คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
จากคำพูดของ "ผู้กำกับ" ที่มีต่อ "อาร์ตี้" ดูเหมือนว่าผู้กำกับคนนี้จะไม่ชอบการกระทำของอาร์ตี้ ขอคิวยาก(เป็นเรื่องปกติของดารา) กำกับยากมาก(ข้อนี้ควรพิจารณาความสามารถของผู้กำกับว่าสามารภคุมเขาได้ไหม เพราะดาราที่เคยผ่านงานมามากไม่ค่อยจะเชื่อฟัง) ถึงกับทำให้ผู้กำกับนั้นไม่อยากโปรโมทพระเอก
==============================================================================
พูดยังกับเขาขอให้มาเล่นฟรีนะครับ เขาก็จ้าง นักแสดงกระแสก็เงียบฉี่ขนาดนั้นยังจะเล่นตัวอีก
เรื่องมากเรื่องเยอะเอาไว้ให้พวกตัวพ่อตัวแม่เขาทำเหอะ เขาเลือกได้ นี่งานก็ไม่ค่อยมียังจะทำตัวเป็นดาราฮอลลีวูดอีกเนอะ
ปล.จขกท คือ ติ่งอาตี้ ปลอมตัวมาใช่มั้ย
==============================================================================
พูดยังกับเขาขอให้มาเล่นฟรีนะครับ เขาก็จ้าง นักแสดงกระแสก็เงียบฉี่ขนาดนั้นยังจะเล่นตัวอีก
เรื่องมากเรื่องเยอะเอาไว้ให้พวกตัวพ่อตัวแม่เขาทำเหอะ เขาเลือกได้ นี่งานก็ไม่ค่อยมียังจะทำตัวเป็นดาราฮอลลีวูดอีกเนอะ
ปล.จขกท คือ ติ่งอาตี้ ปลอมตัวมาใช่มั้ย
ความคิดเห็นที่ 6
หนังงบน้อย ทำให้ทำงานตามสเต็ปไม่ได้ ด้วยข้อจำกัดนานับประการ (คงไม่มีใครอยากทำงานมั่วๆไม่มีคุณภาพหรอกค่ะ ผกก.และทีมงานเขาลงทุนทั้งแรงกายแรงใจนะคะ ช่วงเวลาที่เขาลำบากใครจะรู้ว่าเขาทำอะไรบ้างลำบากแค่ไหนกับเวลาเกือบ 4 ปีที่เขาเอาแรงบันดาลใจไปทำหนังที่ถือว่ามีความเสี่ยงมากที่สุด แต่เพราะใจรักจึงทำ เขาไม่ได้ต้องการให้หนังดีเลิศที่สุดแต่ทำหนังให้เห็นภาพความจริงที่สุด ) ผกก.และทีมงานก็มือใหม่แต่เขาทำงานด้วยใจรักนะคะ ทำให้ผลงานออกมาดี ถ้าจะว่าทีมงานไม่มืออาชีพอย่าพึ่งตัดสินทีมงานโดยใช้คำว่า "ไม่มืออาชีพ" เพราะเขาพึ่งทำหนังแค่เรื่องเดียว อุปกรณ์ก็ไม่พร้อมแต่ยังทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่าดีมากแล้วและหนังก็ดีพอสมควรเลย จะให้ตัดต่อทุกอย่างเป๊ะไปหมดได้ยังไงในเมื่อทีมงานเขามีข้อจำกัดนานับประการทั้งงบประมาณและประสบการณ์ขอให้เข้าใจทีมงานเขาด้วย ถ้าทีมงานเขาทำงานมาหลายเรื่องมากประสบการณ์แล้วทำงานไม่มีคุณภาพค่อยมาว่าเขา จริงๆผกก.เขามีแนวทางชัดเจนนะคะ เขาไม่ได้มีจุดประสงค์ให้หนังเป็นหนังตลาดแต่ต้องการให้หนังสื่อถึงความเป็นอีสานไปยังผู้ชม จะเห็นได้จากเขาเคยทำหนังสั้นเกี่ยวกับอีสานมาแล้วคนชอบเยอะด้วยแรงบันดาลใจเขามาจากตรงนั้น เขาขอแค่มีเวที(โรงหนัง)ให้หนังออกสู่สายตาคนอีสานแล้วได้รับในสิ่งที่เขาต้องการสื่อนั่นคือความต้องการของเขา แต่หนังมันดีเกินคาดด้วยเพราะทีมงานผกก.เขาเข้าใจคนอีสานมันตอบโจทย์คนอีสานได้มันเรียลและคนอีสานมีจำนวนเยอะด้วยเลยผลตอบรับเป็นอย่างที่รู้กัน
ที่นี้มาถึงเรื่องน้อง อาร์ตี้ จริงๆก็ถือว่าเขาเป็นที่รู้จักมาก่อนในหนังเรื่องนี้คนดูจึงคุ้นหน้าเขามากที่สุด เขาเคยทำงานมากับทีมงานใหญ่ๆมาก่อนอาจจะไม่ยอมรับหรือยอมรับยากกับทีมงานที่งบน้อย และน้อยประสบการณ์ และทีมงานทำงานตามเต็ปไม่ได้ด้วยข้อจำกัดนานับประการ ความสำเร็จของหนังจึงอาจมองไม่ค่อยเห็น จึงเป็นไปได้ว่าเขาไม่เชื่อมั่นในตัวผกก.และมีปฏิกิริยาต่างๆนาที่ดูเหมือนปฏิเสธหนังเรื่องนี้ในช่วงเวลาที่ถ่ายทำ และต้องขอชมน้องอาร์ตี้หน่อยที่แสดงหนังเรื่องนี้ดีจริงๆดีกว่าทุกเรื่องที่เคยดู ต้องยกเครดิตทั้งย้ำว่าทั้ง! น้องอาร์ตี้และ ผกก.ด้วยนะเออ สำหรับดิฉันๆไม่แปลกใจเรื่องนี้ ทุกอย่างมีเหตุและผล
ดิฉันอยากให้ทุกคนมองถึงความเป็นจริง มองหาเหตุและผล เพราะการพูดการทำทุกอย่างมันมีฟีดแบคเสมอ บางคนเชียร์น้องอาร์ตี้ ต่อว่าทีมผกก. ว่าไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้บ้าง ส่วนบางคนเชียร์ทีมผกก.ว่าน้องอาร์ตี้ไปดูถูกและด่าผกก.ก่อนผกก.เลยพูดออกมาแบบนั้น แต่ดิฉันไม่เข้าข้างใคร แต่สำหรับเรื่องนี้สิ่งที่ทุกคนควรทำคือ การให้เกียรติก่อน
* น้องอาร์ตี้ไม่เชื่อมั่นในผู้กำกับและทีมงานได้น้องมีเหตุผลที่สมควรของน้อง แต่...ย้ำว่า แต่! น้องไม่ควรดูถูกทีมงานและผู้กำกับ ถึงแม้เขาจะเป็นมือใหม่ แต่ต้องให้เกียรติและให้เวลากับทีมงานไม่ใช่มีอีโก้สูง บ่ายเบี่ยงหรือปฏิเสธ เพราะอย่างน้อยทีมงานเขาก็จ้างมา ไม่ได้ทำงานฟรีๆ
* ทีมงานเขาให้เกียรติงานที่เขาทำ หนังที่เขาทำ ถึงแม้จะมีอุปสรรคแต่เขาก็ทำต่อจนเสร็จและที่สำคัญเขาให้เกียรติคนดูที่เป็นคนอีสานเป็นสำคัญด้วย
* คนดูควรให้เกียรติหนัง หนังไม่ได้สมบูรณ์ดีเลิศ แต่ก็สามารถบรรลุจุดประสงค์ของหนังที่หนังต้องการสื่อออกมาได้ จึงไม่ควรดูถูก ว่านั่นตินี่ เพราะไม่มีอะไรในโลกนี้ที่สมบูรณ์แบบไปหมด
* ทุกคนควรให้เกียรติกัน ไม่ควรสรุปหรือเข้าข้างใคร มองทุกอย่างในแง่ความเป็นจริงและเหตุผล และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านและเข้าใจ
ที่นี้มาถึงเรื่องน้อง อาร์ตี้ จริงๆก็ถือว่าเขาเป็นที่รู้จักมาก่อนในหนังเรื่องนี้คนดูจึงคุ้นหน้าเขามากที่สุด เขาเคยทำงานมากับทีมงานใหญ่ๆมาก่อนอาจจะไม่ยอมรับหรือยอมรับยากกับทีมงานที่งบน้อย และน้อยประสบการณ์ และทีมงานทำงานตามเต็ปไม่ได้ด้วยข้อจำกัดนานับประการ ความสำเร็จของหนังจึงอาจมองไม่ค่อยเห็น จึงเป็นไปได้ว่าเขาไม่เชื่อมั่นในตัวผกก.และมีปฏิกิริยาต่างๆนาที่ดูเหมือนปฏิเสธหนังเรื่องนี้ในช่วงเวลาที่ถ่ายทำ และต้องขอชมน้องอาร์ตี้หน่อยที่แสดงหนังเรื่องนี้ดีจริงๆดีกว่าทุกเรื่องที่เคยดู ต้องยกเครดิตทั้งย้ำว่าทั้ง! น้องอาร์ตี้และ ผกก.ด้วยนะเออ สำหรับดิฉันๆไม่แปลกใจเรื่องนี้ ทุกอย่างมีเหตุและผล
ดิฉันอยากให้ทุกคนมองถึงความเป็นจริง มองหาเหตุและผล เพราะการพูดการทำทุกอย่างมันมีฟีดแบคเสมอ บางคนเชียร์น้องอาร์ตี้ ต่อว่าทีมผกก. ว่าไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้บ้าง ส่วนบางคนเชียร์ทีมผกก.ว่าน้องอาร์ตี้ไปดูถูกและด่าผกก.ก่อนผกก.เลยพูดออกมาแบบนั้น แต่ดิฉันไม่เข้าข้างใคร แต่สำหรับเรื่องนี้สิ่งที่ทุกคนควรทำคือ การให้เกียรติก่อน
* น้องอาร์ตี้ไม่เชื่อมั่นในผู้กำกับและทีมงานได้น้องมีเหตุผลที่สมควรของน้อง แต่...ย้ำว่า แต่! น้องไม่ควรดูถูกทีมงานและผู้กำกับ ถึงแม้เขาจะเป็นมือใหม่ แต่ต้องให้เกียรติและให้เวลากับทีมงานไม่ใช่มีอีโก้สูง บ่ายเบี่ยงหรือปฏิเสธ เพราะอย่างน้อยทีมงานเขาก็จ้างมา ไม่ได้ทำงานฟรีๆ
* ทีมงานเขาให้เกียรติงานที่เขาทำ หนังที่เขาทำ ถึงแม้จะมีอุปสรรคแต่เขาก็ทำต่อจนเสร็จและที่สำคัญเขาให้เกียรติคนดูที่เป็นคนอีสานเป็นสำคัญด้วย
* คนดูควรให้เกียรติหนัง หนังไม่ได้สมบูรณ์ดีเลิศ แต่ก็สามารถบรรลุจุดประสงค์ของหนังที่หนังต้องการสื่อออกมาได้ จึงไม่ควรดูถูก ว่านั่นตินี่ เพราะไม่มีอะไรในโลกนี้ที่สมบูรณ์แบบไปหมด
* ทุกคนควรให้เกียรติกัน ไม่ควรสรุปหรือเข้าข้างใคร มองทุกอย่างในแง่ความเป็นจริงและเหตุผล และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านและเข้าใจ
ความคิดเห็นที่ 5
นักแสดงที่ดีต้องฟังผกก นะครับในเมื่อร่วมงานกันแล้ว หนังดี หรือไม่ดีสุดท้ายผกก.ต้องรับผิดชอบ
ที่ผกก.ออกมาถล่มแหลกต้องไปดูต้นเหตุ
นั่นเพราะอาร์ตี้ออกมาพูดกับนักข่าวว่าภูมิใจที่ทำให้คนดูแล้วมีสำนึกรักบ้านเกิด เหมือนว่าจะโหนกระแส
ทั้งที่ผกก.เขาไม่ได้โปรโมทอาร์ตี้ด้วยซ้ำ
แต่หนังดังเพราะผกก.จริง ๆ
คุณจะพูดว่าทีมงานไม่มีคุณภาพ
แต่หนังมีกระแสดีขนาดนี้ผมว่าคุณอคติมากเกินไปนะครับ
การทำหนังให้มีกระแสดีขนาดนี้ไม่มีหนังไทยทำได้บ่อย ๆ
ต้องให้เครดิตผกก.เต็ม ๆ
วงการหนังไทยโหดและเถื่อนมากนะครับ ไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้
ฉายได้ 3 วันยอดตั๋วน้อยก็โดนถอดแล้ว
ถ้าจะบอกว่าอย่าฟังความข้างเดียว แต่ผมเชื่อว่าผกก.เป็นคนจริงใจนะ
ไม่อย่างนั้นทำหนังแนวบ้าน ๆ อย่างนี้ไม่ได้หรอก
และถ้าอาร์ตี้ไม่ผิดจริงจะกล้าสวนกลับหรือเปล่า
ที่ผกก.ออกมาถล่มแหลกต้องไปดูต้นเหตุ
นั่นเพราะอาร์ตี้ออกมาพูดกับนักข่าวว่าภูมิใจที่ทำให้คนดูแล้วมีสำนึกรักบ้านเกิด เหมือนว่าจะโหนกระแส
ทั้งที่ผกก.เขาไม่ได้โปรโมทอาร์ตี้ด้วยซ้ำ
แต่หนังดังเพราะผกก.จริง ๆ
คุณจะพูดว่าทีมงานไม่มีคุณภาพ
แต่หนังมีกระแสดีขนาดนี้ผมว่าคุณอคติมากเกินไปนะครับ
การทำหนังให้มีกระแสดีขนาดนี้ไม่มีหนังไทยทำได้บ่อย ๆ
ต้องให้เครดิตผกก.เต็ม ๆ
วงการหนังไทยโหดและเถื่อนมากนะครับ ไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้
ฉายได้ 3 วันยอดตั๋วน้อยก็โดนถอดแล้ว
ถ้าจะบอกว่าอย่าฟังความข้างเดียว แต่ผมเชื่อว่าผกก.เป็นคนจริงใจนะ
ไม่อย่างนั้นทำหนังแนวบ้าน ๆ อย่างนี้ไม่ได้หรอก
และถ้าอาร์ตี้ไม่ผิดจริงจะกล้าสวนกลับหรือเปล่า
แสดงความคิดเห็น
ผู้กำกับ "ผู้บ่าวไทบ้าน" อุเทน ศรีริวิ สั่งสอนเด็กอย่าง "อาร์ตี้" ธนฉัตร ตุลยฉัตร
"ทำไมผมถึงไม่โปรโมทพระเอก ตามนี้นะครับหลายคนถามมาเยอะ ตอนถ่ายทำก็ทำงานกับพระเอกคนนี้ลำบากมาก บทไม่อ่าน ขนาดส่งบทให้ก่อนถ่ายทำ 1 เดือน เล่นเป็นตัวละครอะไรยังไม่รู้เลย กำกับยากมาก ก่อนหน้า ขอคิวถ่ายซ้อมเขาบอกไม่ให้ ไม่ขอร่วมงานกับ ผกก.คนนี้อีก(อดถ่ายซ่อม)หนังเกือบไม่จบ ขอคิวถ่ายโปสเตอร์ไม่ให้และต้องอันเชิญผู้ใหญ่ไปเจรจา ขอคิวมาลงเสียงในหนังก็ต้องอันเชิญผู้ใหญ่ไปเจรจาถึงมา มาแล้วก็อีหรอบเดิม วันเปิดตัวหนังวันที่ 5 ที่ขอนแก่นก็ไม่มายังยืนยันคำเดิม ผมไม่ขอร่วมงานกับ ผกก.คนนี้ เออสรุปพอหนังมีกระแสรีบมาเลยนะ ผมไม่ต้องการอะไรมาก แค่อย่ามาดูถูกผม และขอโทษผมก็พอ"
หรือ "อาร์ตี้" ธนฉัตร ตุลยฉัตร สั่งสอนผู้กำกับ "ผู้บ่าวไทบ้าน" อุเทน ศรีริวิ
จากเด็กที่โด่งดังในโลกอินเตอร์เน็ตสู่ "บุญโชค" ลูกของ "บุญชู" จากภาพยนตร์เรื่อง "บุญชู ไอ-เลิฟ-สระ-อู" หรือ บุญชู 9 กำกับโดย "บัณฑิต ฤทธิ์ถกล" ที่ทำรายได้รวมถึง 50 ล้านบาท และผลงานการแสดงภาพยนตร์อีกมากมายเช่น บีฟอร์ วาเลนไทน์ , อนึ่ง...คิดถึงเป็นอย่างยิ่ง , บุญชู จะอยู่ในใจเสมอ , ฮาศาสตร์ หรือแม้แต่มิวสิควีดีโอ ไม่รู้จะอธิบายยังไง , คำฆ่าคน สิ่งเหล่านี้คือการยืนยันว่า " อาร์ตี้ " นั้นได้เป็นนักแสดงมืออาชีพแล้ว
จากคำพูดของ "ผู้กำกับ" ที่มีต่อ "อาร์ตี้" ดูเหมือนว่าผู้กำกับคนนี้จะไม่ชอบการกระทำของอาร์ตี้ ขอคิวยาก(เป็นเรื่องปกติของดารา) กำกับยากมาก(ข้อนี้ควรพิจารณาความสามารถของผู้กำกับว่าสามารภคุมเขาได้ไหม เพราะดาราที่เคยผ่านงานมามากไม่ค่อยจะเชื่อฟัง) ถึงกับทำให้ผู้กำกับนั้นไม่อยากโปรโมทพระเอก
“ให้หนังมันพูดของมันเอง”
จากการที่ได้ดู “ผู้บ่าวไทบ้าน” เราขอวิจารณ์กระบวนการถ่ายทำของภาพยนตร์ตามที่ฉันเห็นในหนังนะค่ะ
-ยังไม่มีความต่อเนื่องเช่นฉากทองคำไปหาแผ่นฟิลม์ในสนาม และทรงผมของทองคำยังสั้นๆยาวๆ
-ยังมีการข้ามไลน์หรือข้ามเส้น180องศา
-ในบางฉากนั้นยังมีการหลุดโพกัสหรือ out focus
-ในบางฉากนักแสดงยังมองกล้อง
-ฉากทองคำขี่มอเตอร์ไซต์ไปหาปราณีแล้วจอดรถคุยกับถิ่นยังเห็นรองเท้าของคนสะท้อนผ่านกระจกรถ
หนังกระแสดีแต่ไม่มีคุณภาพ
จากในการะบวนการถ่ายทำเห็นได้ว่าไม่มีความพร้อมในการถ่าย ไม่มีผู้ควบคุมความต่อเนื่อง และดูเหมือนว่าหนังเรื่องนี้จะไม่มีตารางการถ่ายทำที่แน่นอน คิดอยากจะนัดก็นัด(ดูจากคำพูดของป้าแดง ในชื่อคลิปผู้บ่าวไทบ้าน Interview )แค่นี้ก้อคงน่าจะรู้แล้วว่าทีมงานไม่มีคุณภาพพอในการทำงานและไม่สามารถที่จะควบคุมดาราให้อยู่ได้ ถ้าดารามองว่าไม่มืออาชีพก้อคงไม่แปลก
ในมุมมองของเรา เราว่าผู้กำกับไม่น่าออกมาพูดอย่างนี้และยังดูเหมือนว่าจะสร้างกระแสให้ตัวเองหรือเปล่า ถ้าจะเป็นเรื่องจริงก็ไม่ควรจะพูดอย่างนั้น เพราะเหตุใดล่ะ