เมื่อช่วงบ่าย ได้ดูข่าวทางช่อง 3 ที่มีการบุกจับรถสวมทะเบียนแล้วนำมาขาย แล้วรู้สึกคันไม้คันมือ จึงอยากมาร่วมแสดงความคิดเห็นบ้าง ...
          วิธีของแก๊งปลอมทะเบียนเริ่มต้นจาก การไปประมูลซากรถจากแหล่งประมูลรถต่างๆ เพื่อนำสมุดทะเบียนรถ และเลขตัวถังของรถซาก มาตอกใส่รถอีกคัน เมื่อได้ซากรถมาแล้วก็จะนำไปที่อู่ ซึ่งส่วนใหญ่เจ้าของอู่จะเป็นคนในขบวนการสวมทะเบียน ในกรณีรถกระบะหากไม่ยับเยินมากก็จะยกบอดี้จะคันหนึ่งมาใส่ไว้อีกคันหนึ่ง จากนั้นก็จะมีการตอกทะเบียนรถใหม่ ทั้งตัวถัง และแชสซี พอเสร็จแล้วก็จะนำรถไปขายต่อที่เต๊นท์ ซึ่งเต๊นท์บางแห่งก็รู้ แต่บางแห่งก็ไม่รู้ เนื่องจากมีการทำอย่างแนบเนียนมาก
          โดยรถที่นำมาสวมซาก คือ รถที่รับจำนำตามบ่อนที่ยังเช่าซื้อกับทางไฟแนนซ์อยู่ และที่หนักที่สุด คือ รถที่ขโมยมา
          ในส่วนของแนวทางการแก้ปัญหา สามารถทำได้โดยง่าย ทำไมถึงไม่ทำกัน ยอมให้ปัญหามันเกิดและกระทำกันเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ เกิดเรื่องแดงก็ตามจับที่ปลายเหตุ ซึ่งหากเราลองมองถึงต้นเหตุที่แท้จริงแล้ว จะพบว่า ตัวต้นเหตุจริงๆ อยู่ที่ ซากรถพร้อมทะเบียนที่นำมาประมูลขาย  เพราะเมื่อมีการซื้อขายซากพร้อมทะเบียน ก็ย่อมมีการหารถยี่ห้อและรุ่นเดียวกันมาสวม ซึ่งเป็นตัวต้นเหตุทำให้เกิดการซื้อ-ขาย รถยนต์ หรือ จำนำรถยนต์ ทั้งๆ ที่ยังมีการเช่าซื้อกับทางสถาบันการเงินอยู่ หรือที่หนักที่สุดคือการโจรกรรมรถเพื่อจะนำรถคันดังกล่าวไปสวมกับซากที่ได้ประมูลมา
          การยุติ ซื้อ-ขาย ซากรถพร้อมทะเบียน (ในเคสที่รุนแรง) จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ที่สามารถป้องกันรถที่อยู่ระหว่างการเช่าซื้อหายอย่างไร้ร่องรอย และป้องกันการโจรกรรมรถยนต์ได้อีกทางหนึ่ง
           เพราะเดี๋ยวนี้ รถที่หายๆ ไม่ได้ข้ามฝั่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะครับ แต่ถูกเล่นแร่ แปรธาตุกับกระบวนการสวมรถใกล้ๆ ตัวเรานี่เอง แต่ผู้บริโภคไม่ควรตื่นตระหนกตกใจไป เพราะปริมาณของรถสวมซากไม่ได้มากมายขนาดนั้น
           การแก้ปัญหา ทำได้ที่ต้นเหตุ แต่ทำไมผู้มีอำนาจในการแก้ไขถึงไม่จัดการ  เห็นแต่วิ่งไล่จับรถที่มันสวมไปแล้ว มันจะเกิดประโยชน์อะไร ?