(เรื่องย่อ) รากบุญ2 รอยรักแรงมาร...มาต่อ'เรือนริษยา'

บทประพันธ์ : ช่อมณี
บทโทรทัศน์ : เอกลิขิต
กำกับการแสดง : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
ควบคุมการผลิต : ณัฏฐนันท์  ฉวีวงษ์
ผลิตโดยบริษัท : ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์

หลังจากการตายปริศนาของพิสัย เจติยา(ราศรี บาเล็นซิเอก้า) ได้สืบหาความจริงตามการร้องขอของพิสัย ทุกคนพุ่งเป้าไปที่พ่อของปริม หากแต่คนลงมือไม่ใช่และไม่สามารถโยงใยถึงพ่อของปริมได้เลย คดีนี้พ่อปริมเลยลอยนวล..แต่จากการสืบหาความจริงในครั้งนี้ ทำให้เจติยาพบข้อเท็จจริงว่าพ่อของปริมได้ไปปรึกษาปรับทุกข์กับเพื่อนเก่า วนันต์ ไกรวิน(ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) ซึ่งกำลังป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และการตายของพิสัยก็เกิดจากอำนาจลึกลับบางอย่างที่นายวนันต์ผู้นี้ได้มาจากกล่องรากบุญ!
      
จริงๆ แล้วแต่อดีตวนันต์เป็นเพื่อนสนิทของสารัชพ่อของลาภิณและเป็นหุ้นส่วนนิราลัยด้วย หากแต่วนันต์มีปัญหาเรื่องการเงินถึงล้มละลาย จึงทำการฉ้อโกงบริษัท สารัชรู้ทัน แต่ด้วยความเป็นเพื่อนสนิทเลยไม่เอาผิด เพียงแต่ยึดหุ้นคืนเพื่อเป็นการชดเชยความเสียหายของบริษัท สารัชบอกต่อทุกคนเพียงว่าวนันต์ขายหุ้นให้ตนเพื่อจะไปลงทุนทำกิจการอย่างอื่น
      
วนันต์อับจนถึงขีดสุด จึงคิดขโมยกล่องรากบุญของสารัชเพราะคิดว่าเป็นของเก่าแก่เพราะสารัชหวงแหนมาก คงได้ราคาเป็นหลายสิบล้านแน่ๆ ไม่งั้นสารัชคงไม่หวงแหนขนาดนี้......วนันต์แอบมาขโมยกล่องรากบุญของสารัชที่ห้องทำงาน ขณะสำรวจกล่องไปมา วนันต์ก็เห็นเหรียญที่ตกแต่งกล่องรากบุญอยู่ที่ใต้กล่อง มีลายสลักสวยงามแปลกตา วนันต์ขยับจับดูปรากฏว่าแกะออกมาได้ แต่ทันใดนั้นสารัชก็กลับมาที่ห้องทำงาน ผิดแผนทุกอย่าง วนันต์จึงรีบเก็บกล่องรากบุญที่เดิม เอาไปได้แต่เพียงเหรียญตกแต่งกล่องเท่านั้น

ทันทีที่วนันต์ออกไปจากนิราลัยก็เกิดเรื่องอัศจรรย์ขึ้นกับเหรียญตกแต่งกล่องรากบุญ เหรียญดังกล่าวเกิดแตกตัวกลายเป็น 3 เหรียญ แล้ว 2 เหรียญพุ่งขึ้นฟ้ากระจายหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย วนันต์ตกใจมากได้แต่กำเหรียญรากบุญที่อยู่กับตนอีก 1 เหรียญในมือเอาไว้แน่น
      
วนันต์ย้ายไปตั้งรกรากที่สิงคโปร์ และร่ำรวยขึ้นมาอย่างกะทันหันด้วยการร่วมลงทุนกับนักธุรกิจที่นั่นเปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้าง โดยมีลูกสาว พิมพ์อร กับสามี ช่วยบริหารบริษัทก่อสร้างแทนเพราะวนันต์เริ่มป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
      
ต่อมาสามีพิมพ์อรตายกะทันหันด้วยอาการหัวใจวายอันเกิดเพราะคำขอจากเหรียญลึกลับ การชิงอำนาจบริหารกับผู้ถือหุ้นอื่นในบริษัทและจุดประสงค์บางอย่างทำให้หล่อนอาสาไปดูแลสาขาใหม่ของบริษัท ที่ประเทศไทย ความได้เปรียบด้านภาษาและพื้นเพดั้งเดิมของครอบครัวหล่อนที่เคยอยู่ในประเทศไทย อีกทั้งมีมิตรสหายทางธุรกิจที่เป็นคนไทยหลายคน ผู้ถือหุ้นจึงเลือกหล่อนไปเปิดตลาดในตำแหน่งผู้จัดการสาขาคนใหม่ วนันต์ ได้ขอร้องให้ลูกสาวพาเขากลับเมืองไทยด้วย
      
เจติยา ยังคงทำงานในห้องแต่งศพเพราะขาดบุคลากรด้านนี้ อีกทั้งยังแบ่งเวลาไปช่วยงานแผนกอื่นตามคำขอร้องของ ลาภิณ(พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล) ความรักของทั้งคู่อยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน จึงสวีตหวานเป็นที่อิจฉาสำหรับพนักงานสาวๆ ทั้งบริษัท เจติยายังช่วยคลี่คลายคดีให้ ผู้กองนวัช(เอกพงศ์ จงเกษกรณ์) อยู่ นวัชก็ยังคงคบหากับ นิษฐา(แจ็คกี้ ชาเคอรีน)เหมือนเดิม แต่นิษฐาก็ยังไม่ใจอ่อนยอมแต่งงานด้วย เพราะเธอต้องการเรียนปริญญาโทต่อให้จบตามความตั้งใจซะก่อน แต่ก็ไม่วายแอบหึงแอบงอนผู้กองหนุ่มอยู่ตลอดเพราะระยะหลังเสน่ห์แรงมีสาวๆ มาติดพันเยอะ มีเรื่องมาเม้าธ์มาปรึกษากับเจติยาอยู่เนืองๆ
      
เจติยาทำงานตามคำเรียกร้องจากศพด้วยความสุขใจโดยไม่มีการเรียกร้องข้อตอบแทนอะไร เจติยาเองก็มีความสุขกับการช่วยวิญญาณจนบางครั้งเริ่มมีเวลาให้ลาภิณน้อยลง ทั้งคู่ก็เริ่มมีความน้อยใจกันบ้าง แต่ก็กระเง้ากระงอดประสาคนรักกัน แต่กระนั้นเรื่องเล็กๆ นี้ก็เป็นบ่อเกิดของปัญหาใหญ่ในชีวิตคู่ที่จะตามมา
      
ธุรกิจของลาภิณก็เจริญรุ่งเรืองมากขึ้นเรื่อยๆ ลุงทวี(ญาณี ปราโมท) กับโอ้เอ้(จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม) ก็ยังคงช่วยงานบริษัทอยู่เหมือนเดิม แถมเจติยายังดึงนทีเข้ามาหัดทำงานในห้องแต่งศพเพื่อฝึกนิสัยและหารายได้พิเศษอีกด้วย ลุงทวีช่วยเหลือและให้คำแนะนำเป็นอย่างดี ช่วงนี้นทีเองก็กำลังพบรักกับสาวสก๊อยสวยเปรี้ยวนางหนึ่ง ซึ่งเจติยาและแม่ไม่ชอบเอามากๆ
      
ชาคร(วริษฐ์ ทิพโกมุท) คือผู้ประสานงานการตั้งบริษัทสาขาใหม่ในเมืองไทยให้ พิมพ์อร(วิริฒิภา แย้มนาม) ชาครมีความหลังและหนี้ บุญคุณเกื้อหนุนกันมากับครอบครัวของวนันต์ หลายปีก่อนชาครพักอยู่กับแม่ที่สิงคโปร์ซึ่งทำงานเป็นแม่บ้านให้ครอบครัวคนสิงคโปร์ ต่อมาแม่ป่วยหนักจึงถูกเลิกจ้างและเตรียมส่งกลับไทย เขาต้องการหาเงินช่วยรักษาแม่ จึงเข้าร่วมปล้นเงินของวนันต์ที่เพิ่งเบิกจากธนาคารและเอากลับบริษัท จึงถูกชิงเงินตรงที่จอดรถของตึก คนเห็นการปล้นรีบแจ้งสายด่วน ตำรวจจึงเข้าจับโจร ชาครถูกยิงบาดเจ็บและถูกโจรทิ้งไว้ วนันต์รับทราบปัญหาของเขาจึงเห็นใจและช่วยด้านคดีจนเขารับโทษเนรเทศกลับไทยพร้อมแม่ เขาให้เงินช่วยเหลือดูแลครอบครัวชาครและส่งเสียให้เขาได้เรียนหนังสือในไทย เมื่อรู้ว่าพิมพ์อรจะมาทำงานที่ไทย จึงให้ชาครเป็นคนประสานงานและคอยดูแลหล่อนด้วย ชาครมีโอกาสพบวนันต์และพิมพ์อรเป็นระยะ เขาแอบหลงรักพิมพ์อรและให้ความภักดีต่อวนันต์และลูกสาวอย่างไร้เงื่อนไข
      
พิมพ์อรกับชาคร ซึ่งตอนนี้เป็นเลขาส่วนตัว ไปที่บริษัทนิราลัยเพื่อเจรจารับงานสร้างอาคารใหม่กับลาภิณ อีกทั้งขอพบ ลุงทวี อันสร้างความแปลกใจแก่ชายแก่มาก ที่พิมพ์อรลูกสาวของวนันต์กลับมาร่ำรวยยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง .. พิมพ์อรขอร้องให้ลุงทวีไปพบกับบิดาของหล่อนแล้วจะหายสงสัยเอง
      
ลาภิณและพิมพ์อร วัยเด็กไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอกันด้วยวัยต่างกันมาก และต่างคนก็เปลี่ยนไปเยอะ แถมพอพ่อทั้งคู่ผิดใจกัน ก็ไม่เคยได้พบเจอกันอีกเลย ชาครไม่สบายใจที่เห็นเจ้านายสาวมีความพึงพอใจให้ลาภิณที่รวยและมีความสามารถในงานบริหารธุรกิจเหมือนหล่อน พูดง่ายๆ คือแอบหึงหวงแต่ก็ไม่กล้าแสดงความรู้สึกอะไร ได้แต่เจียมตัว
      
เหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเมื่อสาวสก๊อยที่นทีหลงรัก ตามจีบ และหวังช่วยให้เธอกลับใจจากการหลงแก๊งซิ่งรถ เสียชีวิตอย่างปริศนา สร้างความเสียใจมากแก่นที เจติยาช่วยคลี่คลายคดีและจับคนร้ายได้ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เจติยาได้เหรียญที่มีรูปภาพคุ้นตาไว้ในครอบครองจากศพสก๊อยสาวที่ได้เหรียญประหลาด (ซึ่งเหรียญมีหน้าตาแบบเดียวกับที่วนันต์มี) จากแม่ซึ่งเก็บมันจากถังขยะระหว่างเป็นแม่บ้านของบริษัทแห่งหนึ่ง
      
การสืบหาคดีต่างๆ ร่วมกับผู้กองนวัชอย่างสม่ำเสมอทำให้เจติยาไม่ได้สนใจความเปลี่ยนแปลงของเหรียญรากบุญ ซึ่งได้มาสีดำ พออยู่กับเจติยาก็มีสีอ่อนลงเรื่อยๆ พอลุงทวีได้เห็นเหรียญก็มีความสงสัย ว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก
      
เวลาเดียวกันพิมพ์อรกับลาภิณเริ่มสนใจการลงทุนอื่นที่เพื่อนนักธุรกิจแนะนำทั้งสอง จึงมีการพบปะแลกเปลี่ยนความเห็นและเรียนรู้ธุรกิจที่อยากลงทุนเพิ่มเติม พิมพ์อรยิ่งเพิ่มความชื่นชมความเป็นสุภาพบุรุษและความฉลาดของลาภิณขึ้นซึ่งช่วยเติมเต็มจิตโหยหาของหล่อน แม้หล่อนจะรู้ว่าเจติยาเป็นภรรยาของเขาก็ตาม หล่อนเลือกใช้ความสนใจการลงทุนและงานก่อสร้างตึกใหม่เพื่อสร้างความสนิทสนมกับลาภิณ
      
พิมพ์อรต้องการสร้างชื่อเสียงในสังคมไทยจึงบริจาคเงินก้อนใหญ่ให้งานกุศลที่ลาภิณเป็นกรรมการหาทุนอยู่ จึงกลายเป็นข่าวใหญ่ จากนั้นก็ใช้ชื่อเสียงนี้เข้าหาผู้ใหญ่เพื่อวิ่งเต้นหางานก่อสร้างเข้าบริษัทต่อเนื่อง หล่อนใช้โครงการก่อสร้างอาคารใหม่ของนิราลัยเป็นผลงานไปสู่งานชิ้นใหญ่ การจ่ายเงินแกล้งแพ้พนันในสนามกอล์ฟแก่ผู้ใหญ่แลกกับงานก่อสร้างขนาดใหญ่ของภาครัฐ ทำให้หล่อนสามารถเข้าถึงผู้ใหญ่ทุกระดับ บริษัทของพิมพ์อรจึงมีชื่อเสียงด้วยเวลารวดเร็ว เมื่อคู่แข่งพูดปรามาสหล่อน ก็จะพบจุดจบชีวิตอย่างไม่คาดคิด ทำให้หล่อนได้งานชิ้นที่ต้องการอย่างง่ายดาย จนลือกันว่าหล่อนอยู่เบื้องหลังความตายปริศนาของคู่แข่ง แต่ไร้หลักฐาน ผู้กองนวัชได้รับการร้องเรียนจากครอบครัวผู้ตายเป็นระยะ แต่ยังหาหลักฐานดำเนินคดีกับพิมพ์อรไม่ได้ ส่วนชาครยังคงทำหน้าที่ติดต่อเชื่อมโยงคำสั่งของหล่อนให้ประสบความสำเร็จเพื่อกำจัดศัตรูของพิมพ์อร
      
นางมยุรี(ชนานา นุตาคม) ป่วยเป็นอัมพาตด้วยโรคหลอดเลือดสมองแตก เจติยารับหน้าที่ดูแลแม่สลับกับนที ลาภิณจ้างพยาบาลมาช่วยดูแลแทน เจติยายอมรับความช่วยเหลือช่วงกลางวันและวันที่ไม่ต้องเข้าเวรกลางคืนในห้องแต่งศพ ทุกคืนหล่อนจะดูแลแม่ด้วยตัวเองจากคำพูดที่ทุกคนฟังแล้วอึ้งว่า แม่ดูแลหล่อนกับน้องชายด้วยสองมือ หล่อนกับนทีเป็นลูกต้องดูแลแม่คนเดียวได้ นี่จะเป็นการตอบแทนบุญคุณของลูก วันหนึ่งนางมยุรีเกิดอาการหัวใจวายกะทันหัน นทีรีบแจ้งให้พี่สาว เจติยากังวลใจเมื่อรับแจ้งให้ไปดูใจของผู้เป็นแม่ที่โรงพยาบาลเป็นครั้งสุดท้าย
      
ลุงทวีตามเจติยาไปที่โรงพยาบาลด้วย เมื่อเห็นสองพี่น้องร่ำไห้หนักกับการใกล้สูญเสียมารดาหลังจากแพทย์เตือนล่วงหน้าแล้ว ลุงทวีเอ่ยถึงเหรียญประหลาดที่หล่อนได้รับจากศพสาวสก๊อยว่าตนจำได้ว่าเป็นเหรียญที่แปะประดับอยู่ที่กล่องรากบุญตอนอยู่กับตนมี แต่ตอนอยู่กับคุณสารัชและเจติยามันหายไปแล้ว ทวีคิดว่าเหรียญอาจจะมีอิทธิฤทธิ์คล้ายกล่องรากบุญก็ได้ ให้เจติยาลองขอพรให้มยุรีหาย เจติยารับรู้ด้วยความประหลาดใจ แต่หล่อนปฏิเสธว่าไม่ต้องการเป็นทาสกิเลส นี่เป็นวัฏสังขารของมนุษย์ ถ้าแม่รู้ ก็ต้องเห็นด้วยกับการที่ลูกไม่ถูกบังคับให้ทำงานแลกชีวิตแม่ ..ลาภิณ ผู้กองนวัช นิษฐา รีบไปเยี่ยมปลอบใจเจติยากับนทีในการเสียแม่ครั้งนี้
      
ภวังค์หลับของเจติยาก็ได้พบกับยมทูตที่เตือนให้รักษาเหรียญประหลาดไว้และใช้มันเพื่อเรียกหาอีกสองเหรียญที่แตกกระจายหายไปจากกล่องรากบุญ รวมทั้งอธิบายถึงขอบเขตพลังของเหรียญดังกล่าว มัจจุราชต้องการให้เจติยาทำลายเหรียญเพราะเป็นผู้ที่มีจิตบริสุทธิ์ พร้อมกับบอกวิธีทำลายมัน เมื่อตื่นขึ้นมาหล่อนสังเกตเห็นสีดำบนเหรียญจางลงกว่าครั้งแรกที่ได้รับมันอันเป็นไปตามคำบอกของยมทูต หล่อนรู้เพียงว่าอีกสองเหรียญจะตามล่าหาหล่อนแน่เพื่อสร้างกล่องรากบุญใบใหม่
      
เวลาเดียวกันพิมพ์อรเพิ่งได้ยินเสียงของ กสิณ(ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์) ซึ่งเป็นผู้ชี้ทางชีวิตให้หล่อนมานานแล้ว เขาอยู่ในห้องที่ห้ามทุกคนเข้าไปข้างใน จึงไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ในนั้น แม้แต่ชาคร เขาเล่าสรุปว่า หล่อนช่วยสะสมพลังงานให้เขาคงรูปร่างนี้และพัฒนาจนมีเสียงพูดคุยกันได้ แทนที่จะเขียนอักษรบนกระจกอย่างที่ผ่านมา แรงปรารถนาของพิมพ์อรสร้างสีดำบนเหรียญและเป็นพลังงานของเขา ยิ่งมีพลังมากขึ้น เขาก็ช่วยหล่อนได้มากขึ้น จะไม่ใช่เพียงแค่บันดาลเรื่องเงินทองเท่านั้น เขาเตือนว่าเหรียญไม่มีพลังพอจะช่วยให้พ่อของหล่อนมีชีวิตใหม่ได้ เรื่องใหญ่ขนาดนี้จำเป็นต้องใช้กล่องรากบุญ เวลาของวนันต์เหลือน้อยเต็มที หล่อนต้องเร่งหาเหรียญอีกสองอันให้เจอ เขาสัมผัสพลังเหรียญอันหนึ่งอยู่ไม่ห่างหล่อนนัก แต่ยังไม่มีพลังมากพอจะมองเห็นที่ซ่อนของมัน พิมพ์อรรับปากสืบเสาะหามันโดยเร็วเพื่อให้กำเนิดกล่องรากบุญขึ้นมาอีกครั้ง

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่