"เขาสัมภาษณ์อะไรบ้างล่ะ" ผมถามลูกศิษย์ที่สอบ เข้าเรียนต่อ วิทย์คอม มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งได้
"เขาก็ถามหนูเรื่อง บ้านเรื่องครอบครัว แล้วก็ถาม ว่า ตาม คอร์สทีเรียน C ที่ โรงเรียน เขียนโปรแกรมอะไรอย่างไร" เจ้าลูกศิษย์บอก
"อืมแล้ว เธอตอบเขาว่าไง เกี่ยวกับภาษา C " ผมถามต่อ
"ก็บอกว่าเขียนพอได้ แค่แสดงผล ทางหน้าจอ นิดๆ หน่อยๆ แต่ ทำฐานข้อมูลไม่เป็น แล้วเขาก็บอกว่าถ้ามาเรียนที่นี่ ปีหนึ่งต้องเขียนโปรแกรม ประมาณ ห้าร้อยบรรทัด หนูก็งง เหมือนกัน ครูสอน ว่าเขียนสั้นยาวไม่ใช่สำคัญๆ ว่ามันทำงานตรงเป้าหมายหรือเปล่า "
"เขาเป็นอาจารย์ หรือ" ผมถาม
"เป็นคณบดี ค่ะ"
ฟังแล้ว ในฐานะคนเขียนโปรแกรม ที่เขียนมา ตั้งแต่ ปี 2526 จนมายึดอาชีพจริงๆ เอาปี 2532 จนถึงปัจจุบัน ฟังแล้วผมก็อึ้ง จะเขียนโปรแกรมกี่บรรทัด ใช่เรื่องสำคัญไม่ เพราะ ผมสอนเด็กอยู่ประจำ
โปรแกรมที่ดี ต้องเป็นโปรแกรมที่ทำงานได้ตรงเป้าประสงค์ ของงาน ส่วนจะเพิ่มเติม อย่างไร สั้นยาว ขึ้นไป นั่นเป็นเรื่องหนึ่ง
ยกตัวอย่าง ไม่นานมานี้ มี น้องคนหนึ่ง มาปรึกษาเรื่อง เครื่องอ่าน ลายนิ้ว มือ น้องคนนี้คิดว่าต้องเขียนโปรแกรมยาวมาก ผมก็ แค่อธิบายหลักการ สอบถามความเข้าใจ dll ว่ามีไหม แล้วเอา source code ให้ดู
"สิบกว่าบรรทัดเองหรือพี่" น้องเขาถาม
ใช่ครับเขียนโปรแกรมอ่านแล้วบันทึก แค่สิบกว่าบรรทัดเอง
ทีนี้เล่ามาคือ รู้สึกไม่ดีกับ คนเป็นคณบดี คนนี้ เป็นเหมือนเจ้าสำนักด้านคอมพิวเตอร์ มามอง ได้อย่างไร นับโปรแกรมว่าเขียนยาวกี่บรรทัดกี่หน้า การทำโปรเจคใหญ่อาจจะเขียนเป็น แสนบรรทัด หรือล้านบรรทัดก็ได้ แล้วแต่ภาษา เช่น C,Java เขียนยาว มาก กว่า พวก การใช้ Visual Basic,Foxpro ในบางกรณี ก็ได้ ยิ่งสมัยก่อน พวกเขียน ด้วย Assembly ไม่ต้องพูดถึง กว่าจะจบงานอาจจะหมดกระดาษไปครึ่งลัง เพื่อพิมพ์ source code ก็ได้
ถ้าเป็นผมสัมภาษณ์ เด็ก ผมคงต้องบอกว่า การเรียนวิทย์คอมมันคือการ เอาชีวิต ของเราเทให้กับคอมฯเลยนะ คนคอมพิวเตอร์ ต้องพร้อมนอน หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ได้ทำงานหนัก เหนื่อย แต่ เมืองไทยค่าแรงอาจจะไม่คุ้ม เพราะ สังคมไทยไม่ค่อยเห็นค่าสมองคน เท่านั้น
หลายปีที่ผ่านมา ที่ดูโปรเจคให้นักศึกษา ทำให้เห็นภาพและเข้าใจ เลย ว่า ทำไม เด็ก ไม่เป็น เรื่องโปรแกรม เขียนโปรแกรมไม่เป็น
อย่างแรก เน้นที่ Calculus มาก โดยที่ไม่ได้ใช้ บางมหาวิทยาลัยเรียน สมการดิฟเฟอเรนเชียล เรียน คณิตศาสตร์ขั้นสูง เรียน เขียนโปรแกรมภาษาที่แทบจะเรียกว่าตายไปแล้ว เช่น Fortran ,RPG ,Pl/1 จบมาต้องมาฝึกภาษาต่างๆ อีก เด็กไม่เข้าใจ Logic ไม่เข้าใจการออกแบบฐานข้อมูลที่มันจำเป็นมาก เพราะการเขียนโปรแกรมมันหนีไม่พ้น หรอกเรื่องฐานข้อมูล
Logic หรือการเข้าสมการ ในการคำนวณขั้นสูง เครื่องมันเร็วพอกัน ภาษาก็เร็วพอกัน ผลคำนวณ ผิดกันแค่เสี้ยววินาที เท่านั้น ช้ารอได้สำคัญให้มันถูกต้องก็พอ
ยิ่งสังคมรุ่นใหม่ เน้นกันที่ปริญญาไม่ใช่ เน้นที่ความสามารถ ยิ่งทำใหคนบ้า ปริญญามากกว่า ผลงาน
ปลงจริง
เขียนโปรแกรมปีละ ห้าร้อยบรรทัด
"เขาก็ถามหนูเรื่อง บ้านเรื่องครอบครัว แล้วก็ถาม ว่า ตาม คอร์สทีเรียน C ที่ โรงเรียน เขียนโปรแกรมอะไรอย่างไร" เจ้าลูกศิษย์บอก
"อืมแล้ว เธอตอบเขาว่าไง เกี่ยวกับภาษา C " ผมถามต่อ
"ก็บอกว่าเขียนพอได้ แค่แสดงผล ทางหน้าจอ นิดๆ หน่อยๆ แต่ ทำฐานข้อมูลไม่เป็น แล้วเขาก็บอกว่าถ้ามาเรียนที่นี่ ปีหนึ่งต้องเขียนโปรแกรม ประมาณ ห้าร้อยบรรทัด หนูก็งง เหมือนกัน ครูสอน ว่าเขียนสั้นยาวไม่ใช่สำคัญๆ ว่ามันทำงานตรงเป้าหมายหรือเปล่า "
"เขาเป็นอาจารย์ หรือ" ผมถาม
"เป็นคณบดี ค่ะ"
ฟังแล้ว ในฐานะคนเขียนโปรแกรม ที่เขียนมา ตั้งแต่ ปี 2526 จนมายึดอาชีพจริงๆ เอาปี 2532 จนถึงปัจจุบัน ฟังแล้วผมก็อึ้ง จะเขียนโปรแกรมกี่บรรทัด ใช่เรื่องสำคัญไม่ เพราะ ผมสอนเด็กอยู่ประจำ
โปรแกรมที่ดี ต้องเป็นโปรแกรมที่ทำงานได้ตรงเป้าประสงค์ ของงาน ส่วนจะเพิ่มเติม อย่างไร สั้นยาว ขึ้นไป นั่นเป็นเรื่องหนึ่ง
ยกตัวอย่าง ไม่นานมานี้ มี น้องคนหนึ่ง มาปรึกษาเรื่อง เครื่องอ่าน ลายนิ้ว มือ น้องคนนี้คิดว่าต้องเขียนโปรแกรมยาวมาก ผมก็ แค่อธิบายหลักการ สอบถามความเข้าใจ dll ว่ามีไหม แล้วเอา source code ให้ดู
"สิบกว่าบรรทัดเองหรือพี่" น้องเขาถาม
ใช่ครับเขียนโปรแกรมอ่านแล้วบันทึก แค่สิบกว่าบรรทัดเอง
ทีนี้เล่ามาคือ รู้สึกไม่ดีกับ คนเป็นคณบดี คนนี้ เป็นเหมือนเจ้าสำนักด้านคอมพิวเตอร์ มามอง ได้อย่างไร นับโปรแกรมว่าเขียนยาวกี่บรรทัดกี่หน้า การทำโปรเจคใหญ่อาจจะเขียนเป็น แสนบรรทัด หรือล้านบรรทัดก็ได้ แล้วแต่ภาษา เช่น C,Java เขียนยาว มาก กว่า พวก การใช้ Visual Basic,Foxpro ในบางกรณี ก็ได้ ยิ่งสมัยก่อน พวกเขียน ด้วย Assembly ไม่ต้องพูดถึง กว่าจะจบงานอาจจะหมดกระดาษไปครึ่งลัง เพื่อพิมพ์ source code ก็ได้
ถ้าเป็นผมสัมภาษณ์ เด็ก ผมคงต้องบอกว่า การเรียนวิทย์คอมมันคือการ เอาชีวิต ของเราเทให้กับคอมฯเลยนะ คนคอมพิวเตอร์ ต้องพร้อมนอน หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ได้ทำงานหนัก เหนื่อย แต่ เมืองไทยค่าแรงอาจจะไม่คุ้ม เพราะ สังคมไทยไม่ค่อยเห็นค่าสมองคน เท่านั้น
หลายปีที่ผ่านมา ที่ดูโปรเจคให้นักศึกษา ทำให้เห็นภาพและเข้าใจ เลย ว่า ทำไม เด็ก ไม่เป็น เรื่องโปรแกรม เขียนโปรแกรมไม่เป็น
อย่างแรก เน้นที่ Calculus มาก โดยที่ไม่ได้ใช้ บางมหาวิทยาลัยเรียน สมการดิฟเฟอเรนเชียล เรียน คณิตศาสตร์ขั้นสูง เรียน เขียนโปรแกรมภาษาที่แทบจะเรียกว่าตายไปแล้ว เช่น Fortran ,RPG ,Pl/1 จบมาต้องมาฝึกภาษาต่างๆ อีก เด็กไม่เข้าใจ Logic ไม่เข้าใจการออกแบบฐานข้อมูลที่มันจำเป็นมาก เพราะการเขียนโปรแกรมมันหนีไม่พ้น หรอกเรื่องฐานข้อมูล
Logic หรือการเข้าสมการ ในการคำนวณขั้นสูง เครื่องมันเร็วพอกัน ภาษาก็เร็วพอกัน ผลคำนวณ ผิดกันแค่เสี้ยววินาที เท่านั้น ช้ารอได้สำคัญให้มันถูกต้องก็พอ
ยิ่งสังคมรุ่นใหม่ เน้นกันที่ปริญญาไม่ใช่ เน้นที่ความสามารถ ยิ่งทำใหคนบ้า ปริญญามากกว่า ผลงาน
ปลงจริง