สวัสดีครับ อันนี้กระทู้แรก เนื่องจากเพิ่งไปเกาหลีใต้ เล่าแต่ละที่น้ำลายแห้งแสบคอ เลยเอาที่สบายพิมพ์แล้วกัน ( กดข้าม>>> )

จากวิทยาลัยที่ผมเรียนอยู่ มีโครงการคัดเลือกนักศึกษาที่ได้เกรดเฉลี่ยสุงสุดของแต่ละสาขาไป
อิอิ แอบไทร์อินวิทยาลัยนิดนึง >>> facebook.com/aca.cosci
เพื่อนผมที่ได้อันดับ 1 มันไป work&travel ที่เมืองฝรั่งหิวน้ำมัน มันเลยสละให้ผมไปแทน กราบขอบพระคุณอีกครั้ง ซาบซึ้งมาก

***เอาจริงๆมันคือ บันทึกการเดินทาง แต่ไม่รู้จักแท็ก /กรรม
อยากเสียตังค์ไปเมียงดง อยากเสียคน..ไปกับ สมม้าค ทร้าเว่ล~~` โจ้ะๆ
เพลงประกอบ..

------------------------------------------------------------------------------------------
( >>>ถึงสาระแล้ว )
ctrl+f อำนวยการอ่าน [พาท 1] [พาท 2] [พาท 3] [พาท 4] [พาท5 ] [พาท6]
[คืนที่ 3 ที่หายไป เป็นพาทเสริม]

-ทริปปลายเดือนเมษายน 2014 หนีนรกร้อนทะลุองศาเดือดจากไทย ไปฟินกับอากาศเย็นฉ่ำฝน ที่เกาหลีใต้
[คืนวันที่ 0]
-สุวรรณภูมิตอนเย็นย่ำอากาศโปร่ง บรรยากาศดีมากๆ
-ถึงว่าทอม แฮงก์มีความสุขจัง เวลาติดอยู่ในสนามบิน(The Terminal)
-เข้ามาในเกทมีซุ้มอาบแดดด้วย
-ผลไม้อบแห้งชิมฟรีหน้าร้านใน King 's power รสชาติเข็ดฟันโคตรๆ (จดอาการไว้ เพื่อไปอธิบายให้หมอฟังภายหลัง)
-ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก รู้สึกขี้หูเต้นระบำ
-ไม่กล้าถามปัญหาเรื่องหู คนอื่นว่าเป็นไง...เขิน (จดอาการไว้ เพื่อไปอธิบายให้หมอฟังภายหลัง)
-เครื่องออกกลางดึก ไม่ได้หมายความว่าคืนนี้จะได้นอน
-Tetris เป็นเกมที่สนุก นั่งเล่นตั้งแต่สัญญาณให้ใส่เข็มขัดดัง จนถึงสัญญาณให้ปลดเข็ดขัด

[เช้าวันที่ 1]
-ถึงสนามบิน Inchoen ตอนเช้าตรู่ อากาศเย็นมากมีหมอกลง
-หูก็ปรกติดีนะ ฟันก็ปรกติดี..

-นั่นไงสายการบิน คาที่แปซิฟิก

-ต.ม.ที่นี่เข้มงวด แต่มาทัวร์ก็สบายหน่อย (หน่อยนึง)
-ที่นี่โล่งและกว้างมาก ราวกับว่าจะไม่มีวันออกไปจากที่นี่ได้
-ลุงเจ้าหน้าที่ ดุมาก แต่เพื่อความสงบเรียบร้อย
-ไม่ทันสังเหตป้ายห้ามถ่าย โดนลุงเจ้าหน้าที่บรรทัดบน ตะโกนผ่าน3แถวมาที่ผม หน้าหันไปเจอป้ายทันที เจื่อน...

-รับกระเป๋าคืน กระเป่าผมแปะเทปทำสัญลักษณ์ไว้ด้วย กางเขนเลย เขินจัง
-กับร่างกาย ผมทำได้เพียงแปรงฟัน ตอนนี้ขนตามส่วนต่างๆเริ่มพันกัน อย่างยุ่งหยิม
-กระเป๋าผมใหญ่สุดในทริป และเอาของมาน้อยสุด ประเด็นคือ ต้องโดนฝากของซินะ

-เมื่ออกมาแล้ว เด็กGEN ME,GEN Z ติดsocial แนะนำหาไข่สั่น(Wibro egg)มาพกติดตัวไว้ แก้เหงาได้

-Pocket wi-fi มีหลายค่าย หลายราคา ค่ามัดจำหนักหน่อย แต่ค่าเช่าเฉลี่ยวันละร้อยกว่าบาทไทยเอ๊ง
-ผมดูดwi-fi จากคนที่เช่ามาอีกที ตอนอยู่บนรถ
-ไม่ต้องห่วง ตามห้าง ร้านค้า หรือข้างถนนของกรุงSeoul เต็มไปด้วย wi-fi ฟรี

-ออกจากสนามบินมา ร่าเริง
-พบคนเกาหลีบนแผ่นดินคนแรก เดินตัวเตี้ยๆมาแต่ไกล ไกด์ของเรานี่เอง

-ไกด์ฮง ผู้นำตี้ชาวไทย 40สิบกว่าคนเศษ (นับตัวผมเป็นเศษคน ฮ่าๆ) ตะลุยแมพโซลและซูวอน เก็บค่าexpอย่างประทับใจ

-ไกด์ฮง เป็นชาวเกาหลี (พุ่นไทยล่ายหนีโหน่ย)
-ไกด์ฮง เป็นคนตลก แกเล่าว่าเคยไปเปิดร้านอาหารเกาหลีที่สุขุมวิท แล้วตับพังเพราะกินเหล้ากับแขกทั้งวัน
-ไกด์ฮง เอนเตอร์เทนผู้โดยสารเก่ง มีเรื่องเล่าเยอะ ตั้งแต่ทำให้ผู้โดยสารฮาจนน้ำลายหก ไปจนถึง ทำให้ลิงหลับได้

-ขึ้นรถแล้ว ก็เลือกที่นั่งที่จะอยู่กับก้นเราไปอีกครึ่งทริป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นั่งๆนอนๆถึงที่หมายก็ลงเดินๆแล้วขึ้นมานอนต่อ เป็นทัวร์สไตล์

-ออกจากสนามบินInchoen ไปสู่ที่หมายแรก เกาะนามิ (ว้าวๆ ต้องนั่งเรื่องแมร์รี่ข้ามไปแน่ๆ)

-Inchoen อ่านตามปากผมนะ อินน์-โชช์-อึนล์
-ถนนที่นี่ เรียบเนียนดุจผิวหน้าสาวเกาหลี
-สาวที่นี่สวยมาก ตั้งแต่บนบิลบอร์ดไปจนพนักงานสาวเก็บค่าทางด่วน ยังทำผมเคลิ้ม
-มีเลนจักรยานชัดเจน ทางไกล สามารถปั่นข้ามเมืองได้สบายตุ้ม
-พบกลุ่มคนท้องถิ่นในชุดกีฬา ออกปั่นจักรยาน ตั้งแต่ชาวตรู่

-ระหว่างทาง ไกด์ฮงบรรยายประวัติคร่าวๆของเกาหลี และผู้โดยสารก็ค่อยๆหลับอย่างสงบ


-บรรยากาศร้านรวงริมทาง ยามเช้า


-เมืองตอนเช้า มีหมอก มืดครึ้ม Silent Hill ..ผู้คนหายไปไหนกันหมดนะ


-กินอาหารมื้อแรกของเกาหลี เปิดด้วยข้าวผัดแสนอร่อย

-ความสุขอยู่ที่ การแสร้งทำเป็นผัดข้าวได้อย่างชำนาญ โดยทำเป็นฟันตะหลิวโฉ้งเฉ้งอย่างสนุกมือ

-ท่าเรือข้ามฟาก ไปสู่เกาะนามิ เต็มไปด้วยทัวร์จีนโฉ้งเฉ้ง


-ถึงแล้วNaminara Island!

-เหล่าพีเพิ้ลหลากหลายสัญชาติต่างก็พักเหนื่อย จากการเดินเที่ยวเกาะจนเสร็จ
-หนุ่มเกาหลีคนนั้น ลูบหัวกล่าวว่า "ฮ้อนคั่กๆ"

-ที่ป้ายชื่อเกาะ ตรงท่าเรือลงมาเจอเลย ถ่ายซะเดี๋ยวมาไม่ถึง (แต่ผมไม่ได้ถ่ายเพราะมัวแต่ยืนมองบรรทัดล่าง)
-พบแก็งสาวซ่าเกาหลี โพสท์ท่าถ่ายรูปกันอย่างกับเกิร์ลกรุ๊ป
-แดดที่ว่าสว่างแล้ว ผิวพวกนางสว่างกว่าหลายพันลูเมน
-เซ๊กซี่มากๆอวบอั๋นกำลังขบเผาะ ..เดี๋ยวๆๆ

-บนเกาะมีบริการให้เช่าจักรยาน ใครจะขี่ไอ้ที่มัน2ล้อยืนตรง ดุนๆ ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าได้ ก็มีให้ลอง


-พบ 3 มนุษย์หิมะตัวกลม กำลังถูกเก็บรูป


-ผู้หญิงคนนี้กำลังอุดบ่อ ฝังซาดาโกะด้วยโมจิจำนวนมาก


-ตำนานเล่าว่า มีคนเคยทิ้งไม้จิ้มฟันไว้ตรงนี้ ด้วยความที่เกาะนามิอุดมสมบูรณ์มาก วันเวลาผ่านไปมันจึงเติบใหญ่คารู


-ฝั่งตรงข้ามคือ ฟูล เฮ้าส์ เพราะถูกนักท่องเที่ยวจองเต็มหมดแล้ว.......


-นั่นคือสถานที่ ซึ่งชาวบ้านจะมารวมตัวกัน ทำพิธีกรรมอะไรบางอย่าง


-วันหยุด ชาวเกาหลีมักพาครอบครัวมาพักผ่อน ที่เสมือนเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ บนเกาะที่ตัดขัดขาดจากความวุ่นวาย ใกล้กรุงโซลเพียงงึดเดียว

-ผมเดินหลงซักพัก และกลับสู่เส้นทางได้ ด้วยการเดินตามความเข้มของสัญญาณwi-fi เครื่องใครซักคนในทัวร์ กรั่กๆๆ

-เกาะนามิ อากาศดีมากๆ เสียดายมาช้าอีกหน่อยก็เข้าช่วงใบไม้เปลี่ยนสีพอดี


-สูดอากาศที่นี่ จนฉ่ำปอดฟอดฟริ้งแล้ว ก็เดินทางไปกับตัวเหนียวๆกันต่อ..


(>>>ต่อ)

-เข้าสู่กรุงโซล เดินทางสู่ความศิวิไล

-Seuol อ่านตามปากผมนะ โซล์-อูว์

-ว่ากันว่า ระหว่างรถลอดอุโมงค์ ให้กลั้นหายใจจนกว่าจะสุดทาง และอธิษฐาน จะสมดังปรารถนา

-แต่อุโมงค์นี้ยาวโคตร คงได้จบชีวิต ก่อนอธิษญานจบ

[บ่ายวันที่ 1]

-ระหว่างทางพบกับ Blue House บ้านพักของประธานาธิบดีเกาหลีใต้
-เรน ไม่ได้อยู่ที่นี่นะ นั่น Full House
-และอนุสาวรีย์นกฟีนิกซ์ Phoenix Statue
-นึกภาพไม่ออก ให้นึกถึงนกอีก๋อย แต่หัวเล็กๆ
-ทั้ง 2 สถานที่ ผมไม่มีรูปถ่ายเลย เพราะเขาห้ามถ่าย!!
-เดี๋ยวภาพจะออกมาเบลอ เพราะรถขับเร็ว...

-ถึงที่หมายต่อไป Gyeongbokgung Palace!
-มีรถขายเครป กลิ่นหอมมาก ท้องก็ร้องเป็นภาษาเกาหลี หิว จุง ลุย
-แต่ด้วยความเขินค่าเงิน ตั้งแต่เหยียบแผ่นดินเกาหลี ยังไม่เคยใช้เงินวอน
-เลยทำใจแข็งเดินปาดน้ำลายเข้าวังไป ดุจนางสนมเมินทหารองครักษ์ /หยิ่งๆ

-ความยิ่งใหญ่ของ พระราชวังคยอกบกคุ / เกียงบก / คยองบก / คะแยงคก ก็เหอะ
-เพียงมองจากด้านนอก คอกกำแพง ยังสัมผัสได้ถึงความมหึมา และสิ่งที่จะได้พบในประตูถัดไปคือ...!!


-พิพิธภัณฑ์เด็ก และชาวพื้นบ้าน (มีพื้นบ้านให้ดูด้วย)


-หนูอยากกลับบ้าน...

-เปลี่ยนเพลงธีมไปชั่วขณะ (แต่ช่างเข้ากับโทนภาพ)

-หมอท่านแรกกำลังคราฟท์ไอเท็ม จากไม้ 10ea / หมอท่านที่สองกำลังฮีล..ชุบทีมีใบ


-ออกมา เจอแด จัง กึม ผมนี่อึ้งไปเลย! กลิ่นอาหารลอยมา

-จริงๆคือกลิ่นทัวร์จีนโฉ้งเฉ้ง กับกลิ่นตัวที่หมักข้ามทะเลมาจากเมืองไทย
-อีกซักพักจะครบ 24 ชั่วโมงที่อาบน้ำครั้งล่าสุดแล้ว กำลังกลมกล่อมเลย
-แด จัง กึม มีแผนจะสร้างภาคต่อ [โม้]ซึ่งมีกำหนดฉายภาค 2 ตีกับ The Avenger 2[/โม้]
-แต่นางเอกไม่ยอมกลับมาเล่น ทำให้ผู้กำกับ ต้องพับโครงการไป เพราะไม่มีใครแทนเธอได้

-เดินกันฝุ่นตลบ ดั่งโรงเกลือ

-พระราชวังคยองบคกุ แห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยโชซอน
-แรกเริ่ม มีตำหนักมากกว่าสองร้อยอาคาร
-ด้วยสงครามกับจีน และอื่นๆ ทำให้ถูกเผาทำลายไปมาก
-มีระบบทำความร้อน ซึ่งมีการส่งความร้อนทางท่อใต้ดิน จากตำหนักลอดกำแพงหนึ่งสู่อีกตำหนัก
-สังเกตได้จาก ในฤดูหนาวที่หิมะตก จะมีร่องที่น้ำนอง จากหิมะละลายเพราะความร้อนของท่อใต้ดินนั่นเอง

-เลี้ยวหน้า คือพระตำหนักกลางน้ำ ซึ่งสวยสุดเลิศสุดในพระราชวังนี้แล้ว พุ่นเลย

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้-ของดี อยากให้มาเห็นด้วยตัวเอง

-ผ่านประตูใหญ่เข้ามา พบกับสถานที่สุดท้าย หันขวาแปป!


-พระที่นั่งคึงจองวอน ใหญ่มากกว้างมาก ด้วยสถาปัตยกรรมและทัวร์จีนเยอะ จนคิดว่าผมลงผิดประเทศ


-ด้านใน มีเพดานที่สูงมากๆ นั่นคือรูปมังกรล่ะ!

-ดูๆไปแล้ว คิดถึงศาลเจ้าแม่ที่บ้านเกิดเลย ฮ่าา
-ออกจากพระราชวัง จะเห็นสำนักงานใหญ่ Samsung อยู่ไกลๆ ในรูปต่อไป

-มีรูปลงไซ์มิชชั่น ภารกิจล่าเต็คแล้ว


-ล่าเต็คภาพนี้ ถ่ายติดชาวญี่ปุ่นและชาวจีนมาด้วย


-ตลาดศิลปะและวัฒนธรรมอินซา-ดง Insa-dong

-[ลายแทง] http://th.tripadvisor.com/Attraction_Review-g294197-d592506-Reviews-Insadong-Seoul.html
-ปักมาจากไทยแล้ว เสียดายรถแค่ผ่าน
-มีของกิน เดินชิลยามเย็น ชมช็อป ของกรุบกริบ

------ จบพาท 1
พาทต่อไป เป็นคืนวันแรกที่เกาหลีแล้ว โรงแรมสยอง ห้องปิด และสิ่งที่จะได้พบในทีวีดิจิตอลเกาหลี
(ผิดพลาดประการใด ขออภัยนะครับ โจ้ะๆ)