Review Transformer 4 การ Reboot เนื้อเรื่องใหม่ แต่ยังใช้อะไรเดิมๆ

Transformer 4 เหมือนจะพยายาม reboot ใหม่ แต่ไม่ได้ช่วยให้หนังพบกับความแปลกใหม่มากนัก จากการที่ใช้ผู้กำกับเดิมอย่าง ไมเคิล เบย์ หนังจึงไม่สามารถเปิดมิติใหม่หรือพัฒนาไปได้มากกว่านี้ เพราะหนังยังคงคอนเซปเดิมๆ คือระเบิดตูมตาม สร้างความวินาศสันตะโร และสโลโมชั่นเป็นช่วงๆ แม้ว่าหนังจะมีฉากแอคชั่นเยอะ แต่กลับเป็นแอคชั่นที่แค่ดูผ่านๆไป ไม่ได้รู้สึกแปลกใหม่แต่อย่างใด ซ้ำร้ายบางครั้งก็กลับทำให้อึดอัด

ในด้านบท เบย์ ยังคงทำเนื้อเรื่องเดิมๆ ความผูกพันระหว่างมนุษย์และออโต้บอท การเดินทางหลบหนีไปด้วยกัน การพยายามปกป้องสิ่งบางสิ่งเพื่อไม่ให้ฝ่ายตัวร้ายเอาไป เพราะฉะนั้นมันแทบจะเดจาวูจากภาคก่อนๆ เพียงแต่เปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนตัวละคร และสิ่งที่น่าขัดใจคือการพยายามสร้างมุขตลกสอดแทรกแบบขอไปทีเหมือนอย่างทุกครั้ง คือเหมือนกะว่าสร้างมุขนี้ถ้าคนไม่ขำก็ต้องขำมุขหน้าละน่า ซึ่งกลับกลายเป็นหนังสะดุดอยู่บ่อยๆเพราะพยายามจะตลก แต่มันไม่ตลกเลยทำให้คนดูรำคาญหรือหัวเราะแบบเม้มมุกปาก

ด้านนักแสดงอย่างมาร์ค วอลเบิก ยังแสดงได้ดีและเป็นผู้แบกหนังเอาไว้อย่างชัดเจน ส่วนนักแสดงที่เป็นลูกสาวนั้นค่อนข้างเฟลเหมือนนางเอกภาคที่แล้ว เพราะแสดงหน้าตางงๆอยู่ตลอดเวลา ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเบย์ถึงชอบเลือกนักแสดงหน้าตาเดิมๆ คล้ายๆกัน แถมแสดงไม่เก่งเหมือนกันมาเล่น

สิ่งที่เสียหายอันใหญ่หลวงของภาคนี้คือการเอาสเกลของจักรวาลมาใช้ในเรื่อง มันทำให้คุมเนื้อเรื่องไม่อยู่ ครึ่งแรกของหนังเป็นการแนะนำตัวละครอันแสนน่าเบื่อ หลังจากนั้นครึ่งหลังของหนังก็กลายเป็นแอคชั่นที่ไม่มีเหตุผลรองรับที่ชัดเจน ตัวละครมันพันกันไปหมด และผู้กำกับไม่สามารถคุมให้หนังสมดุลย์ได้อย่างที่ควร ซ้ำร้ายยังพยายามเพิ่มตัวละครตัวใหม่ๆเข้ามา แต่ไม่สามารถอธิบายได้ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร โผล่มาเพื่อช่วยโผล่มาเพื่อเท่อะไรแค่นั้นจริง

ด้านตัวละครเก่าๆกลับมาเฉพาะตัวหลักอย่างบับเบิ้ลบี และไพร ส่วนตัวใหม่ก็ยังไม่มีอะไรให้น่าจดจำมากนัก ไร้เอกลักษณ์ จึงทำให้คนดูไม่ผูกพันธ์และเอาใจช่วยอย่างที่ควรจะเป็น

สิ่งที่ไม่น่าให้อภัยที่สุดคือช่วงสุดท้ายของหนังที่คนดูอาจต้องตั้งคำถามกับความสามารถของตัวละคร ที่ดันมาใช้เอาตอนจบ และต้องถามว่าถ้ามันมีความสามารถอันนี้แล้วทำไมไม่ใช้ตั้งแต่แนก แต่ยังไงซะ TF4 ยังถือเป็นหนังที่ดู้ได้เพลินๆ ไม่ถึงกับแย่ แต่ก็ไม่ถึงกับดี เป็นหนังที่พยายาม wanna be ด้วยการเอาหนังเรื่อง Prometheus กับ The Avengers มารวมๆกัน แต่ยังไม่สามารถทำให้หนังกลมกล่อมเท่าที่ควรนัก แต่ถ้าใครที่เน้นเสพย์หุ่นตีกัน ระเบิดภูเขา เผาตึกระฟ้า ก็คงเพลิดเพลินไปกับหนังเรื่องนี้ล่ะครับ

6.5/10
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่