ขอออกตัวก่อนว่า นี่ไม่ใช่การนำเสนอการหาที่พักที่ถูกที่สุด แต่เป็นวิธีการหาที่พักที่สมเหตุสมผลสุดสำหรับงบประมาณของแต่ละคน โดยใช้ประสบการณ์ที่พอมีมา
ที่พักประเภทโรงแรม หรือ serviced apartment
1. เวบที่ต้องพึ่งอันดับแรกคือ tripadvisor เพื่อเข้าไปดู ความคิดเห็นและรูปจริง ของคนที่เคยไปพัก (แล้วลองใช้ตัวเลือกแบบให้จัดอันดับ จากดีสุด ไปแย่สุด ก็ได้ ... คำว่า อันดับดีสุด ไม่ได้แปลว่า เป็นโรงแรมที่แพงสุด แต่ขึ้นอยู่กับการให้คะแนน ของคนที่ไปพัก พร้อมความเห็น เช่นโรงแรมแพงสุด หรูสุด อาจอยู่ลำดับกลาง กลาง ค่อนไปทางท้ายของเมืองนั้น นั้นก็เป็นได้) ...
2. เมื่อดูเป็นที่พอใจแล้ว ลองเลือกมาสักสามสี่โรงแรมที่พอใจ แล้วเข้าไปในหน้า website ของโรงแรมนั้นโดยตรง เพราะถือว่าเป็นที่ที่ถูกที่สุด ลองดูว่าเขามีโปรโมชั่นอะไรยังไงไหม เพราะถ้าจองผ่านเวบที่เป็นตัวแทนขาย ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม การบริหารจัดการเวบ ซึ่งบางทีเวบพวกนี้ เหมือนหุ้นพอเขาดูว่าที่ไหน มีแนวโน้มสูงก็ปั่นให้ราคาสูง หูฉี่ หรือยิ่งถ้าช่วงเทศกาลไม่ต้องพูดถึง เพราะเคยประสบมากับตัว ... กล้าบอกได้เลยว่า ทุกครั้งที่เราผ่านจองหน้าเวบทางการของโรงแรม ราคาจะถูกกว่าเสมอ
3. อีกทางเรื่องหนึ่งคือ ถ้าจุดหมายปลายทาง เป็นที่ที่ฮิตมาก ให้ลองเข้าไปเชคในเวบสายการบิน แล้วลองดูราคา ที่ เป็น flight + hotel เราเคยจองในลักษณะนี้ ครั้งหนึ่ง จะบอกว่า ที่พักห้าดาวมากก พร้อมตั๋วเครื่องบิน (ที่พักในห้องน้ำ จากกุซซี่ มีทีวีจอเล็กในห้องน้ำ มีส่วนของฝักบัว กับชักโครก แยกต่างหากอีก ในห้อง มีอุปกรณ์ครัวอย่างดีครบชุด) เราได้ราคา ที่ถูกมากกก ทั้งที่เป็นช่วงธรรมดา ไม่ได้เป็นช่วง low season แต่อย่างใด ... แบบไม่เชื่อตาจนต้องโทรไปเชคกับทางสายการบินเอง ว่า ราคานี้จริงเหรอ เวบไซต์ปลอม หรือเปล่า พอจองแล้ว ก็ยังไม่เชื่อตัวเอง ลองโทรไปเชค กับโรงแรมเอง โดยใช้ confirmation number
ที่พักประเภท long-term apartment
ถ้าในหัวมีโจทย์ว่า อยากไปสบาย สบาย เหมือนตื่นขึ้นมาแล้วอยู่บ้าน ไม่อยากเจอพรม ไม่สะอาดของพื้นห้อง อยกมีเครื่องครัวครบ อยากมีเครื่องซักผ้า
ให้ลองเข้าไปในเวบ airbnb.com เวบนี้ แนวคิดคือ เหมือนการแลกบ้าน หรือ apartment กันอยู่ชั่วคราว ให้นึกถึงหนังเรื่อง the holiday ที่ cameron diaz
เล่น วิธีการเลือกของเรา มีอยู่ว่า host ที่ปล่อยให้แลกบ้านแบบนี้ มีอยู่ 3 ประเภท คือ 1. เอาสถานที่ที่ตัวเองอยู่ประจำให้คนอื่นเช่าทั้งหมด 2. เอาสถานที่ที่ตัวเองอยู่ประจำให้คนอื่นแบ่งเช่าบางส่วน 3. สถานที่ที่สร้างไว้ หรือซื้อไว้ เพื่อปล่อยเช่าในลักษณะนี้โดยเฉพาะ (ซึ่งมาตรฐาน จะคล้ายกับ serviced apartment) ซึ่งวิธีที่สามเป็นวิธีที่เราเลือก ที่นี่จะรู้ได้ยังไงว่าเป็นประเภทที่ 3 คือ ต้องดูจากรูปประกอบเป็นตัวหลัก และจากคำอธิบาย จะมีบอกว่าเป็นการแบ่งเช่าบางส่วน หรือทั้งหมดของสถานที่ (อันนี้ บางทีก็ต้องใช้วิจารณญาณของตัวเองพอสมควร) แล้วถามว่า ทำไมต้องยุ่งยาก ไม่ไปอยู่ serviced apartment เลยละ ประเด็นหลักคือ ราคาจะถูกกว่าเพราะอันนี้เป็นของส่วนตัว ไม่มีค่าบริหารจัดการแบบองค์กรใหญ่ ใหญ่ ถ้าพอใจและอยู่ในงบแล้ว วิธีการต่อไปคือ เวบนี้ต้องติดต่อ host ถ้า host ติดต่อกลับมาเร็วมาก ก่อนจองมีอะไรถาม แล้วตอบเร็วมากก อันนี้ ถือว่าเป็นตัวกรองระดับหนึ่งเลย ถ้าแน่ใจว่าอยากจะจองกับ host คนนี้ จริง จริง ก็ต้องถามวันเวลา ที่เราจะไปถึงว่า สะดวกไหม (ห้องว่าง และราคา จะปรากฎในส่วนของ calendar อยู่แล้ว) ถ้า host
โอเค เราส่ง request ไป host ก็จะรับเรา (คือ ง่าย ง่าย คือ ต้องพอใจทั้งสองฝ่ายก่อน คือ ต้องตกลงว่าโอเค ก่อนจองก่อน ถึงทำการจองออนไลน์ เพราะ host มีสิทธิ์ปฏิเสธ เราเหมือนกัน) ในรายละเอียดของแต่ละสถานที่ host ก็จะเขียนแนะนำประวัติตัวเอง พร้อมรูปไว้คร่าว คร่าว แต่ทั้งสองฝ่าย การที่จะทำการจองได้ ต้องมีการ upload passport ไว้ที่ส่วนกลางของเวบ ส่วนการจ่ายเงิน เมื่อจองแล้ว เวบจะทำการตัดเงินออกจากบัตรเคดดิตทันที ด้วยเวลาอันรวดเร็ว แต่... ตัวเงินนี้ จะไม่ถูกโอนให้ host จนกว่า เราจะไปถึงที่พัก แล้วอยู่ไปแล้วสองวัน เวบจึงจะทำการตัดระบบเงินให้ host (ต้องแน่ใจว่า ไม่มีการร้องเรียน และ host ไม่เบี้ยวลูกค้า)
[CR] แบ่งปัน...ประสบการณ์การเลือกที่พักในต่างแดน...
ที่พักประเภทโรงแรม หรือ serviced apartment
1. เวบที่ต้องพึ่งอันดับแรกคือ tripadvisor เพื่อเข้าไปดู ความคิดเห็นและรูปจริง ของคนที่เคยไปพัก (แล้วลองใช้ตัวเลือกแบบให้จัดอันดับ จากดีสุด ไปแย่สุด ก็ได้ ... คำว่า อันดับดีสุด ไม่ได้แปลว่า เป็นโรงแรมที่แพงสุด แต่ขึ้นอยู่กับการให้คะแนน ของคนที่ไปพัก พร้อมความเห็น เช่นโรงแรมแพงสุด หรูสุด อาจอยู่ลำดับกลาง กลาง ค่อนไปทางท้ายของเมืองนั้น นั้นก็เป็นได้) ...
2. เมื่อดูเป็นที่พอใจแล้ว ลองเลือกมาสักสามสี่โรงแรมที่พอใจ แล้วเข้าไปในหน้า website ของโรงแรมนั้นโดยตรง เพราะถือว่าเป็นที่ที่ถูกที่สุด ลองดูว่าเขามีโปรโมชั่นอะไรยังไงไหม เพราะถ้าจองผ่านเวบที่เป็นตัวแทนขาย ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม การบริหารจัดการเวบ ซึ่งบางทีเวบพวกนี้ เหมือนหุ้นพอเขาดูว่าที่ไหน มีแนวโน้มสูงก็ปั่นให้ราคาสูง หูฉี่ หรือยิ่งถ้าช่วงเทศกาลไม่ต้องพูดถึง เพราะเคยประสบมากับตัว ... กล้าบอกได้เลยว่า ทุกครั้งที่เราผ่านจองหน้าเวบทางการของโรงแรม ราคาจะถูกกว่าเสมอ
3. อีกทางเรื่องหนึ่งคือ ถ้าจุดหมายปลายทาง เป็นที่ที่ฮิตมาก ให้ลองเข้าไปเชคในเวบสายการบิน แล้วลองดูราคา ที่ เป็น flight + hotel เราเคยจองในลักษณะนี้ ครั้งหนึ่ง จะบอกว่า ที่พักห้าดาวมากก พร้อมตั๋วเครื่องบิน (ที่พักในห้องน้ำ จากกุซซี่ มีทีวีจอเล็กในห้องน้ำ มีส่วนของฝักบัว กับชักโครก แยกต่างหากอีก ในห้อง มีอุปกรณ์ครัวอย่างดีครบชุด) เราได้ราคา ที่ถูกมากกก ทั้งที่เป็นช่วงธรรมดา ไม่ได้เป็นช่วง low season แต่อย่างใด ... แบบไม่เชื่อตาจนต้องโทรไปเชคกับทางสายการบินเอง ว่า ราคานี้จริงเหรอ เวบไซต์ปลอม หรือเปล่า พอจองแล้ว ก็ยังไม่เชื่อตัวเอง ลองโทรไปเชค กับโรงแรมเอง โดยใช้ confirmation number
ที่พักประเภท long-term apartment
ถ้าในหัวมีโจทย์ว่า อยากไปสบาย สบาย เหมือนตื่นขึ้นมาแล้วอยู่บ้าน ไม่อยากเจอพรม ไม่สะอาดของพื้นห้อง อยกมีเครื่องครัวครบ อยากมีเครื่องซักผ้า
ให้ลองเข้าไปในเวบ airbnb.com เวบนี้ แนวคิดคือ เหมือนการแลกบ้าน หรือ apartment กันอยู่ชั่วคราว ให้นึกถึงหนังเรื่อง the holiday ที่ cameron diaz
เล่น วิธีการเลือกของเรา มีอยู่ว่า host ที่ปล่อยให้แลกบ้านแบบนี้ มีอยู่ 3 ประเภท คือ 1. เอาสถานที่ที่ตัวเองอยู่ประจำให้คนอื่นเช่าทั้งหมด 2. เอาสถานที่ที่ตัวเองอยู่ประจำให้คนอื่นแบ่งเช่าบางส่วน 3. สถานที่ที่สร้างไว้ หรือซื้อไว้ เพื่อปล่อยเช่าในลักษณะนี้โดยเฉพาะ (ซึ่งมาตรฐาน จะคล้ายกับ serviced apartment) ซึ่งวิธีที่สามเป็นวิธีที่เราเลือก ที่นี่จะรู้ได้ยังไงว่าเป็นประเภทที่ 3 คือ ต้องดูจากรูปประกอบเป็นตัวหลัก และจากคำอธิบาย จะมีบอกว่าเป็นการแบ่งเช่าบางส่วน หรือทั้งหมดของสถานที่ (อันนี้ บางทีก็ต้องใช้วิจารณญาณของตัวเองพอสมควร) แล้วถามว่า ทำไมต้องยุ่งยาก ไม่ไปอยู่ serviced apartment เลยละ ประเด็นหลักคือ ราคาจะถูกกว่าเพราะอันนี้เป็นของส่วนตัว ไม่มีค่าบริหารจัดการแบบองค์กรใหญ่ ใหญ่ ถ้าพอใจและอยู่ในงบแล้ว วิธีการต่อไปคือ เวบนี้ต้องติดต่อ host ถ้า host ติดต่อกลับมาเร็วมาก ก่อนจองมีอะไรถาม แล้วตอบเร็วมากก อันนี้ ถือว่าเป็นตัวกรองระดับหนึ่งเลย ถ้าแน่ใจว่าอยากจะจองกับ host คนนี้ จริง จริง ก็ต้องถามวันเวลา ที่เราจะไปถึงว่า สะดวกไหม (ห้องว่าง และราคา จะปรากฎในส่วนของ calendar อยู่แล้ว) ถ้า host
โอเค เราส่ง request ไป host ก็จะรับเรา (คือ ง่าย ง่าย คือ ต้องพอใจทั้งสองฝ่ายก่อน คือ ต้องตกลงว่าโอเค ก่อนจองก่อน ถึงทำการจองออนไลน์ เพราะ host มีสิทธิ์ปฏิเสธ เราเหมือนกัน) ในรายละเอียดของแต่ละสถานที่ host ก็จะเขียนแนะนำประวัติตัวเอง พร้อมรูปไว้คร่าว คร่าว แต่ทั้งสองฝ่าย การที่จะทำการจองได้ ต้องมีการ upload passport ไว้ที่ส่วนกลางของเวบ ส่วนการจ่ายเงิน เมื่อจองแล้ว เวบจะทำการตัดเงินออกจากบัตรเคดดิตทันที ด้วยเวลาอันรวดเร็ว แต่... ตัวเงินนี้ จะไม่ถูกโอนให้ host จนกว่า เราจะไปถึงที่พัก แล้วอยู่ไปแล้วสองวัน เวบจึงจะทำการตัดระบบเงินให้ host (ต้องแน่ใจว่า ไม่มีการร้องเรียน และ host ไม่เบี้ยวลูกค้า)