คืออาจจะเป็นกระทู้ระบายและขอคำปรึกษาด้วยน๊ะค่ะ
คือเรื่องมันเริ่มต้นเมื่อ..กลางปีที่แล้วค่ะ
ลูกชายของป้าได้แอบขโมยรถยนต์ของพี่ชายเราไปรับแฟนของมันทั้งๆที่มันเมาและขับรถไม่ค่อยแข็ง..คือแบบมันเข้ามาหยิบกุญแจในบ้านเลยค่ะ ตอนนั้นไม่มีใครเห็นเลย
หลังจากนั้น..ลูกชายป้าก็ขับรถพี่ชายเราไปชนกับต้นไม้หน้าหอของแฟนมัน สภาพรถคือหน้ารถพังหมดเลยค่ะ
ตอนแรก..ลูกชายป้าก็ขอโทษพี่ชาย แม่เราก็พยายามปลอบลูกชายป้าว่าคนไม่เป็นไรก็ดีแล้ว พี่ชายเราก็มีโมโหนิดหน่อยแต่ไม่ติดใจเอาความอะไรไม่แจ้งความอีกต่างหาก ทั้งๆที่เจ้าของหอแฟนลูกชายป้ายุให้พี่ชายเราแจ้งความ แต่พี่ชายเราขอแค่ให้ทางป้าซ่อมรถให้ก็พอ ค่าใช้จ่ายก็เกือบแสนเลยค่ะ
ลุงกับป้าก็โอเค
ทุกอย่างเหมือนผ่านไปได้ด้วยดีน๊ะค่ะ
แต่พอลูกชายป้ากลับมาบ้าน..รุ่งเช้าทั้งป้า ทั้งลุง และลูกชายป้าไม่คุยกับครอบครัวเราอีกเลย แม้กระทั่งลูกพี่ชายตัวเล็กๆอาย7ขวบยังเมินใส่ ทั้งๆที่ปกติลูกพี่ชายก็เล่นกับป้ากับลูกชายป้าทุกๆวัน
หลังจากนั้นญาติๆเราก็เริ่มไม่คุยกับพ่อแม่บางคนก็คุยน้อยลง เพราะทุกคนเชื่อว่าพี่ชายเราใส่ร้ายลูกชายป้า หาว่ายอมให้ลูกชายป้าเอารถไปใช้เอง แล้วพอรถชนก็มาโทษลูกชายป้า ทั้งๆที่ตอนที่ลูกชายป้าขโมยรถพี่ชายเราไปขับ พี่ชายเราอาบน้ำอยู่และไม่มีใครอยู่บ้านพี่ชายเลย แต่ลูกพี่ชายป้าก็มาหยิบกุญแจไปเอง(ป้าเหมือนเป็นคนมีอำนาจค่ะ..เป็นคนมีเงิน ญาติๆคนอื่นเลยเข้าหาทางป้าเยอะมากกว่า)
หลังจากนั้นก็เหมือนจะตัดญาติขาดมิตร สองบ้านไม่มีใครคุยกับใคร..ญาติๆคนอื่นก็คุยน้อยลง ไม่ค่อยจะมาเที่ยวบ้านเราเหมือนแต่ก่อน
จนกระทั่งช่วงปิดเทอมเราก็กลับมาอยู่บ้าน เราก็ตัดสินใจทักป้าก่อนเพราะไม่อยากให้ญาติๆมาทะเลาะกันมาโกรธเกลียดกัน พอเราทักป้าก็ทักตอบค่ะ ทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ลุง ป้า ลูกชายป้า คุยกับเรา พ่อแม่เรา แต่ไม่คุยกับพี่ชายและพี่สะใภ้เราเลย
ทุกอย่างก็ผ่านมาได้ด้วยดีตลอด จนกระทั่งป้ามีการสร้างรั้วกั้นบ้านฝั่งบ้านพี่ชาย(เรากับพี่ชายอยู่บ้านคนล่ะหลังน๊ะค่ะ..แต่บ้านพี่ชายอยู่ติดบ้านป้า)พี่ชายเราก็เหมือนจะไม่พอใจหาว่าป้าทำแบบนี้เกินไปถึงขั้นกั้นรั้วปิดกันเลยหรอ แต่พ่อแม่ก็ห้ามไว้เพื่อไม่ให้เรื่องมันบานปลาย
รถก็ซ่อมเสร็จแล้ว ก็เหมือนจะจบๆกันไป แต่ทะเบียนรถพี่ชายนี่สิ จู่ๆมาก็หาย เราก็ไม่ได้สงสัยใครหรอกค่ะ เพราะคิดว่ามันคงหล่นหรือโดนขโมยจากที่อื่น แต่ที่สุดท้ายเราก็อดสงสัยลูกชายป้าไม่ได้เพราะแม่เราเห็นว่าลูกชายป้าเดินผ่านรถพี่ชายแล้วชี้ให้แฟนมันดูที่ทะเบียนแล้วหัวเราะกัน แม่เลยสงสัยว่าลูกป้าอาจจะเป็นคนขโมยก็ได้ แม่เลยให้พี่ชายไปแจ้งความไว้ก่อน
จนมาเมื่อช่วงหลังสงกรานต์ พี่ชายเอาแมวมาเลี้ยงสองตัว น่ารักมากเลยค่ะ
บ้านป้าก็ไม่ยอมน้อยหน้าเอาหมามาเลี้ยง แล้วเราก็บังเอิญไปได้ยินลุงกับป้าคุยกันว่า"เอาหมามาเลี้ยงเพื่อให้ไล่กัดแมวพี่ชายเรา..เอาคืนมันที่มันทำให้เราต้องจ่ายค่าซ่อมรถ"
เราอึ้งเลยน๊ะค่ะ..ว่าแบบทำไมถึงต้องทำขนาดนี้เรื่องมันจบไปตั้งนานแล้ว
เรื่องมันผ่านมาตั้งนานแล้ว ลูกชายป้าก็เป็นฝ่ายผิดแทนที่จะยอมๆกันไป
เราเองก็ไม่ได้มีปัญหากับใครหรอกค่ะ..แต่ไม่อยากให้ต้องทำกันขนาดนี้
ตอนนี้เราอึดอัดมากเลยค่ะ..ไม่เข้าใจว่าทำไมป้าและลุงต้องทำแบบนี้
ลูกชายป้าเป็นฝ่ายผิด..แทนที่จะยอมรับผิดแต่นี่กลับใส่ร้ายพี่ชายเราหาว่าพี่ชายเราเป้นฝ่ายผิดซ่ะงั้น
- ทุกคนคิดว่าเราควรจะทำยังไงดีค่ะ..กับการกระทำของฝ่ายป้า เราควรจะเฉยหรือตอบโต้ดีค่ะเพราะเหมือนทางฝ่ายป้าก็เหมือนต้องการเอาชนะและเอาคืนครอบครัวเราในหลายๆด้านเลย
เราอึดอัดมากเลยค่ะตอนนี้ อยากให้ญาติๆกลับมารักมาคุยกันเหมือนเดิม
รู้สึกแย่..กับการกระทำของป้าตัวเองมากเลยค่ะ
คือเรื่องมันเริ่มต้นเมื่อ..กลางปีที่แล้วค่ะ
ลูกชายของป้าได้แอบขโมยรถยนต์ของพี่ชายเราไปรับแฟนของมันทั้งๆที่มันเมาและขับรถไม่ค่อยแข็ง..คือแบบมันเข้ามาหยิบกุญแจในบ้านเลยค่ะ ตอนนั้นไม่มีใครเห็นเลย
หลังจากนั้น..ลูกชายป้าก็ขับรถพี่ชายเราไปชนกับต้นไม้หน้าหอของแฟนมัน สภาพรถคือหน้ารถพังหมดเลยค่ะ
ตอนแรก..ลูกชายป้าก็ขอโทษพี่ชาย แม่เราก็พยายามปลอบลูกชายป้าว่าคนไม่เป็นไรก็ดีแล้ว พี่ชายเราก็มีโมโหนิดหน่อยแต่ไม่ติดใจเอาความอะไรไม่แจ้งความอีกต่างหาก ทั้งๆที่เจ้าของหอแฟนลูกชายป้ายุให้พี่ชายเราแจ้งความ แต่พี่ชายเราขอแค่ให้ทางป้าซ่อมรถให้ก็พอ ค่าใช้จ่ายก็เกือบแสนเลยค่ะ
ลุงกับป้าก็โอเค
ทุกอย่างเหมือนผ่านไปได้ด้วยดีน๊ะค่ะ
แต่พอลูกชายป้ากลับมาบ้าน..รุ่งเช้าทั้งป้า ทั้งลุง และลูกชายป้าไม่คุยกับครอบครัวเราอีกเลย แม้กระทั่งลูกพี่ชายตัวเล็กๆอาย7ขวบยังเมินใส่ ทั้งๆที่ปกติลูกพี่ชายก็เล่นกับป้ากับลูกชายป้าทุกๆวัน
หลังจากนั้นญาติๆเราก็เริ่มไม่คุยกับพ่อแม่บางคนก็คุยน้อยลง เพราะทุกคนเชื่อว่าพี่ชายเราใส่ร้ายลูกชายป้า หาว่ายอมให้ลูกชายป้าเอารถไปใช้เอง แล้วพอรถชนก็มาโทษลูกชายป้า ทั้งๆที่ตอนที่ลูกชายป้าขโมยรถพี่ชายเราไปขับ พี่ชายเราอาบน้ำอยู่และไม่มีใครอยู่บ้านพี่ชายเลย แต่ลูกพี่ชายป้าก็มาหยิบกุญแจไปเอง(ป้าเหมือนเป็นคนมีอำนาจค่ะ..เป็นคนมีเงิน ญาติๆคนอื่นเลยเข้าหาทางป้าเยอะมากกว่า)
หลังจากนั้นก็เหมือนจะตัดญาติขาดมิตร สองบ้านไม่มีใครคุยกับใคร..ญาติๆคนอื่นก็คุยน้อยลง ไม่ค่อยจะมาเที่ยวบ้านเราเหมือนแต่ก่อน
จนกระทั่งช่วงปิดเทอมเราก็กลับมาอยู่บ้าน เราก็ตัดสินใจทักป้าก่อนเพราะไม่อยากให้ญาติๆมาทะเลาะกันมาโกรธเกลียดกัน พอเราทักป้าก็ทักตอบค่ะ ทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ลุง ป้า ลูกชายป้า คุยกับเรา พ่อแม่เรา แต่ไม่คุยกับพี่ชายและพี่สะใภ้เราเลย
ทุกอย่างก็ผ่านมาได้ด้วยดีตลอด จนกระทั่งป้ามีการสร้างรั้วกั้นบ้านฝั่งบ้านพี่ชาย(เรากับพี่ชายอยู่บ้านคนล่ะหลังน๊ะค่ะ..แต่บ้านพี่ชายอยู่ติดบ้านป้า)พี่ชายเราก็เหมือนจะไม่พอใจหาว่าป้าทำแบบนี้เกินไปถึงขั้นกั้นรั้วปิดกันเลยหรอ แต่พ่อแม่ก็ห้ามไว้เพื่อไม่ให้เรื่องมันบานปลาย
รถก็ซ่อมเสร็จแล้ว ก็เหมือนจะจบๆกันไป แต่ทะเบียนรถพี่ชายนี่สิ จู่ๆมาก็หาย เราก็ไม่ได้สงสัยใครหรอกค่ะ เพราะคิดว่ามันคงหล่นหรือโดนขโมยจากที่อื่น แต่ที่สุดท้ายเราก็อดสงสัยลูกชายป้าไม่ได้เพราะแม่เราเห็นว่าลูกชายป้าเดินผ่านรถพี่ชายแล้วชี้ให้แฟนมันดูที่ทะเบียนแล้วหัวเราะกัน แม่เลยสงสัยว่าลูกป้าอาจจะเป็นคนขโมยก็ได้ แม่เลยให้พี่ชายไปแจ้งความไว้ก่อน
จนมาเมื่อช่วงหลังสงกรานต์ พี่ชายเอาแมวมาเลี้ยงสองตัว น่ารักมากเลยค่ะ
บ้านป้าก็ไม่ยอมน้อยหน้าเอาหมามาเลี้ยง แล้วเราก็บังเอิญไปได้ยินลุงกับป้าคุยกันว่า"เอาหมามาเลี้ยงเพื่อให้ไล่กัดแมวพี่ชายเรา..เอาคืนมันที่มันทำให้เราต้องจ่ายค่าซ่อมรถ"
เราอึ้งเลยน๊ะค่ะ..ว่าแบบทำไมถึงต้องทำขนาดนี้เรื่องมันจบไปตั้งนานแล้ว
เรื่องมันผ่านมาตั้งนานแล้ว ลูกชายป้าก็เป็นฝ่ายผิดแทนที่จะยอมๆกันไป
เราเองก็ไม่ได้มีปัญหากับใครหรอกค่ะ..แต่ไม่อยากให้ต้องทำกันขนาดนี้
ตอนนี้เราอึดอัดมากเลยค่ะ..ไม่เข้าใจว่าทำไมป้าและลุงต้องทำแบบนี้
ลูกชายป้าเป็นฝ่ายผิด..แทนที่จะยอมรับผิดแต่นี่กลับใส่ร้ายพี่ชายเราหาว่าพี่ชายเราเป้นฝ่ายผิดซ่ะงั้น
- ทุกคนคิดว่าเราควรจะทำยังไงดีค่ะ..กับการกระทำของฝ่ายป้า เราควรจะเฉยหรือตอบโต้ดีค่ะเพราะเหมือนทางฝ่ายป้าก็เหมือนต้องการเอาชนะและเอาคืนครอบครัวเราในหลายๆด้านเลย
เราอึดอัดมากเลยค่ะตอนนี้ อยากให้ญาติๆกลับมารักมาคุยกันเหมือนเดิม