เกาะเต่าเป็นเกาะที่ได้ชื่อว่าเป็น “เกาะสวรรค์กลางทะเลอ่าวไทย” เนื่องจากเป็นเกาะที่มีธรรมชาติสวยงามและอุดมสมบูรณ์ มีแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกขนาดใหญ่และสวยงาม อันเป็นที่อยู่อาศัยของปลาหลากชนิดจำนวนมาก เป็นจุดดำน้ำที่มีชื่อเสียงระดับโลกอีกแห่งหนึ่ง ที่นักดำน้ำทั่วโลกต่างพากันหมุนเวียนมาเยี่ยมเยือนและสัมผัสกับโลกใต้ทะเลของเกาะสวรรค์แห่งนี้ ปัจจุบันจึงมีโรงเรียนสอนดำน้ำหลายแห่งมาเปิดกิจการบนเกาะ และมีโรงเรียนสอนดำน้ำจากที่อื่นๆ นิยมแวะเวียนมาใช้เกาะเต่าเป็นสถานที่ฝึกสอนกันอยู่เสมอนอกจากนี้ เกาะเต่ายังมีหาดทรายขาวละเอียดที่สะอาดบริสุทธิ์ สวยงาม และสงบเงียบ อีกหลายแห่งรอบเกาะ ที่เติมเต็มให้เกาะแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ เหมาะสมกับฉายา “เกาะสวรรค์” และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคและของประเทศ
เกาะเต่าเป็นเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางทะเลอ่าวไทย อยู่ห่างจากชายฝั่งของจังหวัดชุมพรประมาณ 74 กิโลเมตร ห่างจากชายฝั่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานีประมาณ 110 กิโลเมตร ห่างจากเกาะสมุยประมาณ 64 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเกาะพะงันประมาณ 45 กิโลเมตรด้วยความที่เป็นเกาะที่อยู่ไกลจากแผ่นดินใหญ่มาก มีสภาพธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ในอดีตบริเวณชายหาดรอบๆ เกาะเต่าจึงเต็มไปด้วยเต่าที่มาหาแหล่งวางไข่เป็นจำนวนมาก อันเป็นที่มาของชื่อ “เกาะเต่า” นั่นเอง ปัจจุบันเกาะเต่าเป็นตำบลหนึ่งของอำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานีเกาะเต่าประกอบด้วยเกาะ 2 เกาะ ที่อยู่ห่างกันเพียง 480 เมตร คือ เกาะเต่าและเกาะนางยวน เฉพาะเกาะเต่ามีเนื้อที่ประมาณ 21 ตารางกิโลเมตร มีรูปร่างคล้ายเม็ดถั่ว พื้นที่เกือบทั้งหมดของเกาะเป็นภูเขา มีชายหาดและอ่าวเว้าแหว่งต่างๆ มากมายถึง 11 อ่าว และมีแหลมหินถึง 10 แหลม มีชายฝั่งยาว 28.6 กิโลเมตร และมีแนวปะการังยาวถึง 8 กิโลเมตร สภาพปะการังมีความกว้างเฉลี่ยถึง 200 เมตรบนเกาะมีถนนคอนกรีตเป็นเส้นทางคมนาคมสายหลักเพียงสายเดียว ทอดยาวจากหัวเกาะถึงท้ายเกาะ รวมความยาวประมาณ 12 กิโลเมตร และมีถนนดินลูกรังที่ผู้ประกอบการที่พักแห่งต่างๆ สร้างขึ้น แยกจากถนนสายหลักอีกหลายสาย ปัจจุบันมีกิจการที่พักและบังกะโลเปิดให้บริการอยู่มากมายร่วมร้อยแห่ง กระจายอยู่ทั่วเกาะ โดยเฉพาะตามชายหาดต่างๆ
ในอดีตสมัยการปกครองของคณะราษฎร์ กรมราชทัณฑ์ได้ใช้เกาะเต่าเป็นเรือนจำคุมขังนักโทษการเมืองรุ่นกบฏวรเดช พ.ศ. 2476 เนื่องจากเกาะแห่งนี้เป็นเกาะกลางทะเลอ่าวไทยที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยว ห่างไกลจากฝั่งและเกาะอื่นๆ มีผืนทะเลกว้างไกลเป็นปราการธรรมชาติที่คุมขังนักโทษได้เป็นอย่างดี จึงได้ย้ายนักโทษคดีการเมืองจากเกาะตะรุเตา ฝั่งมหาสมุทรอินเดีย มาคุมขังที่เกาะเต่าแทนนักโทษจำนวนหนึ่งป่วยและตายลงในขณะที่ถูกคุมขังอยู่บนเกาะเต่า จนกระทั่งมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ จอมพล แปลก พิบูลสงคราม ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต่อมาคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ได้มีมติให้กราบบังคมทูลพระราชทานอภัยโทษแก่นักโทษการเมืองในคดีกบฏวรเดช พ.ศ. 2476 และคดีกบฏ พ.ศ. 2481 แล้วปลดปล่อยนักโทษการเมืองที่เกาะเต่าให้เป็นอิสระเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2487 หลังจากนั้นก็เริ่มมีคนเข้ามาอยู่อาศัยบนเกาะเต่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2490 เนื่องจากเป็นเกาะที่มีธรรมชาติสวยงามและอุดมสมบูรณ์ และได้พัฒนามาเรื่อยจนกระทั่งกลายเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยี่ยมเยือนจำนวนมากในแต่ละปีในปัจจุบัน
( ที่มา :
http://thai.tourismthailand.org/ข้อมูลจังหวัด/เกาะเต่า )
[CR] Koh Tao, Surat Thani, Thailand
เกาะเต่าเป็นเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางทะเลอ่าวไทย อยู่ห่างจากชายฝั่งของจังหวัดชุมพรประมาณ 74 กิโลเมตร ห่างจากชายฝั่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานีประมาณ 110 กิโลเมตร ห่างจากเกาะสมุยประมาณ 64 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเกาะพะงันประมาณ 45 กิโลเมตรด้วยความที่เป็นเกาะที่อยู่ไกลจากแผ่นดินใหญ่มาก มีสภาพธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ในอดีตบริเวณชายหาดรอบๆ เกาะเต่าจึงเต็มไปด้วยเต่าที่มาหาแหล่งวางไข่เป็นจำนวนมาก อันเป็นที่มาของชื่อ “เกาะเต่า” นั่นเอง ปัจจุบันเกาะเต่าเป็นตำบลหนึ่งของอำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานีเกาะเต่าประกอบด้วยเกาะ 2 เกาะ ที่อยู่ห่างกันเพียง 480 เมตร คือ เกาะเต่าและเกาะนางยวน เฉพาะเกาะเต่ามีเนื้อที่ประมาณ 21 ตารางกิโลเมตร มีรูปร่างคล้ายเม็ดถั่ว พื้นที่เกือบทั้งหมดของเกาะเป็นภูเขา มีชายหาดและอ่าวเว้าแหว่งต่างๆ มากมายถึง 11 อ่าว และมีแหลมหินถึง 10 แหลม มีชายฝั่งยาว 28.6 กิโลเมตร และมีแนวปะการังยาวถึง 8 กิโลเมตร สภาพปะการังมีความกว้างเฉลี่ยถึง 200 เมตรบนเกาะมีถนนคอนกรีตเป็นเส้นทางคมนาคมสายหลักเพียงสายเดียว ทอดยาวจากหัวเกาะถึงท้ายเกาะ รวมความยาวประมาณ 12 กิโลเมตร และมีถนนดินลูกรังที่ผู้ประกอบการที่พักแห่งต่างๆ สร้างขึ้น แยกจากถนนสายหลักอีกหลายสาย ปัจจุบันมีกิจการที่พักและบังกะโลเปิดให้บริการอยู่มากมายร่วมร้อยแห่ง กระจายอยู่ทั่วเกาะ โดยเฉพาะตามชายหาดต่างๆ
ในอดีตสมัยการปกครองของคณะราษฎร์ กรมราชทัณฑ์ได้ใช้เกาะเต่าเป็นเรือนจำคุมขังนักโทษการเมืองรุ่นกบฏวรเดช พ.ศ. 2476 เนื่องจากเกาะแห่งนี้เป็นเกาะกลางทะเลอ่าวไทยที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยว ห่างไกลจากฝั่งและเกาะอื่นๆ มีผืนทะเลกว้างไกลเป็นปราการธรรมชาติที่คุมขังนักโทษได้เป็นอย่างดี จึงได้ย้ายนักโทษคดีการเมืองจากเกาะตะรุเตา ฝั่งมหาสมุทรอินเดีย มาคุมขังที่เกาะเต่าแทนนักโทษจำนวนหนึ่งป่วยและตายลงในขณะที่ถูกคุมขังอยู่บนเกาะเต่า จนกระทั่งมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ จอมพล แปลก พิบูลสงคราม ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต่อมาคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ได้มีมติให้กราบบังคมทูลพระราชทานอภัยโทษแก่นักโทษการเมืองในคดีกบฏวรเดช พ.ศ. 2476 และคดีกบฏ พ.ศ. 2481 แล้วปลดปล่อยนักโทษการเมืองที่เกาะเต่าให้เป็นอิสระเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2487 หลังจากนั้นก็เริ่มมีคนเข้ามาอยู่อาศัยบนเกาะเต่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2490 เนื่องจากเป็นเกาะที่มีธรรมชาติสวยงามและอุดมสมบูรณ์ และได้พัฒนามาเรื่อยจนกระทั่งกลายเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยี่ยมเยือนจำนวนมากในแต่ละปีในปัจจุบัน
( ที่มา : http://thai.tourismthailand.org/ข้อมูลจังหวัด/เกาะเต่า )