ชีวิตจริงสอนผมว่าการเป็นคนดีบางทีก็ไม่เหลือใคร...

...สวัสดีคับเพื่อนๆ ผมอยากจะมาเเชร์ประสบการณที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเองเลย ต้องบอกก่อนนะคับว่าผมเป็นคนไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยว เเล้วก้อไม่เจ้าชู้ไม่ได้จะบอกว่าผมหล่อนะคับคือมีผู้หญิงเข้าหาผมก็หลายคนเเต่ผมจะบอกเสมอว่าผมมีเเฟนเเล้วคับเพราะผมเลือกเเล้วว่าให้เค้าเป็นคนสุดท้ายของผม ผมเป็นคนเชื่อใจเเฟนมากๆคับเพราะคิดเสมอว่าถ้าจะมีเเฟนเเล้วยังมาเช็คโน่นนี่มันคงไม่มีความสุขหรอกจึงทำให้ผมไม่ค่อยทะเลาะกับเเฟนเลยจะมีก็เเค่งอลกันนิดหน่อยตามประสาเเละจุดสำคัญอยู่ที่ก่อนคบกันผมไม่เคยพูดคำว่ารักออกไปเลยจนครบ 1 ปี ผมถึงจะพูดว่า "ผมรักเค้าพร้อมกับให้สร้อยที่ผมสั่งทำเป็นชื่อเค้า" ผมไม่ได้จะเล่นตัวนะคับเเค่อยากให้เเน่ใจว่าคนนี้ใช่...เเต่เเล้วก็คิดผิด เข้าเรื่องเลยละกันนะคับ ผมกับเเฟนอายุห่างกันประมาน 2 ปี เค้าเป็นรุ่นพี่ผม คบกันมา 2 ปีกว่าๆก็โอเครดีคับ จนพอเค้าเรียนจบเค้าก็ไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด ไปทำได้ 6 เดือนก็เริ่มคุยกันน้อยลงเพราะเค้าต้องทำงานผมก็โอเครคับเข้าใจตอนนั้นผมใช้บีบีเเชทหากัน มีวันนึงที่ผมไปหาเค้าก็ไปกินข้าวกันตามประสาเเฟนกลับมาหอหลับไปละ พอประมานตี 2 โทรศัพเค้าก็ดังเค้าก็กดรับสายเเล้วก็หันมาบอกผมว่าเดี๋ยวมาผมก็งงๆก็ตอบจ้าๆ เเล้วเค้าก็ลงไป พอเห็นนานผมก็เลยโทตามพอกลับขึ้นมาเค้าก็อ้ำๆอึ้งๆบอกว่าพี่ที่ทำงานมาตามจีบ(ผมก็คิดในใจเเม้งสำคันขนาดต้องลงไปเลยหรอวะ) ผมก็ถามเเล้วยังไงต่อเค้าก็บอกเดี๋ยวจะเคลียให้จบนะผมก็โอเครเช้ามาผมก็กลับมอ พอผ่านมาประมาณ 2 อาทิตช่วงนั้นกำลังจะสอบด้วยคับ มีข้อความส่งมาทางเเชทว่า"เเฟนมีผู้ชายคนอื่นนะไปหาถึงบ้านผู้ชายไปโน่นไปนี่ด้วยกันตลอด" ผมก็อึ้งไปพักนึงเเล้วก้อถามคุณเปนใครรู้ได้ไงเค้าก็บอกไม่ต้องรู้หรอกเเค่ไม่อยากให้โดนหลอก ผมก็ยังไม่เชื่อได้เเต่ตอบครับๆไป ผมเลยตัดสินใจนั่งรถตู้ไปหาคิวสุดท้ายพอดีก็ประมานสองทุ่มกว่า ผมก็ยังทักเเชทไปหาปกติ พอไปถึงที่ท่ารถผมก้อทักไปเป็นไงทำไรอยู่ เค้าก็บอกว่ามากินเลี้ยงกับบริษัทผมก็ถามกลับกี่โมงละนิเค้าก็บอกสี่ทุ่มผมก็โอเครๆ ผมก็รอไปเรื่อยจนเค้าทักมาว่าอยู่หอเเล้วนะพร้อมกับส่งรูปมายืนยันเเละก็บอกจะนอนละ ผมก็เลยนั่งวินมอไซไปที่คอนโดพอไปถึงก็กดลิฟเเต่ลิฟช้ามากผมก็เลยวิ่งขึ้นบันได 7 ชั้น ไปถึงก็เคาะห้องปรากฎว่าไม่มีคนอยู่ ผมก็เลยขึ้นไปดาดฟ้าเพื่อจะมองรถที่เข้ามาเเล้วก็โทไปหาเค้าก็อ้ำๆอึ้งๆไปพักนึงเเล้วก็บอกว่าอ๋อมาเซเว่นกับเพื่อนเเต่ผมก็พอจะดูออกว่าโกหกเลยบอกว่า"กลับมาหน่อยขอเคลีย" สักพักก็มีรถเข้ามาเเฟนผมเปิดประตูลงมาจากรถเเล้วก็เดินขึ้นมาส่วนรถคันนั้นก็ขับออกไป พอมาถึงเค้าก็ถามมาได้ไงไม่สอบหรอผมก็บอกไม่อะพุ่งนี้หยุด ผมก็ถามมีอะไรจะพูดไหม เค้าก็เงียบไปเเล้วก็พูดว่า"เค้านอกใจเธอ" (ผมเรียกเเทนตัวเองว่า เค้า เธอนะคับ) ผมได้เเต่ตัวสั่นทำไรไม่ถูกบอกตรงๆนะคับถ้าไม่เจอกับตัวไม่รู้เลยความรู้สึกนี้ ผมก้อตอบอืมเเล้วผมก็ถามไปไหนมาไหนกันด้วยกัน มาหากันตลอดเลยหรอ เค้าก็ถามรู้ได้ยังไงใครบอกผมก็บอกไม่ต้องรู้หรอกเเค่ตอบจริงหรือไม่จริง (ผมก็ได้เเต่นึกในใจขอให้มันไม่จริง) เเต่คำตอบที่ผมได้คือ จริง เค้าเข้ามากอดผมเเล้วก็บอกว่าขอโทษเค้าสับสนขอให้เค้าอยู่คนเดียวนะ เเทนที่เค้าจะขอโทดเเล้วพูดว่าจะไม่ทำอีกเค้ากลับบอกว่า ขออยู่คนเดียวไม่อยากทำให้ใครเจ็บเเล้ว(คิดในใจกุเจ็บไปละ)ผมเงียบเเล้วเเกะมือเค้าออก ผมเดินลงจากคอนโดเลยคับ เชื่อไหมคับช่วงนั้นเป็นช่วงที่ฝนตกหนักมากๆ ตอนนั้นก็เที่ยงคืนกว่า รถก็หมดกลับไม่ได้ ทางก็ไม่รู้ ผมเดินไปเรื่อยๆตัวก็เปียกเข้าใจเลยคับคำว่ามืดเเปดด้าน ชีวิตยังกับใน MV สุดท้ายไปนั่งในร้านเนตจนถึงเช้าถึงกลับมอได้กลับมาต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบอีกโอ้พระเจ้าอมยิ้ม24เเล้วผมมารู้ที่หลังว่าลิฟที่ผมกดคือลิฟที่เเฟนผมกำลังลงมากับผู้ชายอีกคน! ผมยังคิดไม่ออกเลยถ้าผมรอลิฟเเล้วเปิดมาเจอจะทำยังไง  ผ่านไปได้วันกว่าๆผมก็ทักไปหาเค้าเผื่อเค้าจะเปลี่ยนใจผมก็ยังงงตัวเองเหมือนกันผมทำไปได้ไงทำไมยอมให้อภัยได้ทั้งๆที่โดนมาขนาดนี้เหมือนตัวเองไร้ค่ามากๆคงเป็นที่เค้าเรียกกันว่า"ความรักทำให้คนตาบอด"  เค้าก็ยังยืนยันว่าขออยู่คนเดียว ผมก็ได้เเต่ดูของขวัญต่างๆที่เค้าทำให้มีอยู่อย่างนึงเป็นสมุดโน้ตที่เค้าเขียนว่า FOREVER ผมน้ำตาไหลคับนึกถึงคำพูดที่บอกรักนักรักหนาน้ำตายิ่งไหลคับ เลยอยากจะให้เรื่องนี้เป็นข้อคิดนะคับว่า "คำพูดที่สวยหรูมันอาจจะเป็นเพียงเเค่"ลมปาก"สิ่งของที่คิดว่ามีค่าวันนึงมันอาจจะ"ไร้ค่า"ก็ได้นะคับ พอเจอเเบบนี้มันทำให้ผมรักพ่อกับเเม่มากขึ้นๆเลยคับ เพราะผมคิดว่าคงมีเเค่พ่อกับเเม่เท่านั้นเเหละคับที่จิงใจเเละจะไม่มีทิ้งผมไปไหนเเน่นอน ตอนนี้ก็ได้เเต่ทำใจเเละปล่อยไปเพราะผมคิดว่าผมทำหน้าที่เเฟนที่ดีไปเเล้ว...ปล.ขอให้เพื่อนๆอย่าเจอเเบบผมเลยนะคับ^^ส่วนใครที่กำลังเศร้าอยู่ก็ขอบอกว่าเวลาเท่านั้นจะช่วยทำให้ทุกอย่างดีขึ้นนะค้าบ สู้ๆอมยิ้ม36

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่