สุดยอดทีมม้ามืดแห่งบอลโลก ท่านว่าทีมไหนเจ๋งสุดและชอบทีมไหนมากกว่ากันครับ
บัลแกเรีย 1994
นำโดย ฮริสโต้ สตอยซ์คอฟ โคตรกองหน้าดรีมทีมยุค 90 ของบาร์ซ่าเจ้าของบัลลงดอร์ปี 94 และ คราสซิเมียร์ บาลาคอฟ เพลย์เมกเกอร์ ระดับตำนานของสตุ๊ตการ์ท
บัลแกเรียชุดนี้สร้างประวัติศาสตร์โดยการคว้าอันดับสี่ในทัวร์นาเม้นต์บอลโลก 94 และสร้างตำนานด้วยการโค่นเยอรมันแชมป์เก่ามาได้อย่างเหลือเชื่อในรอบก่อนรองชนะเลิศ
ตุรกี 2002
นำโดย ฮาคาน ซูเคอร์ กองหน้าร่างโย่ง ผู้สร้างสถิติโลกตะลึงเอาไว้ในทัวร์นาเม้นต์บอลโลก เขาคือเจ้าของสถิติผู้ที่ทำประตูได้เร็วที่สุดในเวิลด์คัพตลอดกาล และ ฮาซาน ซาส ปีกจอมพลิ้วที่โชว์ลีลาได้อย่างน่าตื่นเต้น
ตุรกี คว้าอันดับสามด้วยการโค่นเจ้าภาพ เกาหลีใต้ ได้อย่างสะใจแฟนบอลทั่วโลก ด้วยเหตุผลที่รู้ๆกันอยู่
อรุกวัย 2010
นำโดย ดีเอโก้ ฟอร์ลัน กองหน้าจอมทล่มตาข่ายเจ้าของรางวัลดาวซัลโวยุโรปสองสมัย และ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าเทพเจ้าผู้ที่ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณใดๆ
อรุกวัยสามารถคว้าอันดับสี่เช่นเดียวกับบัลแกเรียชุด 94 แมตย์ที่น่าจดจำคงหนีไม้พ้น ลีลาการเซฟลูกบอลของ เทพหลุยส์ ในเกมส์ที่เจอกับกาน่าในรอบก่อนรองชนะเลิศ และนั่นคือการตัดสินใจที่คุ้มค่าที่สุดของ ซัวเรซ และทีมชาติอรุกวัยเลยทีเดียว
บัลแกเรีย 1994 ตุรกี 2002 อรุกวัย 2010 ทีมไหนเจ๋งสุด
บัลแกเรีย 1994
นำโดย ฮริสโต้ สตอยซ์คอฟ โคตรกองหน้าดรีมทีมยุค 90 ของบาร์ซ่าเจ้าของบัลลงดอร์ปี 94 และ คราสซิเมียร์ บาลาคอฟ เพลย์เมกเกอร์ ระดับตำนานของสตุ๊ตการ์ท
บัลแกเรียชุดนี้สร้างประวัติศาสตร์โดยการคว้าอันดับสี่ในทัวร์นาเม้นต์บอลโลก 94 และสร้างตำนานด้วยการโค่นเยอรมันแชมป์เก่ามาได้อย่างเหลือเชื่อในรอบก่อนรองชนะเลิศ
ตุรกี 2002
นำโดย ฮาคาน ซูเคอร์ กองหน้าร่างโย่ง ผู้สร้างสถิติโลกตะลึงเอาไว้ในทัวร์นาเม้นต์บอลโลก เขาคือเจ้าของสถิติผู้ที่ทำประตูได้เร็วที่สุดในเวิลด์คัพตลอดกาล และ ฮาซาน ซาส ปีกจอมพลิ้วที่โชว์ลีลาได้อย่างน่าตื่นเต้น
ตุรกี คว้าอันดับสามด้วยการโค่นเจ้าภาพ เกาหลีใต้ ได้อย่างสะใจแฟนบอลทั่วโลก ด้วยเหตุผลที่รู้ๆกันอยู่
อรุกวัย 2010
นำโดย ดีเอโก้ ฟอร์ลัน กองหน้าจอมทล่มตาข่ายเจ้าของรางวัลดาวซัลโวยุโรปสองสมัย และ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าเทพเจ้าผู้ที่ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณใดๆ
อรุกวัยสามารถคว้าอันดับสี่เช่นเดียวกับบัลแกเรียชุด 94 แมตย์ที่น่าจดจำคงหนีไม้พ้น ลีลาการเซฟลูกบอลของ เทพหลุยส์ ในเกมส์ที่เจอกับกาน่าในรอบก่อนรองชนะเลิศ และนั่นคือการตัดสินใจที่คุ้มค่าที่สุดของ ซัวเรซ และทีมชาติอรุกวัยเลยทีเดียว