[chelseafc.com] ฟาเบรกัส เซ็นสัญญากับ เชลซี




>>  ฟาเบรกัสเซ็นสัญญากับเชลซี


สโมสรฟุตบอลเชลซีมีความยินดีที่จะประกาศว่าเราได้เซ็นสัญญากับเชสก์ ฟาเบรกัส จากบาร์เซโลน่าเรียบร้อยแล้ว

กองกลางวัย 27 ปี ได้เซ็นสัญญาเป็นระยะเวลา 5 ปี และจะสวมเสื้อหมายเลข 4

เขากล่าวว่า : “ก่อนอื่นเลยผมอยากจะขอบคุณทุกๆ คนที่สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลน่า ที่นั่นเป็นที่ที่ผมมีช่วงเวลาสามปีที่แสนสุข มันเป็นสโมสรของผมตั้งแต่เด็กๆ และผมภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาสเล่นในทีมที่ยอดเยี่ยมมากๆ”

“ผมรู้สึกว่าผมยังมีงานที่ค้างอยู่ในพรีเมียร์ลีกและในตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมแล้วที่จะกลับมา”

“ผมได้พิจารณาข้อเสนออื่นๆ อย่างดีแล้ว และผมเชื่อว่าเชลซีเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ความทะเยอทะยานทางฟุตบอลของผมเข้ากันได้ดีกับความกระหายในชัยชนะและถ้วยรางวัลของเชลซี ซึ่งมีเหล่านักเตะที่พร้อมสรรพ รวมถึงผู้จัดการทีมที่ยอดเยี่ยมมาก ผมมุ่งมั่นให้กับ ทีมนี้อย่างเต็มที่และผมรอที่จะเริ่มลงเล่นไม่ไหวแล้ว”






ฟาเบรกัส มิดฟิลด์เจ้าเทคนิค มีประสบการณ์การเล่นในลีกที่แข็งแกร่งที่สุดในยุโรปมาแล้วและประสบความสำเร็จในระดับทีมชาติไปแล้วหลายครั้ง

การเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุก  เขายังสามารถเล่นในแนวรับได้ด้วย และในระดับทีมชาติ
เขาได้เล่นในตำแหน่งที่หลากหลาย  ทั้งตำแหน่งสไตรค์เกอร์หรือแม้แต่ในตำแหน่งหมายเลข 9

ฟาเบรกัสย้ายมาที่สแตมฟอร์ด บริดจ์หลังใช้เวลาสามปีที่ผ่านมาไปกับบาร์เซโลน่า เขาได้มีส่วนช่วยให้บาร์เซโลน่าคว้าชัยในลาลีก้า, โกปา เดล เรย์, สแปนิช ซูเปอร์คัพ, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ

เขาไม่ใช่คนแปลกหน้าในพรีเมียร์ลีก จากการที่เคยเล่นให้กับอาร์เซนอลเป็นระยะเวลา 8 ปี ก่อนจะย้ายไปที่คัมป์ นู

ช่วงเวลาที่อยู่ที่ลอนดอนเหนือนั้นเป็นช่วงสำคัญในพัฒนาการของเขา ซึ่งเขาใช้เวลาพัฒนาตัวเองจากการเป็นหนุ่มน้อย ที่ไร้ซึ่งประสบการณ์ให้กลายเป็นกำลังสำคัญของทีมอาร์เซนอล

อย่างไรก็ตาม จากการที่สโมสรใหญ่ๆ ในยุโรปต่างก็ไล่ล่าการเซ็นสัญญากับเขา การย้ายออกจากเอมิเรตส์นั้นเกือบจะเป็นสิ่งที่แน่นอนแล้วในครั้งนั้น และมันก็พิสูจน์แล้วเมื่อเขากลับไปสู่สโมสรที่ฟูมฟักเขามา

ฟาเบรกัสเกิดที่เมืองบาร์เซโลน่า เขาได้ร่วมในอะคาเดมี่ของบาร์ซ่าในตอนที่อายุ 10 ปี และก็ได้ฉายแววออกมาในตอนนั้น ต่อมาเขาย้ายมาที่อาร์เซนอลในปี 2003 ซึ่งเขามีอายุ 16 ปี

จากฤดูกาลแรกของเขาในอังกฤษ สิ่งหนึ่งในการปรับตัว เขาเริ่มต้นเล่นในฤดูกาลต่อมา และในตอนจบฤดูกาลนั้นเขาก็ได้ลงเป็นตัวจริงในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ซึ่งอาร์เซนอลเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้จากการดวลจุดโทษที่คาร์ดิฟฟ์

การย้ายทีมของวิเอร่าไปยูเวนตุสนั้น ทำให้ฟาเบรกัสมีโอกาสที่จะเป็นตัวจริงในตำแหน่งกองกลางและเขาคว้ามันไว้ได้ เขาได้ลเล่นในแชมป์เปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศที่อาร์เซนอลแพ้บาร์เซโลน่า

ช่วงท้ายฤดูกาล 2006/07 เขาได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี และ ผู้เล่นเยาวชนยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA ตลอดจนได้รับเลือกให้อยู่ในทีมยอดเยี่ยมประจำปี 2006 ของยูฟ่าด้วย

เมื่อวัย 20 ปี เขาได้รับเสนอชื่อให้คว้ารางวัล PFA อีกครั้งในฤดูกาลต่อมา เขาคว้ารางวัลผู้เล่นเยาวชนยอดเยี่ยมมาได้ ตลอดจนได้รับเลือกให้อยู่ในทีมยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาลนั้นด้วย

ในปี 2008 ฟาเบรกัสรับหน้าที่กัปตันทีมอาร์เซนอลและทำประตูเพิ่มขึ้นมากมาย ก่อนจะย้ายไปบาร์เซโลน่าในปี 2011

หลังจากที่ได้เดบิวต์ในนัดที่พบกับรีล มาดริด รายการ สแปนิช ซูเปอร์ คัพ เขาทำประตูแรกให้บาร์ซ่าในนัดที่ชนะปอร์โต คว้าถ้วย ยูฟ่า ซูเปอร์คัพมาครองได้สำเร็จ ก่อนจะทำประตูในนัดเดบิวต์ลีกลาลีก้าได้ในนัดที่ชนะ บียาร์รีล 5-0 ต่อมาเขาทำประตูได้ 6 ประตูจากการลงแข่ง 4 นัด ซึ่งรวมประตูในนัดที่บุกไปชนะรีลมาดริด 3-1 ด้วย ตลอดจนทำประตูในฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ที่ชนะซานโตส 4-0 อีกด้วย

ฟาเบรกัสลงแข่งในรอบรองชนะเลิศ แชมป์เปี้ยนส์ ลีก ปี 2012 ที่พบกับเชลซี ทั้งสองนัด ซึ่งเดอะบลูส์เป็นฝ่ายเอาชนะผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ และเขาทำแฮตทริกแรกของเขากับบาร์เซโลน่าได้สำเร็จในฤดูกาลต่อมาที่เอาชนะมายอร์ก้าได้ บาร์ซ่าจบฤดูกาลนั้นด้วยการเป็นแชมป์ลาลีก้า ซึ่งฟาเบรกัสมีส่วนสำคัญในความสำเร็จนั้น

ฤดูกาลสุดท้ายของเขากับบาร์เซโลน่านั้นจบลงด้วยการคว้าแชมป์สแปนิช ซูเปอร์คัพ ได้สำเร็จ

ฟาเบรกัสลงเป็นตัวจริงทั้งสองนัดในรอบก่อนรองชนะเลิศแชมป์เปี้ยนส์ ลีก ที่บาร์เซโลน่าแพ้ แอตเลติโก้ มาดริด ไปด้วยสกอร์รวม 2-1 และลงเล่นเป็นเวลาราวๆ หนึ่งชั่วโมงในการแข่งขันโกปา เดล เรย์ ที่แพ้รีล มาดริด 2-1 และยังลงเป็นตัวจริงในนัดชิงแชมป์ลาลีก้าที่พบกับแอตเลติโก้ ซึ่งเขาถูกเปลี่ยนตัวกับซาบีในช่วง 13 นาทีสุดท้ายของเกม และเป็นนัดสุดท้ายของเขากับบาร์ซ่า

ในระดับทีมชาติ ฟาเบรกัสลงเล่นให้สเปนมาแล้วทุกรายการ ตั้งแต่ฟุตบอลโลก ปี 2006 ที่เขาอายุเพียง 19 ปี คว้าแชมป์มาแล้วสามรายการจนถึงทุกวันนี้

หลังจากที่เล่นได้อย่างน่าประทับใจในยูโร 2008 เขาทำประตูสำคัญในนัดที่พบกับอิตาลีในรอบก่อนรองชนะเลิศ เขาก็ยังจ่ายบอลให้แอนเดียส อิเนียสต้าทำประตูชัยให้สเปนคว้าแชมป์ในฟุตบอลโลก 2010 ได้สำเร็จด้วย

ต่อมาในยูโร 2012 สเปนคว้าแชมป์ได้อีก เขาทำประตูจากจุดโทษได้ในรอบรองชนะเลิศที่พบกับโปรตุเกส และลงเป็นตัวจริงในนัดชิงชนะเลิศที่ชนะอิตาลีได้ด้วยสกอร์ 4-0

ฟาเบรกัสอยู่ในทีมชาติชุดฟุตบอลโลกปี 2014 นี้ด้วย และคุณสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของเขาได้ที่นี่ บนเว็บไซต์หลักอย่างเป็นทางการของเชลซี



ขอขอบคุณข้อมูลจาก >> thai.chelseafc.com
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่