เนื่องจาก จขกท. ลองมาหลายวิธี แต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ก็เลยอยากแบ่งปันประสบการณ์ เพื่อเป็นประโยชน์แก่คนที่กำลังฝึกค่ะ
1. เพลง - โดยส่วนตัวนั้น ชอบฟังเพลงสากลอยู่แล้วค่ะ แต่เน้นสากลฝั่งยุโรป แถมอินดี้อีกต่างหาก ตอนที่ฟังแรกๆ ก็ไม่ได้รู้เรื่องเท่าไหร่หรอกค่ะ แต่ฟังเพราะชอบดนตรี และแนวเพลงเท่านั้น เพลงไหนอยากร้องตามก็ไปเปิดเนื้อดู และหัดร้องบ้าง ทีนี้ พอจะเริ่มฝึกฟังจริงจัง ก็เลยเอาเพลงที่ชอบ มานั่งฟังอีกที เอาแบบไม่เปิดเนื้อนะคะ แล้วลองเขียนเนื้อเพลงที่เราได้ยินออกมา ฟังๆหยุดๆ ย้อนไปย้อนมาจนจบเพลงแล้วลองเปิดเนื้อเพลงดู เราจะรู้ชัดเลยว่าคำไหนเราฟังไม่ออก หรือฟังผิดบ้าง ให้มาร์คไว้แล้วเปิดฟังทั้งเพลงอีกที วิธีนี้จะช่วยปรับหูให้คุ้นเคยกับวิธีการออกเสียงคำๆนั้นมากขึ้นค่ะ แต่มีข้อจำกัดคือ เราอาจไม่เข้าใจเนื้อหาของเพลงที่ต้องการจะสื่อทั้งหมด เนื่องจากเพลงของศิลปินบางคนนั้นเนื้อหาซับซ้อนอยู่แล้ว เจ้าของภาษาเองฟังแล้วยังตีความไปคนละอย่างเลย เช่นวง Coldplay นี่ขึ้นชื่อเรื่องความซับซ้อนเลยล่ะค่ะ
2. หนัง - หาหนังเรื่องที่ชอบ ลองดูแบบปิดซับก่อน ถ้าไม่แน่ใจว่าจับคำได้ถูกต้องหรือไม่ หรือฟังไม่ออกเลย ก็ย้อนกลับไปดู แล้วเปิดซับภาษาอังกฤษ ช่วงแรกๆอาจจะยากหน่อย แต่ทำไปบ่อยๆ เราจะเริ่มย้อนกลับไปมาน้อยลงเองค่ะ ถ้าดูหนังที่รู้พล็อตเรื่องอยู่บ้างแล้วก็จะทำให้ง่ายขึ้น แต่ จขกท. ไม่ค่อยได้ฝึกด้วยวิธีนี้เท่าไหร่ค่ะ ส่วนใหญ่ดูหนังเพื่อความบันเทิงมากกว่า แบบว่าขี้เกียจเสียอรรถรถนั่นเอง ฮี่ๆ
3. BBC learning English - เว็บไซต์ของ BBC สำหรับฝึกภาษาอังกฤษโดยเฉพาะ มีให้ฝึกหลายอย่างเลยค่ะ มีทั้งข่าว ซีรีส์เล็กๆ แบบฝึกหัดให้เราลองทำ ที่ได้ผลมากๆ คือพาร์ท pronunciation ซึ่งจะมีคลิปวีดิโออธิบายวิธีการออกเสียงต่างๆในภาษาอังกฤษ ทั้งพยัญชนะ สระ ฯลฯ ดูแล้วกระจ่างขึ้นเยอะเลยค่ะ สามารถโหลดเก็บไว้ฝึกพูดได้ และมี quiz ให้ฝึกฟังด้วย >>
http://www.bbc.co.uk/worldservice/learningenglish/
4. TED talk - พอเริ่มเบื่อฟังข่าว เลยหาอะไรที่ดูจะให้แรงบันดาลใจมาฟังบ้าง ก็พอดีเพื่อนแนะนำให้รู้จักกับ TED talk ยอมรับเลยว่าฝึกฟังจากทอล์คโชว์นั้น เพลินกว่าฟังข่าวหลายเท่า ส่วนใหญ่ จขกท. จะดูแบบไม่เปิดซับ 1 รอบ แล้วค่อยดูแบบเปิดซับซ้ำอีกรอบค่ะ เนื่องจากมันสั้นกว่าหนัง ก็เลยไม่ต้องเปิดย้อนไปมา อาศัยดูซ้ำหลายๆ รอบเอา แต่อย่างไรก็ตาม ทอล์คโชว์นั้นคือการพูดแบบเดี่ยวๆ ไม่มีการโต้ตอบกัน ดังนั้น เราจะได้ฝึกคล้ายๆฟังเพลง นั่นคือฝึกหูให้คุ้นชินกับคำศัพท์บางคำ แต่จะไม่ได้ฝึกทักษะการสนทนาเหมือนดูหนัง
5. รายการสัมภาษณ์ - สุดท้าย ก็มาโป๊ะเชะกับวิธีนี้ค่ะ ว่ากันว่าภาษาคือการเลียนแบบ เแต่เราเรียนภาษาอังกฤษกันมา แล้วไม่ค่อยได้ใช้จริงในชีวิตประจำวัน ไม่ค่อยเจอชาวต่างชาติ ทำให้ขาดตัวอย่างที่ดี การดูรายการสัมภาษณ์นั้น เราจะได้เห็นการโต้ตอบระหว่างบุคคล วิธีการถาม วิธีการตอบ สำเนียงที่เป็นธรรมชาติกว่าวิธีอื่นๆ จขกท. จะเลือกดูสัมภาษณ์ดาราฮอลลีวู้ดที่ชอบ และมีเชื้อชาติอังกฤษเป็นหลักค่ะ เช่น Rachel Weisz (คนนี้สำเนียงสง่างามมาก), Keira Knightley, Emma Watson, Kate Winslet, Ewan McGregor, Jude Law, Christian Bale, Ben Barnes เป็นต้น ดูไปเรื่อยๆ ดูบ่อยๆ เราจะเริ่มซึมซับวิธีการพูดมาโดยอัตโนมัติ วิธีนี้สำหรับ จขกท. แล้ว นับว่าได้ผลมากๆ ทำให้มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นโขเลย อ้อ! สามารถหาคลิปวิดีโอดูได้จาก youtube ค่ะ รายการที่ จขกท. ชอบๆ ก็มี The Ellen Show, The Graham Norton Show, Late Show with David Letterman ค่ะ
ส่วนท่านผู้ที่หลงเข้ามาอ่านกระทู้นี้ มีวิธีฝึกภาษาอังกฤษกันอย่างไรบ้างคะ? เชิญร่วมแบ่งปันกันได้เลยค่า ^^
ปล. ถ้าเคยมีคนตั้งกระทู้แนวนี้ไปแล้วก็ขออภัยนะคะ พอดีเพิ่งเล่นพันทิปแบบจริงจังได้ไม่กี่วันเองค่ะ
กระทู้แบ่งปันวิธีฝึกฟังและพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง
1. เพลง - โดยส่วนตัวนั้น ชอบฟังเพลงสากลอยู่แล้วค่ะ แต่เน้นสากลฝั่งยุโรป แถมอินดี้อีกต่างหาก ตอนที่ฟังแรกๆ ก็ไม่ได้รู้เรื่องเท่าไหร่หรอกค่ะ แต่ฟังเพราะชอบดนตรี และแนวเพลงเท่านั้น เพลงไหนอยากร้องตามก็ไปเปิดเนื้อดู และหัดร้องบ้าง ทีนี้ พอจะเริ่มฝึกฟังจริงจัง ก็เลยเอาเพลงที่ชอบ มานั่งฟังอีกที เอาแบบไม่เปิดเนื้อนะคะ แล้วลองเขียนเนื้อเพลงที่เราได้ยินออกมา ฟังๆหยุดๆ ย้อนไปย้อนมาจนจบเพลงแล้วลองเปิดเนื้อเพลงดู เราจะรู้ชัดเลยว่าคำไหนเราฟังไม่ออก หรือฟังผิดบ้าง ให้มาร์คไว้แล้วเปิดฟังทั้งเพลงอีกที วิธีนี้จะช่วยปรับหูให้คุ้นเคยกับวิธีการออกเสียงคำๆนั้นมากขึ้นค่ะ แต่มีข้อจำกัดคือ เราอาจไม่เข้าใจเนื้อหาของเพลงที่ต้องการจะสื่อทั้งหมด เนื่องจากเพลงของศิลปินบางคนนั้นเนื้อหาซับซ้อนอยู่แล้ว เจ้าของภาษาเองฟังแล้วยังตีความไปคนละอย่างเลย เช่นวง Coldplay นี่ขึ้นชื่อเรื่องความซับซ้อนเลยล่ะค่ะ
2. หนัง - หาหนังเรื่องที่ชอบ ลองดูแบบปิดซับก่อน ถ้าไม่แน่ใจว่าจับคำได้ถูกต้องหรือไม่ หรือฟังไม่ออกเลย ก็ย้อนกลับไปดู แล้วเปิดซับภาษาอังกฤษ ช่วงแรกๆอาจจะยากหน่อย แต่ทำไปบ่อยๆ เราจะเริ่มย้อนกลับไปมาน้อยลงเองค่ะ ถ้าดูหนังที่รู้พล็อตเรื่องอยู่บ้างแล้วก็จะทำให้ง่ายขึ้น แต่ จขกท. ไม่ค่อยได้ฝึกด้วยวิธีนี้เท่าไหร่ค่ะ ส่วนใหญ่ดูหนังเพื่อความบันเทิงมากกว่า แบบว่าขี้เกียจเสียอรรถรถนั่นเอง ฮี่ๆ
3. BBC learning English - เว็บไซต์ของ BBC สำหรับฝึกภาษาอังกฤษโดยเฉพาะ มีให้ฝึกหลายอย่างเลยค่ะ มีทั้งข่าว ซีรีส์เล็กๆ แบบฝึกหัดให้เราลองทำ ที่ได้ผลมากๆ คือพาร์ท pronunciation ซึ่งจะมีคลิปวีดิโออธิบายวิธีการออกเสียงต่างๆในภาษาอังกฤษ ทั้งพยัญชนะ สระ ฯลฯ ดูแล้วกระจ่างขึ้นเยอะเลยค่ะ สามารถโหลดเก็บไว้ฝึกพูดได้ และมี quiz ให้ฝึกฟังด้วย >> http://www.bbc.co.uk/worldservice/learningenglish/
4. TED talk - พอเริ่มเบื่อฟังข่าว เลยหาอะไรที่ดูจะให้แรงบันดาลใจมาฟังบ้าง ก็พอดีเพื่อนแนะนำให้รู้จักกับ TED talk ยอมรับเลยว่าฝึกฟังจากทอล์คโชว์นั้น เพลินกว่าฟังข่าวหลายเท่า ส่วนใหญ่ จขกท. จะดูแบบไม่เปิดซับ 1 รอบ แล้วค่อยดูแบบเปิดซับซ้ำอีกรอบค่ะ เนื่องจากมันสั้นกว่าหนัง ก็เลยไม่ต้องเปิดย้อนไปมา อาศัยดูซ้ำหลายๆ รอบเอา แต่อย่างไรก็ตาม ทอล์คโชว์นั้นคือการพูดแบบเดี่ยวๆ ไม่มีการโต้ตอบกัน ดังนั้น เราจะได้ฝึกคล้ายๆฟังเพลง นั่นคือฝึกหูให้คุ้นชินกับคำศัพท์บางคำ แต่จะไม่ได้ฝึกทักษะการสนทนาเหมือนดูหนัง
5. รายการสัมภาษณ์ - สุดท้าย ก็มาโป๊ะเชะกับวิธีนี้ค่ะ ว่ากันว่าภาษาคือการเลียนแบบ เแต่เราเรียนภาษาอังกฤษกันมา แล้วไม่ค่อยได้ใช้จริงในชีวิตประจำวัน ไม่ค่อยเจอชาวต่างชาติ ทำให้ขาดตัวอย่างที่ดี การดูรายการสัมภาษณ์นั้น เราจะได้เห็นการโต้ตอบระหว่างบุคคล วิธีการถาม วิธีการตอบ สำเนียงที่เป็นธรรมชาติกว่าวิธีอื่นๆ จขกท. จะเลือกดูสัมภาษณ์ดาราฮอลลีวู้ดที่ชอบ และมีเชื้อชาติอังกฤษเป็นหลักค่ะ เช่น Rachel Weisz (คนนี้สำเนียงสง่างามมาก), Keira Knightley, Emma Watson, Kate Winslet, Ewan McGregor, Jude Law, Christian Bale, Ben Barnes เป็นต้น ดูไปเรื่อยๆ ดูบ่อยๆ เราจะเริ่มซึมซับวิธีการพูดมาโดยอัตโนมัติ วิธีนี้สำหรับ จขกท. แล้ว นับว่าได้ผลมากๆ ทำให้มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นโขเลย อ้อ! สามารถหาคลิปวิดีโอดูได้จาก youtube ค่ะ รายการที่ จขกท. ชอบๆ ก็มี The Ellen Show, The Graham Norton Show, Late Show with David Letterman ค่ะ
ส่วนท่านผู้ที่หลงเข้ามาอ่านกระทู้นี้ มีวิธีฝึกภาษาอังกฤษกันอย่างไรบ้างคะ? เชิญร่วมแบ่งปันกันได้เลยค่า ^^
ปล. ถ้าเคยมีคนตั้งกระทู้แนวนี้ไปแล้วก็ขออภัยนะคะ พอดีเพิ่งเล่นพันทิปแบบจริงจังได้ไม่กี่วันเองค่ะ