สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ในฐานนะ ศินย์เก่า และเป็นประธานเอก ของชั้นปีด้วย
ขอตอบในที่ละประเด็นแล้วกันนะครับ
กรณี ห้องเรียน เป็นปรกติ ที่ นศ. จะต้องติดต่อขอใช้ห้องเรียนเองในบางวิชา กรณีที่ห้องประจำไม่ว่าง ซึ่งเป็นหน้าที่ของประธานรุ่น + อ. ประจำวิชา
ติดต่อขอใช้ห้องของคณะ ในภาคอื่น ถ้าไม่มีว่าง ติดต่อไปที่ ฝ่ายวิชาการ อาคาร ภปร ชั้นหนึ่ง ขอให้เขาจัดห้องให้ ซึ่งเขาก็จัดหาห้องให้ ได้ทุกครั้ง
เช่น อาจจะขอไปใช้ห้องของคณะอื่น หรือถ้าไม่ว่าง ก็ยังมีหอประชุมธำรงบัวศรี ที่สามารถไปใช้ได้เช่นกัน
ถามว่าเพิ่งเป็นในรุ่นหลังๆหรือเปล่า ตอบเลยว่าเป็นมานานแล้วครับ สมัยพี่ พี่เป็นประธานรุ่น ก็เป็น ก็ต้องหาห้องเรียน บ้างเป็นบางครั้ง บางคาบ ซึ่งเป็นปรกติ สันนิฐานว่า คงจะเป็นในชั้นปีหลังๆ ที่เข้าเรียนในวิชาเฉพาะของภาค เพราะถ้าเรียนวิชาหลักๆ ส่วนใหญ่จะจัดให้เรียนที่ QS 1 หรือไม่ก็ QS 2
บวกกับ ตอนหลัง คณะศึกษา ทุบตึกเก่า ตรงสระบัว (น้องไม่น่ามาทัน ก็ตรงที่สร้างตึกใหม่ นั้นแหละ) ตรงนั้นจะมีตึกคณะศึกษา อยู่อีก 2 ตึก
เลยทำให้เกิดปัญหา เรื่องห้องเรียนเป็นธรรมดา โดยเฉพาะของ คณะศึกษา แต่อย่างที่บอก ว่าถ้าห้องคณะไม่ว่าง ติดต่อที่อาคาร ภปร ฝ่ายวิชาการ หรือฝ่ายอาคารสถานที่ ก็ได้ ตรงชั้นหนึ่ง ตรงที่น้องไปขอใบทรานซคริบ หรือใบเสร็จต่างๆนั้นแหละครับ ห้องข้างๆกันนั้นแหละ
บอกที่เขา ว่า อ. .... ท่านมาขอใช้สถานที่ เนื่องจาก ห้องเรียนของคณะไม่ว่าง แล้วก็แจ้ง จำนวน นศ ไป เท่านี้พี่ๆเขาก็จัดหาห้องให้ได้อยู่แล้วครับ
...............
ประเด็นที่สอง เรื่อง ค่าบำรง ต่างๆ ทำไม ไม่เท่ากับภาคอื่น
ตอบง่ายๆ ก็มันขึ้นกับ อุปกรณ์ + อ. + ปัจจัยอื่นๆ ทำให้ คชจ ต่อคน ต่อหัว ของ นศ แต่ละภาควิชาไม่เท่ากันไงครับ
อย่างของพี่ เรียน คณะวิทย์ ของภาคพี่ ก็จะแพงกว่า ภาค Bio Chem อะไรอยู่พอสมควร เพราะจะต้องมีอุปกรณ์ นอกเหนือจากพื้นฐานทั่วๆไป หรืออย่าง ภาค Com sc ก็แพงกว่าภาคอื่นเช่นกัน
...............
ในกรณีที่บอกว่า ไปฝึกสอน แล้วทำไม ยังต้องจ่ายค่าเทอม
น้องครับ ไม่ว่าน้องจะยังอยู่ ใน ม. หรือไม่ น้องก็ต้องจ่ายครับ
อย่างสมัยพี่ ไปฝึกงาน ตจว ยังต้องเสียเหมือนกันครับ ไม่ว่าจะเป็นค่าบำรุงห้องสมุด ค่าบำรุงการศึกษาต่างๆ
แต่ส่วนที่ไม่เสีย คือค่าหน่วยกิจ ครับ ถ้าเทอมน้ันเราไม่ได้ลงเรียนก็ไม่ต้องเสีย แต่ค่าบำรุงต่างๆยังเสียปกติ
ม. เขาไม่รู้หรอกครับว่าน้องใช้ไม่ใช้ แต่ถือเป็นค่าบำรุง พื้นฐาน ที่ต้องเสีย
ซึ่งสมัยนี้ ค่าเทอมต่างๆ น่าจะเป็นใช้วิธีเหมาจ่ายเป็นรายเทอมมากกว่า เลยทำให้จ่ายเท่าเดิม ซึ่งอันนี้มันก็เป็นปรกติอีกเช่นกัน
ไม่ว่าที่ไหนๆก็เป็นแบบนี้
น้องจะมาอ้างว่า หนูไม่ได้ใช้นะ หนูไม่ได้อยู่ใน ม. นะเทอมนี้ คงอ้างแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ เพราะ ม. คงไม่มีเวลามาเช็คว่า ใครใช้ไม่ใช้ นะครับ
เท่าที่ดู พี่ว่าน้องมีปัญหาเรื่อง ค่าใช้จ่ายนะครับ
อีกอย่าง ประเด็นเหล่านี้ มันมีอยู่ในใบสมัคร ตั้งแต่ก่อนน้องสมัครเขาเป็น นศ แล้วด้วยซ้ำ ได้อ่านหรือเปล่าครับ
...............
เรียนถึง ปี 5 แล้ว ประธานรุ่นมีไว้ทำไม ครับ อ. ที่ปรึกษาชั้นปี มีไว้ทำไม ครับ อ. ประจำวิชา มีไว้ทำไม ครับ
แก้ปัญหาไม่ถูกจุดนะครับ ไม่ใช่เด็กๆแล้ว
............
การที่น้องเขียนแบบนี้ มันเหมื่นเป็นการประจาน ม. ตัวเอง แต่เท่าที่พี่อ่านดู มันก็เป็นปัญหาพื้นๆ ที่บางอย่าง น้องมองว่าเป็นปัญหา แต่พี่กับมองว่า มันไม่ใช่ปัญหา ซะด้วยซ้ำ
อย่างกรณี ค่าบำรุง การศึกษา ที่น้องอ้างว่า น้องฝึกงานอยู่ทำไม ต้องเสีย เออ น้องครับ บางคน สอบจบไม่ทัน ต้องจบช้าไปอีกเทอม เขายังต้องเสียเงินรักษาสภาพ นศ เลยนะครับ ทั้งๆที่เขาไม่ได้อยู่ ม. เหมือนน้องเหมือนกัน
หรืออย่างห้องเรียนก็เหมือนกัน คุณแก้ปัญหากันอย่างไงละครับ ห้องบอกว่าคณะไม่จัดห้องให้ ไม่มีให้เรียนแล้วไงครับ อ. ว่าไง หัวหน้าภาคว่าไง ประธานรุ่นทำอะไรบ้าง
ปี 5 แล้วนะครับ เขียนแบบนี้ พี่ว่า แทนที่คนเขาจะมอง ว่า ม. ไม่ได้เรื่อง เขากับมองที่ตัวน้องมากกว่านะครับ
ขอตอบในที่ละประเด็นแล้วกันนะครับ
กรณี ห้องเรียน เป็นปรกติ ที่ นศ. จะต้องติดต่อขอใช้ห้องเรียนเองในบางวิชา กรณีที่ห้องประจำไม่ว่าง ซึ่งเป็นหน้าที่ของประธานรุ่น + อ. ประจำวิชา
ติดต่อขอใช้ห้องของคณะ ในภาคอื่น ถ้าไม่มีว่าง ติดต่อไปที่ ฝ่ายวิชาการ อาคาร ภปร ชั้นหนึ่ง ขอให้เขาจัดห้องให้ ซึ่งเขาก็จัดหาห้องให้ ได้ทุกครั้ง
เช่น อาจจะขอไปใช้ห้องของคณะอื่น หรือถ้าไม่ว่าง ก็ยังมีหอประชุมธำรงบัวศรี ที่สามารถไปใช้ได้เช่นกัน
ถามว่าเพิ่งเป็นในรุ่นหลังๆหรือเปล่า ตอบเลยว่าเป็นมานานแล้วครับ สมัยพี่ พี่เป็นประธานรุ่น ก็เป็น ก็ต้องหาห้องเรียน บ้างเป็นบางครั้ง บางคาบ ซึ่งเป็นปรกติ สันนิฐานว่า คงจะเป็นในชั้นปีหลังๆ ที่เข้าเรียนในวิชาเฉพาะของภาค เพราะถ้าเรียนวิชาหลักๆ ส่วนใหญ่จะจัดให้เรียนที่ QS 1 หรือไม่ก็ QS 2
บวกกับ ตอนหลัง คณะศึกษา ทุบตึกเก่า ตรงสระบัว (น้องไม่น่ามาทัน ก็ตรงที่สร้างตึกใหม่ นั้นแหละ) ตรงนั้นจะมีตึกคณะศึกษา อยู่อีก 2 ตึก
เลยทำให้เกิดปัญหา เรื่องห้องเรียนเป็นธรรมดา โดยเฉพาะของ คณะศึกษา แต่อย่างที่บอก ว่าถ้าห้องคณะไม่ว่าง ติดต่อที่อาคาร ภปร ฝ่ายวิชาการ หรือฝ่ายอาคารสถานที่ ก็ได้ ตรงชั้นหนึ่ง ตรงที่น้องไปขอใบทรานซคริบ หรือใบเสร็จต่างๆนั้นแหละครับ ห้องข้างๆกันนั้นแหละ
บอกที่เขา ว่า อ. .... ท่านมาขอใช้สถานที่ เนื่องจาก ห้องเรียนของคณะไม่ว่าง แล้วก็แจ้ง จำนวน นศ ไป เท่านี้พี่ๆเขาก็จัดหาห้องให้ได้อยู่แล้วครับ
...............
ประเด็นที่สอง เรื่อง ค่าบำรง ต่างๆ ทำไม ไม่เท่ากับภาคอื่น
ตอบง่ายๆ ก็มันขึ้นกับ อุปกรณ์ + อ. + ปัจจัยอื่นๆ ทำให้ คชจ ต่อคน ต่อหัว ของ นศ แต่ละภาควิชาไม่เท่ากันไงครับ
อย่างของพี่ เรียน คณะวิทย์ ของภาคพี่ ก็จะแพงกว่า ภาค Bio Chem อะไรอยู่พอสมควร เพราะจะต้องมีอุปกรณ์ นอกเหนือจากพื้นฐานทั่วๆไป หรืออย่าง ภาค Com sc ก็แพงกว่าภาคอื่นเช่นกัน
...............
ในกรณีที่บอกว่า ไปฝึกสอน แล้วทำไม ยังต้องจ่ายค่าเทอม
น้องครับ ไม่ว่าน้องจะยังอยู่ ใน ม. หรือไม่ น้องก็ต้องจ่ายครับ
อย่างสมัยพี่ ไปฝึกงาน ตจว ยังต้องเสียเหมือนกันครับ ไม่ว่าจะเป็นค่าบำรุงห้องสมุด ค่าบำรุงการศึกษาต่างๆ
แต่ส่วนที่ไม่เสีย คือค่าหน่วยกิจ ครับ ถ้าเทอมน้ันเราไม่ได้ลงเรียนก็ไม่ต้องเสีย แต่ค่าบำรุงต่างๆยังเสียปกติ
ม. เขาไม่รู้หรอกครับว่าน้องใช้ไม่ใช้ แต่ถือเป็นค่าบำรุง พื้นฐาน ที่ต้องเสีย
ซึ่งสมัยนี้ ค่าเทอมต่างๆ น่าจะเป็นใช้วิธีเหมาจ่ายเป็นรายเทอมมากกว่า เลยทำให้จ่ายเท่าเดิม ซึ่งอันนี้มันก็เป็นปรกติอีกเช่นกัน
ไม่ว่าที่ไหนๆก็เป็นแบบนี้
น้องจะมาอ้างว่า หนูไม่ได้ใช้นะ หนูไม่ได้อยู่ใน ม. นะเทอมนี้ คงอ้างแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ เพราะ ม. คงไม่มีเวลามาเช็คว่า ใครใช้ไม่ใช้ นะครับ
เท่าที่ดู พี่ว่าน้องมีปัญหาเรื่อง ค่าใช้จ่ายนะครับ
อีกอย่าง ประเด็นเหล่านี้ มันมีอยู่ในใบสมัคร ตั้งแต่ก่อนน้องสมัครเขาเป็น นศ แล้วด้วยซ้ำ ได้อ่านหรือเปล่าครับ
...............
เรียนถึง ปี 5 แล้ว ประธานรุ่นมีไว้ทำไม ครับ อ. ที่ปรึกษาชั้นปี มีไว้ทำไม ครับ อ. ประจำวิชา มีไว้ทำไม ครับ
แก้ปัญหาไม่ถูกจุดนะครับ ไม่ใช่เด็กๆแล้ว
............
การที่น้องเขียนแบบนี้ มันเหมื่นเป็นการประจาน ม. ตัวเอง แต่เท่าที่พี่อ่านดู มันก็เป็นปัญหาพื้นๆ ที่บางอย่าง น้องมองว่าเป็นปัญหา แต่พี่กับมองว่า มันไม่ใช่ปัญหา ซะด้วยซ้ำ
อย่างกรณี ค่าบำรุง การศึกษา ที่น้องอ้างว่า น้องฝึกงานอยู่ทำไม ต้องเสีย เออ น้องครับ บางคน สอบจบไม่ทัน ต้องจบช้าไปอีกเทอม เขายังต้องเสียเงินรักษาสภาพ นศ เลยนะครับ ทั้งๆที่เขาไม่ได้อยู่ ม. เหมือนน้องเหมือนกัน
หรืออย่างห้องเรียนก็เหมือนกัน คุณแก้ปัญหากันอย่างไงละครับ ห้องบอกว่าคณะไม่จัดห้องให้ ไม่มีให้เรียนแล้วไงครับ อ. ว่าไง หัวหน้าภาคว่าไง ประธานรุ่นทำอะไรบ้าง
ปี 5 แล้วนะครับ เขียนแบบนี้ พี่ว่า แทนที่คนเขาจะมอง ว่า ม. ไม่ได้เรื่อง เขากับมองที่ตัวน้องมากกว่านะครับ
สมาชิกหมายเลข 1836957 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1899291 ถูกใจ, ormkan สยอง, สมาชิกหมายเลข 1195388 ถูกใจ, maldra ถูกใจ, somkamol ถูกใจ, ducatiride ถูกใจ, maka ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น
ศึกษาศาสตร์ ม.บูรพา ค่าเทอมที่ไม่ยุติธรรม!!
ค่าเทอมของเอกอังกฤษและญี่ปุ่นจะตกอยู่ราวๆ 10,000 บาทค่ะ ในขณะที่เอกอื่นๆอยู่ประมาณ 5-6 พัน
ส่วนต่างมาจากค่าบำรุงคณะ ที่เอกอื่นๆ จ่ายแค่ 1500 แต่เอกอังกฤษต้องจ่ายมากกว่าถึง 5000 บาทค่ะ
หลายคนอาจจะบอกว่าเหมาะสมดีแล้ว แต่รายละเอียดมีอยู่ว่า
1. ค่าบำรุงคณะ 5000 บาท แต่นิสิตไม่มีห้องเรียนเลย คณะไม่สามารถจัดห้องเรียนให้นิสิตได้ ซึ่งไม่ใช่แค่วิชาเดียว แต่เกือบทั้งหมดที่ลงทะเบียนไปนะคะ
2. นิสิตต้องเดินหาห้องเรียน ทำเรื่องเอง ติดต่อเอง ซึ่งเป็นแบบนี้ทุกเทอมและทุกปีการศึกษา
3. ไม่ใช่เฉพาะห้องเรียนที่ไม่มีให้นิสิต และคณะไม่รับผิดชอบอะไรใดๆ ทั้งสิ้นนอกจากว่าให้นิสิตไปหาห้องเอาเอง ยังมีปัญหาเรื่องของเก้าอี้ โต๊ะที่ไม่เพียงพอ
4. ค่าเทอมนี้ยังไม่รวมค่าต่างๆ ที่ทางคณะเรียกเก็บ ค่าบำรุงชั้นปี ค่ารับน้อง ฯลฯ
อยากให้ทางคณะชี้แจ้งมีคำตอบให้กับนิสิตว่าเงินส่วนที่เก็บไปเอาไปทำอะไรบ้าง หลังจากตึกถล่มเมื่อปี 53 ณ ปัจจุบันยังเป็นซากปรักหักพังเหมือนเดิม ค่าบำรุงคณะ 5000 สาขาประมาณ 400 ถามว่าเงินเป็นจำนวนเท่าไหร่ สองล้านบาท นี่เฉพาะเอกเดียว ทั้งคณะมีสิบกว่าเอก อยากให้ตอบคำถามนิสิตว่าเก็บเงินไปทำไมเยอะแยะ แล้วเอาเงินไปทำอะไร แล้วทำไมเอกอังกฤษและญี่ปุ่นถึงต้องจ่ายมากกว่าเอกอื่นหลายเท่าตัว ทั้งๆที่คุณภาพชีวิตและการเรียนไม่ได้แตกต่างเลยค่ะ
ในปีที่ 5 ที่ฝึกสอนอยู่ ในขณะนี้ ทำไมเอกอังกฤษและญี่ปุ่นถึงยังต้องจ่ายค่าเทอมเท่าเดิมอีก คือประมาณ 8500 บาท
ทั้งๆที่เอกอื่นจ่ายประมาณ 4000 บาท ??? ทำไมค่าบำรุงคณะยัง 5000 เหมือเดิม ทั้งๆที่
- ฝึกสอนเราต้องฝึกที่โรงเรียน เช่าหอเอง ออกค่ากิน ค่าทำสื่อเอง ค่าตอบแทนก็ไม่มีอยู่แล้ว
- มหาวิทยาลัยเราไม่ได้ไปใช้เลย ไม่ได้เรียนเลยอยู่แล้วตลอดปีการศึกษา มีแค่ไปสัมมนาที่มหาวิทยาลัยแค่ 4 ครั้งต่อปีเท่านั้น
ข้อสงสัยคือ ทำไมค่าเทอมถึงยังแพงเหมือนเดิม เงินทีเก็บไปเอาไปทำอะไร มันเหมาะสมแล้วหรือที่เก็บค่าเทอมมากถึงขนาดนี้แต่ไม่ได้ใช้อะไรจากคณะและมหาวิทยาลัยเลย ที่ข้องใจมากที่สุดทำไม "สาขาการสอนภาษาอังกฤษและญี่ปุ่น" ถึงเป็นเอกเดียวที่จ่ายแพงกว่าเอกอื่นอยู่มาก
*ที่สงสัยคือทำไมเอกจีนซึ่งเคยจ่ายเท่ากันและเป็นเอกภาษาเหมือนกัน ทำไมถึงค่าเทอมลดเหลือแค่ 4000 กว่าบาท แต่ทำไมเอกอังกฤษและญี่ปุ่นยังต้องจ่ายค่าบำรุงคณะเท่าเดิม