เรื่องมีอยู่ว่ามีบ้านหลังหนึ่งมีรถยนต์อยู่ 2 คัน(แต่ก่อนมี 3 คัน) มักจะนำรถมาจอดที่ริมถนนในหมู่บ้าน ซึ่งไม่ผิดอะไรที่จะจอดเพราะมันคือที่สาธารณะ แต่พฤติกรรมของเขาคือเวลาที่เขาไม่ได้จอดเขาจะเอาจักรยานมาจอดไว้แทน(เข้าใจได้ว่าเป็นการจองหรือกั๊กที่) พอนานวันเข้า ทำเป็นประจำ มันก็เลยเป็นความเคยชินจนเคยตัว จนกระทั่งวันก่อนผมไม่สามารถนำรถเข้าบ้านได้ จำเป็นต้องจอดไว้หน้าบ้าน แต่เกรงใจบ้านหลังในสุดกลัวว่าเขาจะเอารถออกไม่ได้ เพราะเขาต้องออกไปส่งของตอนกลางคืนทุกวัน จึงมองไปที่ถนนหลักในหมู่บ้าน(เพราะกว้างกว่าถนนในซอย) ก็ไปเห็นที่ตรงนั้นมีจักรยานจอดอยู่ก็เลยไปยกออกแล้วเอารถผมไปจอดแทน ซึ่งก็รู้นะว่าคงต้องมีปัญหาแน่ๆ แต่ปรากฎว่าคืนนั้นไม่มีอะไร (แอบดูอยู่หน้าบ้าน)เห็นเค้ามาจูงจักรยานเอาไปเก็บไว้ที่บ้านแล้วก็บ่นพึมพำ วันต่อมาก็ไม่เห็นจักรยานคันนี้มาจองที่อีก ยังนึกในใจว่าเค้าคงจะรู้ตัวแล้วว่าการกระทำแบบนี้มันไม่ถูก จนกระทั่งเมื่อคืนนี้ ผมไม่สามารถนำรถเข้าบ้านได้เช่นเคย และมีรถจักรยานคันดังกล่าวมาจอดกั๊กที่อยูเหมือนเดิม คิดในใจว่านึกว่าจะคิดได้ เลยลองของอีกครั้ง ยกจักรยานคันนั้นออก รถผมไปจอดแทน เช้าวันนี้ได้เรื่องเลย มนุษย์ป้ามาที่หน้าบ้านเลย
    
    มนุษย์ป้า     : นี่น้องรถคันนั้นของบ้านน้องใช่มั้ย(ชี้ไปที่รถ) เลื่อนรถออกได้มั้ยพี่จะจอด
    แฟนเรา     : ที่ตรงนั้นจอดไม่ได้เหรอ
    มนุษย์ป้า     : อ้าวแล้วเมื่อคืนไม่เห็นเหรอคะว่ามีจักรยานจอดอยู่
    แฟนเรา     : เห็นคะ แต่ว่าตรงนั้นมันที่สาธารณะไม่ใช่เหรอค่ะ    
    มนุษย์ป้า     : นี่น้องพี่ก็จ่ายค่าส่วนกลางนะ น้องทำแบบนี้มันเห็นแก่ตัวนะค่ะ
    แฟนเรา     : หนูก็จ่ายคะ ไว้ถามตัวเองดีมั้ยค่ะว่าใครกันแน่ที่เห็นแก่ตัว
    แล้วก็......บลา.....บลา.....บลา
    คุยไปคุยมากลับบอกว่า ไปเลื่อนจักรยานเค้าออกเดี๋ยวจักรยานเค้าหายใครจะรับผิดชอบ (ถ้ากลัวจักรยานหายแล้วทำไมไม่เอาไปไว้ในบ้าน จริงมั้ยครับ)

ตอนนี้จอดรถไว้ที่เดิมในหมู่บ้าน ไม่รู้ว่าเย็นนี้รถจะเป็นรอยรึเปล่า
บอกตามตรงนะครับไม่ได้กลัวว่ารถจะเป็นรอยหรือว่าจะกลัวการข่มขู่อะไรหรอกนะครับ แค่อยากทำให้เค้ารู้ว่าที่เค้าทำอยู่เนี่ยไม่ไม่ถูกต้อง จะมาอ้างกรรมสิทธิ์บนที่สาธารณะไม่ได้ มันดูเห็นแก่ตัวเกินไปหน่อย (พฤติกรรมจองที่แบบนี้ในหมู่บ้านผมมีให้เห็นอยู่ประมาณ 3-4 หลังครับ)
อยากถามทุกท่านว่าเราจะมีวิธีจัดการกับคนอย่างนี้อย่างไรบ้างครับ คนที่ไม่รู้ตัวว่าตนเองเห็นแก่ตัวหน่ะครับ