ล่าสุด แม่ตกใจเมื่อยอดบิลแจ้งหนี้ สองแสนกว่าบาทเพราะลูกชายกดซื้อเพชร เกมส์คุ๊กกี้รัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ลูกชายเล่นเกมคุกกี้รันผ่านมือถือ โดนเรียกเก็บเงินค่าเกม 2 แสนบาท
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางอำพร ชุ่มชื่นดี อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140/2 หมู่ที่ 8 ต.สาลี อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ว่าได้มีบิลเรียกเก็บค่าสินค้าและบริการของเครือข่ายโทรศัพท์ยี่ห้อหนึ่ง ที่ ด.ช.รัฐวุฒิ อุ้ยศรีคูณ อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 รร.กรรณสูตศึกษาลัย ที่ใช้โทรศัพท์มือถือ โดยระบุว่า เรียกเก็บค่าสินค้าและบริการ รวมค่าใช้บริการรอบปัจจุบันถึงเป็นเงินถึง 203,477.06 บาท ทำให้เอาทุกคนในบ้านงงว่าเป็นไปได้อย่างไร
จากถามบุตรชาย ว่าใช้บริการเสริมอะไร ลูกชายบอกว่าใช้โปรโมชั่น แพ๊กเก็จ 299 บาท และเล่นเกมส์คุกกี้รัน โดยได้รับบิลเรียกเก็บเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา จึงได้ไปสอบถามไปที่ช๊อปของเครือข่ายโทรศัพท์ ที่ห้างโรบินสัน สาขาสุพรรณบุรี ก็ได้รับคำตอบว่าให้ประสานไปที่ คอลเซนเตอร์ ภายหลังทางคอลเซนต์เตอร์ยืนยันว่า บุตรชาย ซื้อไอเทมในเกม ตามยอดที่แจ้ง มาระหว่างวันที่ 9-19 พ.ค. 57 จริง
เมื่อบอกว่า ตนเป็นชาวไร่ชาวนา จะเอาเงินที่ไหนไปจ่าย ทางคอลเซนต์เตอร์บอกว่ายังไงก็ต้องจ่าย โดยให้ผ่อนชำระก็ได้ แต่ตนเห็นว่ามันเยอะเกินไป และไม่เข้าใจว่า เกมส์ดังกล่าวเป็นอย่างไร ทางคอลเซนต์เตอร์ บอกว่าขอตรวจสอบแล้วจะแจ้งกลับมา จนตอนนี้ผ่านไป 6 วัน เรื่องก็ยังเงียบอยู่ จึงร้อนใจเพราะกลัวจะมีผลทางคดี รีบไปปรึกษากับ นายธงชัย กล่ำจาตุรงค์ สจ.อ.บางปลาม้า ว่าควรทำอย่างไร
โดยนายธงชัยได้พาไปที่ สภ.บางปลาม้า เพื่อปรึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ยอดใช้จ่ายเยอะมากควรจะร้องไปที่ กสทช.ให้ตรวจสอบ ซึ่งตนได้ทำหนังสือไปที่ กสทช.แล้วเพื่อขอความเป็นธรรมจากกรณีดังกล่าว อย่างไรก็ตามตอนนี้ตนเครียดมาก เพราะกลัวเงินมากมายขนาดนี้จะเอาที่ไหนไปจ่าย แต่จากการสอบถามหลายๆฝ่าย บอกตรงกันว่าน่าจะมีการผิดพลาดเพราะเงินมากมายขนาดนี้ แต่ทางคอลเซนต์เตอร์ก็ยืนยันว่าต้องจ่ายจริงอยู่ดี
ด้าน นายธงชัย กล่าวว่า ในส่วนตัวมองว่า ด.ช.คนนี้ไม่รู้ระบบ เพราะเทคโนโลยีสมัยนี้วิ่งเข้าหาผู้บริโภคอย่างง่ายดาย ทำให้เพลิดเพลิน โดยเฉพาะเกมส์ในสมาร์ทโฟน เมื่อคนเล่นอยากได้คะแนนมาก ๆ ก็คลิกมาก ๆ วันละหลาย ๆ ครั้ง พอเล่นไม่ผ่านก็คลิกตัวช่วย แต่ละครั้งต้องเสียตังค์หลายบาท จึงคิดว่าไม่เป็นธรรมแก่ผู้บริโภค ซึ่งปกติจะมียอดจำกัดอยู่แล้ว ว่าให้เล่นเท่าไหร่กรณีของ ด.ช.รัฐวุฒิ ทราบว่าแค่วงเงิน 1,000 บาท แต่ทำไมยอดถึงพุ่งไปถึง 2 แสนกว่าบาท เรื่องเป็นประเด็นที่ผู้บริโภคจะต้องได้รับคำชี้แจง โดยเฉพาะขอฝาก กสทช.ช่วยชี้แจงด้วย
นายธงชัย กล่าวต่อว่า นางอัมพร ค่อนข้างเครียดเรื่องนี้มาก เพราะกลัวโดนฟ้องร้อง เนื่องจากทาง เครือข่ายโทรศัพท์ ยืนยันว่าต้องจ่ายเพราะเป็นหลักฐานทางกฎหมาย ตนจึงได้ปรึกษาทนายความที่รู้จักกันทางทนายความยินดีสู้คดีให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นตัวอย่างแก่คนอื่น เนื่องจากที่ผ่านมามีชาวสุพรรณบุรี โดนแบบนี้หลายรายๆละ 2-3 หมื่นบาท แต่เงินไม่มากถึงขนาดแสน จึงยอมจ่าย ดังนั้นทางเครือข่ายโทรศัพท์ น่าจะมีการแจ้งเตือนเมื่อครบวงเงิน นายธงชัยกล่าว
ผมเห็นว่า เรื่องนี้หากพูดตามเนื้อผ้า ทางแม่ของน้องต้องชำระค่าบริการตามบิล เพราะธุรกิจมันไม่ใช่การขายขนมครก มันมีผู้เกี่ยวข้องหลายส่วน จะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ เพราะ บริษัทผู้ให้บริการต่างๆไม่ได้บังคับหรือหลอกลวง เด็กเป็นคนเลือกและไม่อ่านข้อตกลงที่แจ้งก่อนเอง (ซึ่งเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ใส่ใจ) ส่วนแม่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจดูแลลูกเท่าที่ควร อีกทั้งอาจเป็นคนรุ่นเก่าทำให้ ตามลูกไม่ทัน แม้จะดูว่ามันจะดูเป็นคำตอบที่โหดร้าย แต่หากมองกลับด้าน ทางผู้บริการก็ต้องมีข้อตกลงกับทางผู้ผลิตเกมส์เหมือนกัน หากแม่และน้องไม่จ่าย บริษัทเขาก็ต้องควักเนื้อชำระแทนตามสัญญาที่ทำกับบริษัทเกมส์ ไม่งั้นก็อาจโดนฟ้องค่าเสียหายเป็นล้านก็ได้ คำถามคือว่า แล้วมันยุติธรรมกับเขาหรือ? ทางที่ดีอาจต้องนั่งคุยไกล่เกลี่ยกัน แม่และน้องยังไงก็ต้องชำระแต่อาจไม่ถึงยอดบิล ขึ้นอยู่กับการพูดคุย จะผ่อนชำระก็ได้
ช่วงวัน-2วันมานี้ เห็นข่าวใบแจ้งหนี้เป็นหมื่นเป็นแสน เพราะคุ๊กกี้รัน เพื่อนๆมีความเห็นยังไงบ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมเห็นว่า เรื่องนี้หากพูดตามเนื้อผ้า ทางแม่ของน้องต้องชำระค่าบริการตามบิล เพราะธุรกิจมันไม่ใช่การขายขนมครก มันมีผู้เกี่ยวข้องหลายส่วน จะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ เพราะ บริษัทผู้ให้บริการต่างๆไม่ได้บังคับหรือหลอกลวง เด็กเป็นคนเลือกและไม่อ่านข้อตกลงที่แจ้งก่อนเอง (ซึ่งเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ใส่ใจ) ส่วนแม่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจดูแลลูกเท่าที่ควร อีกทั้งอาจเป็นคนรุ่นเก่าทำให้ ตามลูกไม่ทัน แม้จะดูว่ามันจะดูเป็นคำตอบที่โหดร้าย แต่หากมองกลับด้าน ทางผู้บริการก็ต้องมีข้อตกลงกับทางผู้ผลิตเกมส์เหมือนกัน หากแม่และน้องไม่จ่าย บริษัทเขาก็ต้องควักเนื้อชำระแทนตามสัญญาที่ทำกับบริษัทเกมส์ ไม่งั้นก็อาจโดนฟ้องค่าเสียหายเป็นล้านก็ได้ คำถามคือว่า แล้วมันยุติธรรมกับเขาหรือ? ทางที่ดีอาจต้องนั่งคุยไกล่เกลี่ยกัน แม่และน้องยังไงก็ต้องชำระแต่อาจไม่ถึงยอดบิล ขึ้นอยู่กับการพูดคุย จะผ่อนชำระก็ได้