คันปากอยากเล่าจ้า...
ใครเคยหาหมอสิวมาหลายต่อหลายที่จนจะเป็นกูรูเรื่องการใช้ยาแล้วบ้างค๊า ขอมือโหน่ยยยย

คือเราเป็นคนที่หาหมอสิวตั้งแต่ป.6 ตอนเด็กๆแม่กลุ้มใจมาก จึงพาไปหาหมอคลีนิคชื่อดัง "พร......"
หาจนขึ้นปี 2 เริ่มรู้สึกว่าทำไมต้องหาด้วย ที่มีอยู่มันก้ไม่เคยหายขาดเลย หามานานขนาดนี้มันน่าจะมีอะไรดีขึ้นบ้างสิ่
ปกติหน้าเราเป็นผิวแพ้ง่ายต่อสภาพอากาศ ดิน น้ำ ลม ไฟ ผิวผสมค่อนไปทางมัน
วันนี้เลยอยากมาเล่าประสบการณ์ของตัวเอง จากคนเป็นสิวที่หาหมอสิวมาเป็นเวลานาน

คลีนิคชื่อดัง "พร......"
วิธีการรักษา : พบหมอ ทายา กดสิว  แต้วยา และท้ายสุด เลเซอร์รอยแดง
                  เลเซอร์รอยแดงของที่นี่แบบหลอกดาวมาก ต้องทาหน้ามันๆหลังเลเซอร์ตลอด
                  เน้นย้ำว่าทาทั้งวันในช่วง 1 อาทิตย์หลังทำเลเซอร์ แต่ปกติแล้วมนุษย์ต้องใช้ชีวิตนอกบ้านเป็นส่วนใหญ่

ผลการรักษา : ไอ้เราก็สู้อุส่าห์อดทนหน้ามันไปเรียน ทำกิจกรรม โดนเพื่อนล้อ บลาๆๆ
                   ผ่านเวลามา 2 เดือนก็ยังไม่หาย - -* เชื่อไหมว่ารอยแดงจางลงสักนิดก็ไม่รู้สึก เสียดายเงิน
                   นี่ละจุดเปลี่ยน ตัดสินใจละว่ายังไงก็ไม่เอาคลีนิคนี้ (ตัดช้ามาก5555)

ข้อดี           : สะอาด สะดวก สบาย

ข้อเสีย        : ค่ารักษาค่อนข้างสูง ความรู้สึกเราจะไม่ใช้ว่าแพง เพราะถ้าแพงแล้วหายยอมค่ะ แต่ในกรณีคลีนิคนี้
                   เราว่าเงินที่เสียไปจำนวนมาก มากจริงๆ ไม่คุ้มกับผลตอบรับที่ได้มาเลยค่ะ  
                   แรกๆก้หาย หลังๆคงที่ไม่มีเปลี่ยน


คลีนิคถัดมาได้แก่ "ลุมพินีคลีนิค" หมอเอกนั่นเอง ^^
วิธีการรักษา : พบหมอ แต้มยา กับทายาอย่างเดียว
                  หมอไม่ยัดยาให้กิน เคยกินแอนโนตินครั้งเดียวเพราะเป็นหนักทั้งอุดตัน อักเสบ
                  หลังจากนั้นทายามาตลอด

ผลการรักษา : มันดีขึ้นแล้ว หน้าดีได้มีอยู่จริง แต่ใช้เวลานานค่ะเกือบครึ่งปีเลย สิวหายหมด
                   เหลือแค่รอย และสิวผดที่ขึ้นเนื่องจากอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย

ข้อดี           : ค่ารักษาถูก หมอให้คำปรึกษาอย่างละเอียด ไม่รีบไล่ให้ออก มีของเก่าใช้ของเก่า(โฟมล้างหน้า ครีมบำรุง)
                   ในกรณีที่ไม่แพ้นะคะ หมอจะถามแบบละเอียด คุณหมอดี มีจรรยาบรรณหน้าก็ดีงามด้วยค่ะ  

ข้อเสีย        : มันไกลค่ะ แล้วรอนานมาก คือมันเสียเวลาเกือบทั้งวันในการนั่งรอ


ต่อมาเริ่มถามเพื่อนที่มหาลัยฯว่าคลีนิคไหนดี คลีนิคไหนเด่น แบบใกล้มหาลัยฯ
ได้คำตอบมาว่า "ใจดีคลีนิค" ซึ่งมีหลายสาขา เราเลือกหาสาขาใกล้ม.ศิลปากร นครปฐมจ้า

วิธีการรักษา : พบหมอ วันแรกหมอจะให้ยาทา ยาทาน(อันนี้แล้วแต่คน แต่เราไม่โดนนะคะ ขนาดสิวเยอะ
                  แต่ส่วนใหญ่เราเป็นผด ไม่ใช่อักเสบ อักเสบส่วนใหญ่จะขึ้นตอนแพ้แรงๆ) แล้วนัด 1 สัปดาห์
                  สัปดาห์ต่อมาหมอให้ทำหน้าค่ะ เป็นพวกผลักทรีทเม้นท์ทั่วไป  เราทำเป็นตัว Phono 5

ผลการรักษา : คือยาที่นี่เราไม่สามารถคอนเฟิร์มได้ว่าดีจริงไหม ? เพราะขี้เกียดทา
                  ใช้แค่ช่วง 2 สัปดาห์แรกแล้วก็หยุดไป ทำทรีทเม้นท์แทน แต่ที่เด่นๆเลยคือทรีทเม้นต์ค่ะ
                   เราแพ้ AHA จึงขอเปลี่ยนเป็น Vit C แทน หน้าใสขึ้น นุ่มขึ้น ความสากที่เคยเกิดจากการเป็นสิวเริ่มหายไปค่ะ
                   หน้านุ่มนิ่มขึ้นเรื่อยก็ดีใจระดับหนึ่งแล้ว ที่สำคัญคือสิวยังมีประปรายอยู่บ้าง แต่มันไม่ขึ้นใหม่ค่ะ
                   เราเป็นคนสังเกตหน้าตัวเองตลอดเวลา และทุกครั้งที่เปลี่ยนคลีนิค ก็จะถ่ายรูปช่วงก่อนทายา และหลังไว้

                  สรุปคือที่รี่ทรีทเม้นท์ Phono 5 เริ่ดค่ะ ดาวคอนเฟริ์ม หน้าดีขึ้นจนเพื่อนๆทักว่าไปทำไรมา ทำไมหน้าดีขึ้น
                  คือมันจะด่านั่นแหละค่ะ ว่าหลัง....เป็นหน้ามือเลยนะเนี่ย
                 แฟนก็บอกว่าหน้าดีขึ้นเยอะกว่าตอนหาคลีนิคชื่อดังเลยค่ะ ทนหน้ามันอยู่ได้ตั้งนาน
                 ส่วนตัวเค้า เราบังคับให้หาตอนแรกก็ทำอิดออด บ่นๆ แต่พอหาแล้วหน้าใส หยุดบ่นเลยค่ะ
                 มีไปแนะนำเพื่อนด้วย  ปกติหน้าแฟนเราก็ไม่ค่อยเป็นสิวอยู่แล้ว แค่หมองคล้ำ แต่ตอนนี้ใสปิ๊งละ  
                  
ข้อดี         : ค่ารักษาย่อมเยาว์ สบายกระเป๋าจริงๆค่ะ ทรีตเม้นท์มีผ่อนจ่าย
                 เหมาะกับเด็กวัยละอ่อนที่หน้าเป็นสิวเลย หยุดยา เลิกทำทรีตเม้นท์ หน้าก็ไม่ได้แย่ลงนะคะ คงสภาพเดิมไว้ได้
                แต่ถ้าเกิดมีสิวขึ้น อันนี้ก็ต้องดูนะคะว่าเกิดจากอะไร ลองของใหม่รึเปล่า ?

***เคยถามหมอเอกอยู่เหมือนกัน เราไม่มีความรู้เรื่องแพทย์ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าคลีนิคที่รักษามีตัวยาสเตียรอยด์ไหม
(ตามความเข้าใจเราคือ สเตียรอยด์ หายเร็ว เหมือนเสกได้ แต่พอหยุดใช้ก็ขึ้นเหมือนเดิม หนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ อันนี้ประสบการณ์ตรงค่ะ)
หมอบอกว่าให้สังเกตง่ายๆคือทาเราหยุดหยาไปประมาณ 1 อาทิตย์ ลองดูว่าสิวเห่อไหม ต้องเห่อนะคะ
เม็ด2เม็ดนี่ไม่นับน้า ความจริงไม่ถึงอาทิตย์ 3 วันก็รู้แล้วถ้าสิวเห่อโดยไม่มีสาเหตุไม่ได้ใช้ของแปลกปลอม ก็น่าจะรู้ได้แล้ว ^^

ข้อเสีย       :  พนักงานดูเป็นการเองเกินไป - -* หมอไม่ค่อยอธิบายอะไรมากค่ะ  ถ้าถามก็ตอบนะ ^^





เดี๋ยวมาต่อน้าาา ขอตัวทำงานแปปยังเหลืออีกคลีนิคที่เป็นจุดเปลี่ยนเลย แล้วก็มาถึงจุดดับเพราะความอยากลอง !!!!!!!!

ป.ล.หากกระทู้นี้มีผู้ชมจำนวนหนึ่งที่สนใจและอยากติดตาม กระทู้หน้าๆจะนำรูปมารีวิวสภาพหน้านะคะ ^^

ป.ล.เรื่องของการแต่งหน้า เราแต่งหน้าตอนปี 3 เริ่มมีรองพื้น คอนซีลเลอร์ แป้งพัฟแบรนด์ต่างๆเข้ามา
      จะมารีวิวในภายภาคหน้านะคะ ว่ามันกระทบต่อคนแพ้ง่าย เป็นสิว หน้ามันได้อย่างไรบ้าง มีทั้งใช้ได้และไม่ได้

ป.ล.การเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น เป็นประสบการณ์จริงจากเราเอง ซึ่งอาจจะมีถูกและไม่ถูก
      คนอื่นอาจไม่เป็น แต่เน้นย้ำว่าอันนี้ของเราจ้า ไม่ได้บอกว่าดี แต่เราสู่กันฟัง อย่าดราม่าน้า