Hedwig and the angry inch มิวสิคัลเควียร์ชื่อก้องโลกที่ปีนี้เพิ่งจะหวนคืนเวทีบรอดเวย์ โดยการแสดงนำของ Nail Patrick และคว้าโทนี่อวอร์ดในสองสาขาใหญ่คือ นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมสาขาละครเพลงและ Best Revival of a Musical ปาดหน้าชนะคู่แข่งระดับตำนานอย่าง Les Miserables ประจวบเหมาะที่ปีนี้ walrus art company ซื้อลิขสิทธิ์มิวสิคัลบรอดเวย์เรื่องนี้มาแสดงในภาคภาษาอังกฤษ แต่แสดงโดยนักแสดงและทีมงานชาวไทยในรูปแบบมิวสิคัลปาร์ตี้ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในวงการละครมิวสิคัลของไทย
ภาพการแสดงที่บรอดเวย์ปี2014
Hedwig and the angry inch ว่าด้วยเรื่องราวชีวิต Hedwig ผู้ที่ถูกแบ่งครึ่งมาตั้งแต่กำเนิด พ่อแม่ถูกแยกส่วนแยกทางกัน ตัวเขาเกิดมาในชีวิตครึ่งเพศที่มีร่างเป็นชายใจเป็นหญิงและอยู่ในเยอรมนีที่มีกำแพงเบอร์ลินขวางกั้นตรงกลาง ชีวิตที่โหยหาอีกส่วนหนึ่งของชีวิตที่ขาดหายไป กับความรักของผู้ชายทั้ง 2 กับ หญิงแปลงเป็นชายอีก 1 คน ที่จะเป็นคำตอบในการเติมเต็มชีวิตที่เหมือนจะขาดหายไป แต่ชายทั้ง 2 คนแรก อย่างลูเธอร์และทอมก็อาจรับในสิ่งที่Hedwig เป็นได้เพราะเจ้าส่วนเกินตรงหว่างขานั่นเอง
ทุนเดิมของบท Hedwigที่สะท้อนชีวิตหนึ่งของเควียร์และสังคมระหว่างเผด็จการ-โลกเสรี ที่มีเซ็กส์มาเป็นส่วนเกี่ยวข้อง มันมีความแกร่งของบทอยู่แล้ว แทบจะไม่ต้องเพิ่มอะไรมาก แต่การที่จะถ่ายทอดมิวสิคัลดำเนินเรื่องออกมาได้อย่างดีเยี่ยมต้องผ่านนักแสดงที่มีฝีมือขั้นเทพอย่างมากที่จะตรึงคนดูและนำผู้ชมเข้าสู่โลกสีหม่นปนความขำที่ Hedwig มักจะบอกกับคนดูเสมอว่า “…ชีวิตของฉันไม่หัวเราะก็ต้องร้องไห้….” ซึ่ง พัด ชนุดม ผู้รับบท Hedwig ถ่ายทอดออกมาได้อย่างดีเยี่ยม จนคนดูหัวเราะและน้ำตาซึม ผสมกับเพลงแกลมร็อคที่หนักแน่นและเร้าอารมณ์ในตอนท้าย หากจะเทียบความสามารถของเธอกับCast ก่อนๆที่นักศึกษานิยมเอาไปทำทีสิสก็ถือว่าเยี่ยมยอดที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา หรือเธออาจจะเทียบชั้นเป็นเนล แพทริกของไทย การแสดงจบอยากจะมอบโทนี่อวอร์ดให้ในทันที
ส่วนบทยิทแซค สาวข้ามเพศที่ต้องผันตัวเองมาเป็นเพศชายอย่างจำเป็น แม้บทจะพูดน้อยแต่ก้อย รัชวินก็ทำให้ตอนหลังพีคได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ซาวด์ที่สุดยอดของเหล่า วงthe angry inch ก็สร้างสีสันเอ็นเตอร์เทนให้คนดูได้ตลอด 2 ชั่วโมงอย่างอิ่มเอมและในตอนท้ายเรียกเสียงปรบมืออย่างยาวนาน
ด้านโปรดักชั่นก่อนหน้านี้ Hedwig and the angry inch มักจะแสดงในห้องหรือโรงละครเล็กๆ ไปจนถึงขนาดใหญ่และไม่เคยเจอบรรยากาศการทำมิวสิคัลปาร์ตี้แบบนี้มาก่อน ทีมงานเซตโรงละครให้เป็นผับบาร์ ที่นั่งไม่มีคนดูต้องยืนดูและมีเพียงโต๊ะเล็กๆสำหรับวางดริงค์เครื่องดื่มเท่านั้น ข้อดีของการทำแบบนี้คือทำให้เราเข้าถึงบรรยากาศคอนเสิร์ตเล็กๆในผับเล็กๆของการแสดง Hedwigรวมถึงบรรยากาศใกล้ชิดระหว่างนักแสดงคนดูมีสเปซร่วมกันมากขึ้น คนดูและนักแสดงมีอินเตอร์แอคทีฟโต้ตอบกันราวกับว่านั่งอยู่ในเรื่องราวของชีวิตของเฮดวิกจริงๆ มันทำให้เรื่องที่เข้าใจยากนี้กลับพุ่ง แทงอารมณ์คนดูแบบจังๆ
แต่ข้อเสียของการจัดแบบนี้คือ พื้นที่ยืนเป็นระดับเดียวกัน ทำให้คนข้างหลังอาจจะไม่ได้เห็นอะไรมากเพราะคนข้างหน้าบังหมด รวมถึงระยะเวลากว่า 2 ชั่วโมง เล่นเอาคนดูหลายคนเมื่อยและยืนจะขาแข็ง ซ้ำไปกว่านั้นสำหรับคนดูที่ไม่แข็งภาษาอังกฤษที่ต้องเมื่อยคอยืนแหงนดูซับที่อยู่สูงอีกด้วย ข้อแนะนำของผู้ที่มาชม มิวสิคัลเรื่องนี้จึงไม่ควรสวมส้นสูงยืนยากมาอย่างเด็ดขาด
สุดท้ายอยากจะบอกว่า Hedwig and the angry inch ถือเป็นปรากฎการณ์ละครเวทีมิวสิคัลแบบใหม่ที่สร้างจุดร่วมระหว่างนักแสดงกับผู้ชมได้อย่างลงตัว อารมณ์และการแสดงขั้นเทพของ พัด ชนุดมที่เป็น Hedwig อาจจะทำให้คนดูหลายคนทึ่งในความสามารถของนักแสดงละครเวทีคนนี้ ที่ทำให้คุณต้องตกหลุมรักเรื่องชีวิตบ้าๆของผู้ที่ตามหาอีกครึ่งส่วนของจิตใจที่หายไป
“…You know you can follow my voice
through the dark turns and noise
of this wicked little town…”
(Wicked Little Town,Hedwig and the Angry Inch)
Twitter : @Nookkill
IG : Sanook_ig
Hedwig and the angry inch ร็อคคือส่วนเกิน ที่เติมเต็ม มิวสิคัลระดับโลกสู่ฝีมือคนไทย
ภาพการแสดงที่บรอดเวย์ปี2014
Hedwig and the angry inch ว่าด้วยเรื่องราวชีวิต Hedwig ผู้ที่ถูกแบ่งครึ่งมาตั้งแต่กำเนิด พ่อแม่ถูกแยกส่วนแยกทางกัน ตัวเขาเกิดมาในชีวิตครึ่งเพศที่มีร่างเป็นชายใจเป็นหญิงและอยู่ในเยอรมนีที่มีกำแพงเบอร์ลินขวางกั้นตรงกลาง ชีวิตที่โหยหาอีกส่วนหนึ่งของชีวิตที่ขาดหายไป กับความรักของผู้ชายทั้ง 2 กับ หญิงแปลงเป็นชายอีก 1 คน ที่จะเป็นคำตอบในการเติมเต็มชีวิตที่เหมือนจะขาดหายไป แต่ชายทั้ง 2 คนแรก อย่างลูเธอร์และทอมก็อาจรับในสิ่งที่Hedwig เป็นได้เพราะเจ้าส่วนเกินตรงหว่างขานั่นเอง
ทุนเดิมของบท Hedwigที่สะท้อนชีวิตหนึ่งของเควียร์และสังคมระหว่างเผด็จการ-โลกเสรี ที่มีเซ็กส์มาเป็นส่วนเกี่ยวข้อง มันมีความแกร่งของบทอยู่แล้ว แทบจะไม่ต้องเพิ่มอะไรมาก แต่การที่จะถ่ายทอดมิวสิคัลดำเนินเรื่องออกมาได้อย่างดีเยี่ยมต้องผ่านนักแสดงที่มีฝีมือขั้นเทพอย่างมากที่จะตรึงคนดูและนำผู้ชมเข้าสู่โลกสีหม่นปนความขำที่ Hedwig มักจะบอกกับคนดูเสมอว่า “…ชีวิตของฉันไม่หัวเราะก็ต้องร้องไห้….” ซึ่ง พัด ชนุดม ผู้รับบท Hedwig ถ่ายทอดออกมาได้อย่างดีเยี่ยม จนคนดูหัวเราะและน้ำตาซึม ผสมกับเพลงแกลมร็อคที่หนักแน่นและเร้าอารมณ์ในตอนท้าย หากจะเทียบความสามารถของเธอกับCast ก่อนๆที่นักศึกษานิยมเอาไปทำทีสิสก็ถือว่าเยี่ยมยอดที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา หรือเธออาจจะเทียบชั้นเป็นเนล แพทริกของไทย การแสดงจบอยากจะมอบโทนี่อวอร์ดให้ในทันที
ส่วนบทยิทแซค สาวข้ามเพศที่ต้องผันตัวเองมาเป็นเพศชายอย่างจำเป็น แม้บทจะพูดน้อยแต่ก้อย รัชวินก็ทำให้ตอนหลังพีคได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ซาวด์ที่สุดยอดของเหล่า วงthe angry inch ก็สร้างสีสันเอ็นเตอร์เทนให้คนดูได้ตลอด 2 ชั่วโมงอย่างอิ่มเอมและในตอนท้ายเรียกเสียงปรบมืออย่างยาวนาน
ด้านโปรดักชั่นก่อนหน้านี้ Hedwig and the angry inch มักจะแสดงในห้องหรือโรงละครเล็กๆ ไปจนถึงขนาดใหญ่และไม่เคยเจอบรรยากาศการทำมิวสิคัลปาร์ตี้แบบนี้มาก่อน ทีมงานเซตโรงละครให้เป็นผับบาร์ ที่นั่งไม่มีคนดูต้องยืนดูและมีเพียงโต๊ะเล็กๆสำหรับวางดริงค์เครื่องดื่มเท่านั้น ข้อดีของการทำแบบนี้คือทำให้เราเข้าถึงบรรยากาศคอนเสิร์ตเล็กๆในผับเล็กๆของการแสดง Hedwigรวมถึงบรรยากาศใกล้ชิดระหว่างนักแสดงคนดูมีสเปซร่วมกันมากขึ้น คนดูและนักแสดงมีอินเตอร์แอคทีฟโต้ตอบกันราวกับว่านั่งอยู่ในเรื่องราวของชีวิตของเฮดวิกจริงๆ มันทำให้เรื่องที่เข้าใจยากนี้กลับพุ่ง แทงอารมณ์คนดูแบบจังๆ
แต่ข้อเสียของการจัดแบบนี้คือ พื้นที่ยืนเป็นระดับเดียวกัน ทำให้คนข้างหลังอาจจะไม่ได้เห็นอะไรมากเพราะคนข้างหน้าบังหมด รวมถึงระยะเวลากว่า 2 ชั่วโมง เล่นเอาคนดูหลายคนเมื่อยและยืนจะขาแข็ง ซ้ำไปกว่านั้นสำหรับคนดูที่ไม่แข็งภาษาอังกฤษที่ต้องเมื่อยคอยืนแหงนดูซับที่อยู่สูงอีกด้วย ข้อแนะนำของผู้ที่มาชม มิวสิคัลเรื่องนี้จึงไม่ควรสวมส้นสูงยืนยากมาอย่างเด็ดขาด
สุดท้ายอยากจะบอกว่า Hedwig and the angry inch ถือเป็นปรากฎการณ์ละครเวทีมิวสิคัลแบบใหม่ที่สร้างจุดร่วมระหว่างนักแสดงกับผู้ชมได้อย่างลงตัว อารมณ์และการแสดงขั้นเทพของ พัด ชนุดมที่เป็น Hedwig อาจจะทำให้คนดูหลายคนทึ่งในความสามารถของนักแสดงละครเวทีคนนี้ ที่ทำให้คุณต้องตกหลุมรักเรื่องชีวิตบ้าๆของผู้ที่ตามหาอีกครึ่งส่วนของจิตใจที่หายไป
“…You know you can follow my voice
through the dark turns and noise
of this wicked little town…”
(Wicked Little Town,Hedwig and the Angry Inch)
Twitter : @Nookkill
IG : Sanook_ig