เคยไหม เริ่มงานใหม่แล้วโดนเล่นงานแบบงงๆเพราะเป็นเด็ก ??

อมยิ้ม04หัวใจสวัสดีค่ะเราเพิ่งเริ่มทำกระทู้เป็นครั้งแรก  จริงๆเราจะมาเล่าประสบการณ์นิดหน่อยของเด็กเพิ่งจบใหม่
และได้ทุนเรียนต่อในคณะที่มี ผญ. เรียนมากที่สุด และเลือกรับทุนในสาขาที่ดูแลคุณแม่มากที่สุดค่ะ ปัจจุบันรอเรียนโทค่ะ
สาเหตุที่เลือกสาขานี้เพราะชอบค่ะ  ชอบดูแลคนท้อง ชอบการวางแผนครอบครัว  จริงๆคืออยากเป็นคุณแม่นั่นเอง 555
และหากมีบางท่านถามว่าพึ่งจบป.ตรี ทำไมได้เป็นอาจารย์ไวจัง  คณะเราเป็นคณะขาดแคลน ทางสภาฯอนุญาตให้เป็นอาจารย์ได้
เมื่อเรียนจบป.โท แต่ทางมหาลัยจะรับเป็น ตน.อาจารย์ก็ต่อเมื่อจบ ป.เอก  ซึ่งก็คงอีกนานน ฮะฮ่า
....เรื่องเริ่มต้นได้ประมาณเดือน พ.ค. ที่ผ่านมาเราเริ่มเข้าทำงานครั้งแรก อารมณ์ประมาณ TA(Teacher assignment)
ช่วงเข้ามาตอนแรก  พูดง่ายๆเราถูกจ้างในนามคณะไม่ผ่านมหาลัย  เงินจ้างก็เป็นเงินคณะ  ตน.ใดๆในมหาลัยไม่มีเลย (เด็กเถื่อน)
เนื่องจากช่วงนี้มหาลัยปิดทำกาเรรียนการสอนเราจึงจำเป็นต้องเป็นเด็กเถื่อนไปอีกจนถึง ส.ค.  ถึงจะจ้างในอัตราอาจารย์พิเศษได้
ช่วงอาทิตย์แรกก็เข้า obseved การสอนเพราะน้องเรียนซัมเมอร์ไม่จบ  และก็ทำงานตามที่ทางสาขากำหนดให้ทำตามภารกิจไป

จนมาเข้าสัปดาห์ที่สองทีนี้แหละนรกจริง  ถึงกับอยากลาออกไปทำงานที่อื่น  ทำงานเหมือนเพื่อน  ได้เงินเยอะกว่าไม่ต้องมาเป็นน้องเล็กแล้วถูกด่าเรื่องปัญญาอ่อนแบบนี้  

เรื่องคือในที่แผนกที่เราทำงาน  เขามีปัญหาภายในซึ่งตอนเราเรียนเราก็ไม่รุไง  พอเปลี่ยนสถานะมาเป็นเพื่อนร่วมงานกัน เริ่มรู้เยอะขึ้น
เราเป็นเด็กใหม่ก็ต้องขึ้นกับหัวหน้าแผนก  ซึ่งอยากจะบอกว่า หน.แผนกไม่ถูกกะใครสักคนในแผนกเลย  กุอยากจะบ้า - -"  นี่แหละทำให้ทำอะไรก็ขัดหูขัดตาคนอื่นไปหมด  ท้อนะบอกเลย  เราเป็นเด็กทำอะไรไม่ได้  ผู้ใหญ่ไม่ตกลงกันให้ดีเราเป็นคนกลาง  เหมือนโดนตล๊อดดดด  น้ำตาไหลทั้งอาทิตย์  เงียบไปเป็นอาทิตย์  โทรหาแม่  หาแฟน  กลับบ้านมันทุกอาทิตย์ ไม่อยากทำแล้วกลับไปเอาทุนที่บ้านดีกว่า ทีทำงานเราห่างจากบ้าน 200 กว่าโล ก็กลับ

ฝ่ายที่ไม่ชอบหน.เรา  เขาก็หาเรื่องกลั่นแกล้ง  ถามจริงๆเด็ก 22 ปี น่ะ  มันรับอะไรแบบนี้ได้ไหม  เอาเรื่องเราเข้าที่ประชุมว่าเราหายไปไม่เข้าทำงาน
ทั้งๆที่เราไปฝึกงาน  มีหนังสือออกชัดเจน  แต่เขาไปบ้าพูดในที่ประชุมใหญ่  ถามจริงมันใช่ไหม  คนในแผนกเดียวกันแท้ๆไม่รู้  พี่ที่เขาทำหนังสือให้
เขาก็ช่วยบอกว่าน้องไปฝึกไม่รู้หรอ !!!   เขาก็เงิบไป  แหม่ถ้าไม่รุจักใครนี่คงโดนเละเทะ  อยากเปลี่ยนแผนก  แต่ไม่อยากหนีปัญหา

เราเลยกลับมาตั้งหลักใหม่  สู้มัน!!!!!   ตอนนี้เราไม่รู้จะวางตัวยังไง  เขาอาวุโส 35 up ทุกคน  จบโท จบเอก บางคนเป็น ผศ. เป็น ดร.
เราเหมือนลูกจ๊อกเลยอะ  พูดอะไรไม่ได้  โดนด่าเลย  ออกความเห็นก็โดนสวน 555+ นี่กุเป็นธาตุในเรือนเบี้ยปะวะ

เราได้คำแนะนำที่เป็น Positive thinking จากแม่ จากพี่ที่ทำงานต่างแผนก  จากหน.สาขาเราเองด้วย ซึ่งคำแนะนำของแต่ละคนดีมาก
เราก็เลยอยากแชร์
1. อมยิ้ม04ของแม่เรา  แม่เราบอกว่า "ทำงานทุกที่ ต้องเจออุปสรรค  นี่พึ่งเริ่ม  ต้องอดทน  อนาคตสบาย  ถึงตอนนี้ลำบาก  เพราะถึงไม่ได้เป็นอาจารย์ไปทำงานโรงพยาบาลก็ลำบากเหมือนกัน  เสี่ยงทุกอย่าง  ต้องรับความกดดันทุกอย่างเหมือนกัน  เพิ่งผ่านชีวิตมาน้อยนิด 22 ปี  ลูกต้องอดทนให้มากกว่านี้  ไม่มีคำว่า  ไม่เอาแล้ว  ทำไม่ได้  คนอื่นเขาอยู่ได้เราต้องอยู่ได้" ลืมบอกไปเราลุกคนเดียว  แม่เราไม่เคยสปอยเราเลยนะ  เราแบบว่าสู้ด้วยลำแข้งตลอด 555+  แต่แม่จะเป็นคนดีมาก  ให้กำลังใจตลอด  แต่พอบอกหมดแรง  แม่ก็ให้กลับไปคิดว่าที่หมดแรงเพราะอะไร  แค่นี้ยังทำไมได้อดทนไม่ได้อย่างอื่นจะทำได้หรอ  เราก็ต้องฝืน  แต่พอสักพักดีขึ้นก็จริงแหะ ศัตรูคือยาชูกำลังจริงๆ  กระตุ้นตัวเองตลอดเวลา
2.อมยิ้ม04ของหน.แผนก  แกเป็นคนแปลกๆ  แต่สิ่งที่แกให้ข้อคิดดีมากเลยทีเดียว แกบอกว่า ...  คนต้องการไออุ่นจากคนอื่น  หรือจะเป็นคนสร้างไออุ่นด้วยตัวเอง  ถึงเวลามีปัญหาคุณจะวิ่งเข้าไปซบอกคนนู้นทีคนนี้ทีไมได้  เมื่อโตขึ้นคุณต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง  ถึงเขาจะไม่ชอบคุณแต่ในฐานะคุณเป็นเด็กคุณต้องเข้าหา  เข้าไปถามว่ามีอะไรให้ช่วยไหมคะ  ถึงคุณจะบอกว่าทำใจไม่ได้กับคนนี้จริงๆ  แต่กับการทำงานคุณต้องทำได้  ทำเหมือนพี่  ขนาดพี่ยังทำได้  คุณก็ต้องทำได้ ... (ลืมบอกไปเรามี mentor เป็นผู้บริหาร   ช่วงแรกก็ฟ้อง  เด็กขี้ฟ้อง  ป่าวหรอกมันทนไม่ได้จริงๆ  อะไรๆก็เรา เราพึ่งเป็นเด็กใหม่  เล่นไม้แข็งกะเราเลย  ไม่มีซอฟ นี่ฆ่ากุเลยดีกว่า แหม่ หน.แผนกเลยตำหนิ  แต่เดี๋ยวนี้อยู่ด้วยตัวเองและ  เหนื่อยเดินขึ้นเดินลง 555+)
3.อมยิ้ม04 จากพี่ทำต่างแผนก  พี่เขาบอกว่า ... ที่เห็นนี่ยังน้อย  คิดว่าคงมีอีก  แต่สิ่งที่หนูเจอ  เพื่อนหนูก็เจอเช่นกัน ที่ทำงานมีแบบนี้ทุกที่  เจอคนแบบนี้ทุกที่  จะให้ทุกคนทำตามที่เราพอใจมันเป็นไปไม่ได้  พี่อยากให้เราอดทน  ยังมีพวกพี่คอยให้กำลังใจอยู่ ...

สรุปรวมคือ  อดทน  และเข้าใจ  เราว่าส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเราเกร็ง  ไม่รู้จะวางตัวยังไง  สำหรับคนที่ด่าเรา พยายามลอบกัดเราลับหลัง  เราให้อภัย  สุดท้ายเขาก็โดนเอง   และสิ่งสำคัญคือ เขาเป็นผู้ใหญ่บางเรื่องเขาผ่านประสบการณ์มามากกว่าเรา  เราก็จำเป็นต้องเข้าหา  ต้องเข้าใจว่าก่อนหน้านี้  เขาก็โดน  นี่เปลี่ยนเป็นเรามั้งเพราะเด็กสุด  คิดในแง่ที่ดี  ถ้าเขาด่าเรา ใช้งานเรา จ้องจับผิดเรา  แสดงว่าเราก็เป็นบุคคลน่ากลัวและน่าสนใจอยู่นะเนี่ยย 5555+

ตอนนี้เริ่มชิน  ต้องอยู่กับสังคม ผญ. เยอะๆแบบนี้ให้ได้  นี่ยังไม่ชินอีกหรอวะ  อยู่มาตั้งนาน เอิ๊ก!!!  ตอนนี้เราสอบผ่านภาษาอังกฤษผ่านละ
รอสมัครโทอยู่ และก็น่าจะสอบประมาณ ม.ค.ปีหน้า จะรีบไปเรียนให้เร็วที่สุด  อยู่นานๆนี่ประสาทกินได้เหมือนกัน 55+ ...  จบการเล่าเรื่องฮับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่