เพิ่งกลับจากเชียงใหม่ไฟลท์ดึก เที่ยงคืนกว่า ต้องรอขึ้นรถเที่ยวแรก ตี 4 เพื่อย้อนเอาของฝากไปให้ญาติที่ลพบุรี ก็นั่งรอที่นั่งด้านผู้โดยสารขาออกเพราะดูมีผู้คน ปลอดภัยหน่อย แอบงีบๆบ้าง เล่น LINE อ่านหนังสือไปเรื่อย พอดึกๆก็มีหนุ่ม(หล่อ)คานาดามาคุยด้วย ก็เลยตื่นมาคุยสนุกสนานประมาณ ตี 2 กว่าๆ
ระหว่างที่กำลังคุยๆกัน มีคุณลุงคนไทยลักษณะการแต่งตัวแบบว่าไม่เหมือนคนโดยสารเครื่องบินเท่าไหร่ มาขอนั่งแถวเดียวกับเรา ก็ชวนคุยว่าเรามาจากไหน แกก็กำลังจะบินกลับไปเชียงใหม่เที่ยวเช้า 6.40 นี้ เพิ่งทำรีสอร์ทเล็กๆอยู่แม่ริม ให้เราไปอีกแล้วแวะที่รีสอร์ท แกก็จดที่อยู่ เบอร์โทรให้พร้อมย้ำชวนให้ไปให้ได้
ลุงถามว่าเราทำอาชีพอะไร ก็คุยกันประมาณว่าอยากสั่งสินค้ากับเราไปวางที่เชียงใหม่ ดูแกมีความรู้เรื่องเชียงใหม่ดีมากๆเลย น่าเชื่อถือ อยู่ๆแกก็แทรกขึ้นมาแกบอก ทำกระเป๋าเงินหล่นหาย เอาใบแจ้งความมาให้เราดูแวปเดียวเราก็ไม่ได้สนใจอะไรเลย แกว่าโดนวินมอเตอร์ไซด์บ่นว่าจ้างมาแล้วไม่มีเงินจ่าย
แกสงสัยมอเตอร์ไซดนั่นแหล่ะ เอาไป ตอนนั้นเราเข้าใจว่าแกได้ซื้อตั๋วเครื่องบินไว้แล้ว กำลังรอเดินทางก็คุยไปเรื่อย จน ตี3 แกขอตัวไปเข้าห้องน้ำฝากกระเป๋าไว้ เราก็หันมาคุยกับหนุ่มคานาดาต่อ พอลุงกลับมาก็ซื้อ ฟิชเชอร์แมนเฟรนส์มา 2 ซอง ยื่นให้เรา 1 ซอง ให้เราเก็บไว้ บอกเอาให้เอาอันนี้ ( ซึ่งตรงนี้จริงๆถือว่าอันตรายมากๆ) แกยื่นซองที่แกะแล้วให้เรา กับหนุ่มคานาดา แต่เค้าปฏิเสธ แต่เรากลับเอามาอม คุณลุงก็เปิดฉากว่า " นี่พูดแล้วยังขนลุก คือตอนนี้ลุงไม่มีเงินเลย อยากจะขอยืมเงินหนู สัก 150 ไว้ติดตัวเผื่อไม่เจอเพื่อน "
เราก็อึ้งนะ ที่แกเอ่ยปากเพราะเข้าใจมาตลอดว่าแกมารอขึ้นเครื่อง ตอนนั้นเราก็งง แอนด์ ง่วงมากๆ ลืมคิดรอบด้าน ทั้งทีปกตินี่เคี่ยวมาก บอกได้ๆแล้วหยิบเงินให้เค้าไป แถมยังบอกว่าเข้าใจเวลาฉุกเฉินมันก็ต้องช่วยเหลือกันไป เราเลยให้แกไป 200 ฿ แกก็ขอเลขบัญชีเราก็เอาเครื่องลุงโทรเข้าหาเครื่องเราเพื่อจะส่งข้อความ ก็ตรงกับที่แกให้มาตอนแรกเลย
ตอนนั้นเราก็อยากจะถ่ายรูปลุงเอาไว้นะ แต่มันง่วง แล้ว เพลียมากๆ ก็เลยไม่มีกะจิตกะใจอะไรนัก สักพักลุงก็บอกให้เราไม่ไปรอรถ เราก็ว่ายังไม่ถึงเวลา ลุงแกขอไปมองหาเพื่อนที่เค้าเตอร์ CHECK IN จะให้เพื่อนซื้อตั๋วแล้วจะได้เอาเงินมาคืนเราเลย เราก็อึ้งๆ มึนๆ ปล่อยแกไปเฉยเลย สังเกตุว่าตอนนั้นตี4 เริ่มมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสนามบิน ออกมาเดินตรวจใจนึงเราก็นึกจะไปตามเรื่องแก ว่าจะเป็นไง อีกใจ ก็เหนื่อยอ่อนเบลอ
จนเราขึ้นรถกลับมาจากลพบุรี โทรหาแกเพื่อจะถามว่าตกลงเจอเพื่อนอะไรไหมก็ปิดเครื่องไปแล้ว กลับมาคิดดู ถ้าแกเป็นมิจฉาชีพ การพูดจานี่น่าเชื่อมากๆ ดีที่เราไม่หลงส่งสินค้าอะไรไปให้แกขาย ไม่งั้นจะเสียหายกว่านี้ เลยเอามาแชร์กัน บางทีการเกรงใจ กับคำพูดจาดูน่าเชื่อถือก็ทำให้เราเสียหายได้อย่าประมาท
อ้างเป็นนายกฤษณะ ไชยโรจน์ หลอกลวงที่พักผู้โดยสารสนามบินดอนเมือง
ระหว่างที่กำลังคุยๆกัน มีคุณลุงคนไทยลักษณะการแต่งตัวแบบว่าไม่เหมือนคนโดยสารเครื่องบินเท่าไหร่ มาขอนั่งแถวเดียวกับเรา ก็ชวนคุยว่าเรามาจากไหน แกก็กำลังจะบินกลับไปเชียงใหม่เที่ยวเช้า 6.40 นี้ เพิ่งทำรีสอร์ทเล็กๆอยู่แม่ริม ให้เราไปอีกแล้วแวะที่รีสอร์ท แกก็จดที่อยู่ เบอร์โทรให้พร้อมย้ำชวนให้ไปให้ได้
ลุงถามว่าเราทำอาชีพอะไร ก็คุยกันประมาณว่าอยากสั่งสินค้ากับเราไปวางที่เชียงใหม่ ดูแกมีความรู้เรื่องเชียงใหม่ดีมากๆเลย น่าเชื่อถือ อยู่ๆแกก็แทรกขึ้นมาแกบอก ทำกระเป๋าเงินหล่นหาย เอาใบแจ้งความมาให้เราดูแวปเดียวเราก็ไม่ได้สนใจอะไรเลย แกว่าโดนวินมอเตอร์ไซด์บ่นว่าจ้างมาแล้วไม่มีเงินจ่าย
แกสงสัยมอเตอร์ไซดนั่นแหล่ะ เอาไป ตอนนั้นเราเข้าใจว่าแกได้ซื้อตั๋วเครื่องบินไว้แล้ว กำลังรอเดินทางก็คุยไปเรื่อย จน ตี3 แกขอตัวไปเข้าห้องน้ำฝากกระเป๋าไว้ เราก็หันมาคุยกับหนุ่มคานาดาต่อ พอลุงกลับมาก็ซื้อ ฟิชเชอร์แมนเฟรนส์มา 2 ซอง ยื่นให้เรา 1 ซอง ให้เราเก็บไว้ บอกเอาให้เอาอันนี้ ( ซึ่งตรงนี้จริงๆถือว่าอันตรายมากๆ) แกยื่นซองที่แกะแล้วให้เรา กับหนุ่มคานาดา แต่เค้าปฏิเสธ แต่เรากลับเอามาอม คุณลุงก็เปิดฉากว่า " นี่พูดแล้วยังขนลุก คือตอนนี้ลุงไม่มีเงินเลย อยากจะขอยืมเงินหนู สัก 150 ไว้ติดตัวเผื่อไม่เจอเพื่อน "
เราก็อึ้งนะ ที่แกเอ่ยปากเพราะเข้าใจมาตลอดว่าแกมารอขึ้นเครื่อง ตอนนั้นเราก็งง แอนด์ ง่วงมากๆ ลืมคิดรอบด้าน ทั้งทีปกตินี่เคี่ยวมาก บอกได้ๆแล้วหยิบเงินให้เค้าไป แถมยังบอกว่าเข้าใจเวลาฉุกเฉินมันก็ต้องช่วยเหลือกันไป เราเลยให้แกไป 200 ฿ แกก็ขอเลขบัญชีเราก็เอาเครื่องลุงโทรเข้าหาเครื่องเราเพื่อจะส่งข้อความ ก็ตรงกับที่แกให้มาตอนแรกเลย
ตอนนั้นเราก็อยากจะถ่ายรูปลุงเอาไว้นะ แต่มันง่วง แล้ว เพลียมากๆ ก็เลยไม่มีกะจิตกะใจอะไรนัก สักพักลุงก็บอกให้เราไม่ไปรอรถ เราก็ว่ายังไม่ถึงเวลา ลุงแกขอไปมองหาเพื่อนที่เค้าเตอร์ CHECK IN จะให้เพื่อนซื้อตั๋วแล้วจะได้เอาเงินมาคืนเราเลย เราก็อึ้งๆ มึนๆ ปล่อยแกไปเฉยเลย สังเกตุว่าตอนนั้นตี4 เริ่มมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสนามบิน ออกมาเดินตรวจใจนึงเราก็นึกจะไปตามเรื่องแก ว่าจะเป็นไง อีกใจ ก็เหนื่อยอ่อนเบลอ
จนเราขึ้นรถกลับมาจากลพบุรี โทรหาแกเพื่อจะถามว่าตกลงเจอเพื่อนอะไรไหมก็ปิดเครื่องไปแล้ว กลับมาคิดดู ถ้าแกเป็นมิจฉาชีพ การพูดจานี่น่าเชื่อมากๆ ดีที่เราไม่หลงส่งสินค้าอะไรไปให้แกขาย ไม่งั้นจะเสียหายกว่านี้ เลยเอามาแชร์กัน บางทีการเกรงใจ กับคำพูดจาดูน่าเชื่อถือก็ทำให้เราเสียหายได้อย่าประมาท