เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ 3 สัปดาห์ได้แล้ว เริ่องเคลียร์เรียบร้อยแต่เรายังคาใจ เกี่ยวกับพฤติกรรมเด็กๆคือ
มีอยู่วันนึงก็เหมือนกับทุกๆวัน พ่อขับรถออกจากบ้านเพื่อมาส่งลูกไป รร. แม่นั่งมาด้วยพร้อมกับ ลูกๆ 3 คน ถึง รร. ประมาณ 6.15 น. นั่งกินข้าวพร้อมกัน 5 คน ในโรงอาหาร รร.จน ถึงเวลาประมาณ 6.45-6.50 น. ลูกโตๆ 2 คน แยกขึ้นตึกมัธยม ส่วนคนเล็กพ่อแม่ต้องจูงไปส่งขึ้นตึกประถม (ตัวเล็กเหมือนเด็ก อ.2)
วันเกิดเรื่อง มีผปค. ทั้งพ่อแม่และลูกคนเล็กของเขา มาดักรอเราตรงทางออกโรงอาหาร แลัเกิดการโต้เถียงกันขึ้น
ผช. : เมื่อวานมาทำลูดผมทำไม
เรา : หือ อะไรนะ
ผช. : เมื่อวานมาตบหน้าลูกผมทำไม
เรา : เห้ย ไม่ได้ทำ
ผช. : เนี่ย ลูกผมชี้มาที่คุณแล้วบอกว่าคุณตบหน้าเค้า
เรา : ไม่ได้ทำค่ะ เมื่อวานตอนเย็นอยู่ในรถตลอดเวลา เพราะจอดซ้อนคัน ไม่ได้ลวจากรถเลย ไม่เชื่อถามครูเวรจราจรในรร.ได้เลยค่ะ เพราะเราต้องคอยถอยรถ เวลารถข้างในจะออก
ผช. : ไม่ใช่ตอนเย็น ตอนเช้า
เรา : งั้นไม่รู้แล้วล่ะค่ะ แต่ไม่ได้ทำ ตอนเช้าก็อยู่กับสามี
สามี : ครับ อยู่กับผม
ผช. : แต่ลูกผมชี้มาว่าคุณตบ
เด็กอ. 2 : ยืนหันข้าง ไม่กล้าสบตา ม้วนผมไปด้วย
เรา : หันไปถามเด็กว่า ถูกคนไม๊คะ
ผช. : ตะคอกใส่เรา ว่า ไม่ต้องมาขู่ลูกผม จะเอาให้ตายเลย มาตบหน้าลูกกุ/ผม ไม่แน่ใจ
เรา : เริ่มเดือด หันไปเสียงดังใส่ ผช.ว่า ขู่ตรงไหน มี"คะ"
ผญ. : ลูกบอกว่าคนใส่เสื้อสีส้ม พร้อมหันไปถามเด็ก อ. 2 คนนั้น ว่าเค้าใส่เสื้อสีอะไร
เด็ก อ. 2 : สีส้ม แต่ก็ไม่กล้ามองหน้าเรา
เรา : (ไม่แน่ใจว่าตัวเองใส่เสื้อสีอะไร หันไปถามลูกเรา ) เมื่อวานหม่าม้าใส่สีอะไร...ชื่อลูก...
ลูกเรา : เมื่อวานม้าใส่สีขาวดำ (แต่เรากลับไปรื้อตะกร้าผ้า ปรากฏว่าเราใส่สีส้มจริงๆ แต่ช่วงเย็นใส่สีขาวดำ เพราะช่วงเช้าทำความสะอาดบ้าน เหงื่อออก ต้องอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่)
ผช. : ก็ยังคงทำเสียงดัง และขู่ว่าถ้ารู้นะจะเอาให้ตายเลย
เรา : ไม่ได้ทำค่ะ (แล้วเดินจูงลูกเดินไปตึก)
แล้วเราก็กลับบ้าน แต่ว่าระหว่างทาง ก็อัพสเตตัสว่าเจอเหตุการณ์แบบนี้ เพื่อนๆในเฟสแนะนำไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน อีกคนบอกให้มากำชับครูให้ดูแลลูกเราให้ดีด้วย ไม่แน่ใจพฤติกรรม ผปค.เด็กคนนั้น เราจึงต้องย้อนกลับมา รร. อีกรอบ เพื่อมาแจ้งหัวหน้าครูแผนกประถม
ครู : ครูขออนุญาต เป็นคนไกล่เกลี่ยโดยไม่ให้ ผปค. มาเจอกันนะคะ
เรา : ได้ค่ะ
ครู : ครูเข้าใจค่ะ ผปค.ฝั่งนั้นเค้าไม่มีหลักฐานด้วย และทำไม่ถูกต้องด้วยที่ ไม่มาแจ้งครู แต่ไปจัดการเรื่องกันเอง และสถานที่เกิดเหตุ (สนามเด็กเล่น) ตรงนั้น รร. จัดให้เด็กอนุบาลเล่น เด็กประถมไม่สามารถเข้าไปเล่นได้ ลูกไม่ได้เข้าไปเล่นแล้วคุณแม่น้อง...ขื่อลูก...จะเข้าไปได้ยังไง ครูเข้าใจค่ะ ครูขออนุญาตเคลียร์ให้นะคะ
เรา : ได้ค่ะ (จำบทสนทนาไม่ค่อยได้ คือเราเป็นคนง่ายๆค่ะ ไม่เรื่องมากไม่เยอะ ครูอยากทำแบบได้แล้วแต่สมควรเลย)
ณ เวลา บ่าย 3 กว่าๆ เรากับสามีมารอรับลูก (สามีต้องลางานมาเป็นเพื่อนตั้งแต่เช้าเลย) นั่งรอลูก เราก็มองๆห้องธุรการไปด้วยว่าครูได้เคลียร์ให้หรือยัง จนเมื่อ ผปค. 2 คนนั้นจูงลูกเดินผ่านหน้าเรากับสามีไปหน้าราเฉย เราจึงเดินไปถามครูที่รับเรื่องไว้
เรา : เรื่องเมื่อเช้าเรียบร้อยหรือยังคะ
ครู : ครูจัดการคุยให้เรียบร้อยแล้วค่ะ ตามที่ครูพูดไว้เมื่อเช้าว่า 1.ผปค.ทำไม่ถูกเรื่องเกิดใน รร. ต้องให้ครูจัดการ ไม่ใช่มาจัดการกันเอง 2.ผปค. ไม่ควรปล่อยลูกลำพังในสนามเด็กเล่น เพราะครูเวรจะลงมา ตอน 6.50 น. 3. ผปค.ไม่มีหลักฐาน ไม่มีพยาน ครูขอให้เรื่องจบลงวันนี้เลยนะคะ
เรา : จบแน่ๆใช่ไม๊คะ เพราะเค้าขู่ว่าจะเอาให้ตาย
ครู : แน่ค่ะ แค่ถ้า คุณแม่น้อง...ชื่อลูก มีอะไร แจ้งครูได้ค่ะ
เรา : ค่ะ จบคือจบค่ะ แต่เมื่อกี้เค้าผ่านหน้าแม่ ก็ไม่เห็นขอโทษซักคำเลยนะคะ
ครู : ยิ้มๆ แล้วพูดว่า คนเราโตมากับสังคมไม่เหมือนกันค่ะ
เรา : ขอบคุณค่ะ
ปล. ลูกเราเป็นเด็กกิจกรรม เวลามีงานหรืออะไร ครูจะเรียกไปช่วย ครูจึงรู้จักลูกเรา เกือบทั้ง รร. ค่ะ
ที่จะถามคือ เด็กอ.2 คนนั้น สร้างเรื่องเอง? หรือเรื่องเกิดจริง แต่ไม่ทีพยานเห็น แต่ทำไมเด็กจึงชี้มาที่เรา บอกสีเสื้อตามที่เราใส่จริงๆ วันนั้นวันพุธ คนใส่สีส้มแทบจะไม่มี
อยากถามความเห็นเพื่อนๆเรื่องพฤติกรรมเด็ก
มีอยู่วันนึงก็เหมือนกับทุกๆวัน พ่อขับรถออกจากบ้านเพื่อมาส่งลูกไป รร. แม่นั่งมาด้วยพร้อมกับ ลูกๆ 3 คน ถึง รร. ประมาณ 6.15 น. นั่งกินข้าวพร้อมกัน 5 คน ในโรงอาหาร รร.จน ถึงเวลาประมาณ 6.45-6.50 น. ลูกโตๆ 2 คน แยกขึ้นตึกมัธยม ส่วนคนเล็กพ่อแม่ต้องจูงไปส่งขึ้นตึกประถม (ตัวเล็กเหมือนเด็ก อ.2)
วันเกิดเรื่อง มีผปค. ทั้งพ่อแม่และลูกคนเล็กของเขา มาดักรอเราตรงทางออกโรงอาหาร แลัเกิดการโต้เถียงกันขึ้น
ผช. : เมื่อวานมาทำลูดผมทำไม
เรา : หือ อะไรนะ
ผช. : เมื่อวานมาตบหน้าลูกผมทำไม
เรา : เห้ย ไม่ได้ทำ
ผช. : เนี่ย ลูกผมชี้มาที่คุณแล้วบอกว่าคุณตบหน้าเค้า
เรา : ไม่ได้ทำค่ะ เมื่อวานตอนเย็นอยู่ในรถตลอดเวลา เพราะจอดซ้อนคัน ไม่ได้ลวจากรถเลย ไม่เชื่อถามครูเวรจราจรในรร.ได้เลยค่ะ เพราะเราต้องคอยถอยรถ เวลารถข้างในจะออก
ผช. : ไม่ใช่ตอนเย็น ตอนเช้า
เรา : งั้นไม่รู้แล้วล่ะค่ะ แต่ไม่ได้ทำ ตอนเช้าก็อยู่กับสามี
สามี : ครับ อยู่กับผม
ผช. : แต่ลูกผมชี้มาว่าคุณตบ
เด็กอ. 2 : ยืนหันข้าง ไม่กล้าสบตา ม้วนผมไปด้วย
เรา : หันไปถามเด็กว่า ถูกคนไม๊คะ
ผช. : ตะคอกใส่เรา ว่า ไม่ต้องมาขู่ลูกผม จะเอาให้ตายเลย มาตบหน้าลูกกุ/ผม ไม่แน่ใจ
เรา : เริ่มเดือด หันไปเสียงดังใส่ ผช.ว่า ขู่ตรงไหน มี"คะ"
ผญ. : ลูกบอกว่าคนใส่เสื้อสีส้ม พร้อมหันไปถามเด็ก อ. 2 คนนั้น ว่าเค้าใส่เสื้อสีอะไร
เด็ก อ. 2 : สีส้ม แต่ก็ไม่กล้ามองหน้าเรา
เรา : (ไม่แน่ใจว่าตัวเองใส่เสื้อสีอะไร หันไปถามลูกเรา ) เมื่อวานหม่าม้าใส่สีอะไร...ชื่อลูก...
ลูกเรา : เมื่อวานม้าใส่สีขาวดำ (แต่เรากลับไปรื้อตะกร้าผ้า ปรากฏว่าเราใส่สีส้มจริงๆ แต่ช่วงเย็นใส่สีขาวดำ เพราะช่วงเช้าทำความสะอาดบ้าน เหงื่อออก ต้องอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่)
ผช. : ก็ยังคงทำเสียงดัง และขู่ว่าถ้ารู้นะจะเอาให้ตายเลย
เรา : ไม่ได้ทำค่ะ (แล้วเดินจูงลูกเดินไปตึก)
แล้วเราก็กลับบ้าน แต่ว่าระหว่างทาง ก็อัพสเตตัสว่าเจอเหตุการณ์แบบนี้ เพื่อนๆในเฟสแนะนำไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน อีกคนบอกให้มากำชับครูให้ดูแลลูกเราให้ดีด้วย ไม่แน่ใจพฤติกรรม ผปค.เด็กคนนั้น เราจึงต้องย้อนกลับมา รร. อีกรอบ เพื่อมาแจ้งหัวหน้าครูแผนกประถม
ครู : ครูขออนุญาต เป็นคนไกล่เกลี่ยโดยไม่ให้ ผปค. มาเจอกันนะคะ
เรา : ได้ค่ะ
ครู : ครูเข้าใจค่ะ ผปค.ฝั่งนั้นเค้าไม่มีหลักฐานด้วย และทำไม่ถูกต้องด้วยที่ ไม่มาแจ้งครู แต่ไปจัดการเรื่องกันเอง และสถานที่เกิดเหตุ (สนามเด็กเล่น) ตรงนั้น รร. จัดให้เด็กอนุบาลเล่น เด็กประถมไม่สามารถเข้าไปเล่นได้ ลูกไม่ได้เข้าไปเล่นแล้วคุณแม่น้อง...ขื่อลูก...จะเข้าไปได้ยังไง ครูเข้าใจค่ะ ครูขออนุญาตเคลียร์ให้นะคะ
เรา : ได้ค่ะ (จำบทสนทนาไม่ค่อยได้ คือเราเป็นคนง่ายๆค่ะ ไม่เรื่องมากไม่เยอะ ครูอยากทำแบบได้แล้วแต่สมควรเลย)
ณ เวลา บ่าย 3 กว่าๆ เรากับสามีมารอรับลูก (สามีต้องลางานมาเป็นเพื่อนตั้งแต่เช้าเลย) นั่งรอลูก เราก็มองๆห้องธุรการไปด้วยว่าครูได้เคลียร์ให้หรือยัง จนเมื่อ ผปค. 2 คนนั้นจูงลูกเดินผ่านหน้าเรากับสามีไปหน้าราเฉย เราจึงเดินไปถามครูที่รับเรื่องไว้
เรา : เรื่องเมื่อเช้าเรียบร้อยหรือยังคะ
ครู : ครูจัดการคุยให้เรียบร้อยแล้วค่ะ ตามที่ครูพูดไว้เมื่อเช้าว่า 1.ผปค.ทำไม่ถูกเรื่องเกิดใน รร. ต้องให้ครูจัดการ ไม่ใช่มาจัดการกันเอง 2.ผปค. ไม่ควรปล่อยลูกลำพังในสนามเด็กเล่น เพราะครูเวรจะลงมา ตอน 6.50 น. 3. ผปค.ไม่มีหลักฐาน ไม่มีพยาน ครูขอให้เรื่องจบลงวันนี้เลยนะคะ
เรา : จบแน่ๆใช่ไม๊คะ เพราะเค้าขู่ว่าจะเอาให้ตาย
ครู : แน่ค่ะ แค่ถ้า คุณแม่น้อง...ชื่อลูก มีอะไร แจ้งครูได้ค่ะ
เรา : ค่ะ จบคือจบค่ะ แต่เมื่อกี้เค้าผ่านหน้าแม่ ก็ไม่เห็นขอโทษซักคำเลยนะคะ
ครู : ยิ้มๆ แล้วพูดว่า คนเราโตมากับสังคมไม่เหมือนกันค่ะ
เรา : ขอบคุณค่ะ
ปล. ลูกเราเป็นเด็กกิจกรรม เวลามีงานหรืออะไร ครูจะเรียกไปช่วย ครูจึงรู้จักลูกเรา เกือบทั้ง รร. ค่ะ
ที่จะถามคือ เด็กอ.2 คนนั้น สร้างเรื่องเอง? หรือเรื่องเกิดจริง แต่ไม่ทีพยานเห็น แต่ทำไมเด็กจึงชี้มาที่เรา บอกสีเสื้อตามที่เราใส่จริงๆ วันนั้นวันพุธ คนใส่สีส้มแทบจะไม่มี