คสช. ตั้งศูนย์เตรียมพร้อมไทยเข้าสู่ AEC

กระทู้ข่าว


คสช.ตั้งศูนย์เตรียมพร้อมไทยเข้าสู่AEC
คสช.ตั้งศูนย์อำนวยการเตรียมพร้อมไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียน มอบรองหัวหน้าคสช.ฝ่ายความมั่นคงดูแล



                      23 มิ.ย.57 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งฉบับที่ 71/2557 เรื่อง ตั้งศูนย์อำนวยการเตรียมความพร้อมประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (AEC) และแต่งตั้งคณะกรรมการศูนย์อำนวยการเตรียมความพร้อมประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยมีรองหัวหน้า คสช.และหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานกรรมการ และตัวแทนหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ มีอำนาจหน้าที่บริหารงานศูนย์อำนวยการเตรียมความพร้อมฯ กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ และท่าทีของไทยในการเข้าร่วมกรอบความร่วมมืออาเซียน พร้อมพิจารณา แก้ไข ปรับปรุงกฎหมาย และตั้งคณะอนุกรรมการต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในกรณีดังกล่าว โดยรายงานผลการปฏิบัติให้หัวหน้า คสช.ทราบอย่างต่อเนื่อง


คำสั่ง คสช. ฉบับที่ 72 ตั้งคกก.นโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ

                      คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งฉบับที่ 72 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการ นโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อส่งเสริมการค้า และการลงทุนของประเทศ ตามนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยใช้ประโยชน์จากความเชื่อมโยงด้านคมนาคมขนส่งของภูมิภาคอาเซียน และข้อตกลงการค้าเสรีภายใต้กรอบอาเซียน จึงแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ หรือ กนพ. โดยมีหัวหน้าคณะรักษา

                      ความสงบแห่งชาติ หรือ รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติมอบหมายเป็นประธาน ส่วน กรรมการ ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงต่าง ๆ อาทิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม และ เลขาธิการ - รองเลขาฯ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งสิ้น 20 คน ร่วมเป็นกรรมการ

                      มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาให้ความเห็นชอบ เสนอร่างหลักเกณฑ์และวิธีการสนับสนุนการจัดตั้ง และดำเนินการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ตลอดจนร่างแผนแม่บท แผนงาน หรือโครงการ และแผนปฏิบัติการต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อพิจารณาอนุมัติ กำหนดแนวทางให้หน่วยงานถือปฏิบัติ เพื่อให้การพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ รวมทั้งการส่งเสริมการค้าเสรี ภายใต้กรอบอาเซียน หรือข้อตกลงภายใต้กรอบเศรษฐกิจอื่น หรือการค้าบริเวณพรมแดนประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านเป็นไปโดยเหมาะสม และมีประสิทธิภาพ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานได้ตามความเหมาะสม ออกระเบียบประกาศ และคำสั่ง เพื่อปฏิบัติการตามคำสั่งนี้



"มจร"จำลองเรือสันติภาพโชว์มหกรรมอาเซียน

                     พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส ผู้อำนายการสถาบันภาษา หัวหน้าหลักสูตรปริญญาโท สาขาวิชาสันติศึกษา มจร เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 27-28 มิถุนายนนี้ สถาบันภาษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) จัดงานมหกรรมภาษา ศาสนา และวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ 1  ณ หอประชุมใหญ่ มจร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่เวลา 08.30น.เป็นต้นไป

                     พระมหาหรรษา กล่าวต่อว่า วันที่ 27  มิถุนายน จะมีพิธีเปิดงานและเปิดตัวนิทรรศการอาเซียน โดยพระพรหมบัณฑิต อธิการบดี มจร  ซึ่งเป็นการสะท้อนประเด็น "เอกภาพในความแตกต่าง" (Unity in Diversity) ภายใต้แนวคิดในการจัดนิทรรศการที่ว่า "คาบสมุทรแห่งวัฒนธรรมแหลมทอง" (The Sea of Golden cultures) ทั้งนี้ ตัวนิทรรศการอาเซียนจะนำ "เรือ" มาเป็นตัวเดินเรื่องเพื่อชี้ให้เห็นความสำคัญที่ว่า เรือคือเครืองมือสำคัญในอดีตที่จะพากลุ่มคนต่างๆ ในอาเซียนเดินทางไปเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างกันและกัน และอยู่ร่วมกันท่ามกลางความแตกต่าง แต่สะท้อนวิถีชีวิตอาเซียน

                     นอกจากนี้ โครงการปริญญาโท สาขาสันติศึกษา จะนำเสนอนิทรรศการ เรื่อง "เกลียวคลื่นแห่งความสามัคคีปรองดอง" โดยแสดงให้เห็นถึงกลุ่มคนในโลกนี้ และสังคมไทยที่อาศัยอยู่ร่วมกันในทิศทั้ง 4 จะผนึกกำลังในการเสริมสร้างความสามัคคีปรองดอง เพื่อเชื่อมสมานเป็นหนึ่งเดียวประดุจเกลียวคลื่น ในขณะที่สถาบันภาษาจะนำเสนอแง่มุมที่สำคัญที่ว่า "ภาษาเปลี่ยนชีวิตคุณได้" และภาษาจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการนำพากลุ่มคนต่างๆ ในอาเซียนเรียนรู้ และเข้าใจวัฒนธรรม ความเชื่อ และประเพณีที่แตกต่าง ภาษาจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการเชื่อมสมานชาติพันธุ์ต่างๆ ให้สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข

                     การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจะนำเสนอนิทรรศการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเที่ยวเชิงพุทธในอาเซียนเพื่อชี้ให้เห็นว่าพระพุทธศาสนาสามารถพาคนเที่ยวไปในแดนธรรมได้อย่างล้ำลึก ในขณะเดียวกัน หลักสูตรเสาหลักแผ่นดินใต้ร่มพระบารมีจะนำเสนอนิทรรศการเรื่อง "จากเมล็ดข่าวเมล็ดเดียวสู่ความกลมเกลียวของอาเซียน" เพื่อชี้ให้นำให้แต่ละคนได้เห็นความสำคัญของเม็ดข้าวที่พระพุทธสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงย้ำประเด็นเศรษฐกิจพอเพียงภายใต้เศรษฐกิจฐานรากเกษตรกรรม จนก้าวไปสู่การนำรวงข้าวมาเป็นสัญลักษณ์ของประชาคมอาเซียน ในขณะที่คณะพุทธศาสนา สังคมศาสตร์ ครุศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และบัณฑิตวิทยาลัย จะนำเสนอนิทรรศการที่สะท้อนอัตลักษณ์ของแต่ละคณะเพื่อเชื่อมโยงไปสู่ประชาคมอาเซียน เพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาและแลกเปลี่ยนต่อไป


ลิงค์  http://www.komchadluek.net/detail/20140623/186986.html
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่