ในอดีต คดีลักทรัพย์ (รวมถึงฉ้อโกง) อยู่อันดับ 1 แต่ในปัจจุบัน คดียาเสพติดขึ้นมาอยู่อันดับ 1 แทน ส่วนคดี
ลักทรัพย์ตกไปอยู่อันดับ 2 โดยในกลุ่มนักโทษชาย ต้องโทษคดีเสพยามากที่สุด ที่น่าเป็นห่วงคือผู้ที่เสพยามี
อายุน้อยลงเรื่อยๆเพราะความอยากรู้อยากลองของวัยรุ่น ทำให้ยาเสพติดเป็นปัญหาสังคมที่ลุกลามไปในวงกว้าง
ขึ้นเรื่อยๆ
ผู้คุมให้สัมภาษณ์ว่ามีลูกนายตำรวจ ลูกทหารที่เข้ามาเป็นผู้ต้องขังด้วย ส่วนผู้ต้องโทษที่เคยเข้าคุกมาก่อนแล้ว
กลับมาติดคุกซ้ำอีกก็มีไม่น้อยเลย บางส่วนอยู่ในสถานพินิจฯตั้งแต่เป็นวัยรุ่น จึงไม่น่าแปลกใจถ้าบางคนจะติดคุก
ถึง 14 ครั้ง ผู้ดำเนินรายการทิ้งคำถามไว้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้สังคมไทยผลิตผู้ต้องโทษได้มากมายขนาดนี้
สภาพเรือนนอนที่แออัดในเรือนจำเพราะนักโทษล้นคุก
ที่ออสเตรเลียมีคุกอยู่ 93 แห่ง นักโทษ 30,000 คนโดยประมาณ (ไม่ได้ระบุปี) เฉลี่ยตกแห่งละ 300 กว่าคน
ประเทศไทยมีทัณฑสถาน 143 แห่งทั่วประเทศ แต่ก็ไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ต้องโทษที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น
เรือนจำนครสวรรค์ ต้องแบ่งกินข้าว 2 ผลัด ผลัดละประมาณ 1000 คนหรือกว่านั้นเพราะนักโทษล้นคุก
ตอนวันแรกในแดนแรกรับ
เมื่อผู้ต้องโทษถูกศาลพิพากษาให้คุมขัง ผู้ต้องโทษเหล่านั้นต้องเข้าไปรายงานตัวที่เรือนจำ ทางผู้คุมจะให้เหล่า
ผู้ต้องโทษถอดเสื้อผ้าออกให้หมดเพื่อตรวจค้นเสื้อผ้า ตรวจตะเข็บกางเกง ตรวจจุดซ่อนเร้น เช่น ให้ผู้ต้องโทษ
ขยี้ผม (คนผมหนาอาจซ่อนบางอย่างไว้ในผม) อ้าปากกระดกลิ้น (อาจซ่อนไว้ใต้ลิ้น) กระโดดนั่งยองๆ เป็นต้น
จากนั้นจะมีการสอบประวัติ ภูมิหลัง ดูสภาพทั่วไปของผู้ต้องขังแล้วนำผู้ต้องขังไปตัดผมสั้นเพื่อป้องกันการเป็น
แหล่งเพาะเชื้อโรค (ผมยาวจะเกิดเชื้อโรคง่ายกว่า) ตรวจสภาพร่างกาย ตรวจโรค จำแนกรายละเอียดเสร็จก็ส่ง
เข้าแดนต่างๆ ซึ่งผู้คุมในแดนต่างๆต้องคอยสังเกตอาการผู้ต้องขัง เช่น ใครป่วย ใครอยากยา เป็นต้น
ทางรายการได้สัมภาษณ์ผู้ต้องขัง ผู้ต้องขังบางคนห่วงพ่อแม่ บางคนห่วงลูก บางคนบอกว่าพอพ่อแม่รู้ว่าติดคุก
แล้วเครียด เขาเพิ่งมาคิดได้ว่าไม่น่าไปเสพยาเลย (เมื่อรู้สึกตัวก็สายเสียแล้ว)
คลิปดูย้อนหลังทาง ThaiPBS
http://clip.thaipbs.or.th/file-9925
คลิปดูย้อนหลังทาง youtube
รายการเปิดแดนชีวิต (ผู้ต้องขังหน้าใหม่ ผู้ต้องโทษอาชีพหรือคนขี้คุก ผู้คุมและเจ้าหน้าที่สถานพยาบาลในเรือนจำ)
ลักทรัพย์ตกไปอยู่อันดับ 2 โดยในกลุ่มนักโทษชาย ต้องโทษคดีเสพยามากที่สุด ที่น่าเป็นห่วงคือผู้ที่เสพยามี
อายุน้อยลงเรื่อยๆเพราะความอยากรู้อยากลองของวัยรุ่น ทำให้ยาเสพติดเป็นปัญหาสังคมที่ลุกลามไปในวงกว้าง
ขึ้นเรื่อยๆ
ผู้คุมให้สัมภาษณ์ว่ามีลูกนายตำรวจ ลูกทหารที่เข้ามาเป็นผู้ต้องขังด้วย ส่วนผู้ต้องโทษที่เคยเข้าคุกมาก่อนแล้ว
กลับมาติดคุกซ้ำอีกก็มีไม่น้อยเลย บางส่วนอยู่ในสถานพินิจฯตั้งแต่เป็นวัยรุ่น จึงไม่น่าแปลกใจถ้าบางคนจะติดคุก
ถึง 14 ครั้ง ผู้ดำเนินรายการทิ้งคำถามไว้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้สังคมไทยผลิตผู้ต้องโทษได้มากมายขนาดนี้
สภาพเรือนนอนที่แออัดในเรือนจำเพราะนักโทษล้นคุก
ที่ออสเตรเลียมีคุกอยู่ 93 แห่ง นักโทษ 30,000 คนโดยประมาณ (ไม่ได้ระบุปี) เฉลี่ยตกแห่งละ 300 กว่าคน
ประเทศไทยมีทัณฑสถาน 143 แห่งทั่วประเทศ แต่ก็ไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ต้องโทษที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น
เรือนจำนครสวรรค์ ต้องแบ่งกินข้าว 2 ผลัด ผลัดละประมาณ 1000 คนหรือกว่านั้นเพราะนักโทษล้นคุก
ตอนวันแรกในแดนแรกรับ
เมื่อผู้ต้องโทษถูกศาลพิพากษาให้คุมขัง ผู้ต้องโทษเหล่านั้นต้องเข้าไปรายงานตัวที่เรือนจำ ทางผู้คุมจะให้เหล่า
ผู้ต้องโทษถอดเสื้อผ้าออกให้หมดเพื่อตรวจค้นเสื้อผ้า ตรวจตะเข็บกางเกง ตรวจจุดซ่อนเร้น เช่น ให้ผู้ต้องโทษ
ขยี้ผม (คนผมหนาอาจซ่อนบางอย่างไว้ในผม) อ้าปากกระดกลิ้น (อาจซ่อนไว้ใต้ลิ้น) กระโดดนั่งยองๆ เป็นต้น
จากนั้นจะมีการสอบประวัติ ภูมิหลัง ดูสภาพทั่วไปของผู้ต้องขังแล้วนำผู้ต้องขังไปตัดผมสั้นเพื่อป้องกันการเป็น
แหล่งเพาะเชื้อโรค (ผมยาวจะเกิดเชื้อโรคง่ายกว่า) ตรวจสภาพร่างกาย ตรวจโรค จำแนกรายละเอียดเสร็จก็ส่ง
เข้าแดนต่างๆ ซึ่งผู้คุมในแดนต่างๆต้องคอยสังเกตอาการผู้ต้องขัง เช่น ใครป่วย ใครอยากยา เป็นต้น
ทางรายการได้สัมภาษณ์ผู้ต้องขัง ผู้ต้องขังบางคนห่วงพ่อแม่ บางคนห่วงลูก บางคนบอกว่าพอพ่อแม่รู้ว่าติดคุก
แล้วเครียด เขาเพิ่งมาคิดได้ว่าไม่น่าไปเสพยาเลย (เมื่อรู้สึกตัวก็สายเสียแล้ว)
คลิปดูย้อนหลังทาง ThaiPBS
http://clip.thaipbs.or.th/file-9925
คลิปดูย้อนหลังทาง youtube