เห็นข่าวขึ้นโรงขึ้นศาลระหว่าง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) กับ บริษัท อาร์เอส เกี่ยวกับข้อพิพาทการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 แล้ว แหม๋อะไรมันจะเป็นวาระแห่งชาติขนาดนี้ ถ่ายทอดสดไม่ได้ถ่ายทอดแบบเทป(แห้ง) ได้มั้ย
สมัยก่อน (เผอิญว่าเกิดทัน) ฟุตบอลโลก ถ่ายแบบเทปบ้าง สดบ้าง เพราะสถานีโทรทัศน์ยังไม่เปิด 24 ชั่วโมงเหมือนปัจจุบัน ก็ไม่เห็นมันจะเป็นเดือดร้อนถึงอะไรหนักหนา หนำซ้ำก็ยัง Fever จนถึงปัจจุบัน ข้อต่างที่พอจะบอกได้ระหว่างการถ่ายทอดสด กับการถ่ายทอดเทป สมัยถ่ายทอด(เทป) คนสนใจกลับบ้านไปดูเทป ตอนเช้ามาจะมาคุยกันเรื่อง ทีมนั้นเล่นดีไม่ดียังไง น่าจะเตะอย่างโน้น อย่างนี้ มักจะคุยกันเรื่องเทคนิคการเตะฟุตบอลเสียมากกว่า พอเริ่มเข้ายุคถ่ายทอดสด ทุกเช้าคนที่ได้ดู ส่วนใหญ่(มากกก) จะมาคุยกันว่า เสียพนันมั้ย ได้มาเท่าไหร่ กลายเป็นการพนันไปชิบ
ทำให้ได้คิดว่าการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกน่าจะมีผลนำมาซึ่งปัญหาการพนันที่มากขึ้น ที่ภาครัฐฯคาดหวังให้ประชาชนตื่นตัวด้านกีฬา มันกลายเป็นการตื่นตัวด้านการพนันมากกว่า หลังฟุตบอลโลกจบ สัก 3-4 เดือนจะได้มีข่าวโจรกรรมพุ่งสูง เพราะต้องหาเงินมาใช้หนี้พนัน (เหมือนกับ หลังจากวันวาเลนไทน์สัก 9 เดือน(โดยประมาณ)จะมีอัตราการเกิดสูงโด่งนั้นล่ะ)
เรื่องยุ่งขนาดที่ กสทช. จะจัดงบ(เงินสัมปทาน ที่น่าจะไปพัฒนาอย่างอื่น) มาจ่ายให้ RS เพื่อให้ถ่ายทอดฟุตบอล คสช.ต้องลงมายุ่งยามกับกิจการของเอกชน แบบว่าแค่การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก มันกลายเป็นวาระแห่งชาติไปเลย คนไทยมี 65 ล้านคน สมมุติง่ายๆ ชายครึ่งหญิงครึ่ง (ที่จริงเพศหญิงมากกว่า) เน้นกลุ่มชายก็ 33 ล้านคน ขอบอกว่าผู้ชายทุกคนไม่ได้สนใจฟุตบอลนะครับ เพราะฉะนั้น แปลว่าคนไทยไม่ถึงครึ่งได้ประโยชน์จากการที่ กสทช.จะให้งบไปซื้อรายการเพื่อมาออกอากาศทางฟรีทีวี เฮ้อ
ขอเป็นหนึ่งเสียงเชียร์ให้ถ่ายทอดเทปไปเลย ไม่ส่งผลต่อปัญหาสังคม(การพนัน,โจรกรรม), ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณ (ที่ กสทช.จะต้องจ่ายให้ RS เอามาถ่ายทอด, คสช. จะได้ไปทำงานอย่างอื่น ไม่ต้องมายุ่งกับขี้หมูลาขี้หมาแห้งอย่างนี้
ถ่ายทอดฟุตบอลโลกแบบเทปมันดีกว่านะเออ...
สมัยก่อน (เผอิญว่าเกิดทัน) ฟุตบอลโลก ถ่ายแบบเทปบ้าง สดบ้าง เพราะสถานีโทรทัศน์ยังไม่เปิด 24 ชั่วโมงเหมือนปัจจุบัน ก็ไม่เห็นมันจะเป็นเดือดร้อนถึงอะไรหนักหนา หนำซ้ำก็ยัง Fever จนถึงปัจจุบัน ข้อต่างที่พอจะบอกได้ระหว่างการถ่ายทอดสด กับการถ่ายทอดเทป สมัยถ่ายทอด(เทป) คนสนใจกลับบ้านไปดูเทป ตอนเช้ามาจะมาคุยกันเรื่อง ทีมนั้นเล่นดีไม่ดียังไง น่าจะเตะอย่างโน้น อย่างนี้ มักจะคุยกันเรื่องเทคนิคการเตะฟุตบอลเสียมากกว่า พอเริ่มเข้ายุคถ่ายทอดสด ทุกเช้าคนที่ได้ดู ส่วนใหญ่(มากกก) จะมาคุยกันว่า เสียพนันมั้ย ได้มาเท่าไหร่ กลายเป็นการพนันไปชิบ
ทำให้ได้คิดว่าการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกน่าจะมีผลนำมาซึ่งปัญหาการพนันที่มากขึ้น ที่ภาครัฐฯคาดหวังให้ประชาชนตื่นตัวด้านกีฬา มันกลายเป็นการตื่นตัวด้านการพนันมากกว่า หลังฟุตบอลโลกจบ สัก 3-4 เดือนจะได้มีข่าวโจรกรรมพุ่งสูง เพราะต้องหาเงินมาใช้หนี้พนัน (เหมือนกับ หลังจากวันวาเลนไทน์สัก 9 เดือน(โดยประมาณ)จะมีอัตราการเกิดสูงโด่งนั้นล่ะ)
เรื่องยุ่งขนาดที่ กสทช. จะจัดงบ(เงินสัมปทาน ที่น่าจะไปพัฒนาอย่างอื่น) มาจ่ายให้ RS เพื่อให้ถ่ายทอดฟุตบอล คสช.ต้องลงมายุ่งยามกับกิจการของเอกชน แบบว่าแค่การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก มันกลายเป็นวาระแห่งชาติไปเลย คนไทยมี 65 ล้านคน สมมุติง่ายๆ ชายครึ่งหญิงครึ่ง (ที่จริงเพศหญิงมากกว่า) เน้นกลุ่มชายก็ 33 ล้านคน ขอบอกว่าผู้ชายทุกคนไม่ได้สนใจฟุตบอลนะครับ เพราะฉะนั้น แปลว่าคนไทยไม่ถึงครึ่งได้ประโยชน์จากการที่ กสทช.จะให้งบไปซื้อรายการเพื่อมาออกอากาศทางฟรีทีวี เฮ้อ
ขอเป็นหนึ่งเสียงเชียร์ให้ถ่ายทอดเทปไปเลย ไม่ส่งผลต่อปัญหาสังคม(การพนัน,โจรกรรม), ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณ (ที่ กสทช.จะต้องจ่ายให้ RS เอามาถ่ายทอด, คสช. จะได้ไปทำงานอย่างอื่น ไม่ต้องมายุ่งกับขี้หมูลาขี้หมาแห้งอย่างนี้