จวงจื๊อ เขียนถึงขงจื๊อ (มรดกจากเต๋าเพื่อเยาวชนไทย จวงจื๊อ จอมปราชญ์ บุญศักดิ์ แสงระวี แปล) ตอนหนึ่งว่าวันหนึ่ง ในป่าดำริมทะเลสาบขงจื๊อนั่งดีดพิณร้องเพลง ชายชราชาวประมง คิ้วขาว หนวดขาวยาวย้อยต่ำ ผมขาวกระจายคลุมไหล่ สองมือยัดใส่ในแขนเสื้อ เดินช้า ๆ เข้ามาคุกเข่า มือขวาเท้าคาง นั่งฟังเสียงเพลงของขงจื๊ออย่างตั้งใจ เพลงจบ ชายชราแนะนำตัวกับศิษย์ขงจื๊อว่าชื่อ หยีฟู่ ถามว่าคนดีดพิณเป็นใคร ได้รับคำบอกว่า เป็นสุภาพชนแคว้นหลู่ ตระกูลแซ่ขง เป็นผู้บรรยายเรื่องเมตตาธรรม คุณธรรม จริยธรรม และดนตรี เบื้องบนรับใช้ประมุขอย่างซื่อสัตย์ เบื้องล่างกล่อมเกลาราษฎรให้แผ่นดินนี้มีสันติ “เช่นนั้น เขาคงเป็นศักดินาชน เป็นขุนนางผู้ใหญ่ของเจ้าผู้ครองแคว้น” เมื่อศิษย์ของขงจื๊อปฏิเสธว่าไม่ใช่ หยีฟู่ก็หัวเราะลั่น “เขาเหนื่อยยากปานนี้ น่ายกย่อง แต่ถ้าเขายังขืนทำเช่นนี้ต่อไป เขาจะยิ่งห่างจากมหามรรคออกไปทุกวัน” พูดจบแล้วหยีฟู่ก็เดินจากไป ขงจื๊อฟังคำหยีฟู่จากศิษย์ ก็รู้ว่าชายชราผู้นี้มีสติปัญญาล้ำเลิศ ก็รีบลุกเดินตามไปทัน ขณะที่หยีฟู่กำลังก้าวลงเรือ “ถ้อยคำที่ท่านกล่าว ดูเหมือนจะยังไม่จบ” ขงจื๊อนอบน้อม “ข้าพเจ้ารักการศึกษามาแต่เด็ก ขณะนี้อายุ 69 ปี ยังโง่เขลา ยังมิได้ฟังมหามรรค ใคร่ขอคำสั่งสอนจากท่านอีก”
“คนเรามีโรคร้อย 8 ประการ ความทุกข์ 4 ประการ” หยีฟู่วิสัชนา “จะไม่สนใจมิได้”
1. ทำในสิ่งที่ท่านไม่ควรกระทำ นี่เรียกว่า แส่
2. คนอื่นเขาไม่เชื่อในถ้อยคำของท่าน แต่ท่านก็พูดไม่รู้จบนี่เรียกว่า เพ้อพล่าม
3. พูดในสิ่งที่คนอื่นเขาอยากจะฟัง นี่เรียกว่า ประจบ
4. ไม่รู้ดีชั่ว เออออตามคนอื่นเขา นี่เรียกว่า สอพลอ
5. ชอบนินทาความผิดของคนอื่น นี่เรียกว่า ใส่ไคล้
6. ทำลายความสัมพันธ์ของคนอื่น นี่เรียกว่า ยุแยง
7. คนที่ยกย่องคนชั่ว ขับไล่คนที่ตนเกลียดชัง นี่เรียกว่า เจ้าเล่ห์
8. ไม่แยกดีชั่ว ทำดีกับสองฝ่าย เพื่อให้เขาชอบ นี่เรียกว่า กลิ้งกลอก
“โรคร้ายทั้ง 8 ประการนี้ ต่อภายนอกก็ก่อกวนคนอื่น ต่อภายในก็ทำร้ายตัวเอง นี่เป็นสิ่งที่ผู้มีสติปัญญามิยอมชิดใกล้”
“ถ้าเช่นนั้น ที่ว่าความทุกข์ 4 ประการนั้นเล่า คืออย่างไร” ขงจื๊อถาม
หยี่ฟู่ตอบว่า
1. คิดจะทำแต่เรื่องใหญ่ เพื่อหาชื่อเสียง นี่เรียกว่า มักใหญ่
2. ทำเป็นอวดฉลาด ทำอะไรตามใจชอบ เอาแต่ความคิดเห็นของตนเอง ไม่คำนึงถึงการล่วงเกินผู้อื่น นี่เรียกว่า ถือดี
3. มองเห็นความผิดของตน แต่ไม่ยอมแก้ไข ครั้นเมื่อได้ฟังคำตักเตือนของคนอื่น ก็กลับโมโหโกรธา นี่เรียกว่า ยโส
4. ถ้าความเห็นนั้นตรงกับตน ก็ว่าถูก ถ้าความเห็นนั้นไม่ตรงกับตน แม้จะดีก็ว่าไม่ดี นี่เรียกว่า ทะนง
“คนคนหนึ่ง ถ้าหากมีความทุกข์ 4 ประการนี้แล้ว ก็ยากที่จะสนทนามหามรรคกับเขา ” ขณะหยีฟู่กล่าว ขงจื๊อฟังแล้วสีหน้าเปลี่ยนค้อมคำนับอีกสามครา หยีฟู่ขอตัวลงเรือล่องลับตาไปในทะเลสาบ
คำ “มหามรรค” ถูกเฉลยว่า คือการแสวงหาสติปัญญาอันเลิศ
บทสรุปคำสอนจากหยีฟู่ หากผู้นำยังติดข้อง 8 โรคร้าย จมอยู่กับ 4 ความทุกข์
โอกาสที่จะบรรลุถึงขั้น “สติปัญญาเลิศ” นำมาแก้ปัญหาให้บ้านเมือง สร้างความสงบให้แผ่นดินก็คงไม่มี
กิเลน ประลองเชิง
เรื่อง สี่ทุกข์ของผู้นำ ชักธงรบ โดย กิเลน ประลองเชิง
“คนเรามีโรคร้อย 8 ประการ ความทุกข์ 4 ประการ” หยีฟู่วิสัชนา “จะไม่สนใจมิได้”
1. ทำในสิ่งที่ท่านไม่ควรกระทำ นี่เรียกว่า แส่
2. คนอื่นเขาไม่เชื่อในถ้อยคำของท่าน แต่ท่านก็พูดไม่รู้จบนี่เรียกว่า เพ้อพล่าม
3. พูดในสิ่งที่คนอื่นเขาอยากจะฟัง นี่เรียกว่า ประจบ
4. ไม่รู้ดีชั่ว เออออตามคนอื่นเขา นี่เรียกว่า สอพลอ
5. ชอบนินทาความผิดของคนอื่น นี่เรียกว่า ใส่ไคล้
6. ทำลายความสัมพันธ์ของคนอื่น นี่เรียกว่า ยุแยง
7. คนที่ยกย่องคนชั่ว ขับไล่คนที่ตนเกลียดชัง นี่เรียกว่า เจ้าเล่ห์
8. ไม่แยกดีชั่ว ทำดีกับสองฝ่าย เพื่อให้เขาชอบ นี่เรียกว่า กลิ้งกลอก
“โรคร้ายทั้ง 8 ประการนี้ ต่อภายนอกก็ก่อกวนคนอื่น ต่อภายในก็ทำร้ายตัวเอง นี่เป็นสิ่งที่ผู้มีสติปัญญามิยอมชิดใกล้”
“ถ้าเช่นนั้น ที่ว่าความทุกข์ 4 ประการนั้นเล่า คืออย่างไร” ขงจื๊อถาม
หยี่ฟู่ตอบว่า
1. คิดจะทำแต่เรื่องใหญ่ เพื่อหาชื่อเสียง นี่เรียกว่า มักใหญ่
2. ทำเป็นอวดฉลาด ทำอะไรตามใจชอบ เอาแต่ความคิดเห็นของตนเอง ไม่คำนึงถึงการล่วงเกินผู้อื่น นี่เรียกว่า ถือดี
3. มองเห็นความผิดของตน แต่ไม่ยอมแก้ไข ครั้นเมื่อได้ฟังคำตักเตือนของคนอื่น ก็กลับโมโหโกรธา นี่เรียกว่า ยโส
4. ถ้าความเห็นนั้นตรงกับตน ก็ว่าถูก ถ้าความเห็นนั้นไม่ตรงกับตน แม้จะดีก็ว่าไม่ดี นี่เรียกว่า ทะนง
“คนคนหนึ่ง ถ้าหากมีความทุกข์ 4 ประการนี้แล้ว ก็ยากที่จะสนทนามหามรรคกับเขา ” ขณะหยีฟู่กล่าว ขงจื๊อฟังแล้วสีหน้าเปลี่ยนค้อมคำนับอีกสามครา หยีฟู่ขอตัวลงเรือล่องลับตาไปในทะเลสาบ
คำ “มหามรรค” ถูกเฉลยว่า คือการแสวงหาสติปัญญาอันเลิศ
บทสรุปคำสอนจากหยีฟู่ หากผู้นำยังติดข้อง 8 โรคร้าย จมอยู่กับ 4 ความทุกข์
โอกาสที่จะบรรลุถึงขั้น “สติปัญญาเลิศ” นำมาแก้ปัญหาให้บ้านเมือง สร้างความสงบให้แผ่นดินก็คงไม่มี
กิเลน ประลองเชิง