

เด่วมาเล่าต่อนะค่ะ ว่าเรื่องราวแฟนแอบกิ้กกับเพื่อนสนิทเรา มันเป็นมายังไง.... และทำไมแฟนเก่าเพื่อนถึงมีใจให้เรา

ใจร้าวใจร้าวใจร้าวใจร้าว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่