สวัสดีค่ะ ปกติเราไม่เตยโพสต์อะไรในนี้เลย มาวันนี้ เกิดประสบการณ์แย่ๆในชีวิต ซึ่งไม่คิดว่าจะเกิดกับครอบครัวเรา จึงอยากจะนำมาแชร์ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ให้ทุกท่านค่ะ
เมื่อวาน วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2557 เราได้รับโทรศัพท์จากแม่ว่า แม่ออกจากงานแล้วนะ M8 ตัดสินว่าเป็นทะเลาะวิวาทในที่ทำงาน เราก็งงค่ะ ว่าแม่เราไม่ใช่คนที่จะไปวิวาทกับใครง่ายๆ โดยเฉพาะที่ทำงาน คือ แม่เราทำงานที่ซุปเปอร์มารเก็ตขนาดใหญ่ย่านรังสิต สัญลักษณ์เขียว อักษรแดง แต่ส่วนที่แม่เราทำคือทอดหมู/ปิ้งหมูขาย ซึ่งบริษัท Contact ให้มาขายที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตนี้ เราขอใช้อักษรย่อว่า หม.ท นะคะ เราก็อึ้งๆ เลยถามต่อว่าไงต่อ แม่ก็เล่าว่า......
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2557 M1 (คือหัวหน้าในแผนกนั้น) สั่งให้ นึ่งข้าวเหนียว จากเหตุการณ์นี้เราจำไม่ได้ละว่าว่าใครสั่งใครอะไรยังไง หัวหน้าที่ Cover แม่เราอีกที ไม่พอใจ และก็มาหงุดหงิด กระแนะกระแหนแม่ ซึ่งนางคนนี้ขอใช้นามย่อว่า ก. นาง ก. แม่เล่าให้ฟังว่า เป็นคนขยัน แต่ปากร้าย ชอบด่า และว่าคนอื่น จนลูกน้องหลายคนลาออก และมียุยงให้ถึงขั้นตบกันก็มี นางก็กระแนะกระแหนแม่เรา (แม่เราเคยบ่นให้เราฟังว่าเบื่ออยากออก คนที่ทำงานนิสัยไม่ดี ทำแล้วเครียด ก็คือนาง ก. นั่นล่ะ เราก็ยุให้ออก เพราะไม่เห็นด้วยให้แม่ไปทำงานแต่แรกแล้ว แต่แม่ก็ไม่ยอมออก อ้างว่าอยู่บ้านเฉยๆอ่ะ เบื่อ คือลำพังเงินเดือนเรา เลี้ยงแม่สบายๆเลย แต่แม่เบื่อ ขอออกหางานทำแก้เซ็ง)
แม่เราเริ่มทนไม่ไหวก็โต้ตอบกลับไป "จะอะไรกันนักกันหนา จิกกัดอยู่ได้ อิห่าจิก"
นาง ก. ก็หันมา "มาตบกะกุไหมล่ะ"
แม่เราเอือมก็ตอบไปว่า "เมื่อเช้าก็ยุให้คนตบกัน นี่ยังจะมาท้าตบอีก" (เรานึกในใจ นี่หัวหน้าคนหรอเนี่ย? อีกอย่างแม่เราแก่กว่าเขาอีกนะ สัมมาคารวะมีไหม หากมีคนทำนี้กับพ่อแม่เขา เขาจะรู้สึกยังไง)
พอสักพัก แม่เราเข้าห้องเอาหมูไปชั่งเพื่อปริ้นบาร์โค้ด ซึ้งเป็นห้องข้างใน แม่รู้แล้วว่านาง ก. ตาม มา แต่แม่ก็ไม่สนใจ เมื่อนาง ก. เข้ามา ในห้องก็ปิดประตูแล้วนางก็ตรงมาบีบคือแม่เรา จิกหัวแม่เรา ชนฝาผนังและกระแทกหัวแม่เรากับฝานัง ให้แม่เราขอโทษเขา แม่เราถือถือกล่องหมูทอดอยู่ก็ร่วงหล่น นาง ก. ก็ยังจิกคอลูกกระเดือกแม่เรา แม่บอกดิ้นแล้วแต่ไม่มีแรง และเริ่มหายใจไม่ออก ทนไม่ไหวที่รู้สึกเหมือนขาดอากาศหายใจ จึงเอามือตะกุยหน้า เพื่อให้ นาง ก. เสียสมดุล ด้วยนาง ก. ใส่แว่นตา แว่นจึงข่วนหน้านางเป็นรอย จากนั้น จากจับแม่เราผลักกระแทกกับพื้น พอดีเป็นจังหวะเดียวกับคนที่ดูแลอาหารที่แช่เย็นเดินเข้ามา เค้าเห็นแม่เรากองกับพื้น ตอนนั้นแม่เราก็ร้องไห้น้ำตาไหลแล้วนะ เพราะถูกทำร้ายกันขนาดนี้ แล้วนาง ก. ก็จะเข้ามาซ้ำ แต่คนที่เปิดประตูเข้ามาห้าม
แม่เรานึกขึ้นได้ ทอดหมูค้างไว้ กลัวของบริษัทจะเสียหาย รีบกลับไปดูหมู ทั้งๆที่ตัวเองถุกทำร้าย พอออกมา มาเจอ M1 เราจำcontent ไม่ได้ว่าเขาพูดอะไรกันหรือไม่ แต่แม่เราบอกว่า "เพราะ M1 นั่นล่ะ"
จากนั้น วันนั้น LP ส่งแม่กลับบ้านตอนเย็น เพราะกลัวถูกนาง ก. ดักทำร้าย จึงบอก LP และ LP ก็เดินมาดูว่าแม่เราไม่ได้มาทำงานจริง
จากนั้นสายๆ เรื่องถึง HR คือ มี M8 เป็นคนสอบสวน ทุกคนที่ถูกเรียกเข้าเกือบหมด ยกเว้น M1
M8 ก็สอบสวนไป ผลออกมาคือทะเลาะวิวาท โดยส่วนตัวแม่และเราโอเค และไม่อยากเอาความต่อ แต่โดยส่วนตัวเรา เราอยากเอาเรื่องต่อ ต่อให้เรื่องถึงตำรวจแล้วกลายเป็นแค่ทะเลาะวิวาทเราก็ยอมรับผล แต่เรื่องที่เรารับไม่ได้คือ M2 คือหัวหน้า ที่พยายามปกปิด และสร้างพยานเท็จ และใส่ร้ายป้ายสีแม่เราให้เกิดความเสียหาย หาว่าแม่เราด่าลูกค้า ขอถามหน่อยว่า สาขาอื่น หมูทอดขายได้หลักพัน แต่แม่เราขายได้หลักหมื่นต่อวัน นี่หรือคือคนที่ด่าลูกค้า It is totally non sense. เราช่วยแม่เราขายของตั้งแต่เด็ก แม่เราไม่เคยเอ็ดหรือว่า หรือกระแนะกระแหนลูกค้าเลย มีแต่เราเนี่ยแหละไล่ลูกค้าแม่ เพราะเค้ามาจีบแม่เรา เราหวง ห้ามยุ่ง ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
เราก็คุยกับพี่ที่เป็นสารวัตรที่ สน. นึง เค้าก็บอกว่า จะเอาเรื่องก็เอาได้นะ แบบว่าสร้างหลักฐานพยานเท็จประมาณนั้น และอีกอย่างคือ กล้องวงจรปิดก็มี ตอนสืบสวน แม่เราบอกว่ากล้องก็มีเปิดดูสิ M8 ก็ถามหา แต่ทางพวก M2 และคนดูแลกล้องบอกว่ากล้องแพนไปไม่ถึง (มันเลยเกิดคำถามว่ากล้องแพนไม่ถึง แล้วติดทำไม? หรือแค่ติดประดับ แต่ไม่ได้ติดเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์เลย ฝากรบกวนบริษัทช่วยเช็คด้วยนะคะ ว่ากล้องคุณมีคุณภาพหรือเปล่า หรือเป็นแค่เฟอร์นิเจอร์ประดับซุปเปอร์มาร์เก็ต) สืบไปมา สุดท้าย M8 ก็ตัดสินว่า นาง ก. ผิด แต่ด้วยแม่สู้กลับแล้วนาง ก. เกิดแผล ผลจึงออกมาวิวาท (หากแม่แค่ผลักนะ หึหึ เราเอาไม่เลี้ยง ไม่มีปราณีแน่ จะว่าเราใจร้ายเราก็ยอม แม่ของเรามีคนเดียวในโลก เราไม่ยอมให้ใครทำแม่เราฝ่ายเดียวแน่ๆ)
แต่แม่บอกว่าไม่อยากจองเวร เพราะหากเอาเรื่องอีกหลายคนต้องเดือดร้อน เขามีครอบครัวที่ต้องเลี้ยงดู ส่วนเราค่อนข้างมั่นคงแล้ว อย่าไปทำเขาเลย นี่แค่ นาง ก. มีเรื่องวิวาทกับแม่ เค้าก็ต้องถูกออกจากงาน แล้วชีวิตเขามีลูกต้องดูแล บ้านเขาก็ต้องเช่าในพื้นที่แออัดหลังห้างดังย่านรังสิต แค่นี้เค้าก็ลำบากแล้ว (ในใจคิด..แม่!! เขาทำร้ายแม่นะ หวังผลให้แม่เกิดความอับอายและเป็นอันตรายถึงชีวิตและทรัพย์สิน แม่ยังจะไปเห็นใจเขาอีกทำไม แต่เราไม่พูดออกไป เพราะเราเดือดปุดๆแล้ว เรายอมรับว่าเราแรง แม่กลัวเราไม่ยอมความ เลยไม่อยากเอาเรื่อง แต่เราเวลาเดือดหรือโกรธเราจะเงียบ นับ 1-200ในใจ เพราะแค่ 100มันไม่พอ 555)
จากนั้น M8 ก็ให้แม่กับนาง ก. เซ็นรับเรื่องวิวาท แล้ว M8 บอกให้แม่โทรบอกเรา แต่แม่ไม่อยากบอกเรา เพราะกลัวเราเป็นห่วง กลัวเรากังวล และไม่อยากรบกวน เพราะเราทำงานดูแลชีวิตผู้อื่นอยู่ M8 บอกต้องบอก ยืนยันว่าให้บอกลูก เพราะเขากลัวว่านาง ก. จะมาดักทำร้ายแม่ แม่จึงบอกว่าบอกเพื่อนแล้ว M8 ก็ยืนยันว่าต้องบอกลูก เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกัน หากเป็นไรลูกจะได้รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แม่ก็ลังเล แต่ก็ยอมโทร
วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2557 เราได้รับโทรศัพท์จากแม่ ประมาณ 5-5 โมงเย็น เพียงแค่เราได้ยินว่าเกิดอะไรเราก็รู้สึกห่วง และวันที่ 10 เราก็ต้องขึ้นเวรตั้งแต่ตี 5.30 น กว่าจะเสร็จงานก็ 16.30 น เราคงรอไม่ไหว จึงโทรหาพี่หัวหน้า เล่าว่าเกิดอะไรขึ้น พี่เค้าก็ให้หยุดมาดูแม่ คือ ตอนแรกลังเลจะมาไหม บอกให้แม่ไปตรวจร่างกาย เพราะหัวถูกกระแทก แรงมากแค่ไหนเราไม่รู้ แต่แม่ก็บ่นๆ ปวดหัว ซึ่งไม่รู้ว่าจาก Tension headache หรือ เกิดความผิดปกติจากหัวถูกกระแทก แม่บอกเดี๋ยวแม่จะไป แหะๆๆ แกวนี้รู้ทัน ไม่มีทางที่จะไปแน่นอน กลัวลูกเสียเงิน (ใช่เรื่องป่ะเนี่ย คุณหญิงใหญ่ของหนู!!! เงินของนอกกาย จะหาเมื่อไรก็หาได้ แต่แม่หนู หนูมีคนเดียวในโลก หาใหม่ไม่ได้นะเจ้าคะ คุณหญิงแม่เจ้าขาาาาาาา) เราเลยขอลางาน ออกจาก กทม มุ่งหน้ามาบ้านทันที และจริงดังคาด แม่ไม่ยอมไป จนมืดแล้วเกลี้ยกล่อมก็ไม่ยอม ดื้อมากกกก เราเหนื่อยเลยพูดไปว่า "ขอร้องเหอะ อย่างน้อยให้หนูกลับไปทำงานอย่างสบายใจหน่อย ใช่ว่าหนูจะลางานได้บ่อยนะ" (แอบแรงกะแม่ง่ะ รู้สึกผิด แต่ไม่ไหวแล้ว แม่ดื้อมากกกกก) แม่เห็นเราเริ่มอารมณ์เสีย เลยยอม
เช้ามาก็ไปตรวจ....ผล X-ray Skull AP and LAT: No definite fractur is seen. Intact sella turcica หมอไม่ทำอะไรเพิ่ม แต่ให้ Observe อาการต่อ เราก็ขอผล X-ray และ CT-Scan เดิมที่แม่เคยทำ กับผล X-ray ครั้งนี้ เพื่อเก็บไว้ เผื่อกรณีฉุกเฉิน หากไปรักษาโรงพยาบาลอื่นใน กทม
จากนั้นเราเดินหาร้านแฟ็กซ์ เพื่อให้บริษัท หม.ท ส่งใบเขียนลาออกมาให้ โดยแม่และเราได้โทรติดต่อ คุณ ด. ซึ่งเป็นเซลล์ของบริษัท หม.ท คุณ ด. ก็แฟกซ์มาให้ ระหว่างแม่เขียนใบลาออก เราก็หิวๆ เลยชวนแม่คิดว่าจะกินอะไร อาหารญี่ปุ่น ไทย หรือสุกี้ หรือปิ้งย่าง หรือ Steak ดี แม่บอกไม่เอา หากินง่ายๆ แถวนี้แม่ต้องรีบไปขัดกระทะต่อ เดี๋ยวแม่โดนหักเงิน (???? เราอึ้ง และงง อะไรอีกเนี่ย ยังไม่จบอีกหรอ)
แม่จึงเล่าว่า Sell ของ บริษัท หม.ท นามว่าคุณ ด. บอกว่า แม่ทำกระทะเสียหาย จะหักเงิน แต่แม่บอกว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาหรือเปล่าที่ปิ้งของแล้วมันจะมีรอยไหม้ตะกระทะ เพราะหมูหมักมีทั้งน้ำตาลและแป้ง การที่ปิ้งทั้งวัน ขายหมูได้เป็นหมื่นๆ มันก็ต้องมีอยู่แล้ว อีกอย่างขัดก็ออก เดี๋ยวป้าเข้าไปขัดให้ แม่เราก็บอกไป......แม่เล่าว่า คุณ ด. บอกว่าถ่ายรูปส่งไปให้หัวหน้าที่บริษัท หม.ท แล้ว แล้วแม่ก็ถามเรื่องประกันที่หักอีกว่าจะได้คืนไหม คือหักทั้งประกันสังคมและประกัน เราไม่แน่ใจว่าเขาตอบว่ายังไง คือลืมคำพูด แต่ประมาณว่า ไม่รู้ ไม่ได้ ดูก่อน เราก็งงๆ แม่บอกจะตามเรื่องนี้ด้วย เราก็อ่ะ ไปก็ไป เลยนั่งกินก๋วยเตี๋ยว แล้วเราร้อน ก็นึกได้ว่าเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับเพราะร้อน กลางวันยิ่งร้อน และแม่ต้องมาอยู่บ้านแล้ว กลัวแม่จะร้อน เลยบอกว่าจะซื้อแอร์ให้ ตอนแรก แม่ไม่เอาเพราะกลัวจ่ายเยอะ แต่ก็พูดไปมาจนแม่ยอม
พอมาถึงซุปเปอร์มาร์เก็ตสีเขียว อักษรแดงดังกล่าว เราก็ตรงปรี่ไปซื้อแอร์ แต่พนักงานขายแอร์เข้ากะบ่าย ยังไม่มา เรากับแม่จึงเดินไปซื้อของใช้เข้าบ้านก่อน แล้วแม่ก็ไปขัดกระทะ ตอนแม่ไปนั่งขัด พนักงานที่นั้นก็ชะเง้อ มอง มาดูแม่ วนไปวนมา จนเรารำคาญ คือมีอะไรก็เข้ามาพูด มาทักเลยค่ะ เราเลยถามป้าที่เป็นเพื่อนแม่ว่าเขามองอะไรกันหรอคะ? มีอะไรหรือเปล่า? และผู้หญิงคนนั้นคือใคร? ป้าก็ตอบว่า "อ๋อ M8" เราก็ดีเลย อยากจะเข้าไปขอบคุณที่เขาเป็นห่วงแม่ เราเลยเดินปรี่ตรงเข้าไปทักและแนะนำตัว และขอบคุณ ก็บอกไปว่าพาแม่ไปตรวจร่างกายมาแล้ว ผลโอเค ตอนนี้เก็บผลรักษาไว้แล้ว ก่อนถูกกระแทก และหลังถูกกระแทก ตอนนี้สังเกตอาการต่อค่ะ แล้วก็คุยๆกัน เขาก็ถามว่าแจ้งความไหม เราก็บอกว่าไม่ค่ะ แม่อยากให้จบ เพราะหากสาวกันจริง คนที่สร้างหลักฐานและพยานเท็จ ปกปิดช่วยคนผิดก็จะโดนกันเป็นหางว่าว แม่ไม่อยากให้ใครต้องมาเดือดร้อน จบแค่นี้ ในเมื่อแม่จบ หนูก็จบค่ะ แต่ตอนนี้ แม่มานั่งขัดกระทะ เราก็เล่าให้ฟัง M8 ก็บอกว่าไม่ใช่เรื่อง เพราะของใช้ก็ย่อมมีติดธรรมดา
พอแม่ขัดเสร็จ เราก็ถ่ายรูป และอัดเป็นวิดีโอไว้ เราส่งรูปให้คุณ ด. พยายามส่งหลายรอบ แต่ส่งไม่ได้ แม่จึงโทรหา คุณเลขา บริษัท หม.ท ชื่อควบกล้ำพยางค์เดียว นามว่า คุณ ปร. แต่ขณะนั้น ผจก ก็อยู่ด้วย และเปิดโฟนคุยกัน แม่เราก็พูดเรื่องกระทะ และแม่ก็พูดเรื่องประกัน แม่เราก็อ้างเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับประกันว่าต้องได้เงินคืน แต่คนของเขาพูดในทำนองไม่ได้คืน แม่ก็เลยไม่ยอม ระหว่างนั้นเราส่งรูปให้ คุณ ด. จนกระทั่งส่งได้ เราเห็นแม่คุยนานแต่ไม่รู้เรื่องได้ข้อสรุปสักที จึงสะกิด เดี๋ยวคุยเอง
เรารับโทรศัพท์มาจากแม่ "สวัสดีค่ะ" เราได้ยินเสียงหัวเราะคิกคัก เราก็สวัสดีอีกรอบ เค้าก็ "สวัสดีครับ" กลับมา "ดิฉันเรียนสายอยู่กับใครคะ" ปลายสาบก็ยังน้ำเสียงแบบกึ่งหัวเราะ "ผม จรว (หรือ จรศ เนี่ยละ) เป็นผู้จัดการครับ แล้วคุณเป็นใครครับ" เราก็ตอบว่า "ดิฉันเป็นลูกสาวของคุณ...(ชื่อแม่เรา) ค่ะ เป็นพยาบาล" เขาก็ครับ แต่น้ำเสียงออกหัวเราะจนเราแอบรำคาญ เราก็เลยเริ่มยิงประเด็น ประมาณว่า แม่เรามาขัดกระทะให้แล้วเดี๋ยวส่งรูปให้ดู หากไม่พอใจ ยินดีรับผิดชอบค่ะ ระหว่างนั้น นางก็ยังหัวเราะ เราเริ่มฉุนๆ ก็บรรเลงต่อว่า แต่หากต้องซื้อกระทะใหม่เพื่อทดแทนของเก่าก็ขอให้บริษัทออกหนังสือมาว่าต้องชดใช้ แต่เราก็ขอเรียกร้องตรงส่วนที่อุปกรณ์เดิมก็มีส่วนสึกหรอ (คำพูดอาจไม่เป๊ะนะคะ แต่ content ประมาณนี้) นางยิ่งหัวเราะหนัก จนน่าเกลียด เราก็หัวเราะออกมา หึหึ ในลำคอ ว่าไม่ใช่เรื่องตลกนะคะ เขาก็ยังหัวเราและพูดว่า ผมตลกในความคิดของพวกคุณ เราเริ่มรู้แกวแล้วว่าเขาพยายามล่อให้เราเสียอารมณ์ เราเลยหยุด และตัดประเด็นจบ สรุป จะไม่มีการหักเงินค่ากระทะ และเงินค่าแรงที่ค้างจ่ายกับเงินประกัน จะออกในวันที่ 5 สิงหาคม 2557 ไม่ใช่ 5 กรกฎาคม เราก็โอเค จบ (แต่อารมณ์เราไม่จบนะ แบบว่า เรื่องนี้หากเกิดขึ้นกับคุณ คุณจะหัวเราะอย่างนี้ไหม) เราก็แอบคิดเราพูดไม่ดีตรงไหนหรือเปล่า น้ำเสียง? เพราะเราพูดมีโทนแบบนักโต้วาที แต่เราก็โมโหตัวเองที่ไหลไปตามอารมณ์ยั่ว พูดเรื่องการสึกหรอ..ติดตามต่อนะคะ
แชร์ประสบการณ์ อุทาหรณ์การวิวาทในที่ทำงาน
เมื่อวาน วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2557 เราได้รับโทรศัพท์จากแม่ว่า แม่ออกจากงานแล้วนะ M8 ตัดสินว่าเป็นทะเลาะวิวาทในที่ทำงาน เราก็งงค่ะ ว่าแม่เราไม่ใช่คนที่จะไปวิวาทกับใครง่ายๆ โดยเฉพาะที่ทำงาน คือ แม่เราทำงานที่ซุปเปอร์มารเก็ตขนาดใหญ่ย่านรังสิต สัญลักษณ์เขียว อักษรแดง แต่ส่วนที่แม่เราทำคือทอดหมู/ปิ้งหมูขาย ซึ่งบริษัท Contact ให้มาขายที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตนี้ เราขอใช้อักษรย่อว่า หม.ท นะคะ เราก็อึ้งๆ เลยถามต่อว่าไงต่อ แม่ก็เล่าว่า......
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2557 M1 (คือหัวหน้าในแผนกนั้น) สั่งให้ นึ่งข้าวเหนียว จากเหตุการณ์นี้เราจำไม่ได้ละว่าว่าใครสั่งใครอะไรยังไง หัวหน้าที่ Cover แม่เราอีกที ไม่พอใจ และก็มาหงุดหงิด กระแนะกระแหนแม่ ซึ่งนางคนนี้ขอใช้นามย่อว่า ก. นาง ก. แม่เล่าให้ฟังว่า เป็นคนขยัน แต่ปากร้าย ชอบด่า และว่าคนอื่น จนลูกน้องหลายคนลาออก และมียุยงให้ถึงขั้นตบกันก็มี นางก็กระแนะกระแหนแม่เรา (แม่เราเคยบ่นให้เราฟังว่าเบื่ออยากออก คนที่ทำงานนิสัยไม่ดี ทำแล้วเครียด ก็คือนาง ก. นั่นล่ะ เราก็ยุให้ออก เพราะไม่เห็นด้วยให้แม่ไปทำงานแต่แรกแล้ว แต่แม่ก็ไม่ยอมออก อ้างว่าอยู่บ้านเฉยๆอ่ะ เบื่อ คือลำพังเงินเดือนเรา เลี้ยงแม่สบายๆเลย แต่แม่เบื่อ ขอออกหางานทำแก้เซ็ง)
แม่เราเริ่มทนไม่ไหวก็โต้ตอบกลับไป "จะอะไรกันนักกันหนา จิกกัดอยู่ได้ อิห่าจิก"
นาง ก. ก็หันมา "มาตบกะกุไหมล่ะ"
แม่เราเอือมก็ตอบไปว่า "เมื่อเช้าก็ยุให้คนตบกัน นี่ยังจะมาท้าตบอีก" (เรานึกในใจ นี่หัวหน้าคนหรอเนี่ย? อีกอย่างแม่เราแก่กว่าเขาอีกนะ สัมมาคารวะมีไหม หากมีคนทำนี้กับพ่อแม่เขา เขาจะรู้สึกยังไง)
พอสักพัก แม่เราเข้าห้องเอาหมูไปชั่งเพื่อปริ้นบาร์โค้ด ซึ้งเป็นห้องข้างใน แม่รู้แล้วว่านาง ก. ตาม มา แต่แม่ก็ไม่สนใจ เมื่อนาง ก. เข้ามา ในห้องก็ปิดประตูแล้วนางก็ตรงมาบีบคือแม่เรา จิกหัวแม่เรา ชนฝาผนังและกระแทกหัวแม่เรากับฝานัง ให้แม่เราขอโทษเขา แม่เราถือถือกล่องหมูทอดอยู่ก็ร่วงหล่น นาง ก. ก็ยังจิกคอลูกกระเดือกแม่เรา แม่บอกดิ้นแล้วแต่ไม่มีแรง และเริ่มหายใจไม่ออก ทนไม่ไหวที่รู้สึกเหมือนขาดอากาศหายใจ จึงเอามือตะกุยหน้า เพื่อให้ นาง ก. เสียสมดุล ด้วยนาง ก. ใส่แว่นตา แว่นจึงข่วนหน้านางเป็นรอย จากนั้น จากจับแม่เราผลักกระแทกกับพื้น พอดีเป็นจังหวะเดียวกับคนที่ดูแลอาหารที่แช่เย็นเดินเข้ามา เค้าเห็นแม่เรากองกับพื้น ตอนนั้นแม่เราก็ร้องไห้น้ำตาไหลแล้วนะ เพราะถูกทำร้ายกันขนาดนี้ แล้วนาง ก. ก็จะเข้ามาซ้ำ แต่คนที่เปิดประตูเข้ามาห้าม
แม่เรานึกขึ้นได้ ทอดหมูค้างไว้ กลัวของบริษัทจะเสียหาย รีบกลับไปดูหมู ทั้งๆที่ตัวเองถุกทำร้าย พอออกมา มาเจอ M1 เราจำcontent ไม่ได้ว่าเขาพูดอะไรกันหรือไม่ แต่แม่เราบอกว่า "เพราะ M1 นั่นล่ะ"
จากนั้น วันนั้น LP ส่งแม่กลับบ้านตอนเย็น เพราะกลัวถูกนาง ก. ดักทำร้าย จึงบอก LP และ LP ก็เดินมาดูว่าแม่เราไม่ได้มาทำงานจริง
จากนั้นสายๆ เรื่องถึง HR คือ มี M8 เป็นคนสอบสวน ทุกคนที่ถูกเรียกเข้าเกือบหมด ยกเว้น M1
M8 ก็สอบสวนไป ผลออกมาคือทะเลาะวิวาท โดยส่วนตัวแม่และเราโอเค และไม่อยากเอาความต่อ แต่โดยส่วนตัวเรา เราอยากเอาเรื่องต่อ ต่อให้เรื่องถึงตำรวจแล้วกลายเป็นแค่ทะเลาะวิวาทเราก็ยอมรับผล แต่เรื่องที่เรารับไม่ได้คือ M2 คือหัวหน้า ที่พยายามปกปิด และสร้างพยานเท็จ และใส่ร้ายป้ายสีแม่เราให้เกิดความเสียหาย หาว่าแม่เราด่าลูกค้า ขอถามหน่อยว่า สาขาอื่น หมูทอดขายได้หลักพัน แต่แม่เราขายได้หลักหมื่นต่อวัน นี่หรือคือคนที่ด่าลูกค้า It is totally non sense. เราช่วยแม่เราขายของตั้งแต่เด็ก แม่เราไม่เคยเอ็ดหรือว่า หรือกระแนะกระแหนลูกค้าเลย มีแต่เราเนี่ยแหละไล่ลูกค้าแม่ เพราะเค้ามาจีบแม่เรา เราหวง ห้ามยุ่ง ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
เราก็คุยกับพี่ที่เป็นสารวัตรที่ สน. นึง เค้าก็บอกว่า จะเอาเรื่องก็เอาได้นะ แบบว่าสร้างหลักฐานพยานเท็จประมาณนั้น และอีกอย่างคือ กล้องวงจรปิดก็มี ตอนสืบสวน แม่เราบอกว่ากล้องก็มีเปิดดูสิ M8 ก็ถามหา แต่ทางพวก M2 และคนดูแลกล้องบอกว่ากล้องแพนไปไม่ถึง (มันเลยเกิดคำถามว่ากล้องแพนไม่ถึง แล้วติดทำไม? หรือแค่ติดประดับ แต่ไม่ได้ติดเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์เลย ฝากรบกวนบริษัทช่วยเช็คด้วยนะคะ ว่ากล้องคุณมีคุณภาพหรือเปล่า หรือเป็นแค่เฟอร์นิเจอร์ประดับซุปเปอร์มาร์เก็ต) สืบไปมา สุดท้าย M8 ก็ตัดสินว่า นาง ก. ผิด แต่ด้วยแม่สู้กลับแล้วนาง ก. เกิดแผล ผลจึงออกมาวิวาท (หากแม่แค่ผลักนะ หึหึ เราเอาไม่เลี้ยง ไม่มีปราณีแน่ จะว่าเราใจร้ายเราก็ยอม แม่ของเรามีคนเดียวในโลก เราไม่ยอมให้ใครทำแม่เราฝ่ายเดียวแน่ๆ)
แต่แม่บอกว่าไม่อยากจองเวร เพราะหากเอาเรื่องอีกหลายคนต้องเดือดร้อน เขามีครอบครัวที่ต้องเลี้ยงดู ส่วนเราค่อนข้างมั่นคงแล้ว อย่าไปทำเขาเลย นี่แค่ นาง ก. มีเรื่องวิวาทกับแม่ เค้าก็ต้องถูกออกจากงาน แล้วชีวิตเขามีลูกต้องดูแล บ้านเขาก็ต้องเช่าในพื้นที่แออัดหลังห้างดังย่านรังสิต แค่นี้เค้าก็ลำบากแล้ว (ในใจคิด..แม่!! เขาทำร้ายแม่นะ หวังผลให้แม่เกิดความอับอายและเป็นอันตรายถึงชีวิตและทรัพย์สิน แม่ยังจะไปเห็นใจเขาอีกทำไม แต่เราไม่พูดออกไป เพราะเราเดือดปุดๆแล้ว เรายอมรับว่าเราแรง แม่กลัวเราไม่ยอมความ เลยไม่อยากเอาเรื่อง แต่เราเวลาเดือดหรือโกรธเราจะเงียบ นับ 1-200ในใจ เพราะแค่ 100มันไม่พอ 555)
จากนั้น M8 ก็ให้แม่กับนาง ก. เซ็นรับเรื่องวิวาท แล้ว M8 บอกให้แม่โทรบอกเรา แต่แม่ไม่อยากบอกเรา เพราะกลัวเราเป็นห่วง กลัวเรากังวล และไม่อยากรบกวน เพราะเราทำงานดูแลชีวิตผู้อื่นอยู่ M8 บอกต้องบอก ยืนยันว่าให้บอกลูก เพราะเขากลัวว่านาง ก. จะมาดักทำร้ายแม่ แม่จึงบอกว่าบอกเพื่อนแล้ว M8 ก็ยืนยันว่าต้องบอกลูก เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกัน หากเป็นไรลูกจะได้รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แม่ก็ลังเล แต่ก็ยอมโทร
วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2557 เราได้รับโทรศัพท์จากแม่ ประมาณ 5-5 โมงเย็น เพียงแค่เราได้ยินว่าเกิดอะไรเราก็รู้สึกห่วง และวันที่ 10 เราก็ต้องขึ้นเวรตั้งแต่ตี 5.30 น กว่าจะเสร็จงานก็ 16.30 น เราคงรอไม่ไหว จึงโทรหาพี่หัวหน้า เล่าว่าเกิดอะไรขึ้น พี่เค้าก็ให้หยุดมาดูแม่ คือ ตอนแรกลังเลจะมาไหม บอกให้แม่ไปตรวจร่างกาย เพราะหัวถูกกระแทก แรงมากแค่ไหนเราไม่รู้ แต่แม่ก็บ่นๆ ปวดหัว ซึ่งไม่รู้ว่าจาก Tension headache หรือ เกิดความผิดปกติจากหัวถูกกระแทก แม่บอกเดี๋ยวแม่จะไป แหะๆๆ แกวนี้รู้ทัน ไม่มีทางที่จะไปแน่นอน กลัวลูกเสียเงิน (ใช่เรื่องป่ะเนี่ย คุณหญิงใหญ่ของหนู!!! เงินของนอกกาย จะหาเมื่อไรก็หาได้ แต่แม่หนู หนูมีคนเดียวในโลก หาใหม่ไม่ได้นะเจ้าคะ คุณหญิงแม่เจ้าขาาาาาาา) เราเลยขอลางาน ออกจาก กทม มุ่งหน้ามาบ้านทันที และจริงดังคาด แม่ไม่ยอมไป จนมืดแล้วเกลี้ยกล่อมก็ไม่ยอม ดื้อมากกกก เราเหนื่อยเลยพูดไปว่า "ขอร้องเหอะ อย่างน้อยให้หนูกลับไปทำงานอย่างสบายใจหน่อย ใช่ว่าหนูจะลางานได้บ่อยนะ" (แอบแรงกะแม่ง่ะ รู้สึกผิด แต่ไม่ไหวแล้ว แม่ดื้อมากกกกก) แม่เห็นเราเริ่มอารมณ์เสีย เลยยอม
เช้ามาก็ไปตรวจ....ผล X-ray Skull AP and LAT: No definite fractur is seen. Intact sella turcica หมอไม่ทำอะไรเพิ่ม แต่ให้ Observe อาการต่อ เราก็ขอผล X-ray และ CT-Scan เดิมที่แม่เคยทำ กับผล X-ray ครั้งนี้ เพื่อเก็บไว้ เผื่อกรณีฉุกเฉิน หากไปรักษาโรงพยาบาลอื่นใน กทม
จากนั้นเราเดินหาร้านแฟ็กซ์ เพื่อให้บริษัท หม.ท ส่งใบเขียนลาออกมาให้ โดยแม่และเราได้โทรติดต่อ คุณ ด. ซึ่งเป็นเซลล์ของบริษัท หม.ท คุณ ด. ก็แฟกซ์มาให้ ระหว่างแม่เขียนใบลาออก เราก็หิวๆ เลยชวนแม่คิดว่าจะกินอะไร อาหารญี่ปุ่น ไทย หรือสุกี้ หรือปิ้งย่าง หรือ Steak ดี แม่บอกไม่เอา หากินง่ายๆ แถวนี้แม่ต้องรีบไปขัดกระทะต่อ เดี๋ยวแม่โดนหักเงิน (???? เราอึ้ง และงง อะไรอีกเนี่ย ยังไม่จบอีกหรอ)
แม่จึงเล่าว่า Sell ของ บริษัท หม.ท นามว่าคุณ ด. บอกว่า แม่ทำกระทะเสียหาย จะหักเงิน แต่แม่บอกว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาหรือเปล่าที่ปิ้งของแล้วมันจะมีรอยไหม้ตะกระทะ เพราะหมูหมักมีทั้งน้ำตาลและแป้ง การที่ปิ้งทั้งวัน ขายหมูได้เป็นหมื่นๆ มันก็ต้องมีอยู่แล้ว อีกอย่างขัดก็ออก เดี๋ยวป้าเข้าไปขัดให้ แม่เราก็บอกไป......แม่เล่าว่า คุณ ด. บอกว่าถ่ายรูปส่งไปให้หัวหน้าที่บริษัท หม.ท แล้ว แล้วแม่ก็ถามเรื่องประกันที่หักอีกว่าจะได้คืนไหม คือหักทั้งประกันสังคมและประกัน เราไม่แน่ใจว่าเขาตอบว่ายังไง คือลืมคำพูด แต่ประมาณว่า ไม่รู้ ไม่ได้ ดูก่อน เราก็งงๆ แม่บอกจะตามเรื่องนี้ด้วย เราก็อ่ะ ไปก็ไป เลยนั่งกินก๋วยเตี๋ยว แล้วเราร้อน ก็นึกได้ว่าเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับเพราะร้อน กลางวันยิ่งร้อน และแม่ต้องมาอยู่บ้านแล้ว กลัวแม่จะร้อน เลยบอกว่าจะซื้อแอร์ให้ ตอนแรก แม่ไม่เอาเพราะกลัวจ่ายเยอะ แต่ก็พูดไปมาจนแม่ยอม
พอมาถึงซุปเปอร์มาร์เก็ตสีเขียว อักษรแดงดังกล่าว เราก็ตรงปรี่ไปซื้อแอร์ แต่พนักงานขายแอร์เข้ากะบ่าย ยังไม่มา เรากับแม่จึงเดินไปซื้อของใช้เข้าบ้านก่อน แล้วแม่ก็ไปขัดกระทะ ตอนแม่ไปนั่งขัด พนักงานที่นั้นก็ชะเง้อ มอง มาดูแม่ วนไปวนมา จนเรารำคาญ คือมีอะไรก็เข้ามาพูด มาทักเลยค่ะ เราเลยถามป้าที่เป็นเพื่อนแม่ว่าเขามองอะไรกันหรอคะ? มีอะไรหรือเปล่า? และผู้หญิงคนนั้นคือใคร? ป้าก็ตอบว่า "อ๋อ M8" เราก็ดีเลย อยากจะเข้าไปขอบคุณที่เขาเป็นห่วงแม่ เราเลยเดินปรี่ตรงเข้าไปทักและแนะนำตัว และขอบคุณ ก็บอกไปว่าพาแม่ไปตรวจร่างกายมาแล้ว ผลโอเค ตอนนี้เก็บผลรักษาไว้แล้ว ก่อนถูกกระแทก และหลังถูกกระแทก ตอนนี้สังเกตอาการต่อค่ะ แล้วก็คุยๆกัน เขาก็ถามว่าแจ้งความไหม เราก็บอกว่าไม่ค่ะ แม่อยากให้จบ เพราะหากสาวกันจริง คนที่สร้างหลักฐานและพยานเท็จ ปกปิดช่วยคนผิดก็จะโดนกันเป็นหางว่าว แม่ไม่อยากให้ใครต้องมาเดือดร้อน จบแค่นี้ ในเมื่อแม่จบ หนูก็จบค่ะ แต่ตอนนี้ แม่มานั่งขัดกระทะ เราก็เล่าให้ฟัง M8 ก็บอกว่าไม่ใช่เรื่อง เพราะของใช้ก็ย่อมมีติดธรรมดา
พอแม่ขัดเสร็จ เราก็ถ่ายรูป และอัดเป็นวิดีโอไว้ เราส่งรูปให้คุณ ด. พยายามส่งหลายรอบ แต่ส่งไม่ได้ แม่จึงโทรหา คุณเลขา บริษัท หม.ท ชื่อควบกล้ำพยางค์เดียว นามว่า คุณ ปร. แต่ขณะนั้น ผจก ก็อยู่ด้วย และเปิดโฟนคุยกัน แม่เราก็พูดเรื่องกระทะ และแม่ก็พูดเรื่องประกัน แม่เราก็อ้างเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับประกันว่าต้องได้เงินคืน แต่คนของเขาพูดในทำนองไม่ได้คืน แม่ก็เลยไม่ยอม ระหว่างนั้นเราส่งรูปให้ คุณ ด. จนกระทั่งส่งได้ เราเห็นแม่คุยนานแต่ไม่รู้เรื่องได้ข้อสรุปสักที จึงสะกิด เดี๋ยวคุยเอง
เรารับโทรศัพท์มาจากแม่ "สวัสดีค่ะ" เราได้ยินเสียงหัวเราะคิกคัก เราก็สวัสดีอีกรอบ เค้าก็ "สวัสดีครับ" กลับมา "ดิฉันเรียนสายอยู่กับใครคะ" ปลายสาบก็ยังน้ำเสียงแบบกึ่งหัวเราะ "ผม จรว (หรือ จรศ เนี่ยละ) เป็นผู้จัดการครับ แล้วคุณเป็นใครครับ" เราก็ตอบว่า "ดิฉันเป็นลูกสาวของคุณ...(ชื่อแม่เรา) ค่ะ เป็นพยาบาล" เขาก็ครับ แต่น้ำเสียงออกหัวเราะจนเราแอบรำคาญ เราก็เลยเริ่มยิงประเด็น ประมาณว่า แม่เรามาขัดกระทะให้แล้วเดี๋ยวส่งรูปให้ดู หากไม่พอใจ ยินดีรับผิดชอบค่ะ ระหว่างนั้น นางก็ยังหัวเราะ เราเริ่มฉุนๆ ก็บรรเลงต่อว่า แต่หากต้องซื้อกระทะใหม่เพื่อทดแทนของเก่าก็ขอให้บริษัทออกหนังสือมาว่าต้องชดใช้ แต่เราก็ขอเรียกร้องตรงส่วนที่อุปกรณ์เดิมก็มีส่วนสึกหรอ (คำพูดอาจไม่เป๊ะนะคะ แต่ content ประมาณนี้) นางยิ่งหัวเราะหนัก จนน่าเกลียด เราก็หัวเราะออกมา หึหึ ในลำคอ ว่าไม่ใช่เรื่องตลกนะคะ เขาก็ยังหัวเราและพูดว่า ผมตลกในความคิดของพวกคุณ เราเริ่มรู้แกวแล้วว่าเขาพยายามล่อให้เราเสียอารมณ์ เราเลยหยุด และตัดประเด็นจบ สรุป จะไม่มีการหักเงินค่ากระทะ และเงินค่าแรงที่ค้างจ่ายกับเงินประกัน จะออกในวันที่ 5 สิงหาคม 2557 ไม่ใช่ 5 กรกฎาคม เราก็โอเค จบ (แต่อารมณ์เราไม่จบนะ แบบว่า เรื่องนี้หากเกิดขึ้นกับคุณ คุณจะหัวเราะอย่างนี้ไหม) เราก็แอบคิดเราพูดไม่ดีตรงไหนหรือเปล่า น้ำเสียง? เพราะเราพูดมีโทนแบบนักโต้วาที แต่เราก็โมโหตัวเองที่ไหลไปตามอารมณ์ยั่ว พูดเรื่องการสึกหรอ..ติดตามต่อนะคะ