สวัสดีครับ เพื่อนๆชาว Pantip
ผมติดตามห้องบลูแพลนเน็ตมานานแล้ว แต่ก็ไม่เคยทำ review อะไรจริงๆจังๆสักที
ช่วงนี้ว่างเลยจะมา review การไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา
เริ่มต้นกระทู้แรกจะเป็นการแนะนำเก็บเครื่องเล่น ใน disneyland
เพราะ ผมเชื่อว่าใครที่จะวางแผนไปเที่ยวที่นี่ (Tokyo Disneyland) ต้องการหาวิธีเก็บเครื่องเล่นเหมือนกัน
ผมเลยขอมาเป็นตัวช่วยละกันครับ แต่ผมต้องออกตัวก่อนว่า ผมเก็บไม่ครบทั้งหมดนะครับ แต่ก็ขาดแค่ไม่กี่เครื่อง พยายามอย่างเต็มที่ !!!
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เริ่มด้วยการวางแผนวันที่เราจะไป โดยผมศึกษาข้อมูลจาก pantip :
http://topicstock.ppantip.com/blueplanet/topicstock/2010/10/E9815785/E9815785.html
ในกระทู้นี้จะแนะนำการเลือกวันที่จะไปครับ โดยวันที่ผมไป คือ 22 April ซึ่งในเว็บพยากรณ์บอกว่า คนน้อยและมีฝนตก (มีฝนตกจริงครับ แต่คนก็แอบเยอะอยู่เหมือนกันแต่ไม่มาก)
หลังจากได้วันแล้ว ผมก็จองบัตรผ่าน :
http://www.tokyodisneyresort.jp/en/ticket/index.html
โดยเขาจะหักผ่านบัตรเครดิต เมื่อเราจ่ายเงินแล้ว เราจะต้อง print ตั๋วขนาด A4 สำหรับเข้าไปใช้บริการ ไม่ต้องกังวลว่า จะเป็นขาวดำ หรือ สี เพราะมันสำคัญอยู่ตรง QR-code เท่านั้นครับ โดย QR-code ตรงตั๋วจะเอาไปสแกนตรงทางเข้า และสแกนเพื่อจอง Fast Pass (พับตั๋วได้นะครับ แต่อย่าให้โดย QR-code)
และเพื่อให้เห็นภาพในการไล่เครื่องเล่น แนะนำให้ไปโหลด Map ก่อน
สามารถไปโหลด Map ได้ที่ :
http://www.tokyodisneyresort.jp/en/access/mapdownload/
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
การเดินทางมา Disneyland ก็แสนง่ายครับ เพียงนั่งรถไฟไปลงสถานี “Maihama” พอออกจากสถานีก็ค่อยๆเดินไปทางขวาไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว (ถือเป็นการ warm up ร่างกายไปในตัวละกัน)
ผมไปถึง 8.30 น. แต่สวนสนุกเปิด 9.00 น. ทั้งนักท่องเที่ยวและคนญี่ปุ่นเองก็รอกันเยอะแล้ว
พอประตูเปิด ทุกคนต่างวิ่งกรูเข้าไปในสวนสนุก
*** ถ้าเจ้าหน้าที่เห็นเราวิ่ง เขาจะเข้ามาขวางและบอกว่า “อย่าวิ่ง ระวังอันตราย” อะไรทำนองนี้นะครับ ก็ระวังจะชนเจ้าหน้าที่แล้วกัน
โดยผมเริ่มด้วยการไปเล่น
1. Pirates of the Caribbean : แต่โชคร้ายครับผมไม่ได้เล่น เพราะช่วงที่ผมไปมันปิด
ด้วยความเสียใจ จึงต้องรีบจริงไป Tomorrowland แล้วจะไปเล่นเครื่องเล่น Recommend นั้นก็คือ Monster Inc. แต่เหมือนเจ้าหน้าที่ยังเซตเครื่องไม่เสร็จ จึงหันไปจัดเครื่องเล่นข้างๆกันที่พร้อมให้บริการแล้ว นั้นคือ …
2. Star Tours : เครื่องเล่นนี้จะเหมือนกับเราเข้าไปในยานอวกาศตะลุยไปในดาวต่างๆ (สนุกมากครับ)
พอออกมาจาก Star Tours เครื่องเล่นสุดฮิตก็พร้อมเปิดให้บริการแล้ว เลยจัดไปเลยกับ …
3. Monsters Inc. : เครื่องเล่นนี้จะให้เราสาดแสงไฟฉายใส่สัญลักษณ์ตัว M คล้ายๆกับเครื่อง Buzz Lightyear แต่ไม่มีคะแนน
พอออกมาก็ไปต่อด้วย
4. Captain EO : เป็นโรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก 4 มิติ ที่จะฉายหนังเกี่ยวกับกัปตัน EO นำแสดงโดยไมเคิล แจ๊คสัน (เครื่องนี้รู้สึกเสียเวลาไปฟรีๆ ไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้น หนังค่อนข้างเก่า แต่ถ้ามีเวลาเหลือก็แนะนำให้มาเก็บเป็นอย่างสุดท้ายครับ)
แล้วผมก็วิ่งไป Toontown เพื่อเล่น
5.Gadget’s Go Coaster : เป็นเหมือนกับรถไฟเหาะจิ๋วให้เด็กๆเล่น (ถ้าไม่คิดอะไรมากก็ลองดูครับสนุกดี)
... เดี๋ยวมาต่อครับ ...
[CR] Tokyo Disneyland and การไล่เก็บเครื่องเล่นเท่าที่ทำได้
ผมติดตามห้องบลูแพลนเน็ตมานานแล้ว แต่ก็ไม่เคยทำ review อะไรจริงๆจังๆสักที
ช่วงนี้ว่างเลยจะมา review การไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา
เริ่มต้นกระทู้แรกจะเป็นการแนะนำเก็บเครื่องเล่น ใน disneyland
เพราะ ผมเชื่อว่าใครที่จะวางแผนไปเที่ยวที่นี่ (Tokyo Disneyland) ต้องการหาวิธีเก็บเครื่องเล่นเหมือนกัน
ผมเลยขอมาเป็นตัวช่วยละกันครับ แต่ผมต้องออกตัวก่อนว่า ผมเก็บไม่ครบทั้งหมดนะครับ แต่ก็ขาดแค่ไม่กี่เครื่อง พยายามอย่างเต็มที่ !!!
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เริ่มด้วยการวางแผนวันที่เราจะไป โดยผมศึกษาข้อมูลจาก pantip : http://topicstock.ppantip.com/blueplanet/topicstock/2010/10/E9815785/E9815785.html
ในกระทู้นี้จะแนะนำการเลือกวันที่จะไปครับ โดยวันที่ผมไป คือ 22 April ซึ่งในเว็บพยากรณ์บอกว่า คนน้อยและมีฝนตก (มีฝนตกจริงครับ แต่คนก็แอบเยอะอยู่เหมือนกันแต่ไม่มาก)
หลังจากได้วันแล้ว ผมก็จองบัตรผ่าน : http://www.tokyodisneyresort.jp/en/ticket/index.html
โดยเขาจะหักผ่านบัตรเครดิต เมื่อเราจ่ายเงินแล้ว เราจะต้อง print ตั๋วขนาด A4 สำหรับเข้าไปใช้บริการ ไม่ต้องกังวลว่า จะเป็นขาวดำ หรือ สี เพราะมันสำคัญอยู่ตรง QR-code เท่านั้นครับ โดย QR-code ตรงตั๋วจะเอาไปสแกนตรงทางเข้า และสแกนเพื่อจอง Fast Pass (พับตั๋วได้นะครับ แต่อย่าให้โดย QR-code)
และเพื่อให้เห็นภาพในการไล่เครื่องเล่น แนะนำให้ไปโหลด Map ก่อน
สามารถไปโหลด Map ได้ที่ : http://www.tokyodisneyresort.jp/en/access/mapdownload/
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
การเดินทางมา Disneyland ก็แสนง่ายครับ เพียงนั่งรถไฟไปลงสถานี “Maihama” พอออกจากสถานีก็ค่อยๆเดินไปทางขวาไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว (ถือเป็นการ warm up ร่างกายไปในตัวละกัน)
ผมไปถึง 8.30 น. แต่สวนสนุกเปิด 9.00 น. ทั้งนักท่องเที่ยวและคนญี่ปุ่นเองก็รอกันเยอะแล้ว
พอประตูเปิด ทุกคนต่างวิ่งกรูเข้าไปในสวนสนุก
*** ถ้าเจ้าหน้าที่เห็นเราวิ่ง เขาจะเข้ามาขวางและบอกว่า “อย่าวิ่ง ระวังอันตราย” อะไรทำนองนี้นะครับ ก็ระวังจะชนเจ้าหน้าที่แล้วกัน
โดยผมเริ่มด้วยการไปเล่น
1. Pirates of the Caribbean : แต่โชคร้ายครับผมไม่ได้เล่น เพราะช่วงที่ผมไปมันปิด
ด้วยความเสียใจ จึงต้องรีบจริงไป Tomorrowland แล้วจะไปเล่นเครื่องเล่น Recommend นั้นก็คือ Monster Inc. แต่เหมือนเจ้าหน้าที่ยังเซตเครื่องไม่เสร็จ จึงหันไปจัดเครื่องเล่นข้างๆกันที่พร้อมให้บริการแล้ว นั้นคือ …
2. Star Tours : เครื่องเล่นนี้จะเหมือนกับเราเข้าไปในยานอวกาศตะลุยไปในดาวต่างๆ (สนุกมากครับ)
พอออกมาจาก Star Tours เครื่องเล่นสุดฮิตก็พร้อมเปิดให้บริการแล้ว เลยจัดไปเลยกับ …
3. Monsters Inc. : เครื่องเล่นนี้จะให้เราสาดแสงไฟฉายใส่สัญลักษณ์ตัว M คล้ายๆกับเครื่อง Buzz Lightyear แต่ไม่มีคะแนน
พอออกมาก็ไปต่อด้วย
4. Captain EO : เป็นโรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก 4 มิติ ที่จะฉายหนังเกี่ยวกับกัปตัน EO นำแสดงโดยไมเคิล แจ๊คสัน (เครื่องนี้รู้สึกเสียเวลาไปฟรีๆ ไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้น หนังค่อนข้างเก่า แต่ถ้ามีเวลาเหลือก็แนะนำให้มาเก็บเป็นอย่างสุดท้ายครับ)
แล้วผมก็วิ่งไป Toontown เพื่อเล่น
5.Gadget’s Go Coaster : เป็นเหมือนกับรถไฟเหาะจิ๋วให้เด็กๆเล่น (ถ้าไม่คิดอะไรมากก็ลองดูครับสนุกดี)
... เดี๋ยวมาต่อครับ ...
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น