แฟนมีคนมาขอแต่งงาน

ไม่รู้จะเริ่มยังไง เดือนนี้ทั้งเดือนเจอแต่เรื่องแย่ๆ ทางการเงิน แต่ก็ไม่ได้กระเทือนอะไรมาก แต่รายการนี้พาเครียดสุด
ผมคบกับแฟนมาได้ 2 ปีกว่า ทางพ่อแม่ฝ่ายหญิงก็รู้จักผม แต่ผมเป็นพุทธ แฟนเป็นอิสลาม
เมื่อ 2-3 วันก่อน แฟนมาบอกว่ามีผู้ชายมาขอแต่งงาน ผมยังคิดว่าแค่ขำๆ แม่ของแฟนก็บอกแค่ว่าแล้วแต่แฟนผม
แน่นอนแฟนผมไม่ตกลงแบบไม่ต้องลังเล
วันต่อมา ฝ่ายชายโทรมาหาแฟนผมบอกได้เบอร์มาจากแม่แฟน แฟนผมไม่คุยด้วย แม่แฟนเลยบอกคุยๆไป เกรงใจยาย เพราะผู้ชายมาติดต่อกับยาย??
ผมงง? มาขอจากยาย เลยต้องเกรงใจยาย ...ผมมั่นใจในแฟนผมเลยไม่ได้ซีเรียสอะไร
..จนวันนี้ เต็มๆเลย แม่แฟนบังคับว่าห้ามบอกว่ามีแฟนแล้ว แล้วให้คบกับไอ้คนนี้ เมื่อกี้นี้เลย....

ตอนนี้รอแฟนมาเจอกัน จะสรุปว่าจะเอาไงดี แล้วไอ้ผู้ชายคนนี้มันเป็นใคร หน้าก็ไม่เคยเห็น มีลูกติดอีก
...ยอมยกลูกให้คนที่อายุรุ่นพ่อ แถมมีลูกติดเนี่ยนะ ...เหตุผลเดียวตอนนี้ที่คิดได้คือเพราะผมอาจไม่ใช่อิสลามเขาเลยไม่ชอบ
ฐานะทางการเงินผมสามารถเลี้ยงลูกเขาได้สบาย ไม่ได้รวยอะไร แต่มากพอแน่นอน แล้วมันจะมีอะไรอีกล่ะ

แล้วคือต้องยังไง แฟนผมเป็นคนกระบี่ แต่ตอนนี้อยู่ภูเก็ต ผมก็อยู่ภูเก็ต  กำลังเรียนปี3  สภาพนี้ถ้ากลับบ้านผมว่าเราไม่ได้เจอกันอีกแน่

เห้อ ....

เพิ่มเติมครับ ผมอายุ 27 เรียนจบแล้ว ส่งตัวเองเรียนจนจบ ไม่ได้พึ่งที่บ้านครับ ที่บ้านฐานะปานกลาง ตอนนี้เป็นเจ้าของบริษัทเล็กแห่งหนึ่งในภูเก็ตครับ ส่วนแฟนผม อายุ24 แต่ยังเรียนเพราะดรอปไปครับ

ส่วนเรื่องศาสนาผมยินดีเปลี่ยนนะ เพราะผมไม่ได้ซีเรียสอะไร แต่ทางแม่แฟนเคยบอกว่าให้รอลูกเขาเรียนจบก่อน แล้วนี่อะไร??
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 15
อยู่ที่ตัวแฟนของคุณคนเดียวครับ  ที่จะต้องตัดสินใจ และเธอต้องไม่นิ่งเงียบครับ เพราะถ้านิ่งเงียบถือว่าตกลง
---------------------------------- พิจารณาจากกระทู้นี้นะครับ ความเห็นที่4ของคุณมิสลันตา
http://ppantip.com/topic/32218069

ศาสนาอิสลามสอนเรื่องการแต่งงานไว้ว่า หากมีบุคคลหนึ่งมาสู่ขอสตรีท่านหนึ่ง ศาสนาก็ระบุว่าให้ผู้ปกครองของนางสอบถามถึงความพอใจว่าจะตกลงที่รับการสู่ขอนั้นหรือไม่? หากนางตกลงก็กำหนดการแต่งงานกันไป แต่ถ้านางไม่ตกลง ผู้ปกครองของนางก็ไม่มีสิทธิ์จะบังคับให้นางแต่งงานกับผู้ที่มาสู่ขอนางได้นั่นเอง

ดั่งหลักฐานจากท่านอิบนุอับบาส (ชื่อของเศาะหาบะฮฺ, อ่านว่า เซ๊าะ-ฮา-บ๊ะฮฺ) เล่าว่า แท้จริงท่านนบีมุหัมมัด   กล่าวว่า “หญิงหม้าย (สตรีที่ผ่านการแต่งงานมาแล้ว) ตัวของนางมีสิทธิมากกว่าผู้ปกครอง (วะลีย์) ของนาง และสตรีที่ยังไม่เคยผ่านการแต่งงาน นางจะต้องถูกขออนุญาตเสียก่อน ซึ่งการอนุญาต (หมายถึง การตอบรับการแต่งงาน) ของนาง คือการนิ่งของนาง” (บันทึกโดยมุสลิม ลำดับหะดีษที่  2545)  



จากหลักฐานข้างต้นเป็นข้อบ่งชี้ได้ว่า ศาสนาอิสลามไม่อนุญาตให้บังคับผู้หญิงแต่งงานโดยเด็ดขาด การแต่งงานต้องถามความสมัครใจของผู้หญิงด้วย มิเช่นนั้นจะถือว่าเป็นการบีบบังคับ หรือเป็นการกดขี่ผู้หญิงอย่างไม่ต้องสงสัย  อนึ่ง สมมติว่าสตรีมุสลิมท่านหนึ่งถูกผู้ปกครอง (วะลีย์) ของนางบังคับให้แต่งงาน ศาสนาก็ยังระบุว่านางมีสิทธิ์ที่จะยกเลิกการแต่งงานในครั้งนั้นได้เช่นกัน


  ดั่งหลักฐานที่ท่านอิบนุอับบาสเล่าว่า “แท้จริงมีหญิงสาวท่านหนึ่งมาท่านนบีมุหัมมัด    พลางกล่าวว่า อันที่จริงพ่อของนางจัดการแต่งงานให้แก่นาง ในสภาพที่นางไม่พอใจ (ในตัวเจ้าบ่าว) ท่านนบีจึงใช้ให้นางเลือก (ว่าจะยกเลิกการแต่งงานครั้งนั้นให้เป็นโมฆะได้)” (บันทึกโดยอบูดาวูด ลำดับหะดีษที่ 1794)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่