นักวิทยาศาสตร์รุมค้าน จีนตัด 700 ยอดเขา!!! สร้างพื้นราบ!!! ทำเมืองใหม่!!!
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 มิถุนายน 2557
รถขุดเจาะเรียงรายเป็นทิวแถว เพื่อขุดยอดเขาในพิธีวางศิลาฤกษ์ โครงการบุกเบิกเขตพัฒนาใหม่ (Lanzhou New Area project) ในเมืองหลันโจว มณฑลกันซู่ (ภาพ: Imaginechina/Corbis )
นักวิชาการจีน ตีพิมพ์ผลงานในวารสารวิชาการ “เนเจอร์” (Nature) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ชี้ โครงการตัดยอดเขามากกว่า 700 แห่ง และเกลี่ยเซาะซากหิน ดินทราย ทั้งหมดลงถมในหุบเขา เพื่อเพิ่มพื้นที่ราบให้เมืองหลันโจว อีกประมาณ 250 ตารางกิโลเมตร ยังต้องพิจารณาปัจจัยความพร้อมอีกหลายด้าน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม เรื่องทางเทคนิค และปัจจัยด้านเศรษฐกิจ
หลี่ เพ่ยเย่ว์, เฉียน ฮุ่ย, อู๋ เจี้ยนหวา จากวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมและวิศวกรรม มหาวิทยาลัยฉางอัน ระบุ “การเพิ่มพื้นที่ในลักษณะนั้น ยังขาดแคลนการศึกษาทำแบบจำลองเรื่องต้นทุนและประโยชน์ที่ได้จากพื้นที่ที่เพิ่มขึ้น ปัญหาจากการขาดแคลนความเชี่ยวชาญและขาดเทคนิคหลายอย่างทำให้โครงการล่าช้าและเพิ่มต้นทุนให้สูงขึ้น ในขณะที่โครงการก็ยังไม่ได้ศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างรอบคอบ"
ในทางกลับกัน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นคาดว่า โครงการดังกล่าวจะสร้างเม็ดเงินได้หลายพันล้านหยวน จากการขาย หรือให้เช่าที่ดินใหม่ที่สร้างขึ้น รวมทั้งสามารถช่วยเก็บรักษาที่ดินทางเกษตรกรรมในส่วนอื่นของประเทศได้ เพราะมิฉะนั้น ที่ดินเหล่านั้นก็จะถูกใช้เพื่อการพัฒนา
นอกจากนี้ ยังคาดหวังกันด้วยว่า โครงการนี้จะช่วยเพิ่มจีดีพี (ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ) ของภูมิภาคให้สูงถึง 4.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ (หรือราวๆ 129,000 ล้านบาท) ภายในปี 2573
ในขณะที่ จากการศึกษาผลกระทบพบว่า การกัดเซาะหน้าดินเพิ่มปริมาณตะกอนในแหล่งน้ำของท้องถิ่น ยกตัวอย่างเช่น ใน สือเยี่ยน มณฑลหูเป่ย การตัดเนินเขาลูกเล็กๆ ลงเติมพื้นที่ในหุบเขา ทำให้เกิดปัญหาดินถล่ม น้ำท่วม และปรับเปลี่ยนเส้นทางน้ำ สิ่งเหล่านี้กระทบกับเมืองเป็นอย่างมาก เพราะตั้งอยู่ใกล้ต้นน้ำของ โครงการผันน้ำจากตอนใต้สู่ตอนเหนือ (South-North Water Transfer project) อันเป็นความพยายามของรัฐบาลจีนในการผันน้ำเข้าคลองสู่ปักกิ่ง
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ ก็มีการระงับโครงการบุกเบิกเขตพัฒนาใหม่ (Lanzhou New Area ) ในหลันโจว มณฑลกันซู่ ไว้ชั่วคราวแล้ว เพราะเกิดมลพิษทางอากาศจากการขุดเจาะ สอดคล้องกับคำเตือนของนักวิชาการที่ออกมาระบุก่อนหน้านี้ว่า หลานโจวเป็นหนึ่งในเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดของจีน และขาดแคลนทรัพยากรน้ำ ซึ่งการเพิ่มพื้นที่ของเมืองนี้จะยิ่งทำให้เกิดการขาดแคลนทรัพยากรเพิ่มขึ้น
สุดท้าย แม้ว่าการตัดยอดเขาในลักษณะนี้ จะเคยเกิดขึ้นมาแล้ว อาทิ เมื่อเดือนเม.ย. 2555 ในเหยียนอัน มณฑลส่านซี โดยสามารถสร้างพื้นที่เพิ่มถึง 78.5 ตารางกิโลเมตร เพิ่มขนาดเมืองให้เป็นสองเท่า และ นอกจากนี้ ในสหรัฐอเมริกา ก็เคยมีการตัดเขาในเขตเหมืองแร่ทางตะวันออกของประเทศ แต่ก็ยังไม่เคยมีที่ใดในโลก ที่ดำเนินโครงการขนาดใหญ่เท่าที่จีนทำอยู่ตอนนี้ ดังนั้นจีนจึงจะเป็นต้องศึกษาเรื่องดังกล่าวอย่างรัดกุมในทุกด้าน
“หากไม่ก่อประโยชน์ รัฐบาลก็ไม่ควรเดินหน้าต่อไป” นักวิชาการทั้งสามคน เรียกร้อง
http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9570000065414
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จีนเตรียมถล่มภูเขา 700 ลูก!!! เพื่อสร้างเมืองใหม่!!!
โดย กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
จีนจะทำลายภูเขา 700 ลูกในมณฑลกานซูเพื่อสร้างเมืองใหม่ในพื้นที่ทะเลทราย ซึ่งเชื่อว่าจะ เป็นโครงการทำลายภูเขาครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
วิดีโอประชาสัมพันธ์โครงการสร้างเมืองใหม่ ที่ถูกเผยแพร่เมื่อเร็วๆนี้แสดงให้เห็นว่า เมืองใหม่จะตั้งขึ้นในบริเวณรอบนอกของเมืองหลานโจว มณฑลกานซู โดยอยู่ห่างจากเมืองไป 80 กม.และจะมีพื้นที่กว้าง 812,500 ตร.กม. โดยจะมีการสร้างตึกระฟ้า โรงงาน สนามกีฬา และสวนสาธารณะ เป็นต้น แต่จำเป็นต้องทำลายภูเขาทิ้งมากถึง 700 ลูกเพื่อเคลียร์พื้นที่ และเมืองใหม่แห่งนี้จะเป็นแห่งที่ 5 ของจีน ที่เกิดขึ้นจากการทำลายภูเขา
คาดว่าจะต้องใช้งบราว 1 แสน 8 พันล้านบาทเพื่อใช้ในการทำลายภูเขาครั้งนี้ ขณะที่คาดกันว่า เมื่อโครงการสร้างเมืองใหม่แล้วเสร็จ จะสามารถรายได้ให้กับภูมิภาคนี้สูงถึง 1 ล้าน 3 แสน 2 หมื่นล้านบาท
นิตยสารเศรษฐกิจจีนรายสัปดาห์ รายงานเมื่อวันอังคารว่า โครงการทำลายภูเขาระยะแรกเริ่มดำเนินการไปแล้ว ตั้งแต่ปลายเดือน ต.ค. แต่โครงการนี้ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของเมืองหลานโจว ที่มีประชากร 3 ล้าน 7 แสนคน โดยเมื่อปีที่แล้วองค์การอนามัยโลกเพิ่งระบุว่า หลานโจวเป็นหนึ่งในเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดของจีน โดยมีมลพิษทางอากาศเลวร้ายที่สุด และยังมีปัญหาขาดแคลนน้ำอีกด้วย
นอกจากนี้ อดีตเจ้าหน้าที่ในคณะกรรมาธิการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน บอกว่า โครงการสร้างเมืองใหม่นี้ ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะเป็นเมืองที่มีการขาดแคลนน้ำมากที่สุดแห่งหนึ่ง และนักเศรษฐศาสตร์ มองว่า เป็นการลงทุนที่เสี่ยงไม่คุ้มค่ากับเม็ดเงินลงทุน
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/china-focus/20121208/481370/จีนเตรียมถล่มภูเขา700-ลูกเพื่อสร้างเมืองใหม่.html
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศาลตัดสินจำคุก 12 ปี!!! พ่อจีน ใช้มีด ฆ่าลูกสาว!!! คลั่งวง EXO!!!
14 มิถุนายน 2557
ศาลจีนตัดสินจำคุกพ่อฆ่าลูกสาว ฉุน ลูกสาวคลั่งวง EXO จนไม่เป็นอันทำอะไร และยังตะโกนพูดจาทำร้ายจิตใจพ่อ
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2557 เว็บไซต์วิกิทรี รายงานว่า ศาลแขวงในกรุงปักกิ่ง ได้สั่งตัดสินจำคุกนายจูไค่เป็นเวลา 12 ปี หลังจากที่เขาใช้มีดแทงลูกสาววัย 13 ปีจนเสียชีวิต เนื่องมาจากลูกสาวสนใจไอดอลเกาหลีวง EXO มากกว่าที่จะสนใจเรียน อีกทั้งลูกสาวยังตะโกนใส่นายจูไค่ว่า เธอรักไอดอลมากกว่าพ่อแม่เป็นพันเท่า
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2556 เมื่อลูกสาวของนายจูไค่ วัย 13 ปี ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องนอนเล่นคอมพิวเตอร์ และสะสมของที่ระลึกเกี่ยวกับวง EXO เมื่อนายจูไค่เข้าไปตักเตือนและบอกว่า ลูกสาวของเขานั่งที่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป รู้จักแต่ใช้เงิน และไม่ว่าเหล่าไอดอลจะดูเจ๋งและเท่เพียงใด ไอดอลเหล่านั้นก็ไม่สามารถให้ความรักกับเธอได้มากเท่าที่พ่อแม่ให้ได้ นั่นจึงทำให้ลูกสาวของเขาเกิดบันดาลโทสะ ตะโกนออกไปว่า "หนูรักไอดอลมากกว่าพ่อเป็นพันเท่า ไอดอลดีกว่าพ่อซะอีก"
จากนั้น นายจูไค่จึงบันดาลโทสะ เขาเข้าไปหยิบมีดในครัวหวังที่จะใช้ขู่ลูกสาว แต่เหตุการณ์กลับเลวร้ายยิ่งขึ้นเมื่อลูกสาวตะโกนว่า "ไอดอลดีกว่าพ่อแม่อย่างคุณร้อยเท่าพันเท่า" ทำให้นายจูไค่ขาดสติ ใช้มีดแทงลูกสาวดับต่อหน้า และพยายามจะฆ่าตัวตายตาม แต่ไม่สำเร็จ เมื่อตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ ลูกสาวของเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนนายจูไค่ถูกนำตัวส่งไปโรงพยาบาล
หลังจากนั้น นายจูไค่ได้สารภาพกับศาลว่า "ตอนที่ผมได้ยินเธอพูดว่า ไอดอลดีกว่าพ่อแม่อย่างคุณร้อยเท่าพันเท่า ผมก็ไม่สามารถทำความเข้าใจได้อีกต่อไป คำพูดนั้นทำให้หัวใจของผมสลาย"
http://hilight.kapook.com/view/103733
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทำไปได้!!! หนุ่มเร่ร่อนจีน ใช้รูป ซอฮยอน SNSD อ้างเป็นเมีย!!! ถูกไฟคลอกตาย!!! เร่ขอทานหาเงินเลี้ยงลูก!!!
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 มิถุนายน 2557
กลายเป็นเรื่องที่ชวนหัวที่สุดของข่าวบันเทิงเกาหลีใต้ในเวลานี้เลยก็ว่าได้ เมื่อมีรายงานว่าหนุ่มเร่ร่อนชาวจีนใช้รูปของนักร้องสาว “ซอฮยอน”จากวง SNSD อ้างเป็นภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้ว ออกเร่ร่อนขอเงินเพื่อเลี้ยงลูก
ตามรายงานระบุว่า ชาวเน็ตได้สังเกตเห็นภาพของซอฮยอน นักร้องสาวจากเกิร์ลกรุ๊ปดัง SNSD ปรากฏอยู่บนโปสเตอร์ของหนุ่มเร่ร่อนไร้บ้านที่หนานชาง เพื่อเรียกความสงสารขอเงินจากผู้สัญจรไปมา โดยอ้างว่าเขาเป็นสามีของหญิงสาวในภาพ( ซอฮยอน )ที่เสียชีวิตไปแล้ว
โดยสื่อไต้หวันได้รายงานเรื่องนี้ลงใน NOWnews ระบุว่า “หนุ่มเร่ร่อนที่อยู่ริมถนนในหนานชาง มณฑลเจียงซี ประเทศจีน ได้ใช้ภาพจบการศึกษาของซอฮยอน นักร้องสาวจาก SNSD มาตัดต่อ พร้อมแสดงสีหน้าน่าสงสารเพื่อขอเงินบริจาคจากผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา”
ตามรายงานจากสื่อข้างต้นระบุด้วยว่า บนโปสเตอร์ดังกล่าว หนุ่มเร่รอ่นได้อ้างว่าหญิงสาวในภาพคือภรรยาของเขาเองที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อ 2 ปีก่อนจากอุบัติเหตุไฟไหม้ และตัวเขาเองได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเขายังบอกด้วยว่าต้องการนำเงินที่ได้จากการบริจาคไปเลี้ยงดูลูกสาวและสมาชิกในครอบครัวของเขา
และทันทีที่ข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกไปจนกลายเป็นข่าวใหญ่ เหล่าบรรดาชาวเน็ตต่างแสดงความรู้สึกแตกต่างกันออกไป โดยแฟนเพลงส่วนมากมองว่าเป็นเรื่องตลกและแปลกที่สุดตั้งแต่อ่านข่าวบันเทิงเค-ป็อปมา ในขณะที่บางส่วนรู้สึกไม่พอใจขอทานคนดังกล่าวที่ใช้ภาพของซอฮยอนเพื่อไปต้มตุ๋นหลอกเงินคนอื่น
http://www.manager.co.th/entertainment/viewnews.aspx?NewsID=9570000066680
จีนแดงระห่ำ!!! โครงการ ทำลายภูเขา 700 ลูก!!! สร้างเมืองใหม่!!! นักวิทย์จีน ทำตัวเหมือน NGO รุมต้านซะเอง!!!
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 มิถุนายน 2557
รถขุดเจาะเรียงรายเป็นทิวแถว เพื่อขุดยอดเขาในพิธีวางศิลาฤกษ์ โครงการบุกเบิกเขตพัฒนาใหม่ (Lanzhou New Area project) ในเมืองหลันโจว มณฑลกันซู่ (ภาพ: Imaginechina/Corbis )
นักวิชาการจีน ตีพิมพ์ผลงานในวารสารวิชาการ “เนเจอร์” (Nature) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ชี้ โครงการตัดยอดเขามากกว่า 700 แห่ง และเกลี่ยเซาะซากหิน ดินทราย ทั้งหมดลงถมในหุบเขา เพื่อเพิ่มพื้นที่ราบให้เมืองหลันโจว อีกประมาณ 250 ตารางกิโลเมตร ยังต้องพิจารณาปัจจัยความพร้อมอีกหลายด้าน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม เรื่องทางเทคนิค และปัจจัยด้านเศรษฐกิจ
หลี่ เพ่ยเย่ว์, เฉียน ฮุ่ย, อู๋ เจี้ยนหวา จากวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมและวิศวกรรม มหาวิทยาลัยฉางอัน ระบุ “การเพิ่มพื้นที่ในลักษณะนั้น ยังขาดแคลนการศึกษาทำแบบจำลองเรื่องต้นทุนและประโยชน์ที่ได้จากพื้นที่ที่เพิ่มขึ้น ปัญหาจากการขาดแคลนความเชี่ยวชาญและขาดเทคนิคหลายอย่างทำให้โครงการล่าช้าและเพิ่มต้นทุนให้สูงขึ้น ในขณะที่โครงการก็ยังไม่ได้ศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างรอบคอบ"
ในทางกลับกัน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นคาดว่า โครงการดังกล่าวจะสร้างเม็ดเงินได้หลายพันล้านหยวน จากการขาย หรือให้เช่าที่ดินใหม่ที่สร้างขึ้น รวมทั้งสามารถช่วยเก็บรักษาที่ดินทางเกษตรกรรมในส่วนอื่นของประเทศได้ เพราะมิฉะนั้น ที่ดินเหล่านั้นก็จะถูกใช้เพื่อการพัฒนา
นอกจากนี้ ยังคาดหวังกันด้วยว่า โครงการนี้จะช่วยเพิ่มจีดีพี (ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ) ของภูมิภาคให้สูงถึง 4.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ (หรือราวๆ 129,000 ล้านบาท) ภายในปี 2573
ในขณะที่ จากการศึกษาผลกระทบพบว่า การกัดเซาะหน้าดินเพิ่มปริมาณตะกอนในแหล่งน้ำของท้องถิ่น ยกตัวอย่างเช่น ใน สือเยี่ยน มณฑลหูเป่ย การตัดเนินเขาลูกเล็กๆ ลงเติมพื้นที่ในหุบเขา ทำให้เกิดปัญหาดินถล่ม น้ำท่วม และปรับเปลี่ยนเส้นทางน้ำ สิ่งเหล่านี้กระทบกับเมืองเป็นอย่างมาก เพราะตั้งอยู่ใกล้ต้นน้ำของ โครงการผันน้ำจากตอนใต้สู่ตอนเหนือ (South-North Water Transfer project) อันเป็นความพยายามของรัฐบาลจีนในการผันน้ำเข้าคลองสู่ปักกิ่ง
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ ก็มีการระงับโครงการบุกเบิกเขตพัฒนาใหม่ (Lanzhou New Area ) ในหลันโจว มณฑลกันซู่ ไว้ชั่วคราวแล้ว เพราะเกิดมลพิษทางอากาศจากการขุดเจาะ สอดคล้องกับคำเตือนของนักวิชาการที่ออกมาระบุก่อนหน้านี้ว่า หลานโจวเป็นหนึ่งในเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดของจีน และขาดแคลนทรัพยากรน้ำ ซึ่งการเพิ่มพื้นที่ของเมืองนี้จะยิ่งทำให้เกิดการขาดแคลนทรัพยากรเพิ่มขึ้น
สุดท้าย แม้ว่าการตัดยอดเขาในลักษณะนี้ จะเคยเกิดขึ้นมาแล้ว อาทิ เมื่อเดือนเม.ย. 2555 ในเหยียนอัน มณฑลส่านซี โดยสามารถสร้างพื้นที่เพิ่มถึง 78.5 ตารางกิโลเมตร เพิ่มขนาดเมืองให้เป็นสองเท่า และ นอกจากนี้ ในสหรัฐอเมริกา ก็เคยมีการตัดเขาในเขตเหมืองแร่ทางตะวันออกของประเทศ แต่ก็ยังไม่เคยมีที่ใดในโลก ที่ดำเนินโครงการขนาดใหญ่เท่าที่จีนทำอยู่ตอนนี้ ดังนั้นจีนจึงจะเป็นต้องศึกษาเรื่องดังกล่าวอย่างรัดกุมในทุกด้าน
“หากไม่ก่อประโยชน์ รัฐบาลก็ไม่ควรเดินหน้าต่อไป” นักวิชาการทั้งสามคน เรียกร้อง
http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9570000065414
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จีนเตรียมถล่มภูเขา 700 ลูก!!! เพื่อสร้างเมืองใหม่!!!
โดย กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
จีนจะทำลายภูเขา 700 ลูกในมณฑลกานซูเพื่อสร้างเมืองใหม่ในพื้นที่ทะเลทราย ซึ่งเชื่อว่าจะ เป็นโครงการทำลายภูเขาครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
วิดีโอประชาสัมพันธ์โครงการสร้างเมืองใหม่ ที่ถูกเผยแพร่เมื่อเร็วๆนี้แสดงให้เห็นว่า เมืองใหม่จะตั้งขึ้นในบริเวณรอบนอกของเมืองหลานโจว มณฑลกานซู โดยอยู่ห่างจากเมืองไป 80 กม.และจะมีพื้นที่กว้าง 812,500 ตร.กม. โดยจะมีการสร้างตึกระฟ้า โรงงาน สนามกีฬา และสวนสาธารณะ เป็นต้น แต่จำเป็นต้องทำลายภูเขาทิ้งมากถึง 700 ลูกเพื่อเคลียร์พื้นที่ และเมืองใหม่แห่งนี้จะเป็นแห่งที่ 5 ของจีน ที่เกิดขึ้นจากการทำลายภูเขา
คาดว่าจะต้องใช้งบราว 1 แสน 8 พันล้านบาทเพื่อใช้ในการทำลายภูเขาครั้งนี้ ขณะที่คาดกันว่า เมื่อโครงการสร้างเมืองใหม่แล้วเสร็จ จะสามารถรายได้ให้กับภูมิภาคนี้สูงถึง 1 ล้าน 3 แสน 2 หมื่นล้านบาท
นิตยสารเศรษฐกิจจีนรายสัปดาห์ รายงานเมื่อวันอังคารว่า โครงการทำลายภูเขาระยะแรกเริ่มดำเนินการไปแล้ว ตั้งแต่ปลายเดือน ต.ค. แต่โครงการนี้ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของเมืองหลานโจว ที่มีประชากร 3 ล้าน 7 แสนคน โดยเมื่อปีที่แล้วองค์การอนามัยโลกเพิ่งระบุว่า หลานโจวเป็นหนึ่งในเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดของจีน โดยมีมลพิษทางอากาศเลวร้ายที่สุด และยังมีปัญหาขาดแคลนน้ำอีกด้วย
นอกจากนี้ อดีตเจ้าหน้าที่ในคณะกรรมาธิการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน บอกว่า โครงการสร้างเมืองใหม่นี้ ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะเป็นเมืองที่มีการขาดแคลนน้ำมากที่สุดแห่งหนึ่ง และนักเศรษฐศาสตร์ มองว่า เป็นการลงทุนที่เสี่ยงไม่คุ้มค่ากับเม็ดเงินลงทุน
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/china-focus/20121208/481370/จีนเตรียมถล่มภูเขา700-ลูกเพื่อสร้างเมืองใหม่.html
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศาลตัดสินจำคุก 12 ปี!!! พ่อจีน ใช้มีด ฆ่าลูกสาว!!! คลั่งวง EXO!!!
14 มิถุนายน 2557
ศาลจีนตัดสินจำคุกพ่อฆ่าลูกสาว ฉุน ลูกสาวคลั่งวง EXO จนไม่เป็นอันทำอะไร และยังตะโกนพูดจาทำร้ายจิตใจพ่อ
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2557 เว็บไซต์วิกิทรี รายงานว่า ศาลแขวงในกรุงปักกิ่ง ได้สั่งตัดสินจำคุกนายจูไค่เป็นเวลา 12 ปี หลังจากที่เขาใช้มีดแทงลูกสาววัย 13 ปีจนเสียชีวิต เนื่องมาจากลูกสาวสนใจไอดอลเกาหลีวง EXO มากกว่าที่จะสนใจเรียน อีกทั้งลูกสาวยังตะโกนใส่นายจูไค่ว่า เธอรักไอดอลมากกว่าพ่อแม่เป็นพันเท่า
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2556 เมื่อลูกสาวของนายจูไค่ วัย 13 ปี ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องนอนเล่นคอมพิวเตอร์ และสะสมของที่ระลึกเกี่ยวกับวง EXO เมื่อนายจูไค่เข้าไปตักเตือนและบอกว่า ลูกสาวของเขานั่งที่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป รู้จักแต่ใช้เงิน และไม่ว่าเหล่าไอดอลจะดูเจ๋งและเท่เพียงใด ไอดอลเหล่านั้นก็ไม่สามารถให้ความรักกับเธอได้มากเท่าที่พ่อแม่ให้ได้ นั่นจึงทำให้ลูกสาวของเขาเกิดบันดาลโทสะ ตะโกนออกไปว่า "หนูรักไอดอลมากกว่าพ่อเป็นพันเท่า ไอดอลดีกว่าพ่อซะอีก"
จากนั้น นายจูไค่จึงบันดาลโทสะ เขาเข้าไปหยิบมีดในครัวหวังที่จะใช้ขู่ลูกสาว แต่เหตุการณ์กลับเลวร้ายยิ่งขึ้นเมื่อลูกสาวตะโกนว่า "ไอดอลดีกว่าพ่อแม่อย่างคุณร้อยเท่าพันเท่า" ทำให้นายจูไค่ขาดสติ ใช้มีดแทงลูกสาวดับต่อหน้า และพยายามจะฆ่าตัวตายตาม แต่ไม่สำเร็จ เมื่อตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ ลูกสาวของเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนนายจูไค่ถูกนำตัวส่งไปโรงพยาบาล
หลังจากนั้น นายจูไค่ได้สารภาพกับศาลว่า "ตอนที่ผมได้ยินเธอพูดว่า ไอดอลดีกว่าพ่อแม่อย่างคุณร้อยเท่าพันเท่า ผมก็ไม่สามารถทำความเข้าใจได้อีกต่อไป คำพูดนั้นทำให้หัวใจของผมสลาย"
http://hilight.kapook.com/view/103733
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทำไปได้!!! หนุ่มเร่ร่อนจีน ใช้รูป ซอฮยอน SNSD อ้างเป็นเมีย!!! ถูกไฟคลอกตาย!!! เร่ขอทานหาเงินเลี้ยงลูก!!!
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 มิถุนายน 2557
กลายเป็นเรื่องที่ชวนหัวที่สุดของข่าวบันเทิงเกาหลีใต้ในเวลานี้เลยก็ว่าได้ เมื่อมีรายงานว่าหนุ่มเร่ร่อนชาวจีนใช้รูปของนักร้องสาว “ซอฮยอน”จากวง SNSD อ้างเป็นภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้ว ออกเร่ร่อนขอเงินเพื่อเลี้ยงลูก
ตามรายงานระบุว่า ชาวเน็ตได้สังเกตเห็นภาพของซอฮยอน นักร้องสาวจากเกิร์ลกรุ๊ปดัง SNSD ปรากฏอยู่บนโปสเตอร์ของหนุ่มเร่ร่อนไร้บ้านที่หนานชาง เพื่อเรียกความสงสารขอเงินจากผู้สัญจรไปมา โดยอ้างว่าเขาเป็นสามีของหญิงสาวในภาพ( ซอฮยอน )ที่เสียชีวิตไปแล้ว
โดยสื่อไต้หวันได้รายงานเรื่องนี้ลงใน NOWnews ระบุว่า “หนุ่มเร่ร่อนที่อยู่ริมถนนในหนานชาง มณฑลเจียงซี ประเทศจีน ได้ใช้ภาพจบการศึกษาของซอฮยอน นักร้องสาวจาก SNSD มาตัดต่อ พร้อมแสดงสีหน้าน่าสงสารเพื่อขอเงินบริจาคจากผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา”
ตามรายงานจากสื่อข้างต้นระบุด้วยว่า บนโปสเตอร์ดังกล่าว หนุ่มเร่รอ่นได้อ้างว่าหญิงสาวในภาพคือภรรยาของเขาเองที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อ 2 ปีก่อนจากอุบัติเหตุไฟไหม้ และตัวเขาเองได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเขายังบอกด้วยว่าต้องการนำเงินที่ได้จากการบริจาคไปเลี้ยงดูลูกสาวและสมาชิกในครอบครัวของเขา
และทันทีที่ข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกไปจนกลายเป็นข่าวใหญ่ เหล่าบรรดาชาวเน็ตต่างแสดงความรู้สึกแตกต่างกันออกไป โดยแฟนเพลงส่วนมากมองว่าเป็นเรื่องตลกและแปลกที่สุดตั้งแต่อ่านข่าวบันเทิงเค-ป็อปมา ในขณะที่บางส่วนรู้สึกไม่พอใจขอทานคนดังกล่าวที่ใช้ภาพของซอฮยอนเพื่อไปต้มตุ๋นหลอกเงินคนอื่น
http://www.manager.co.th/entertainment/viewnews.aspx?NewsID=9570000066680