หนังคนละม้วน "ผจก." ยัน ไม่เคยเสี้ยม "หมาก" ให้ตีกับ "แม่มิ้นต์" เชื่อหมากต้องมีเหตุผลในการด่า

"แพร" ผู้จัดการ "หมาก ปริญ" เปิดใจ กรณีหมากด่า "แม่มิ้นต์ ชาลิดา" เชื่อว่ามีเหตุผลที่มาที่ไป ลั่นไม่เคยเสี้ยมให้หมากทะเลาะกับแม่มิ้นต์ และไม่เคยกีดกันงานมิ้นต์ แฉกลับแม่มิ้นต์นั่นแหละที่ปฎิเสธร่วมงานกับหมาก ยอมรับก่อนหน้านี้มีปัญหากันและเคยขอเคลียร์แล้วแต่ถูกแม่มิ้นต์ปฏิเสธ ขอโทษที่หมากทำให้ทุกคนผิดหวัง หวั่นโดนช่อง 3 แบนงานเพราะเป็นตัวอย่างไม่ดี
       
       หลังจากที่ “รัชชนก วิจิตรวงศ์ทอง” แม่ของ “มิ้นต์ ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง” ออกมาให้สัมภาษณ์ซัด "หมาก ปริญ สุภารัตน์" สองวันเต็มถึงกรณีที่มีข้อความแชตไลน์ของแก๊ง 4 หัวใจแห่งขุนเขาหลุด โดยหมากได้ต่อว่ามิ้นต์ และฝากไปถึงแม่มิ้นต์ว่าเป็นอะไรมากหรือเปล่า ก่อนจะสบถคำว่า "สัตว์" เพราะไม่พอใจที่แม่มิ้นต์โพสต์ข้อความในอินสตาร์แกรมในลักษณะกระทบกระเทียบ
       
       ส่งผลให้แม่มิ้นต์ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยบอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะมีสาเหตุมาจากหมากโดน "แพร ภรณ์มณี เมษสิทธิสิริ" ผู้จัดการส่วนตัวของหมากเสี้ยม และก่อนหน้านี้ก็เคยเสี้ยมให้แม่มิ้นต์กับผู้จัดการส่วนตัวของมิ้นต์เข้าใจกันผิด พร้อมทั้งแฉแหลกเรื่องที่แพรให้มิ้นต์ทำตัวสนิทสนมกับหมาก ให้ไปกินข้าว ไปดูหนังด้วยกันเพื่อเรียกกระแส และยังต้องการให้มิ้นดึงมากให้พ้นจากนางเอกช่อง 5 ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็น "วิว วรรณรท สนธิไชย" ที่ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวกับหมาก
       
       นอกจากนั้นแล้วแม่มิ้นต์ก็ยังบอกว่าที่ผ่านมาแพรกีดกันไม่ให้หมากมาเป็นคู่จิ้นกับมิ้นต์ ถึงขั้นปฎิเสธรับงานที่คู่กับมิ้นต์ และบอกกับทีมงานที่ติดต่องานมาว่า งานไหนมีหมากต้องไม่มีมิ้นต์ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า สาเหตุที่น่าจะทำให้ทั้งคู่ถึงจุดแตกหักน่าจะเป็นเรื่องที่มิ้นต์ได้โฆษณาแต่เด็กของแพรไม่ได้ และพอมีงานโฆษณาติดต่อให้หมากต้องเป็นพรีเซ็นเตอร์คู่กับมิ้นต์ ด้านแพรก็เลยเสนอ "คิมเบอร์รี่ แอน เทียมสิริ" แทน ทำให้มิ้นต์ชวดงานเป็นการเอาคืน
       
       อย่างไรก็ตามแพรได้ปฏิเสธเรื่องกีดกันงาน แต่ยอมรับว่าการฟิชชิ่งงานแข่งกันเป็นเรื่องธรรมดาและเมื่อมีที่ว่างก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ตนจะเสนอดาราคนอื่นให้ลูกค้าเลือก นอกจากนั้นแล้วก็ยังเปิดใจถึงความขัดแย้งทั้งหมดว่าน่าจะเกิดจากการเข้าใจผิดและไม่ได้เคลียร์กันทำให้เรื่องบานปลาย โต้กีดกันงานมิ้นต์แต่เป็นทางมิ้นต์นั่นแหละที่ปฏิเสธจะร่วมงานกับหมาก เรียกว่าเป็นหนังคนละม้วนกับสิ่งที่แม่มิ้นต์ให้สัมภาษณ์เลยทีเดียว
       
       "ตัวแพรเองแพรรับรู้ว่าเรามีความเข้าใจผิดกัน แต่ถ้ากับแม่มิ้นต์โดยตรงแพรรู้สึกว่า แพรไม่มีนะ แต่รู้ว่ามีความเข้าใจผิดกัน ก่อนจะมาถึงจุดนี้ก็พยามนัดว่า เคลียร์กันไหมคะ ก็พยายามนัดแล้วหลายครั้งแต่คุณแม่ก็ไม่ได้รับนัด มันก็เลยเถิดไปแต่ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไร ก็ต่างคนต่างอยู่ไป"
       
       "ก่อนหน้านี้มีเรื่องคาใจกันอยู่ เอาเริ่มต้นว่าแพรมีผิดใจกับทางผู้จัดการเขา(ผู้จัดการส่วนตัวของมิ้นต์) ก็ค่อนข้างรุนแรง เขาเคยเป็นโบรกเกอร์ขายโฆษณาให้เด็กๆ แพร เรามีการผิดใจกันเรื่องผลประโยชน์ ตัวแพรเองไม่ได้พูดหลายครั้งแล้ว หลายคนก็ถามว่าทำไมมีเรื่องหลายครั้งแล้ว อย่างครั้งที่แล้วมีรูปหลุด บางคนก็คิดว่าเป็นแพรหรือเปล่าที่เป็นอดีตาผู้จัดการ ซึ่งเราก็ไม่ได้พูดอะไรคิดว่าเดี๋ยวก็เงียบเอง ในเรื่องจริงๆ แล้วมันเป็นการผิดใจเรื่องการทำงานและมีปัญหาเรื่องการทำงาน มากกว่าที่จะเป็นเรื่องวงการบันเทิง ตรงนั้นก็ทำให้แพรไม่อยากจะพูดอะไร พูดไปก็เจ็บหลายฝ่าย และหลายคนก็เป็นผู้ใหญ่ที่เรานับถือก็ไม่อยากจะเอ่ยถึงให้ ไม่อยากให้ไปเป็นธุระกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง"
       
       ยันไม่เคยกีดกันงาน ""หมาก" ไม่ให้รับงานคู่กับ "มิ้นต์"
       "ไม่ได้กีดกันงาน ดาราชายกับดาราหญิงส่วนใหญ่ไม่ได้แข่งงานกันอยู่แล้วค่ะ เรื่องการรับงานถ้าย้อนกลับไปมันมีภาพที่มิ้นต์กับหมากไปงานคู่กันนะคะ ไม่ว่าจะเป็นถ่ายแบบหรืออีเวนต์(อันนั้นมันช่วงแรกๆ หรือเปล่า) ถ้าเป็นช่วงหลังต้องไปถามทางเขาค่ะว่า ไม่ทำงานกับเราหรือเปล่า แต่แพรไม่เคยพูดว่า ไม่ถ่ายโฆษณา ไม่ถ่ายละคร ไม่มี"
       
       "แพรก็ยอมรับว่าเราเคยมีการผิดใจกันเคยมีการเคลียร์กัน แต่ในดีเทลว่าพูดอะไร หรือขอโทษประเด็นไหน มันก็ค่อนข้าง...แพรพูดรวมๆ กับแม่ว่า เมื่อก่อนไม่รู้จักกันแต่วันนี้ได้รู้จักกับแม่กับน้องน่ารัก แพรซอรี่จริงๆ ที่เมื่อก่อนที่เข้าใจผิด คือมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่มันจะมีเรื่องที่เราไปฟังคนนี้ไปฟังคนโน้น เราก็ไม่หนักแน่นด้วยแหละ เราก็ปากหนักไม่เคยเคลียร์ พอวันหนึ่งเราได้มารู้จักมันแย้งกันเราก็ขอโทษ อันนี้คือนิสัยแพรนะ หลังจากนั้นเราก็ร่วมงานกันปกติ จนกระทั่งตอนหลังมันมีปัญหาที่คุณแม่พูดถึงได้รู้ว่ามันร้ายแรงขนาดนี้ พึ่งรู้ว่ามันร้ายแรงขนาดนี้ ไม่รู้ว่ามันไปกันใหญ่อย่างนี้ได้ไง"
       
       ส่วนเรื่องเสี้ยม "ผู้จัดการมิ้นต์" กับ "แม่มิ้นต์" ให้ทะเลาะกัน ไม่ใช่เรื่องจริง ลั่นจะตัดผลประโยชน์ตัวเองทำไม ถามกลับแม่มิ้นต์ไปฟังเรื่องนี้มาจากใคร
       "เอางี้ดีกว่าถ้าเอาเรื่องตามตรรกะผลประโยชน์ ยิ่งน้องมีคู่จิ้นมากโอกาสในการได้งานก็สูงขึ้น ดังนั้นถ้าแพรเป็นนักธุรกิจแพรจะตัดผลประโยชน์แพรทำไม ดังนั้นแพรไม่ได้รู้สึกว่ามันจะอย่างนั้นอย่างนี้ ทีนี้ก็ต้องย้อนกลับไปว่าในทุกๆ เรื่องแม่ฟังมาจากใคร ตัวแพรเองแพรกล้าพูดออกตัวว่าอยากจะเคลียร์ เพราะรู้สึกแปลกๆ เราเคยสนิทกันเคยโทรหากัน คุณแม่บอกว่ามีการกระแทกไอจี เราก็รู้สึกนะเราก็พยายามเคลียร์นะ แต่ยังไม่เคยได้รับนัด(สรุปไม่ได้ไปเสี้ยมทั้งสองฝั่ง) ไม่ได้เสี้ยมไม่มีประโยชน์ไม่ก่อประโยชน์ทั้งคู่"
       
       ยันไม่เคยให้ "มิ้นต์" สร้างกระแสจับคู่กับ "หมาก"
       "แพรมีน้องผู้ชายน้อยนอกนั้นแพรมีน้องผู้หญิงเกือบ 10 คน ดังนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลยถ้าแพรจะมีนโยบายการทำงานแบบนี้ แล้วน้องอีก 10 คนที่ทำงานกับแพร พ่อแม่เขาไว้ใจให้ทำงานจะว่ายังไง การเป็นคู่จิ้นไม่ใช่ว่าการไปกินข้าวกันแล้วจะดัง แต่มันเป็นเรื่องคนดูทางบ้านแล้วจิ้นแล้วชอบ แพรว่าคนเป็นแฟนกันทุกคนไม่ได้เป็นคู่จิ้นกันทุกคนน่ะค่ะ ดังนั้นประเด็นตรงนี้แพรไม่ได้รู้สึก การทำงานของแพรไม่ได้เน้นเรื่องอีเวนต์ ฉะนั้นแพรก็ไม่ได้มีเหตุผลในการสร้างข่าวด้วยจับคู่ให้"
       
       ไม่ได้ให้ "มิ้นต์" ไปยุ่งกับ "หมาก" เพื่อกัน "วิว วรรณรท"
       "คนสนิทกันน่ะ ใครก็ห้ามไม่ได้หรอกนะ แพรมั่นใจว่าทุกคนถ้าจะสนิทกับใครมันห้ามไม่ได้ คนเป็นผู้จัดการก็ไม่สามารถห้ามได้หรอก แพรไม่ได้มีกฏกับเด็กเรา แพรมองว่าเขาจ้างเราให้เปอร์เซ็นต์เราให้จัดการเรื่องงานและที่เกี่ยวกับสื่อบันเทิงด้านภาพลักษณ์หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่เรื่องหัวใจเขาจะไปสนิทกับใครเขาไม่ได้ขอให้เราช่วย(ไปทำอะไรให้เขาเข้าใจผิดว่าเป็นการขอให้จัดฉากจับคู่กับหมากหรือเปล่า) คือน้องมีผู้จัดการด้วยมารยาทาเราจะไม่คุยข้ามไลน์กันอยู่แล้ว ดังนั้นแพรไม่เคยคุยกับแม่เพื่อสิ่งนี้แน่นอน และไม่เคยคุยกับคนไหนเพื่อสิ่งนี้"
       
       โต้ข่าวชวน "มิ้นต์" ไปเป็นเด็กในสังกัด
       "ถ้าแพรจำได้นะ...ไม่มีนะ คือเอาอย่างนี้ ตอนนี้มีข่าวว่าคิมมาอยู่กับแพรก็ไม่เป็นผลดีกับแพรนะ ดังนั้นช่วงนั้นมิ้นต์ก็เป็นคู่จิ้นกับหมาก และมิ้นต์ก็มีผู้จัดการดูแลมันก็ไม่เป็นผลดีอะไรกับแพรเลย แพรก็แค่รู้สึกว่ามันจะไปต่อยอดให้การทำงานของแพรง่ายขึ้นหรือมีเงิน หรือทำให้ตัวแพรดูดีขึ้น คือคนเราต้องมีสเปซในการทำงานกัน แต่ถ้ามันไม่ใช่ถามว่าทำไมเกิดเรื่อง มันก็ต้องขึ้นอยู่กับว่า ฟังมาจากใคร ฟังมาจากฝ่ายไหน"
       
       "เข้าใจว่าคนเป็นแม่รักลูก ถ้าหากว่าใครมาทำร้ายลูกจะต้องปกป้องอันนี้เข้าใจ เขาก็คงได้ยินใครพูดมาแหละเขาถึงออกตัวมาดูแลลูกเขาปกป้องลูกเขา แต่ส่วนหนึ่งที่เรารู้สึกคือ แล้วมันเกิดอะไรขึ้น แล้วได้ยินจากใคร แล้วมาถามเราไหมว่ามันจริงหรือเปล่า"
       
       เผยเคยได้ยินคนอื่นเอามาเล่าให้ฟังเรื่องที่ "แม่มิ้นต์" ไม่พอใจตนเองที่ขวางไม่ให้ "หมาก" มาจิ้นกับ "มิ้นต์"
       "ก็เคยได้ยินมาเรื่องคู่จิ้น หรือขวางงานไม่ให้เป็นคู่จิ้น นอกจากนั้นแล้วมันก็จะมีไอจีต่างๆ ที่มาแท็กให้แพรชอบพูดเรื่องนั้นเรื่องนี้ เดี๋ยวนี้ทำไมไม่มีงานด้วยกัน แพรว่าการที่นักแสดงจะมีงานร่วมกันมันเป็นเรื่องของละครเป็นหลัก นักแสดงจะขึ้นจะลงจะจิ้นกับใครไม่จิ้นกับใครมันเป็นผลจากละครล้วนๆ ช่วงไหนมีผลงานละครกับใครคนก็อยากเห็นไปออกอีเวนต์กับคนนั้นไปถ่ายแบบกับคนนั้น มันเป็นเรื่องความต้องการของตลาด น้องสองคนก็ไม่มีงานร่วมกันมานานอันนี้หมายถึงละครนะ กับสิ่งที่เกิดขึ้นถามว่าโกรธไหม...ไม่โกรธเพราะคิดว่ามันมีที่มาที่ไปทำไมเขาถึงเข้าใจผิด ซึ่งเราก็อยากเคลียร์เราเคยทำนัดแล้ว แต่แม่เขาไม่รับนัด"
       
       โต้เป่าหู "หมาก" ให้ทะเลาะกับ "แม่มิ้นต์"
       "จริงๆ น่าจะรอฟังจากหมากว่ายังไง แต่เรื่องที่แม่บอกว่าแพรเป่าหู แพรแค่อยากจะพูดว่า หมากก็โตพอที่จะแยกแยะประเด็น แต่บางทีบางอย่างด้วยความเป็นวัยรุ่นการแสดงออกมาก็เป็นไปในทิศทางแบบนั้น หมากกับมิ้นต์เขาเป็นเพื่อนสนิทกัน ตรงนี้มันเป็นเรื่องของหมากกับมิ้นต์"
       
       "แพรไม่ค่อยเล่าอะไรให้เด็กแพรฟัง เพราะเขาจ้างเรามาเพื่อรับผิดชอบ ถ้าแพรบอกเขาทุกเรื่องเขาถ่ายละคร 7 วันต้องตื่นตี 5 ไปถ่ายถึง 4 - 5 ทุ่มแล้วยังต้องมาฟังความเครียดอีก และถ้าน้องเล่นไม่ได้ น้องมีปัญหา น้องไม่อยู่ในอารมณ์แล้วไปเบี่ยงใครไปทำอะไร ท้ายที่สุดมันก็โยนกลับมาที่แพรอยู่ดี แพรคงไม่หาเรื่องให้มาเพิ่มความเดือดร้อน เพิ่มงาน เพิ่มความหนักใจให้กับตัวเอง อะไรที่เรารับเองได้เราก็รับ อะไรที่เราเคลียร์ได้เราก็เคลียร์ อะไรที่ต้องเก็บไว้ก็ต้องแบกไว้"
       
       "แต่หมากเขาก็คงจะได้รับรู้บ้างมั๊งคะ เพราะเดี๋ยวนี้โลกมันเป็นโซเชี่ยลน่ะค่ะ บางทีมันกระแสคู่จิ้น ก็ไอจีแปลกๆ มีการตั้งอินสตาแกรมบุคคลที่ไม่แสดงตัวมาแท็กถึงเขาแท็กถึงแพร เรากดไปดูหน้าจอก็ไม่มีซักรูปกดไปก็เป็นไพรเวท เผลอๆ บางทีเราไปเม้นท์กลับไม่ดีเขาก็หายไป เราก็ไม่รู้ว่าที่มาที่ไป"
       
       ข่าวออกมาตอนแรกเป็นเรื่อง "หมาก" เปิดศึก "แม่มิ้นต์" แต่ถ้าอ่านบทสัมภาษณ์ของแม่มิ้นต์จะเห็นได้ว่า แม่มิ้นต์ไม่ได้โทษหมาก แต่โทษที่ "แพร" ผู้จัดการส่วนตัวของหมากเป็นคนเสี้ยมเป้าหู
       "แพรก็ต้องขอบคุณแม่ที่เอ็นดูหมากเพราะแพรก็ไม่อยากให้เขาเดือดร้อน ถ้าสมมติว่าใดๆ ทั้งหมดแล้วปัญหามันเกิดจากความไม่เข้าใจในตัวแพร แพรก็พร้อมเคลียร์ อะไรผิดพร้อมขอโทษ อะไรที่เข้าใจกันผิดก็พร้อมชี้แจง"
       
       เคลียร์เรื่องไม่พอใจที่ "มิ้นต์" ได้โฆษณาแต่เด็กของ "แพร" ไม่ได้ ก็เลยแก้เผล็ดโดยการไม่รับพรีเซ็นเตอร์คู่กับมิ้นต์ ยันไม่ใช่เรื่องจริง แฉจริงๆ แล้วทางมิ้นต์เองนั่นแหละที่เป็นคนปฏิเสธร่วมงานกับ "หมาก"
       "เรื่องแย่งงานโฆษณาในประเทศนี้ใช้ดาราเยอะมาก การที่ฟิชชิ่งงานแข่งกันมันเป็นเรื่องปกติ การได้งานไม่ได้งานเป็นเรื่องปกติ แค่การรับอีเวนต์หรือแม้แต่ในละครมันก็การเสนอตัว มีการสับเปลี่ยนกันตลอดเวลา มันเป็นสัจธรรมโลก เราก็เป็นแค่อันหนึ่งที่เขาจะเลือกหรือไม่เลือก แต่ถ้าแพรมีโอกาสที่จะนำเสนอเด็ก แพรก็ต้องนำเสนอมันเป็นหน้าที่มันเป็นงาน(แสดงว่ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงๆ ) ไม่รู้เพราะโฆษณาส่วนใหญ่จะเป็นคอนฟิเดนเชียล เขาจะไม่ได้บอกว่าเรารับงานแข่งกับใคร ลูกค้าก็จะไม่บอกว่าเรากำลังแข่งกับใครอยู่เพราะมันเป็นมารยาทในการทำงาน"


ชุดดำพลอย ชุดขาวแพรค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่