Grace of Monaco
เทพนิยายที่เกินจริง
เรื่องราวดุจเทพนิยายของเจ้าหญิง Grace ถูกนำมาทำให้เป็นหนังเชิดชูวีรสตรีหรืออย่างไร ตอบ!
ถึงแม้จะมีกระแสไม่ชอบในตัวหนังเรื่องนี้เพียงใด แต่หลังจากที่ผมได้ดูหนังเรื่องนี้จบ กลับรู้สึกว่าหนังไม่ได้แย่มากมายนักดังที่ได้ทราบมาจากหลายคนที่ดูมาแล้ว ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากความชอบในเรื่องราวที่เกี่ยวกับ Monaco ประวัติศาสตร์ และ ความสวยงามของเครื่องแต่งกาย ฉาก งานโปรดักชั่นต่างๆของหนัง
หนังหยิบเอาเรื่องราวความขัดแย้งของตัวละครสามีภรรยา คือ เจ้าชาย Rainier III แห่ง Monaco กับ เจ้าหญิง Grace อดีตดาราสาวชื่อดังจากฮอลลีวูด มาเชื่อมโยงกับเรื่องทางการเมืองที่ในขณะนั้นฝรั่งเศสและโมนาโกมีปัญหากันเรื่องการจัดเก็บภาษี ซึ่งจะส่งผลร้ายแรงถึงขั้นที่ฝรั่งเศสอาจจะนำกำลังทางทหารบุกโมนาโกได้หากไม่มีทางหากที่สามารถตกลงกันได้
แทบทั้งเรื่องของหนังถูกขับเคลื่อนไปด้วยการแสดงของ Nicole Kidman ในบทของเจ้าหญิง Grace ที่ค่อนข้างจะเจ้าน้ำตาในทุกสถานการณ์ นั่นอาจเป็นเพราะต้องเจอสถานการณ์ที่บีบคั้นและกดดันหลายต่อหลายครั้ง แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ควรดราม่าแบบง่ายราวกับดูละครที่ไม่มีชั้นเชิง เรื่องราวในหนังไม่ชวนสนุกน่าติดตามสักเท่าใดเพราะรู้สึกว่าจะเดาได้โดยง่าย ไม่ทราบซึ้งแบบที่ตัวละครรู้สึก แต่กลับรู้สึกเบื่อหน่ายในหลายครั้งที่หนังพยายามจงใจให้คนดูซาบซึ้ง โดยเฉพาะการเล่นภาพแบบ Close up เข้าไปใกล้ๆหน้าตาของตัวละครเพื่อให้เห็นสีหน้า แววตา น้ำตา ผิวหนัง แล้วก็ใส่แสงจ้า เบลอบ้าง ชัดบ้าง ให้อารมณ์ฟรุ้งฟริ้ง คือ สงสัยว่าถ้าการทำอย่างนี้แล้วจะทำให้คนดูซาบซึ้งไปกับตัวละคร คงไม่ใช่แน่ๆ กลับจะทำให้คนดูเสียอารมณ์ด้วยซ้ำที่ไปเล่นภาพใกล้ๆแบบนี้ แทนที่จะได้เห็นตัวละครเต็มหน้าเต็มตาชัดเจน หรือ ตั้งใจเล่นภาพแบบนี้ โดยส่วนตัวก็ว่าแปลกดีแต่ไม่แน่ใจว่าจะบอกว่าชอบได้หรือไม่เพราะรู้สึกว่ามันขาดๆเกินๆ
ในขณะที่ตัวละครเจ้าชาย Rainier III ซึ่งรับบทโดย Tim Roth ไม่มีบทบาทอะไรมากนัก แต่มาดและบุคลิกจัดว่าใช้ได้เลย แล้วก็ขอพูดถึงนักแสดงที่มารับบท Alfred Hitchcock สักเล็กน้อยว่าทำได้ค่อนข้างเหมือนมาก
การที่หนังหยิบเอาประเด็นการเมืองมาเล่นกับตัวละครจนเรียกว่าน่าจะเป็นส่วนสำคัญที่สุดของหนังแทนเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครไปแล้ว ทำให้เรื่องราวดูทะเยอทะยานเล็กน้อย และเรื่องราวก็ค่อนข้างเข้าสูตรเสียเหลือเกิน อะไรๆก็ง่ายดายไปเสียหมด ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครที่น่าจะถูกพูดถึงมากกว่านี้และเล่นประเด็นนี้ได้เป็นอย่างมาก กลับกลายเป็นว่าไม่มีอะไรในกอไผ่
แม้จะดีกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย แต่ไม่ประทับใจเอาเสียเลย ดูเอางานโปรดักชั่นและเครื่องแต่งกายก็แล้วกัน เพราะนี่คือส่วนที่หนังทำได้ดีที่สุดแล้ว
#GraceofMonaco #NicoleKidman
เพจหนังของกระผม
https://www.facebook.com/watchnwrite
Grace of Monaco เทพนิยายที่เกินจริง
Grace of Monaco
เทพนิยายที่เกินจริง
เรื่องราวดุจเทพนิยายของเจ้าหญิง Grace ถูกนำมาทำให้เป็นหนังเชิดชูวีรสตรีหรืออย่างไร ตอบ!
ถึงแม้จะมีกระแสไม่ชอบในตัวหนังเรื่องนี้เพียงใด แต่หลังจากที่ผมได้ดูหนังเรื่องนี้จบ กลับรู้สึกว่าหนังไม่ได้แย่มากมายนักดังที่ได้ทราบมาจากหลายคนที่ดูมาแล้ว ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากความชอบในเรื่องราวที่เกี่ยวกับ Monaco ประวัติศาสตร์ และ ความสวยงามของเครื่องแต่งกาย ฉาก งานโปรดักชั่นต่างๆของหนัง
หนังหยิบเอาเรื่องราวความขัดแย้งของตัวละครสามีภรรยา คือ เจ้าชาย Rainier III แห่ง Monaco กับ เจ้าหญิง Grace อดีตดาราสาวชื่อดังจากฮอลลีวูด มาเชื่อมโยงกับเรื่องทางการเมืองที่ในขณะนั้นฝรั่งเศสและโมนาโกมีปัญหากันเรื่องการจัดเก็บภาษี ซึ่งจะส่งผลร้ายแรงถึงขั้นที่ฝรั่งเศสอาจจะนำกำลังทางทหารบุกโมนาโกได้หากไม่มีทางหากที่สามารถตกลงกันได้
แทบทั้งเรื่องของหนังถูกขับเคลื่อนไปด้วยการแสดงของ Nicole Kidman ในบทของเจ้าหญิง Grace ที่ค่อนข้างจะเจ้าน้ำตาในทุกสถานการณ์ นั่นอาจเป็นเพราะต้องเจอสถานการณ์ที่บีบคั้นและกดดันหลายต่อหลายครั้ง แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ควรดราม่าแบบง่ายราวกับดูละครที่ไม่มีชั้นเชิง เรื่องราวในหนังไม่ชวนสนุกน่าติดตามสักเท่าใดเพราะรู้สึกว่าจะเดาได้โดยง่าย ไม่ทราบซึ้งแบบที่ตัวละครรู้สึก แต่กลับรู้สึกเบื่อหน่ายในหลายครั้งที่หนังพยายามจงใจให้คนดูซาบซึ้ง โดยเฉพาะการเล่นภาพแบบ Close up เข้าไปใกล้ๆหน้าตาของตัวละครเพื่อให้เห็นสีหน้า แววตา น้ำตา ผิวหนัง แล้วก็ใส่แสงจ้า เบลอบ้าง ชัดบ้าง ให้อารมณ์ฟรุ้งฟริ้ง คือ สงสัยว่าถ้าการทำอย่างนี้แล้วจะทำให้คนดูซาบซึ้งไปกับตัวละคร คงไม่ใช่แน่ๆ กลับจะทำให้คนดูเสียอารมณ์ด้วยซ้ำที่ไปเล่นภาพใกล้ๆแบบนี้ แทนที่จะได้เห็นตัวละครเต็มหน้าเต็มตาชัดเจน หรือ ตั้งใจเล่นภาพแบบนี้ โดยส่วนตัวก็ว่าแปลกดีแต่ไม่แน่ใจว่าจะบอกว่าชอบได้หรือไม่เพราะรู้สึกว่ามันขาดๆเกินๆ
ในขณะที่ตัวละครเจ้าชาย Rainier III ซึ่งรับบทโดย Tim Roth ไม่มีบทบาทอะไรมากนัก แต่มาดและบุคลิกจัดว่าใช้ได้เลย แล้วก็ขอพูดถึงนักแสดงที่มารับบท Alfred Hitchcock สักเล็กน้อยว่าทำได้ค่อนข้างเหมือนมาก
การที่หนังหยิบเอาประเด็นการเมืองมาเล่นกับตัวละครจนเรียกว่าน่าจะเป็นส่วนสำคัญที่สุดของหนังแทนเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครไปแล้ว ทำให้เรื่องราวดูทะเยอทะยานเล็กน้อย และเรื่องราวก็ค่อนข้างเข้าสูตรเสียเหลือเกิน อะไรๆก็ง่ายดายไปเสียหมด ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครที่น่าจะถูกพูดถึงมากกว่านี้และเล่นประเด็นนี้ได้เป็นอย่างมาก กลับกลายเป็นว่าไม่มีอะไรในกอไผ่
แม้จะดีกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย แต่ไม่ประทับใจเอาเสียเลย ดูเอางานโปรดักชั่นและเครื่องแต่งกายก็แล้วกัน เพราะนี่คือส่วนที่หนังทำได้ดีที่สุดแล้ว
#GraceofMonaco #NicoleKidman
เพจหนังของกระผม
https://www.facebook.com/watchnwrite