แม้ "เสื้อผ้า" จะไม่ใช่เรื่องสำคัญสุดสำหรับศิลปิน แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรมองข้าม
เพราะนอกจากช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ยังอาจเป็น "จุดขาย" ได้อีกด้วย
"เสื้อผ้าช่วยประมาณ 70% ถ้าในแง่ศิลปินที่ต้องอาศัยแฟชั่น แต่ถ้าไม่อาศัยแฟชั่นอย่าง ปาน (ธนพร แวกประยูร) ก็ไม่จำเป็น แต่ถ้าเป็น ใบเตย (สุธีวัน ทวีสิน) กิ๊บซี่ (วนิดา เติมธนาภรณ์) คนก็รอดูว่าชุดนี้สั้นแค่ไหน อะไรยังไง" อัศนี สุริยาแสงศรี ครีเอทีฟกรุ๊ปเฮด ค่ายเยส มิวสิค ในเครือ อาร์เอส ว่าถึงความสำคัญของชุด
โดยแต่ละครั้งของการทำเสื้อผ้า เขาว่าหลักสำคัญที่ต้องยึด คือ "ต้องรักษาความเป็นเขา ไม่เปลี่ยนอะไรเยอะ เพราะจุดแข็ง เขาแข็งแรง"
"ใบเตยฉายาสั้นเสมอหูก็ต้องเป็นทรงแบบนี้ เพียงแต่ว่าดีเทลจะเป็นลายนั้นลายนี้ เนื้อผ้าเปลี่ยน"
พร้อมยืนยันว่าเวลาคิดเรื่องชุด จุดใหญ่ไม่ได้อยู่ที่ "จะแข่งให้เซ็กซี่กว่าใคร"
"คิดแค่ว่าคนดูชุดยังไง ทำยังไงให้ดูเปรี้ยง"
ขณะที่ความสั้น ถ้าสำหรับใบเตยก็ต้องไม่ให้ยิ่งขึ้นไป ด้วยมีคำกำชับจากเบื้องบน
"เป็นคำกำชับแรกจากเฮีย (เฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน)) เลย ไม่ต้องโฟกัสเรื่องความโป๊ เพราะจะยิ่งดูว่าอาร์เอสขายแต่เรื่องอย่างนี้ โป๊เท่าไหนก็ให้เท่านั้น"
"เขาให้นโยบายมาว่าทาร์เก็ตใบเตยมีเด็ก ทำไงก็ได้ให้พ่อแม่เด็กไม่แอนตี้ สั้นแค่ไหน แค่นั้น ไม่ต้องขยาย ไม่ต้องเพิ่มให้เว้า เพิ่มดีกรี" ก่อนจะย้ำ "ไม่ได้ซูมนม ไม่ได้จงใจโป๊ ให้ดูแล้วอมยิ้ม"
สำหรับชุดล่าสุดที่เขาดูแล คือ "อย่ามโน (Don′t Cha)" ของใบเตย-กิ๊บซี่นั้น อัศนีว่า ส่วนใหญ่คนจะชมของกิ๊บซี่ ว่าสวย ดูดี แต่ตำหนิว่าของใบเตยเหมือนชุดว่ายน้ำ อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดว่าเป็นฟีดแบ๊กลบ เป็นเพียงการกระแหนะกระแหน หยอกเอิน จากบางคนที่ "เกลียดเป็นพื้นฐาน"
"แต่เราก็ไม่เอาตรงนั้นมาเป็นข้อระวัง คิดว่าจะทำไงให้สวย ดูแฟชั่น ดูเซ็กซี่แพง คาแร็กเตอร์คงอยู่เป็นลูกทุ่ง ไม่ได้กลัวหรือกังวลเรื่องคนแอนตี้" อัศนีว่า
ขณะที่ ชาลินี เสียงสุวรรณ คอสตูมสไตลิสต์อิสระ ที่รับออกแบบชุดให้ศิลปิน แกรมมี่โกลด์ อยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะ ต่าย-อรทัย ดาบคำ,ไผ่-พงศธร ศรีจันทร์,ข้าวทิพย์ ธิดาดิน,เอิ้นขวัญ วรัญญา,ดอกอ้อ ทุ่งทอง และ หญิงลี ศรีจุมพล บอกว่า สำหรับเธอแล้ว "ชุดช่วยให้เพลงดูน่าฟังขึ้น"
"แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องเหมาะกับบุคลิกของนักร้อง"
"เพื่อให้ใส่แล้วเขามั่นใจมากขึ้น บางคนไม่เคยใส่สั้น ไม่มั่นใจ ใส่แล้วร้องเพลงได้ไม่เต็มที่ ไม่เอา ให้ใส่แล้วมั่นใจก็ทำออกมาได้ดีกว่าที่ไม่ใช่ตัวตน"
สำหรับขั้นตอนการทำงานเริ่มแรกครีเอทีฟจะให้คอนเซ็ปต์ที่ทางค่ายแล้วก็มาคิดเพิ่ม โดยยึดหลักว่าต้อง 1.สวย 2.เหมาะกับแนวเพลง 3.เหมาะกับศิลปิน
"เรื่องชุดศิลปินมีส่วนร่วมมาก เขาจะเสนอไอเดียเอาส่วนนั้นมาประยุกต์ ชอบสีไหน เขาจะรู้จุดเด่นจุดด้อยของตัวเอง แต่ละครั้งกว่าจะได้ชุดต้องผ่านหลายขั้นตอน"
"ผู้ใหญ่จะเป็นคนดู เทสต์ตั้งแต่สั้นแค่เข่า สั้นมากสั้นน้อย เขาจะมีจุดหนึ่งว่าประมาณแค่นี้พอ"
แม้ทุกวันนี้คนจะแข่งเรื่องชุดกันอย่างเอาเป็นเอาตาย โดยเฉพาะนักร้องหญิงที่ยิ่งสั้น ยิ่งแรง
"ส่วนหนึ่งเป็นตัวช่วยดึงดูด ชุดเซ็กซี่คนก็สนใจ"
"ต่อไปมันก็อาจจะสั้นไปเรื่อยๆ เป็นกระแสนิยมตามกระแสนักร้องต่างประเทศ แต่คงเป็นรื่องแฟชั่นมากกว่า คนไทยคงไม่มากกว่านี้ไปเท่าไหร่ เพราะไทยวัฒนธรรมก็ไม่ได้เป็นฝรั่งขนาดนั้นได้"
อย่าง "ศิลปินของแกรมมี่โกลด์ไม่เน้นเซ็กซี่ ทำสิ่งไหนที่เหมาะกับคาแร็กเตอร์ของเพลง เหมาะกับตัวศิลปิน"
"ชุดเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เวลาร้องแล้วดูดี เป็นส่วนเสริมบุคลิก แต่ไม่ใช่สิ่งสำคัญสุดเป็นแค่ส่วนหนึ่ง"
"เพราะนักร้องต้องเน้นร้อง เน้นเพลง เน้นทำนอง"
แต่แน่นอนว่าถ้าทั้ง 2 ส่วนนี้ ต่างไปได้ดี และส่งเสริมกัน ก็จะยิ่งแจ่มไปกันใหญ่
แฟชั่นนักร้อง นับวันจึงยิ่งไม่ธรรมดา!!
หน้า 22 ,มติชนรายวัน ฉบับวันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน 2557
ชุดสวย ช่วย (นักร้อง) ได้!?
เพราะนอกจากช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ยังอาจเป็น "จุดขาย" ได้อีกด้วย
"เสื้อผ้าช่วยประมาณ 70% ถ้าในแง่ศิลปินที่ต้องอาศัยแฟชั่น แต่ถ้าไม่อาศัยแฟชั่นอย่าง ปาน (ธนพร แวกประยูร) ก็ไม่จำเป็น แต่ถ้าเป็น ใบเตย (สุธีวัน ทวีสิน) กิ๊บซี่ (วนิดา เติมธนาภรณ์) คนก็รอดูว่าชุดนี้สั้นแค่ไหน อะไรยังไง" อัศนี สุริยาแสงศรี ครีเอทีฟกรุ๊ปเฮด ค่ายเยส มิวสิค ในเครือ อาร์เอส ว่าถึงความสำคัญของชุด
โดยแต่ละครั้งของการทำเสื้อผ้า เขาว่าหลักสำคัญที่ต้องยึด คือ "ต้องรักษาความเป็นเขา ไม่เปลี่ยนอะไรเยอะ เพราะจุดแข็ง เขาแข็งแรง"
"ใบเตยฉายาสั้นเสมอหูก็ต้องเป็นทรงแบบนี้ เพียงแต่ว่าดีเทลจะเป็นลายนั้นลายนี้ เนื้อผ้าเปลี่ยน"
พร้อมยืนยันว่าเวลาคิดเรื่องชุด จุดใหญ่ไม่ได้อยู่ที่ "จะแข่งให้เซ็กซี่กว่าใคร"
"คิดแค่ว่าคนดูชุดยังไง ทำยังไงให้ดูเปรี้ยง"
ขณะที่ความสั้น ถ้าสำหรับใบเตยก็ต้องไม่ให้ยิ่งขึ้นไป ด้วยมีคำกำชับจากเบื้องบน
"เป็นคำกำชับแรกจากเฮีย (เฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน)) เลย ไม่ต้องโฟกัสเรื่องความโป๊ เพราะจะยิ่งดูว่าอาร์เอสขายแต่เรื่องอย่างนี้ โป๊เท่าไหนก็ให้เท่านั้น"
"เขาให้นโยบายมาว่าทาร์เก็ตใบเตยมีเด็ก ทำไงก็ได้ให้พ่อแม่เด็กไม่แอนตี้ สั้นแค่ไหน แค่นั้น ไม่ต้องขยาย ไม่ต้องเพิ่มให้เว้า เพิ่มดีกรี" ก่อนจะย้ำ "ไม่ได้ซูมนม ไม่ได้จงใจโป๊ ให้ดูแล้วอมยิ้ม"
สำหรับชุดล่าสุดที่เขาดูแล คือ "อย่ามโน (Don′t Cha)" ของใบเตย-กิ๊บซี่นั้น อัศนีว่า ส่วนใหญ่คนจะชมของกิ๊บซี่ ว่าสวย ดูดี แต่ตำหนิว่าของใบเตยเหมือนชุดว่ายน้ำ อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดว่าเป็นฟีดแบ๊กลบ เป็นเพียงการกระแหนะกระแหน หยอกเอิน จากบางคนที่ "เกลียดเป็นพื้นฐาน"
"แต่เราก็ไม่เอาตรงนั้นมาเป็นข้อระวัง คิดว่าจะทำไงให้สวย ดูแฟชั่น ดูเซ็กซี่แพง คาแร็กเตอร์คงอยู่เป็นลูกทุ่ง ไม่ได้กลัวหรือกังวลเรื่องคนแอนตี้" อัศนีว่า
ขณะที่ ชาลินี เสียงสุวรรณ คอสตูมสไตลิสต์อิสระ ที่รับออกแบบชุดให้ศิลปิน แกรมมี่โกลด์ อยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะ ต่าย-อรทัย ดาบคำ,ไผ่-พงศธร ศรีจันทร์,ข้าวทิพย์ ธิดาดิน,เอิ้นขวัญ วรัญญา,ดอกอ้อ ทุ่งทอง และ หญิงลี ศรีจุมพล บอกว่า สำหรับเธอแล้ว "ชุดช่วยให้เพลงดูน่าฟังขึ้น"
"แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องเหมาะกับบุคลิกของนักร้อง"
"เพื่อให้ใส่แล้วเขามั่นใจมากขึ้น บางคนไม่เคยใส่สั้น ไม่มั่นใจ ใส่แล้วร้องเพลงได้ไม่เต็มที่ ไม่เอา ให้ใส่แล้วมั่นใจก็ทำออกมาได้ดีกว่าที่ไม่ใช่ตัวตน"
สำหรับขั้นตอนการทำงานเริ่มแรกครีเอทีฟจะให้คอนเซ็ปต์ที่ทางค่ายแล้วก็มาคิดเพิ่ม โดยยึดหลักว่าต้อง 1.สวย 2.เหมาะกับแนวเพลง 3.เหมาะกับศิลปิน
"เรื่องชุดศิลปินมีส่วนร่วมมาก เขาจะเสนอไอเดียเอาส่วนนั้นมาประยุกต์ ชอบสีไหน เขาจะรู้จุดเด่นจุดด้อยของตัวเอง แต่ละครั้งกว่าจะได้ชุดต้องผ่านหลายขั้นตอน"
"ผู้ใหญ่จะเป็นคนดู เทสต์ตั้งแต่สั้นแค่เข่า สั้นมากสั้นน้อย เขาจะมีจุดหนึ่งว่าประมาณแค่นี้พอ"
แม้ทุกวันนี้คนจะแข่งเรื่องชุดกันอย่างเอาเป็นเอาตาย โดยเฉพาะนักร้องหญิงที่ยิ่งสั้น ยิ่งแรง
"ส่วนหนึ่งเป็นตัวช่วยดึงดูด ชุดเซ็กซี่คนก็สนใจ"
"ต่อไปมันก็อาจจะสั้นไปเรื่อยๆ เป็นกระแสนิยมตามกระแสนักร้องต่างประเทศ แต่คงเป็นรื่องแฟชั่นมากกว่า คนไทยคงไม่มากกว่านี้ไปเท่าไหร่ เพราะไทยวัฒนธรรมก็ไม่ได้เป็นฝรั่งขนาดนั้นได้"
อย่าง "ศิลปินของแกรมมี่โกลด์ไม่เน้นเซ็กซี่ ทำสิ่งไหนที่เหมาะกับคาแร็กเตอร์ของเพลง เหมาะกับตัวศิลปิน"
"ชุดเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เวลาร้องแล้วดูดี เป็นส่วนเสริมบุคลิก แต่ไม่ใช่สิ่งสำคัญสุดเป็นแค่ส่วนหนึ่ง"
"เพราะนักร้องต้องเน้นร้อง เน้นเพลง เน้นทำนอง"
แต่แน่นอนว่าถ้าทั้ง 2 ส่วนนี้ ต่างไปได้ดี และส่งเสริมกัน ก็จะยิ่งแจ่มไปกันใหญ่
แฟชั่นนักร้อง นับวันจึงยิ่งไม่ธรรมดา!!
หน้า 22 ,มติชนรายวัน ฉบับวันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน 2557