เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก จส.100
คอบอลช็อก ! อาร์เอสขู่จอดำไม่ถ่ายบอลโลก 2014 หากแพ้คดี กสทช. ชี้อาจขัดข้อตกลงที่ทำไว้กับฟีฟ่า
หลังจากที่เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2557 ศาลปกครองสูงสุดได้เลื่อนนัดพิจารณาคดีครั้งแรก ในคดีพิพาทระหว่างบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) และ กสทช. ที่อาร์เอสฟ้องขอให้เพิกถอนประกาศของ กสทช. ซึ่งบังคับใช้ให้อาร์เอสในฐานะผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 ที่ต้องถ่ายทอดให้ครบทั้ง 64 คู่ผ่านฟรีทีวี ในขณะที่อาร์เอสต้องการถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวีเพียง 22 คู่เท่านั้น โดยศาลได้นัดหมายใหม่ให้ทั้ง 2 ฝ่ายมาฟังคำพิพากษาในวันนี้ (11 มิถุนายน 2557) เวลา 13.00 น.
อย่างไรก็ตาม นายวิบูลย์ กัมมาระบุตร ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ผู้แถลงคดี ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ที่ผ่านมาอาร์เอสไม่ได้ชี้แจงถึงมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น หากอาร์เอสเห็นว่า กสทช. ทำให้เสียหายจริง ก็อาจยื่นเรื่องร้องเรียนให้ กสทช. ช่วยบรรเทาทุกข์ได้ หรืออาจจะใช้สิทธิ์ในการยื่นฟ้อง กสทช. ชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นตนเห็นว่าควรนำฟุตบอลโลก 2014 มาถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวีทุกคู่ เพราะประโยชน์ของสาธารณะชนย่อมสำคัญกว่าบริษัทอาร์เอสเพียงบริษัทเดียว
ขณะที่ พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า ประเด็นที่ กสทช. ชี้แจงต่อศาลปกครองสูงสุดนั้น เป็นเรื่องของการปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนในการออกประกาศ กสทช. เรื่อง มัสต์แฮฟ มาบังคับใช้ เนื่องจากตั้งแต่เมื่อปี 2513 ที่ฟุตบอลโลกเข้ามาถ่ายทอดสดในประเทศไทยครั้งแรก คนไทยได้ดูฟรีทุกคู่โดยไม่มีเงื่อนไขหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ
ในส่วนของ นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัทอาร์เอส ระบุว่า ตนยังไม่สามารถให้ความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งหากศาลปกครองพิากษาเสร็จสิ้น ทางอาร์เอสก็ยินดีที่จะชี้แจงในทุกประเด็นคำถามอย่างแน่นอน ทั้งการดำเนินธุรกิจและความเสียหายหากแพ้คดี แต่ถ้าหากอาร์เอสถูกตัดสินให้แพ้คดี ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะต้องจอดำทั้งประเทศ เพราะไปขัดต่อข้อตกลงที่ทำไว้กับฟีฟ่า ซึ่งอาร์เอสต้องดูเงื่อนไขอีกที
อาร์เอสขู่จอดำไม่ถ่ายบอลโลก 2014 หากแพ้คดี กสทช.
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก จส.100
คอบอลช็อก ! อาร์เอสขู่จอดำไม่ถ่ายบอลโลก 2014 หากแพ้คดี กสทช. ชี้อาจขัดข้อตกลงที่ทำไว้กับฟีฟ่า
หลังจากที่เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2557 ศาลปกครองสูงสุดได้เลื่อนนัดพิจารณาคดีครั้งแรก ในคดีพิพาทระหว่างบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) และ กสทช. ที่อาร์เอสฟ้องขอให้เพิกถอนประกาศของ กสทช. ซึ่งบังคับใช้ให้อาร์เอสในฐานะผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 ที่ต้องถ่ายทอดให้ครบทั้ง 64 คู่ผ่านฟรีทีวี ในขณะที่อาร์เอสต้องการถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวีเพียง 22 คู่เท่านั้น โดยศาลได้นัดหมายใหม่ให้ทั้ง 2 ฝ่ายมาฟังคำพิพากษาในวันนี้ (11 มิถุนายน 2557) เวลา 13.00 น.
อย่างไรก็ตาม นายวิบูลย์ กัมมาระบุตร ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ผู้แถลงคดี ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ที่ผ่านมาอาร์เอสไม่ได้ชี้แจงถึงมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น หากอาร์เอสเห็นว่า กสทช. ทำให้เสียหายจริง ก็อาจยื่นเรื่องร้องเรียนให้ กสทช. ช่วยบรรเทาทุกข์ได้ หรืออาจจะใช้สิทธิ์ในการยื่นฟ้อง กสทช. ชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นตนเห็นว่าควรนำฟุตบอลโลก 2014 มาถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวีทุกคู่ เพราะประโยชน์ของสาธารณะชนย่อมสำคัญกว่าบริษัทอาร์เอสเพียงบริษัทเดียว
ขณะที่ พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า ประเด็นที่ กสทช. ชี้แจงต่อศาลปกครองสูงสุดนั้น เป็นเรื่องของการปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนในการออกประกาศ กสทช. เรื่อง มัสต์แฮฟ มาบังคับใช้ เนื่องจากตั้งแต่เมื่อปี 2513 ที่ฟุตบอลโลกเข้ามาถ่ายทอดสดในประเทศไทยครั้งแรก คนไทยได้ดูฟรีทุกคู่โดยไม่มีเงื่อนไขหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ
ในส่วนของ นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัทอาร์เอส ระบุว่า ตนยังไม่สามารถให้ความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งหากศาลปกครองพิากษาเสร็จสิ้น ทางอาร์เอสก็ยินดีที่จะชี้แจงในทุกประเด็นคำถามอย่างแน่นอน ทั้งการดำเนินธุรกิจและความเสียหายหากแพ้คดี แต่ถ้าหากอาร์เอสถูกตัดสินให้แพ้คดี ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะต้องจอดำทั้งประเทศ เพราะไปขัดต่อข้อตกลงที่ทำไว้กับฟีฟ่า ซึ่งอาร์เอสต้องดูเงื่อนไขอีกที