สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
เทพกรีกคือตัวแทนของ"ธรรมชาติ" การแสดงออกที่"ธรรมชาติที่สุด"คือเรื่องเพศสัมพันธ์ เพราะชีวิตคือการสืบเชื้อสาย มโนทัศนะของกรีกว่าด้วย"ความเป็นอารยะ"จึงมักแสดงออกถึงสิ่งที่"ขัดธรรมชาติ" การเสพย์สมระหว่างผู้ชายด้วยกันไม่สามารถสร้างทายาทได้ ดังนั้นจึงเป็นการขัดธรรมชาติ แสดงถึง"ความเป็นอารยะอันยิ่งใหญ่"
อีกทั้งเทพกรีกมีความเป็นมนุษย์สูงเนื่องจาก"แนวคิดมนุษย์นิยม"ของกรีกที่มองว่า"มนุษย์เท่าเทียม(เสมือน)กับเทพเจ้า ต่างกันที่พลังอำนาจเท่านั้น" ดังนั้นเทพเจ้าในหลายๆแง่จึงเป็นแค่"มนุษย์ที่มีพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่"มากกว่า"ตัวแทนแห่งความดีหรือกฏแห่งจักรวาล" แต่ในบางตำราจะอธิบายเทพเจ้ากรีกในเชิงตรรกศาสตร์อยู่ แต่ผมจำไม่ได้แล้วว่ามันว่ายังไงบ้าง
จริงๆตำนานโบราณหรือพื้นบ้านเกือบทุกเรื่องในโลกนี้มีลักษณะของความ"โหดร้าย"สูงมากครับ เพราะนิทานหรือตำนานพวกนี้มักเล่าให้"ผู้ใหญ่"ฟัง ดังนั้นมันจึงมีองค์ประกอบ18+ตามมาตราฐานสมัยนี้ แต่ในสมัยก่อนของพวกนี้(ความโหดร้ายของชีวิต)เป็นสิ่งที่พบได้ในคนทุกเพศทุกวัย ดังนั้นการเล่าเรื่องที่"โลกสวย"ตามนิยามปัจจุบันจึงไม่ถูกจริตหรือมโนทัศน์คนสมัยก่อน พูดง่ายๆคือไม่สมจริงนั่นละ
ถ้าย้อนกลับไปดูตำนานโบราณนี่ก็เรื่องSexเยอะแยะ รามเกียรติ์นี่ก็ใช่ย่อย Sexทั้งเรื่อง เทพเจ้าฮินดูก็มีSexออกจะบ่อย ในโคจิกิ(ตำนานกำเนิดญี่ปุ่น) เทพบิดรและเทพมารดรก็ซั่มกันจนเกิดโลก ตำนานแถบเมโสโปเตเมียก็มีเรื่องSexเยอะแยะ ไบเบิ้ลที่ว่าแน่ๆก็มีแต่เรื่องSex แถมแต่ละครั้งนี่สร้างแต่ปัญหาทั้งนั้น ไม่เชื่อถามโซโลม่อนได้
อีกทั้งเทพกรีกมีความเป็นมนุษย์สูงเนื่องจาก"แนวคิดมนุษย์นิยม"ของกรีกที่มองว่า"มนุษย์เท่าเทียม(เสมือน)กับเทพเจ้า ต่างกันที่พลังอำนาจเท่านั้น" ดังนั้นเทพเจ้าในหลายๆแง่จึงเป็นแค่"มนุษย์ที่มีพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่"มากกว่า"ตัวแทนแห่งความดีหรือกฏแห่งจักรวาล" แต่ในบางตำราจะอธิบายเทพเจ้ากรีกในเชิงตรรกศาสตร์อยู่ แต่ผมจำไม่ได้แล้วว่ามันว่ายังไงบ้าง
จริงๆตำนานโบราณหรือพื้นบ้านเกือบทุกเรื่องในโลกนี้มีลักษณะของความ"โหดร้าย"สูงมากครับ เพราะนิทานหรือตำนานพวกนี้มักเล่าให้"ผู้ใหญ่"ฟัง ดังนั้นมันจึงมีองค์ประกอบ18+ตามมาตราฐานสมัยนี้ แต่ในสมัยก่อนของพวกนี้(ความโหดร้ายของชีวิต)เป็นสิ่งที่พบได้ในคนทุกเพศทุกวัย ดังนั้นการเล่าเรื่องที่"โลกสวย"ตามนิยามปัจจุบันจึงไม่ถูกจริตหรือมโนทัศน์คนสมัยก่อน พูดง่ายๆคือไม่สมจริงนั่นละ
ถ้าย้อนกลับไปดูตำนานโบราณนี่ก็เรื่องSexเยอะแยะ รามเกียรติ์นี่ก็ใช่ย่อย Sexทั้งเรื่อง เทพเจ้าฮินดูก็มีSexออกจะบ่อย ในโคจิกิ(ตำนานกำเนิดญี่ปุ่น) เทพบิดรและเทพมารดรก็ซั่มกันจนเกิดโลก ตำนานแถบเมโสโปเตเมียก็มีเรื่องSexเยอะแยะ ไบเบิ้ลที่ว่าแน่ๆก็มีแต่เรื่องSex แถมแต่ละครั้งนี่สร้างแต่ปัญหาทั้งนั้น ไม่เชื่อถามโซโลม่อนได้
ความคิดเห็นที่ 12
โพสตอบคห.11
แล้วคุณยังโง่หรือฉลาดอยู่ครับ แหม่ ขึ้นต้นมาก็ผิดเต็มประตูแล้ว
1. ความ"วิปริต"วัดจากอะไร ค่านิยมของแต่ละวัฒนธรรมมันต่างกันอยู่แล้ว คนสมัยก่อนก็บอกได้เช่นกันว่าคนสมัยนี้"วิปริต"เพราะต่างจากตน ดังนั้นค่านิยมของแต่ละยุคสมัยหรือวัฒนธรรมจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรใช้"กรอบ"ของคนปัจจุบันมอง
2. เรื่องรักร่วมเพศนี้ไม่เคยมีหลักฐานถึงที่มาอย่างที่คุณว่าเลยนะว่า"เป็นที่นิยมเพราะผู้ปกครองชอบ" (แต่อาจจะยกเว้นธีปไว้รัฐหนึ่งเพราะนโยบายการทหาร) ค่านิยมกรีก(เอเธนส์)เรื่องชายรักชายนั้นเกิดจาก"นิยามความเป็นอารยะ"ของกรีก นั่นคือ"ทุกสิ่งที่ฝืนธรรมชาติ" ดังนั้นชายรักชายจึงเป็นสุดยอดแห่งความเป็นอารยะเลยละ เพราะไม่ก่อให้เกิดลูกหลานตาม"เป้าประสงค์ของธรรมชาติ" และสมัยที่กรีก(เอเธนส์)มีแนวคิดนี้นั้นก็เป็นยุคที่เอเธนส์เป็นประชาธิปไตยแบบสุดๆแล้วด้วย ไม่มีผู้ปกครองมาสั่งใครได้หรอก(ในความหมายโดยรวมนะ)
3. คนกรีกไม่ได้"ซั่มเด็กชาย"ในความหมายปัจจุบัน ที่พวกเขาทำคือ"ซั่มโคนขา"เท่านั้น ความเข้าใจผิดว่าคนกรีกซั่มเด็กแบบSexual Intercourseนั้นเป็นความเข้าใจสมัยใหม่ที่สื่อสารกันผิดพลาด แต่โดยพื้นฐานแล้วคนกรีกถือว่านั่นคือSexual Intercourseแบบหนึ่งก็เถอะ
ผมไม่มีปัญหากับการมองต่างมุมถ้า"ข้อมูลนั้นถูกต้อง" แต่การมโนแบบไม่มีที่มาที่ไปแบบนี้มันไร้สาระมาก ด่ากราดไม่พอ แถมยังอวดรู้แบบว่าต้อง"โง่ก่อนแล้วฉลาด"ทั้งๆที่ข้อมูลของตัวเองนี่ผิดเต็มประตูตั้งแต่ต้นจนจบ อ่านแล้วเพลีย
ปล. ข้อมูลเสริมเรื่องชายรักชายของเอเธนส์จากเพจคุณเชษฐา ไปอ่านเอาเองละกัน
ปล2. โฮเมอร์ กวีเอกแห่งกรีกนั้นเป็นแค่นักเล่นนิทานไส้แห้งครับ ไม่ใช่นักบวชวิหารใด แต่เทพปกรณัมกรีกนี่แทบจะอ้างจากเฮียแกหมดเลยนะ
ปล3. เสริมนิดนึก เรื่องแกนิมิดกับซุสนั่นลองไปอ่านข้อ2กะ3ดูแล้วจะรู้ว่ามันเป็นคนละเรื่องกัน ในสมัยก่อนชาวกรีกก็มีเมียกันทุกคน แต่ก็ยังไปเข้าSymposiumกันเสมอๆ มันต่างจากการมีชู้แบบที่เราเข้าใจ และเป็นเรื่องปรกติในสมัยนั้น เหมือนกับการมีเนียหลายคนในสมัยก่อนนั่นละ
https://www.facebook.com/pongsorn.bhumiwat/photos/pb.609007899175923.-2207520000.1403276176./646932255383487/?type=3&src=https%3A%2F%2Ffbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net%2Fhphotos-ak-xpf1%2Ft1.0-9%2F10363716_646932255383487_8743668791690632774_n.jpg&size=800%2C254&fbid=646932255383487
https://www.facebook.com/pongsorn.bhumiwat/photos/pb.609007899175923.-2207520000.1403276176./647054355371277/?type=3&src=https%3A%2F%2Ffbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net%2Fhphotos-ak-xaf1%2Ft1.0-9%2F10363525_647054355371277_1940608099803004281_n.jpg&size=436%2C435&fbid=647054355371277
https://www.facebook.com/pongsorn.bhumiwat/photos/a.650224508387595.1073741834.609007899175923/660957820647597/?type=3&src=https%3A%2F%2Ffbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net%2Fhphotos-ak-xap1%2Ft1.0-9%2F10456016_660957820647597_694757726423184919_n.jpg&size=408%2C800&fbid=660957820647597
https://www.facebook.com/pongsorn.bhumiwat/photos/a.650224508387595.1073741834.609007899175923/643175972425782/?type=3&src=https%3A%2F%2Ffbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net%2Fhphotos-ak-xfp1%2Ft1.0-9%2F10313377_643175972425782_1757750845501177426_n.jpg&size=282%2C330&fbid=643175972425782
https://www.facebook.com/pongsorn.bhumiwat/photos/pb.609007899175923.-2207520000.1403276129./660966410646738/?type=3&src=https%3A%2F%2Ffbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net%2Fhphotos-ak-xpf1%2Ft1.0-9%2F10277655_660966410646738_8751706964910181083_n.png&size=292%2C424&fbid=660966410646738
แล้วคุณยังโง่หรือฉลาดอยู่ครับ แหม่ ขึ้นต้นมาก็ผิดเต็มประตูแล้ว
1. ความ"วิปริต"วัดจากอะไร ค่านิยมของแต่ละวัฒนธรรมมันต่างกันอยู่แล้ว คนสมัยก่อนก็บอกได้เช่นกันว่าคนสมัยนี้"วิปริต"เพราะต่างจากตน ดังนั้นค่านิยมของแต่ละยุคสมัยหรือวัฒนธรรมจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรใช้"กรอบ"ของคนปัจจุบันมอง
2. เรื่องรักร่วมเพศนี้ไม่เคยมีหลักฐานถึงที่มาอย่างที่คุณว่าเลยนะว่า"เป็นที่นิยมเพราะผู้ปกครองชอบ" (แต่อาจจะยกเว้นธีปไว้รัฐหนึ่งเพราะนโยบายการทหาร) ค่านิยมกรีก(เอเธนส์)เรื่องชายรักชายนั้นเกิดจาก"นิยามความเป็นอารยะ"ของกรีก นั่นคือ"ทุกสิ่งที่ฝืนธรรมชาติ" ดังนั้นชายรักชายจึงเป็นสุดยอดแห่งความเป็นอารยะเลยละ เพราะไม่ก่อให้เกิดลูกหลานตาม"เป้าประสงค์ของธรรมชาติ" และสมัยที่กรีก(เอเธนส์)มีแนวคิดนี้นั้นก็เป็นยุคที่เอเธนส์เป็นประชาธิปไตยแบบสุดๆแล้วด้วย ไม่มีผู้ปกครองมาสั่งใครได้หรอก(ในความหมายโดยรวมนะ)
3. คนกรีกไม่ได้"ซั่มเด็กชาย"ในความหมายปัจจุบัน ที่พวกเขาทำคือ"ซั่มโคนขา"เท่านั้น ความเข้าใจผิดว่าคนกรีกซั่มเด็กแบบSexual Intercourseนั้นเป็นความเข้าใจสมัยใหม่ที่สื่อสารกันผิดพลาด แต่โดยพื้นฐานแล้วคนกรีกถือว่านั่นคือSexual Intercourseแบบหนึ่งก็เถอะ
ผมไม่มีปัญหากับการมองต่างมุมถ้า"ข้อมูลนั้นถูกต้อง" แต่การมโนแบบไม่มีที่มาที่ไปแบบนี้มันไร้สาระมาก ด่ากราดไม่พอ แถมยังอวดรู้แบบว่าต้อง"โง่ก่อนแล้วฉลาด"ทั้งๆที่ข้อมูลของตัวเองนี่ผิดเต็มประตูตั้งแต่ต้นจนจบ อ่านแล้วเพลีย
ปล. ข้อมูลเสริมเรื่องชายรักชายของเอเธนส์จากเพจคุณเชษฐา ไปอ่านเอาเองละกัน
ปล2. โฮเมอร์ กวีเอกแห่งกรีกนั้นเป็นแค่นักเล่นนิทานไส้แห้งครับ ไม่ใช่นักบวชวิหารใด แต่เทพปกรณัมกรีกนี่แทบจะอ้างจากเฮียแกหมดเลยนะ
ปล3. เสริมนิดนึก เรื่องแกนิมิดกับซุสนั่นลองไปอ่านข้อ2กะ3ดูแล้วจะรู้ว่ามันเป็นคนละเรื่องกัน ในสมัยก่อนชาวกรีกก็มีเมียกันทุกคน แต่ก็ยังไปเข้าSymposiumกันเสมอๆ มันต่างจากการมีชู้แบบที่เราเข้าใจ และเป็นเรื่องปรกติในสมัยนั้น เหมือนกับการมีเนียหลายคนในสมัยก่อนนั่นละ
https://www.facebook.com/pongsorn.bhumiwat/photos/pb.609007899175923.-2207520000.1403276176./646932255383487/?type=3&src=https%3A%2F%2Ffbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net%2Fhphotos-ak-xpf1%2Ft1.0-9%2F10363716_646932255383487_8743668791690632774_n.jpg&size=800%2C254&fbid=646932255383487
https://www.facebook.com/pongsorn.bhumiwat/photos/pb.609007899175923.-2207520000.1403276176./647054355371277/?type=3&src=https%3A%2F%2Ffbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net%2Fhphotos-ak-xaf1%2Ft1.0-9%2F10363525_647054355371277_1940608099803004281_n.jpg&size=436%2C435&fbid=647054355371277
https://www.facebook.com/pongsorn.bhumiwat/photos/a.650224508387595.1073741834.609007899175923/660957820647597/?type=3&src=https%3A%2F%2Ffbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net%2Fhphotos-ak-xap1%2Ft1.0-9%2F10456016_660957820647597_694757726423184919_n.jpg&size=408%2C800&fbid=660957820647597
https://www.facebook.com/pongsorn.bhumiwat/photos/a.650224508387595.1073741834.609007899175923/643175972425782/?type=3&src=https%3A%2F%2Ffbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net%2Fhphotos-ak-xfp1%2Ft1.0-9%2F10313377_643175972425782_1757750845501177426_n.jpg&size=282%2C330&fbid=643175972425782
https://www.facebook.com/pongsorn.bhumiwat/photos/pb.609007899175923.-2207520000.1403276129./660966410646738/?type=3&src=https%3A%2F%2Ffbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net%2Fhphotos-ak-xpf1%2Ft1.0-9%2F10277655_660966410646738_8751706964910181083_n.png&size=292%2C424&fbid=660966410646738
แสดงความคิดเห็น
ในตํารา เรื่องเล่า ทําไมพวกเทพกรีก ถึงหมกมุ่นแต่เรื่องเพศเป็นส่วนมากครับ ???
เค้าแต่งมาเพื่อแสดงจิตใจด้านมืดของมนุษย์เหรอครับ