[CR] 2014 Mazda 3 Skyactiv Hatchback 2.0 Hi (รองท็อป)

กระทู้รีวิว
สวัสดีครับ.. ไม่ได้เข้ามานานมากกก.. วันนี้จะขอมาลองเขียนรีวิวสักหน่อยครับ.. (เน้นรูปเยอะนะครับ กำลังเห่อ 555+)
ไม่ทราบว่ามีท่านใดได้ทำไปบ้างแล้วหรือยังนะครับ เพราะฉะนั้นหากซ้ำก็ต้องขออภัยล่วงหน้า แต่ก็คิดว่าเขียนให้ทุกๆท่านได้อ่านหลายๆความคิดเห็นมาประกอบกันก็น่าจะเป็นประโยชน์อีกทางหนึ่งด้วยครับ

ต้องบอกไว้ก่อนนะครับว่ารถคันนี้ไม่ใช่ของผมเอง แต่เป็นของเพื่อนผมซึ่งจองไว้ที่เชียงใหม่ แล้วก่อนหน้านี้ที่เพจเฟสบุคร้าน Ativus ได้ประกาศหารถต้นแบบในการทำชุดแต่งรอบคันของเจ้า Mazda 3 โฉมใหม่นี้ครับ โดยทางร้านตกลงว่าจะให้ชุดแต่งฟรีไปเลย พร้อมเงิน 5,000บาทเป็นค่าตอบแทน โดยต้องทิ้งรถไว้ที่ร้านเป็นเวลา 3-4สัปดาห์ ผมก็พาเพื่อนไปดูแบบ ก็ถูกใจครับ(ขออนุญาตยังไม่นำมาลงนะครับ เนื่องจากเป็นแบบร่าง เกรงว่าจะติดเรื่องลิขสิทธิ์ครับ หากสนใจเมื่อทำเสร็จจะนำมาลงอีกครั้งครับ) ก็นัดกันว่าวันที่10นี้จะขับลงมาที่กทม.ด้วยกัน โดยผมเองได้ขับจากขุนตานลงมาจนถึงกทม.ครับ และได้ทิ้งรถไว้ที่บ้านผมก่อนหนึ่งคืน อีกวันหนึ่งก็จะนำรถไปทิ้งไว้ที่อู่ครับ (เช้าวันที่11จึงจัดการล้างแล้วนำมาถ่ายรูปทำรีวิวซะเลย 555+)

รูปลักษณ์ภายนอกครับ





(หญ้าไม่ได้ตัดเลย)

DRL หรือที่เรียกกันย่อๆว่าเดย์ไลท์นั้น จะติดก็ต่อเมื่อไม่ได้ใส่เกียร์P หรือขึ้นเบรคมือครับ


ตัวรถเมื่อมองจากด้านท้ายรถแล้วดูสูงพอสมควร แต่จริงๆแล้วก็อยู่ในระดับซีดานทั่วๆไปครับ (จขกท.สูง165 หัวยังพ้นหลังคาเป็นอันว่าไม่สูง 555+)


ภายในครับ


สำหรับระบบปรับอากาศ ก็ยังไม่เป็นแบบดิจิตอลครับ แต่ก็มีระบบปรับแรงลมอัตโนมัติมาให้เหมือนกับรุ่นเก่า


หน้าจอหลักของจอมัลติฟังก์ชั่นครับ (ห้าห่วงกำลังอินเทรนด์มาตั้งแต่วันที่22)


โดยวงซ้ายสุดจะเป็น Application ครับ ซึ่งจะให้มาทั้งหมดสามอย่าง คือ
1. วัดการสิ้นเปลืองน้ำมัน
2. บอกระยะที่จะต้องนำรถไปเข้ารับบริการ (อีกกี่กิโลฯต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง, อีกกี่กิโลฯต้องสลับยาง)
3. แจ้งเตือนหากมีสิ่งผิดปรกติ


วงที่สองจากซ้ายก็จะเป็นเครื่องเล่นเพลงครับ.. โดยสามารถรับวิทยุ, ซีดี(1แผ่น), USB(สองพอร์ท), SD Card, สายต่อAUX,  Bluetooth (แยก Audio กับโทรศัพท์ได้ครับ)


แต่ถ้าเล่นผ่าน Bluetooth หน้าปกอัลบั้มจะไม่ขึ้น..


วงกลางก็เป็นโทรศัพท์ครับ (ไม่ได้ถ่ายรูปซะงั้น)
ซึ่งเมื่อเราต่อ Bluetooth กับโทรศัพท์แล้ว ตัวรถก็จะทำการโหลด Contacts, Call history ลงมาครับ (ตัวรถไม่ได้ทำการบันทึกไว้นะครับ มันจะโหลดลงใหม่ทุกครั้งที่เราต่อเป็นครั้งๆไป)

ถัดไปก็จะเป็น Navigator ซึ่งรุ่นรองท็อปก็รองรับครับ เพียงแต่ต้องซื้อ SD Card พร้อมแผนที่จากศูนย์บริการมาสด้าในราคา 12,000บาท แต่ถ้าเป็นรุ่นท็อปจะมีแถม SD Card ตัวนี้ให้ และเมื่อไม่มีแผนที่ฟังก์ชั่นนี้ก็จะทำหน้าที่เป็นเพียงเข็มทิศเท่านั้นครับ


วงขวาสุดเป็นการตั้งค่าต่างๆครับ ซึ่งก็จะมีทั้งค่าหน้าจอัลติฟังก์ชั่นนี้, จอ HUD, เสียงเพลง (เสียงแหลม/เสียงเบส), ตัวรถ(ล็อคประตูออโต้, ไฟเลี้ยวกะพริบสามที), ฯลฯ ซึ่งส่วนตัวจขกท.ชอบไฟเลี้ยวกะพริบสามทีมาก ทำให้รู้สึกเหมือนขับรถยุโรป! ส่วนเสียงไฟเลี้ยวเนี่ย ดังเบาไม่ต่างกันแม้แต่น้อยครับ(ไม่ได้ยินเหมือนกัน)


คันเกียร์+ปุ่มควบคุมจอมัลติฟังก์ชั่นครับ จขกท.ชอบถุงเกียร์หนังเย็บด้ายแดงมากๆเลยครับ ให้ฟีลสปอร์ตหรูดีมากๆ เบรคมือถูกย้ายมาฝั่งคนขับแล้ว หลังจากที่งงกับรุ่นเก่าว่าทำไมเบรคมือไปอยู่ด้านซ้าย? แอบคิดเล่นๆว่าคงเป็นคอนเซปต์รถแรงมากจนคนนั่งข้างๆตกใจจนต้องดึงเบรคมือ.. (ฮาา)
ปุ่มควบคุมก็ให้อารมณ์ไอไดรฟ์ดีครับ(?) ดันขึ้นลงซ้ายขวาได้สี่ทิศ หมุน และกดลงได้
สำหรับปุ่มดาว(Favorite) ด้านซ้าย เมื่อกดก็จะเป็นช่องวิทยุที่เราเซฟไว้และคอนแทคที่เราแอดเป็นเฟเวอร์ริทครับ
ปุ่มตัวโน้ตก็เข้าหน้า Entertainment โดยไม่ต้องกดจากหน้าโฮมสกรีน
ปุ่มบ้านก็จะพากลับโฮมสกรีนตามชื่อ
NAV ใช้ดูเข็มทิศ (ทำไมไม่แถม!?)
ขวาสุดก็เป็นปุ่มBack


กล่องเก็บของที่เปิดจากที่วางแขน ก็จะมีถาดเล็กๆใส่ของวางอยู่ด้านบนครับ(ในรูปยกออกเพราะบังแสงครับ) ด้านล่างมีช่องเสียบUSBให้มาสองพอร์ท(ที่ชาร์จในรถหมดความจำเป็นเลยครับ เพราะสามารถเสียบชาร์จได้ด้วย), ช่องใส่ SD Card ซึ่งใช้ได้ทั้งเล่นเพลงและใส่แผนที่สำหรับเนวิเกเตอร์, ช่องเสียบสายAUX, และรูเสียบชาร์จในรถ


พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมลายเคฟล่า ซึ่งสามารถข้ามเพลง(หรือเปลี่ยนสถานีวิทยุข้ามระหว่างสถานีที่เราเซฟไว้ จะไม่ได้สแกนทั้งหมด), เพิ่ม-ลดเสียงเพลงหรือโทรศัพท์, ดูข้อมูลการขับ(น้ำมันวิ่งได้อีกกี่กิโลเมตร, กินน้ำมันเฉลี่ย, กินน้ำมัน ณ ตอนนี้, ความเร็วเฉลี่ย) รีเซ็ทได้โดยการกดปุ่ม INFO ตรงกลางค้าง, กดเพื่อสั่งการด้วยเสียง (ไม่รู้ว่าสั่งอะไรได้บ้าง แต่ลองสั่ง Skip Track กับ Dial ได้ ฟังสำเนียงเราออกด้วย บอกตัวเลขเบอร์โทรไปออกมาถูกด้วย ภูมิใจแพ้พ), และรับ-วางสายโทรศัพท์ได้
ไม่มี Cruise Control ครับ และ Paddle Shift ก็จะมีแต่รุ่นท็อปเท่านั้น


หน้าจอ Dash board ครับ
จะมีวัดรอบตรงกลางอันเดียว ส่วนความเร็วก็จะเป็นดิจิตอลอยู่ในวงเดียวกัน
ซีกซ้ายจะบอกเกียร์ และระยะทาง (Trip A, Trip B, ODO)
ซีกขวาบอกอุณหภูมิ, ข้อมูลการขับ (ในส่วนของอัตราการบริโภคน้ำมัน ไม่สามารถเปลี่ยนหน่วยเป็น กิโลเมตร/ลิตรได้ ต้องดูเป็น ลิตร/100กิโลเมตร และนำมาหารกันเอาเอง), และปริมาณน้ำมันในถัง
ไม่มีเกจ์วัดความร้อนครับ มีแต่รูปปรอทสีน้ำเงินเมื่อเครื่องเย็น และรูปปรอทสีแดงเมื่อเครื่องโอเวอร์ฮีทเท่านั้น


สำหรับจอ HUD ผมมองไม่เห็นความจำเป็นของมันเท่าไหร่ เพราะความเร็วก็มีอยู่ในจอหลักอยู่แล้ว มองไปมองมาก็เวียนหัวนิดหน่อยครับ ขับไปสักพักก็ชิน จริงๆน่าจะเซ็ทให้พับเก็บไปได้ถ้าไม่ต้องการนะครับ (เหมือนพรีอุสที่ปิดได้) แต่สำหรับมาสด้าสามปิดไม่ได้ครับ


ฝากระโปรงท้ายค่อนข้างแคบ แต่ลึกพอสมควรครับ (ถาดวางของได้มาเป็นของแถมครับ)


เบาะหลังนั่งสบายมากครับ (เพราะจขกท.เตี้ย) ผมสูง165 หัวห่างจากเพดานรถพอสมควรเลย


สำหรับการขับขี่.. ต้องขอบอกว่าเครื่องตัวใหม่นี้แรงจนน่าประทับใจครับ คือดึงจนหลังติดเบาะได้ทุกเกียร์ตั้งแต่1-5!! และช่วงสิงห์บุรี-อ่างทอง ที่ถนนกว้างละโล่งมากๆ ผมลองเหยียบลงไปดูว่าจะได้ถึงเท่าไหร่ ก็ไปสุดอยู่ที่191ครับ คือส่วนตัวคิดว่าน่าจะไปต่อได้อีกแต่โดนลิมิตไว้ครับ เพราะ187 188 189 ไหลมาเรื่อยๆเร็วพอสมควรครับ แต่พอมาถึง191ก็นิ่งเลย ไม่ไปต่อ รู้สึกเหมือนเหลืออยู่อีกเยอะพอสมควร พอทราบท็อปสปีดแล้วก็ปล่อยเลยนะครับ ไม่ได้แช่นาน แหะๆ

ช่วงล่างก็หนึบดีระดับที่วิ่งทางไกลใช้ความเร็วประมาณ120-140 ได้นิ่งๆโดยไม่รู้สึกว่าโคลงเลย เสียงรบกวนก็มีบ้าง แต่ก็อยู่ในระดับที่รับได้ครับ
ล้อแม็กติดรถ 18นิ้ว พร้อมยาง Dunlop Sport Maxx


อัตราการกินน้ำมัน.. อันนี้กดรีเซ็ทที่ขุนตานนะครับ(ตอนที่สลับเป็นผมขับ) โดยน้ำมันถังแรกเป็นE85 และถังที่สองเป็นE20 รูปนี้ถ่ายเช้าวันที่11 คือขับทางไกลใช้ความเร็วสม่ำเสมอจนมาถึงกทม. แวะเข้ามากินข้าวที่เอเชียทีค และขับกลับบ้านโดยวิ่งทางธรรมดาถึงบ้านที่บางมด กินน้ำมันเฉลี่ย 8.6ลิตร/100กิโลเมตร ก็เท่ากับ 11.62กิโลเมตรต่อลิตร


อันนี้เป็นการกินน้ำมันโดยการวิ่งในเมือง วันธรรมดา เวลาประมาณบ่ายโมงครับ (บางมด-อโศก-พระรามเก้า) การจราจรไม่ติดขัด แต่วิ่งทางธรรมดาติดไฟแดงบ้าง (10กิโลเมตร/ลิตรพอดี)


และอันนี้ติดมาก (เอสพลานาด-ดินแดง-วิภาวดีรังสิต) ตกประมาณ7กิโลเมตร/ลิตร


ไม่ทราบว่าเกี่ยวกับตัวสกายแอคทีฟหรือไม่นะครับ (ผมไม่ได้ศึกษาเลยว่าเจ้าเทคโนโลยีตัวนี้ทำงานอย่างไร หรือแม้แต่ว่ามันคืออะไร) แต่ผมสังเกตว่ารอบเครื่องเมื่อวิ่งที่ความเร็วเดินทางนั้นต่ำมาก นี่คงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รถคันนี้ค่อนข้างประหยัดน้ำมันครับ


อีกสิ่งหนึ่งที่ผมประทับใจมากในรถคันนี้คือไฟหน้าครับ.. สว่าง และตัดแสงได้คมมาก และยังปรับระดับเมื่อขึ้น-ลงเนินให้อัตโนมัติด้วยครับ พิสัยไกลแต่ไม่แยงตารถสวนแน่นอน



**รูปแถม**
รับรถที่ศูนย์บริการ เช้าวันที่9ครับ


จริงๆแล้วหลังจากที่รับรถมา ก็นำไปขับเล่นรอบเมืองเชียงใหม่ ปรากฏว่าเบรคมีเสียงดังครับ โดยเป็นจังหวะไม่แน่นอนว่าจะดังเมื่อไหร่ บางทีก็ดังตอนเบรค บางทีปล่อยไหลเฉยๆก็ดัง บางทีก็ดังตอนเร่ง หรือตอนหักพวงมาลัย จึงนำกลับไปที่ศูนย์บริการให้ช่างตรวจเช็คครับ ปรากฏว่ามีเศษหินเข้าไปติดอยู่ในเบรค เอาออกแล้วก็เงียบกริบปรกติดีครับ


สภาพเมื่อมาถึงกทม.เมื่อคืนวันที่10ครับ


ตอนนี้เอารถไปทิ้งไว้ที่อู่เพื่อให้ทางร้านนำไปทดลองออกแบบชุดแต่งกับหน้างานจริงแล้วครับ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสวยอย่างในรูป ;3;


***สรุป***
ส่วนตัวประทับใจมากกกกก (นี่ตอนนี้เห่อกว่าเจ้าของรถละ)
ทั้งสมรรถนะ และรูปลักษณ์ภายนอก-ภายใน ตอนนี้ถ้าจขกท.จะซื้อรถใหม่ภายในงบ 1,000,000บาท ก็คงมองรุ่นนี้เป็นตัวเลือกแรกๆล่ะครับ
ปัญหาเดียวที่เจอก็คือบางครั้งที่ขับขึ้นลูกกระโดด จังหวะที่โช้คขึ้นสุดมีเสียงดังป๊อกๆนิดหน่อย ไม่ดังมาก ถ้าไม่สังเกตดีๆก็ไม่ได้ยินครับ ที่ได้ยินคือช่วงนั้นปิดเพลงพอดี.. ไว้รถเสร็จแล้วจะลองนำไปเข้าศูนย์เพื่อแก้ไขดู ออกมาแล้วจะมารายงานผลนะครับ (เผื่อท่านใดอยากทราบ)

ก็.. ขอจบการรีวิวรถ Mazda 3 Skyactiv ไว้แต่เพียงเท่านี้ครับ..
ห่างหายจากการรีวิวไปนาน หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยนะครับ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาจนถึงตอนนี้..
สวัสดีครับ
ชื่อสินค้า:   2014 Mazda 3
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่