ถ้าคุณทำผิดแบบดาราไทยที่มีข่าวฉาวต่างๆนานาในตอนนี้คุณว่าจะรับมือไหวไหม

โดยส่วนตัวไม่ได้เป็นติ่งใครทั้งนั้นนะค่ะ แค่รู้สึกว่าสังคมไทยในปัจจุบันน่ากลัวเอาเสียมากๆ
ใครทำผิดอะไร ก็โดนประจานในโลกสังคมออนไลน์ไม่เหลือชิ้นดี
บางทีเราก็สงสัยนะค่ะว่าดาราทำผิดขนาดนั้นเลยหรอค่ะที่ต้องไปด่าเค้าถึงบุพการี บ้างละ
ด่าเสียๆหายแบบโคตรๆ ทั้งๆที่เราไม่เคยรู้จักพวกเค้าแบบเป็นการส่วนตัวเลยสักคน
เข้าใจนะค่ะว่า ดาราเป็นคนของประชาชน  ต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนและสังคม
แต่ดาราก็ยังคงเป็น มนุษย์ ไม่ต่างจากเราเลย มี รัก โลภ โกรธ หลง เหมือนเรานี่แหละค่ะ
ที่สำคัญเค้าก็มีความรู้สึกเหมือนกับเรา ถ้า จขกท เป็นดาราที่มีข่าวฉาวเพราะตนเองมีพฤติกรรมของตนเอง
ไม่เหมาะสม เช่น ใบเตย หมาก วู้ดดี้ แตงโม เจนนี่ และใครอีกหลายคน เราเชื่อว่า เค้าก็อยากให้สังคม
เข้าใจในความเป็นตัวเราอ่าค่ะ อยากให้เข้าใจความผิดพลาดของเรา อยากปรับปรุงตัวในแบบของเรา
พวกเค้าก็ยังอยากทำในอาชีพที่หารายได้เลี้ยงครอบครัวได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของเค้า
น่าสงสารเค้านะค่ะ ถ้าแม่ค้าขายข่าวในตลาดทะเลาะกับแม่ค้าในตลาดด้วยกัน ก็ยังมีคนซื้อของของแม่ค้าคนนั้น
แต่ดาราเวลาทะเลาะกับใคร มีข่าวอะไรเสียหาย เพราะความไม่ยั้งคิดของตน เหมือนไม่สามารถดำรงอาชีพนี้ต่อไปได้เลย
ถ้า จขกท เป็นดาราพวกนั้น ก็คงจิตตกมากๆ และรับมือไม่ไหวแน่ๆ แล้วเพื่อนๆ คิดว่ายังไงค่ะ

เป็นเพื่อนๆจะรับมือยังไง รับมือไหวไหมถ้าเจอเหตุการณ์เหล่านี้
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
เราคิดว่ามันเป็นราคาที่ต้องจ่ายค่ะ อาชีพที่เกี่ยวพันกับความนิยมและสาธารณชนนี้ นอกจากฝีมือแล้วยังมีเรื่องภาพลักษณ์นิสัยส่วนตัวเข้ามาพัวพันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเป็นบุคคลที่อยู่ท่ามกลางสปอร์ตไลท์คนจะมองเห็นด้านที่แสดงออกและนับรวมไปเป็นส่วนหนึ่งของภาพที่มองบุคคลสาธารณะคนนั้น และภาพที่ปรากฎนั่นแหละเป็นปัจจัยประการหนึ่งที่ทำรายได้ให้กับดาราหนักแสดงซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะ คนในอาชีพนี้อิมเมจมีระดับความสำคัญมากกว่าอาชีพทั่วไปเพราะเขาออกสื่อ คนมองเห็นได้มาก พูดจาปากต่อปากกันได้มาก แล้วก็กระทบกับการงานอาชีพได้มาก (เช่น การเป็นพรีเซนเตอร์) ดังนั้นทำอะไรต้องระวัง

อีกประการหนึ่งอาชีพที่เกี่ยวพันกับสาธารณะ ที่สิ่งที่ทำมักจะมี impact ต่อสังคมไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ก็หลีกเลี่ยงเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมไม่ได้เช่นกัน ตัวดารานักแสดงเองอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว แต่เรื่องที่คิดว่าส่วนตัวหลาย ๆ คนอาจยึดถือเป็นไอดอลเพราะคิดว่ามันเท่ดีมีคนพูดถึง อย่าลืมว่าคนแต่ละคนไม่ได้มีวิจารณญาณเท่ากันคิดได้เท่ากัน หากพูดถึงในวัยรุ่นเป็นวัยกบฎที่เชื่อเพื่อนเฮโลไปกับเพื่อนพ้องมากเห็น public figure เป็นแนวปฏิบัติยึดถือ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นเรื่องส่วนรวมแล้ว นอกจากครอบครัวจะอบรมดูแล ก็เป็นความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างหนึ่งของผู้ที่ทำอาชีพเหล่านี้ด้วยที่ควรปฎิบัติตัวในร่องในรอย หรือ บอกได้ว่าอันไหนทำถูกผิดควรทำตามหรือไม่ควร


ไม่ใช่ว่าบุคคลเหล่านี้จะต้องหายไปจากวงการดับไปเลยนะ หนทางแก้ไขมันมีเพียงแต่เจ้าตัวต้องคำนึงถึงสถานะและบทบาทของตัวเองว่านอกจากทำงานหารายได้แล้วก็มีบทบาทต่อสังคมด้วย สิ่งใดที่ผิดก็ยอมรับว่าผิดแล้วแก้ไขเสียให้ถูกต้อง ซึ่งเราอยากให้ผู้ใหญ่เล็งเห็นและมีมาตรการ sanction ตามลำดับความผิดไป อย่างที่เราเคยยกตัวอย่าง ขอยกอีกที



สึโยชิ คุซานางิ วง SMAP (ญี่ปุ่น)

SMAP เป็นวงที่เรียกว่าดังและเป็นรุ่นใหญ่ของวงการ สมาชิกแต่ละคนมีชื่อเสียงเป็นเอกเทศ
ตอนที่เกิดเรื่องกับคุซานางิ เป็นกรณีที่เจ้าตัวดื่มเหล้าแล้วเมาอาละวาดในที่สาธารณะ มีคน
โทรแจ้งตำรวจ สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาคือสึโยชิพักงงานตัวเอง ... ด้วยความสำนึกผิด

ผู้จัดการส่วนตัวของวงเดินทางไปที่สถานีโทรทัศน์ และ สปอนเซอร์เพื่อก้มหัวขอโทษด้วยตนเอง
เพื่อน ๆ ในวงใช้ช่องทางที่ตัวเองจัดรายการอยู่ขอโทษแทนเพื่อน ชินโงซึ่งเป็นสมาชิกที่สนิท
กับสึโยชิมากที่สุด ออกรายการตอนเช้าก้มหัวขอโทษแฟน ๆ แทนสึโยชิ

Two Tops ของวงคือ คิมุระ กับ นาคาอิ ไม่พูด ไม่คุย ไม่โทรหา สึโยชิ แต่ส่งหนังสือไปให้อ่าน
และขอโทษแทนสึโยชิเมื่อออกรายการและสื่อต่าง ๆ ปล่อยให้เพื่อนสมาชิกที่รุ่นราวคราวเดียว
กับสึโยชิทำหน้าที่ปลอบใจและไปอยู่ที่บ้านเป็นเพื่อน (ว่าง่าย ๆ คือ คนอาวุโสในวงลงไม้เรียว)

การแบนตัวเองในครั้งนี้กินเวลาประมาณเดือนเศษ ๆ เนื่องจากสังคมพิจารณาดูแล้วเห็นควรให้อภัย
คแฟน ๆ ก็มีแคมเปญเป็นกำลังใจให้สึโยชิกลับมาทำงาน ผลจากการแบนตัวเอง 35 วันนั้น คือ
สึโยชิจากวันที่เกิดเรื่องในปี 2009 ถึงปัจจุบันสึโยชิไม่แตะเหล้าอีกเลย

ป.ล. เจ้าตัวเองเมื่อเห็นภาพเพื่อน(น้ำตาคลอ)ก้มหัวขอโทษแทนออกทีวี ซึ่งเพื่อนคนนั้นคือชินโงซึ่งมีถ่ายรายการตอนเช้าถัดจากคืนที่ถูกจับเป็นคนแรกเลยที่เผชิญสื่อหลังจากรู้ข่าวไม่กี่ชั่วโมง ภายหลังสึโยชิให้สัมภาณ์กับนักข่าวว่าตอนที่เห็นภาพนั้นก็คิดเลยว่าจะไม่ยอมให้ใครก้มหัวขอโทษแทนอีกแล้ว จากคนที่ดื่มจัดมากเลยเลิกดื่มได้เด็ดขาดจริง ๆ

จะสื่อให้เห็นว่า เรื่องสำคัญคือเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นความผิดกับคนในวงก็ยอมรับว่าเพื่อนผิดแล้วก็สำนึกผิดแก้ไขกันไปด้วยวิธีการที่เหมาะสมนี่แหละ ทำให้กลับมายืนในวงการได้อย่างสง่างาม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่