สวัสดีสวยๆงามคะ พี่ๆน้องๆทุกท่านในพันทิพค้า ส่องๆจ้องๆด้อมๆมานานมาก อยากจะมาแชร์ประสบการ์ณบ้างคะ หนูอายุ 22 ปีคะ ตอนนี้ มีร้านอาหาร thai takeaway ที่ประเทศเดนมาร์คคะ เเล้วก็มี juice bar ไกล้ๆกันที่เมื่อก่อนเปิดร้านกาแฟ ร้านเค้ก ทำไม่ไหว ไม่มีคนแทน เรื่องเยอะ เลยทำเปลี่ยนมาทำจูสบาร์ คะ คืออยากทำมาตั้งแต่แรกเเล้ว ส่วนเค้กก็ยังมีลูกค้าที่รักกันสั่งบ้าง หนูเป็นคนชอบทำนั่นทำนี่ ชอบทำ ชอบสร้างแต่ไม่ค่อยชอบอยู่ มันไม่ใช่คะ เลยอยากจะมาเล่าความแก่น ความบ้า ในการทำธุรกิจแบบฉบับบ้าๆบอๆ ของหนู เล่าขำๆ นะคะ คงไม่มีใครเอาไปใช้อะไรได้ 55555 แต่ถ้าเอาข้อผิดพลาดไปใช้ได้ก็ยินดีงามๆเลยคะ
ประวัติคร่าวๆนะคะ หนูเป็นคนชอบ ธุรกิจ เพราะรู้สึกว่า ชอบ เราได้ตัดสินใจ ได้ลงมือทำ ได้เห็นผล ได้ภูมิใจกับผลสำเร็จ ที่สำคัญคือ ได้เรียนรู้ในแบบที่ถ้าไปเป็นลูกจ้าง คงไม่มีโอกาศได้ลึกซึ้งกับความ ล้มเหลว เเล้วก็ความอดทน รวมไปถึงความสำเร็จ ล้มละลายมาเเล้วคะ ปัญหาเยอะ ร้องไห้ก็บ่อยแต่เราร้องได้แปปเดียวพอ มีพระท่านหนึ่งสอนมาว่า "เสียใจได้แต่อย่าใจเสีย ถ้าใจเสียนี่ทุกอย่างพัง"
เริ่มแรก ทำแซนวิช ขายส่งที่โรงเรียน ตั้งแต่อายุ 16 ปีคะ ที่มาที่ไปคือว่า เป็นคนชอบทานมากๆคะ ที่โรงเรียนสมัยเรียนประถมถึง มัธยมต้น มีร้านขายแซนวิชเล็กๆหน้าโรงเรียนเป็นแรงบัลดาลใจคะ กินมันทุกวัน จนคิดว่า ลองทำดีกว่า ลองทำให้เพื่อนที่โรงเรียนทาน เพื่อนบอกอร่อย ชวนเพื่อนทำแต่ ทุกคนก็รวยกันหมดเเล้ว 555 มีโครงงานอาชีพคะ หนูเลยจัดเลย หลังจากโครงงานอาชีพ ตอนแรกจะทำมันบดลอยฟ้า ส่งโครงงานไปเรียบร้อย แต่ไม่คืบหน้าเลยเสนอทำแซนวิชมั้ย ก็ทำกับเพื่อนๆเริ่มจากงบ 500 บาทคะ คนละหนึ่งร้อยบาท ถ้าจำไม่ผิด ทำไปขายโครงงาน พอจบโครงงานแบ่งเงินกัน หลังจากนั้นก็มีรีเควสเค้ามาเรื่อยๆ เลยทำขายในห้อง เริ่มจากงบนี้เลยคะ 500 บาท
ตอนแรกถามแม่
หนู : มี๊ๆๆๆ เรามาทำแซนวิชขายกันมั้ย
แม่ : จะเอาเวลาที่ไหนมาทำ โนวๆๆ
ไม่เป็นไรคะ ทำเองเลย เตรียมของจนถึงเที่ยงคืน เช้ามาตีหามาทำแซนวิช แม่เห็นเลย ออกมาช่วย พอเห็นขายดีปุ๊ป
แม่ : อ๊ะๆ เดี๋ยวมี๊เป็นนายทุนให้ เเล้วเราเอาไป สามสิบเปอร์เซ็น
หนู : ไม่เอาหลอก สามสิบเปอร์เซ็นหนูให้มี๊หมดเลย (โลกสวยมากกกก)
ก็ทำขายให้เพื่อนๆในห้องก่อนคะ เเล้วก็ลามไปทางแผนกที่เรียนคือ EP (English program) ,มันก็ลามไปเรื่อยๆ จนวันหนึ่งถูกสั่งห้ามจากคุณครูเพราะออกแนวว่าสร้างความวุ่นวายขณะพัก คนมัวแต่กินแซนวิช เข้าแถวไม่เป็นระเบียบ ถึงขั้นประกาศแแกไมโครโฟนเบย อายยยยยยมากกก ไม่เป็นไร เราต้องพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ไปอ้อนวอนขอขายที่สหกรณ์ของโรงเรียน คราวนี้ก็ทั้งโรงเรียนรู้จักส่งถึงวันละ 300 ชิ้นเลยคะ ซักพักเค้าก็บอกว่า เอามาแค่ 50 ชิ้นพอ เพราะเจ้าอื่นเค้าคอมเพลนมา เค้าไม่ได้ขาย
เลยไปเสนอขายโรงเรียนเอกชนที่อื่นคะ ตอนนี้ ส่งทั้งหมด 6-8 โรงเรียนคะ ร้านกาแฟ โรงพยาบาล ไม่มีหน้าร้านนะคะ แต่สร้างโรงทำแซนวิชเล็กๆ เพื่อให้มันมีมารตฐานในการผลิต มี อย ด้วยคะ ส่งวันละ ประมาณ สามร้อยชิ้น ถึง ห้าร้อยชิ้นคะ เเล้วก็รับทำเบรค คุณแม่ดูเเลคะ ตอนนี้ก็ เข้าปีที่ หกเเล้วคะ
โชคชะตาก็พามาให้มาอยู่ที่ประเทศเดนมาร์คคะ อยู่ไปซักพัก ก็เริ่มเยอะ ฮ๋าๆๆ เมืองที่หนูอยู่เนี่ยคือ คนมันเยอะ แต่เมืองมันเริ่มตาย เริ่มเงียบ คราวนี้ เดินเล่นกับเพื่อนก็มาเจอร้านหนึ่งเค้าใช้เช่าคะ ไม่เอาค่าน้ำค่อไฟด้วย ค่ามัดจำก็ไม่เอา หนูเลยไปทำงานร้านซูชิ เก็บตังมาเช่า สามพันเจ็ดร้อยห้าสิบโครนคะ ประมาณ 20,000 บาท อยากทำร้านน้ำปั่นเพราะเคยไปช่วยพี่ที่รู้จักขาย เเล้วรู้สึกว่า น่าทำ เป็นที่ให้นักเรียน มาชิว เพราะร้านในเมืองนี้ ไม่มี wifi !!! อยู่กันได้อย่างไร ! เลยจัดเลย แต่ลืมคำนึงถึงเรื่อง วัฒนธรรม คนที่นี่ ว่าเค้าไม่ค่อยกล้ากินอะไรใหม่ๆ ของใหม่ นอกบ้านค๊ะ หนูว่า รายละเอียด ดราม่าๆ ค่อยเล่าทีหลัง อิอิ วันนี้ อยากจะมาเล่าว่าได้เปลี่ยนแปลงร้านอย่างไรบ้างนะเค๊อะ
อันนี้รู้ร้านตอนที่เรานัดเค้าไปดู มันเป็นร้านทำผม คะ หนูงบน้อย เเล้วบานคะ ไม่ขอพูดถึงเรื่องงบละกันเนอะ อันนี้ ร้านแรก ออกแนวทำเล่นๆ ชิวๆ เเต่ทำไปทำมา มันชิวไม่ลงคะ มันดูไม่ดี เอ้าเปลี่ยน เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา 5555 อันนี้ ตอนทำร้านกาแฟคะ พอดีตอนแรกจะทำน้ำปั่นคะ เพราะร้านอยู่ตรงข้ามฟิตเนสพอดีเลย แต่ได้เครื่องทำกาแฟมา แบบฟรีๆ เครื่องใหม่ด้วย เลยเปลี่ยน โอ้ยทำเค้กๆๆ ทำก็ไม่ใช่เป็นนะ ฝึกไปจน โปร 5555 เปิดร้านเพื่อฝึกเลยคะ ไม่เป็นไร ประสบการ์ณๆๆๆๆ ดราม่าเดียวมาเล่าคะ 555 โชวร้านก่อน
ก่อนทำคะ
พอเสร็จเเล้วออกมาน่าตาประมาณนี้ คะ
หนูกลับรูปมะเปงงะ เอียงคอกันนิสนึงนะคะ
อีกมุมคะ อันนี้ ถ่ายจากมุมตะกี้ ออกมานะคะ
ปล ผญ นั่งตรงขอบนั้นเพื่อนนะคะ มิช่ายหนูแต่อย่างใด
เสร็จเเล้วประมาณนี้คะ
อีกมุมๆ
อัพโหลดชร้าๆๆๆๆๆๆ บ่นๆๆๆๆ
เสร็จเเล้ว ประมาณนี้ค้า
อีกมุมๆๆ
เสร็จเเล้วก็ประมาณนี้คะ
มุมสุดท้ายคะ คนในนี้เป็นเจ้าของร้านที่ให้หนูเช่า ใจดี๊ใจดี
อันนี้ เคาน์เตอร์ นะคะ
ไอ่ตอนเริ่มทำนี่ ไม่อยากจะเล่าเลย ด้วยความที่ ไม่มีประสบการ์ณคะ ร้านนี้ กว่า จะสำเร็จลงตัวได้ ใช้เวลา นานมากกกกกก กว่าจะเปิดร้านได้ ก็ สองเดือน ด้วยความที่ งก 555 เลยทำเองทุกอย่างคะ ส่วนเรื่อง รายละเอียดในร้าน ไม่มีการวางแปลนใดๆทั้งสิ้น คนที่ทำงานกะหนูนี่ ต้องมี จินตนาการสูงมากกก อย่างที่บอกคะ งก เพราะคิดว่า ถ้าจ้างคนอื่นแพงแน่ๆ แต่ตรงกันข้ามเลยคะ ทำเอง ทำไม่ดีต้องแก้หลายรอบเสียเงินบ่อยกว่า จ้างเค้ารอบเดียว เสร็จเลย ดูเหมือนแพงแต่ถูกกว่าเยอะคะ ร้านที่สองใช้เวลา สองอาทิตย์ ร้านก็เสร็จเลยคะ
ไหนไหนก็ไหนๆละคะ นินนึงละกันเนอะ ร้านนี้ ลงมือทำเอง มีพ่อมาช่วยเรื่องที่เราไม่ได้ จ้างเพื่อนที่เป็นช่างไม้มาช่วยนิดๆหน่อยๆ งบบาน เวลายาวนาน แต่พอมันเสร็จมันก็ชื่นใจ
ลื้อเพดานคะ ฝ้ามันไม่สวย มันต่ำ ร้อน อบอ้าว ไม่ชอบเพดานต่ำ แต่ก็ไม่ได้เอาออก สุ่มสี่ สุ่มห้านะคะ พอเปิดดูมันพอไปได้เลย จัดการรื้อออกหมดเลยคะ
ที่ใช้เวลานานที่สุดนี่ เห็นจะเป็นผนังคะ เพระาว่ามันเป็นผนังอิฐ ที่มีสีทาอยู่ประมาณห้าหกชั้น หน้าๆเลยคะ เพื่อนบอกว่า โชว์อิฐสิ ดูในเนท มันสวยมาก เลยจัดเลยคะ โดยที่ไม่รู้เร้ย ว่าอิฐมันเป็นสีดินแดง 5555 พลาดครั้งใหญ่เลยคะ
ตอนแรกเอา brownsoap มาพอกๆ ทิ้วไว้ตอนไปลอนดอน กลับมาคิดว่ามันจะลอกออก เป่าเลยคะ เลยต้องเอาค้อนกะที่กระเทาะ มาแคะออก ฝุ่นกระจาย กระเจิงคะ ตอกมันอย่างนั้น ใช้เวลาทั้งหมด 60 ชั่วโมงคะ ทำคนเดียว ตอกๆๆๆๆ จนคนข้างบนเค้าลงมาบอกว่า จะนอน 555 ก็ขอเค้าว่า อีกไม่กี่วันก็เสร็จเเล้ว เค้าเลย หยวนๆให้คะ
ตอนที่ตอกๆๆๆ นี้ ก็คิดว่า เออ พอเจอผนังปุ๊ป เราจะเอา สีอะไรมาเคลือบ โชวพนัง แหนะ ยังจะอยากโชว์อีกนะ ทำไปก่อน เเล้วคิดทีหลัง 55 อย่าเลียนแบบเด็ดขาดนะคะ แต่ด้วยความที่ชาติที่เเล้วอาจจะทำบุญมาดี 55 ไปเดินร้านวุสดุก่อสร้าง ว้ายยยย เอาไอ่นี่แหละมาต่อ เคยเห็นคนงานที่มาทำบ้านก่ออิฐ สบายทำได้อยู่เเล้ว
คริคริ จัดไปคะ งานมั่ว งานรุ่งรัง งานเลาะ จัดเต็มงานนี้ ก่อไปคะ ทั้งคือ 2 คืนเต็มๆ
มันเลยออกมาแบบที่เห็นนี่แหละคะ ทำเองน้า อิอิ
ดูเหมือนง่ายแต่จริงๆ เยอะๆๆๆๆๆ สองเดือนกว่าจะเสร็จตะ ไหนจะทาสี เคาน์เตอร์ เถียงกะพ่อ พื้นนี้ลงหลังสุดเลยคะ เพราะงบไม่พอ555 เลิกพล่ามเรื่อง ทำร้านดีกว่า มาโชว์ขนมที่ร้านก่อนคะ
ต้องขอบอกเลยว่า หนูเป็นคนที่ชอบ ทานบลูเบอรี่ชีสเค้กมาก ถึงขั้นมีสมุดจดบันทึกของแต่ละร้าน เเล้ว เฉพาะบูลเบอรี่เท่านั้น ไปจดมาตั้ง 200 กว่าที่ สรุปหายคะ !! เเต่ ด้วยความที่ชอบทานมาก เลย จัดการทำสูตร ต้นตำหรับ ก็ลองเสริชดู อันไหนดี เเล้วก็เอามา อะเเดปๆ
อันนี้ โอริโอ้ ชีสพาย นางเอกคะ ร้านจะขายของแบบ แต่งๆ เยอะๆ ตามภาษาคนเยอะ 5555
ชอกโกแลตเค้ก พายบ้าง เเล้วแต่อารมจริงๆคะ แต่ตัวที่ทำขาดไม่ได้ จะมี บูลเบอรี่ ชอกโกแลตเค้ก บราวนี่ ทิรามิสสุ คะ
ว้ายๆๆ ลืมบอก เค้าลงหนังสือพิมพ์ด้วย 5555 เยอะๆๆๆๆ
คนทำงานที่นี่ เหมือนพระเจ้านะ เราเป็นนายจ้างนี่ต้องระวังเลย เพราะรายได้ที่นี่ สูงมาก จ่ายลืมคะ คิดเป็นชั่วโมง ขั้นต่ำ 100 โครน คะ ประมาณ ห้าร้อยห้าสิบ ถึงหกร้อยบาท ต่อชั่วโมง คะ ทำงานได้ไม่เกิน 37 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ทำงานครบปี ได้พักร้อนหนึ่งเดือนเต็มๆ โดยที่บริษัทต้องจ่าย คือเค้าคุ่มครองคนมาก หนูมีปัญหามาเเล้ว สองรอบ เรื่องไม่ดี ไม่เล่าเนอะ 555
ตอนนี้ร้านเค้กได้ปิดตัวลงไปเเล้ว ส่วนลูกค้าสั่งเค้ก ยังมีมาเรื่อยๆคะ ว่างก็ทำส่ง ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ให้เค้าไปจัดแต่ง คิดราคาตามสบายใจ ร้านไหนเยอะก็เลิกส่งคะ ไม่ง้อ 5555 และตอนนี้ ได้เปลี่ยนมาเป็นร้าน juicebar ชื่อว่า JUICEBOX premium juice แทนคะ เป็นร้านน้ำปั่นระดับพรีเมี่ยม ไม่ใช้น้ำเปลี่ยนผสม ไม่มีน้ำตาล เราเอาผลไม้หลากชนิดมาทำเป็นน้ำเเล้วใส่แทนน้ำเปล่ากับน้ำเชื่อ ทำให้ ดึงรสของผลไม้ออกมาได้มากขึ้น น้ำผลไม้จะเข้มข้น ราคาก็แสนจะสบายกระเป๋า คนก็เลยหันมาดื่มน้ำปั่น จากขายได้วันละ ไม่ถึง 10 แก้ว ตอนนี้ หนึ่งชั้วโมงจัดไปเลยคะ 10-20 แก้ว
ร้านเพิ่งเปิดได้ สองอาทิสคะ ส่วนตัวร้านก็ยังเหมือนเดิม เพียงแค่เปลี่ยนโต๊ะ ซื้อเครื่องปั่น เปลี่ยนโลโก้ เปลียนเมนู คะ ร้านนี้กำลังไปได้สวยงามเลยคะ
)) มีแพลนจะขยายทำเป็น mobile ่ juice bar ไปตามงาน festival ต่างๆด้วยคะ อันนี้กำลังรอนายทุนว่าจะว่าอย่างไรคะ
เปิดมาซักสองสามเดือน ก็ไปเปิดร้านอาหารไทยคะ ด้วยความที่เป็นคนชอบทาน จริงๆเเล้วคิดถึงอาหารไทยที่สุดในสามโลกเลย มีแต่ร้านอาหารจีน ร้านไหนที่บอกทำอาหารไทย ไม่เห็นจะไทยซักอย่าง เลย จัดเลยคะ เปิดๆๆๆๆ มีที่อยู่ที่นึงเป็นร้าน ฮอดด๊อก เบอรเกอร์ ที่ซกมกมาก เเล้วแบบ เข้าไปดูร้านนี่ขอบอกเลยว่า สกปรกสุดๆ ค่าเช่าโอเคคะ ขอต่อรองกับเจ้าของที่ว่า ขอค่าเชาฟรีเดือนนึง เอามาปรับปรุง ให้ด้วย ใจดีมากคะ โปรเจคครั้งนี้ ใช้ระยะเวลาสองสามอาทิตย์ ร้านเสร็จเรียบร้อยคะ เพราะว่ามีประสบการ์ณเเล้ว แต่มีดีเลย์ประมาณ สองอาทิตย์ เพราะว่าจะไปจ้างเค้ามาทาสี ทำผนังกับฝ้า แต่พ่อบอก โอ้ยพ่อทำได้ แต่รอไปคะ สองอาทิตย์ ไม่ยอมมา คนทำเคาน์เตอร์ก็มาไม่ได้เพราะต้องทาสีให้เสร็จ ยมคะ หนูเลยจัดการกูเกิ้ล เเล้ว ลงมือเอง สองวัน เสร็จ ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนอันเป็นที่รัก มันมีหลายขั้นตอจนมาก เดี๋ยวจะมาลง รายละเอียดนะคะ
ตอนทำร้านกาแฟ อายุ 20 คะ สามเดือนถัดมา เปิดร้านอาหารไทย ตอนนั้นอีกสองเดือนอายุย่างเข้า 21 ปี ตอนนี้ เพิ่งจะย่างเข้าอายุ 22 ปีคะ
เดี๋ยวๆมาต่อนะคะ ไปนอนก่อนน้า จุบๆๆๆๆๆ คะ
แชร์ประสบการ์ณเปิดร้านเค้ก ร้านอาหารไทย ที่เดนมาร์คคะ
ประวัติคร่าวๆนะคะ หนูเป็นคนชอบ ธุรกิจ เพราะรู้สึกว่า ชอบ เราได้ตัดสินใจ ได้ลงมือทำ ได้เห็นผล ได้ภูมิใจกับผลสำเร็จ ที่สำคัญคือ ได้เรียนรู้ในแบบที่ถ้าไปเป็นลูกจ้าง คงไม่มีโอกาศได้ลึกซึ้งกับความ ล้มเหลว เเล้วก็ความอดทน รวมไปถึงความสำเร็จ ล้มละลายมาเเล้วคะ ปัญหาเยอะ ร้องไห้ก็บ่อยแต่เราร้องได้แปปเดียวพอ มีพระท่านหนึ่งสอนมาว่า "เสียใจได้แต่อย่าใจเสีย ถ้าใจเสียนี่ทุกอย่างพัง"
เริ่มแรก ทำแซนวิช ขายส่งที่โรงเรียน ตั้งแต่อายุ 16 ปีคะ ที่มาที่ไปคือว่า เป็นคนชอบทานมากๆคะ ที่โรงเรียนสมัยเรียนประถมถึง มัธยมต้น มีร้านขายแซนวิชเล็กๆหน้าโรงเรียนเป็นแรงบัลดาลใจคะ กินมันทุกวัน จนคิดว่า ลองทำดีกว่า ลองทำให้เพื่อนที่โรงเรียนทาน เพื่อนบอกอร่อย ชวนเพื่อนทำแต่ ทุกคนก็รวยกันหมดเเล้ว 555 มีโครงงานอาชีพคะ หนูเลยจัดเลย หลังจากโครงงานอาชีพ ตอนแรกจะทำมันบดลอยฟ้า ส่งโครงงานไปเรียบร้อย แต่ไม่คืบหน้าเลยเสนอทำแซนวิชมั้ย ก็ทำกับเพื่อนๆเริ่มจากงบ 500 บาทคะ คนละหนึ่งร้อยบาท ถ้าจำไม่ผิด ทำไปขายโครงงาน พอจบโครงงานแบ่งเงินกัน หลังจากนั้นก็มีรีเควสเค้ามาเรื่อยๆ เลยทำขายในห้อง เริ่มจากงบนี้เลยคะ 500 บาท
ตอนแรกถามแม่
หนู : มี๊ๆๆๆ เรามาทำแซนวิชขายกันมั้ย
แม่ : จะเอาเวลาที่ไหนมาทำ โนวๆๆ
ไม่เป็นไรคะ ทำเองเลย เตรียมของจนถึงเที่ยงคืน เช้ามาตีหามาทำแซนวิช แม่เห็นเลย ออกมาช่วย พอเห็นขายดีปุ๊ป
แม่ : อ๊ะๆ เดี๋ยวมี๊เป็นนายทุนให้ เเล้วเราเอาไป สามสิบเปอร์เซ็น
หนู : ไม่เอาหลอก สามสิบเปอร์เซ็นหนูให้มี๊หมดเลย (โลกสวยมากกกก)
ก็ทำขายให้เพื่อนๆในห้องก่อนคะ เเล้วก็ลามไปทางแผนกที่เรียนคือ EP (English program) ,มันก็ลามไปเรื่อยๆ จนวันหนึ่งถูกสั่งห้ามจากคุณครูเพราะออกแนวว่าสร้างความวุ่นวายขณะพัก คนมัวแต่กินแซนวิช เข้าแถวไม่เป็นระเบียบ ถึงขั้นประกาศแแกไมโครโฟนเบย อายยยยยยมากกก ไม่เป็นไร เราต้องพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ไปอ้อนวอนขอขายที่สหกรณ์ของโรงเรียน คราวนี้ก็ทั้งโรงเรียนรู้จักส่งถึงวันละ 300 ชิ้นเลยคะ ซักพักเค้าก็บอกว่า เอามาแค่ 50 ชิ้นพอ เพราะเจ้าอื่นเค้าคอมเพลนมา เค้าไม่ได้ขาย
เลยไปเสนอขายโรงเรียนเอกชนที่อื่นคะ ตอนนี้ ส่งทั้งหมด 6-8 โรงเรียนคะ ร้านกาแฟ โรงพยาบาล ไม่มีหน้าร้านนะคะ แต่สร้างโรงทำแซนวิชเล็กๆ เพื่อให้มันมีมารตฐานในการผลิต มี อย ด้วยคะ ส่งวันละ ประมาณ สามร้อยชิ้น ถึง ห้าร้อยชิ้นคะ เเล้วก็รับทำเบรค คุณแม่ดูเเลคะ ตอนนี้ก็ เข้าปีที่ หกเเล้วคะ
โชคชะตาก็พามาให้มาอยู่ที่ประเทศเดนมาร์คคะ อยู่ไปซักพัก ก็เริ่มเยอะ ฮ๋าๆๆ เมืองที่หนูอยู่เนี่ยคือ คนมันเยอะ แต่เมืองมันเริ่มตาย เริ่มเงียบ คราวนี้ เดินเล่นกับเพื่อนก็มาเจอร้านหนึ่งเค้าใช้เช่าคะ ไม่เอาค่าน้ำค่อไฟด้วย ค่ามัดจำก็ไม่เอา หนูเลยไปทำงานร้านซูชิ เก็บตังมาเช่า สามพันเจ็ดร้อยห้าสิบโครนคะ ประมาณ 20,000 บาท อยากทำร้านน้ำปั่นเพราะเคยไปช่วยพี่ที่รู้จักขาย เเล้วรู้สึกว่า น่าทำ เป็นที่ให้นักเรียน มาชิว เพราะร้านในเมืองนี้ ไม่มี wifi !!! อยู่กันได้อย่างไร ! เลยจัดเลย แต่ลืมคำนึงถึงเรื่อง วัฒนธรรม คนที่นี่ ว่าเค้าไม่ค่อยกล้ากินอะไรใหม่ๆ ของใหม่ นอกบ้านค๊ะ หนูว่า รายละเอียด ดราม่าๆ ค่อยเล่าทีหลัง อิอิ วันนี้ อยากจะมาเล่าว่าได้เปลี่ยนแปลงร้านอย่างไรบ้างนะเค๊อะ
อันนี้รู้ร้านตอนที่เรานัดเค้าไปดู มันเป็นร้านทำผม คะ หนูงบน้อย เเล้วบานคะ ไม่ขอพูดถึงเรื่องงบละกันเนอะ อันนี้ ร้านแรก ออกแนวทำเล่นๆ ชิวๆ เเต่ทำไปทำมา มันชิวไม่ลงคะ มันดูไม่ดี เอ้าเปลี่ยน เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา 5555 อันนี้ ตอนทำร้านกาแฟคะ พอดีตอนแรกจะทำน้ำปั่นคะ เพราะร้านอยู่ตรงข้ามฟิตเนสพอดีเลย แต่ได้เครื่องทำกาแฟมา แบบฟรีๆ เครื่องใหม่ด้วย เลยเปลี่ยน โอ้ยทำเค้กๆๆ ทำก็ไม่ใช่เป็นนะ ฝึกไปจน โปร 5555 เปิดร้านเพื่อฝึกเลยคะ ไม่เป็นไร ประสบการ์ณๆๆๆๆ ดราม่าเดียวมาเล่าคะ 555 โชวร้านก่อน
ก่อนทำคะ
พอเสร็จเเล้วออกมาน่าตาประมาณนี้ คะ
หนูกลับรูปมะเปงงะ เอียงคอกันนิสนึงนะคะ
อีกมุมคะ อันนี้ ถ่ายจากมุมตะกี้ ออกมานะคะ
ปล ผญ นั่งตรงขอบนั้นเพื่อนนะคะ มิช่ายหนูแต่อย่างใด
เสร็จเเล้วประมาณนี้คะ
อีกมุมๆ
อัพโหลดชร้าๆๆๆๆๆๆ บ่นๆๆๆๆ
เสร็จเเล้ว ประมาณนี้ค้า
อีกมุมๆๆ
เสร็จเเล้วก็ประมาณนี้คะ
มุมสุดท้ายคะ คนในนี้เป็นเจ้าของร้านที่ให้หนูเช่า ใจดี๊ใจดี
อันนี้ เคาน์เตอร์ นะคะ
ไอ่ตอนเริ่มทำนี่ ไม่อยากจะเล่าเลย ด้วยความที่ ไม่มีประสบการ์ณคะ ร้านนี้ กว่า จะสำเร็จลงตัวได้ ใช้เวลา นานมากกกกกก กว่าจะเปิดร้านได้ ก็ สองเดือน ด้วยความที่ งก 555 เลยทำเองทุกอย่างคะ ส่วนเรื่อง รายละเอียดในร้าน ไม่มีการวางแปลนใดๆทั้งสิ้น คนที่ทำงานกะหนูนี่ ต้องมี จินตนาการสูงมากกก อย่างที่บอกคะ งก เพราะคิดว่า ถ้าจ้างคนอื่นแพงแน่ๆ แต่ตรงกันข้ามเลยคะ ทำเอง ทำไม่ดีต้องแก้หลายรอบเสียเงินบ่อยกว่า จ้างเค้ารอบเดียว เสร็จเลย ดูเหมือนแพงแต่ถูกกว่าเยอะคะ ร้านที่สองใช้เวลา สองอาทิตย์ ร้านก็เสร็จเลยคะ
ไหนไหนก็ไหนๆละคะ นินนึงละกันเนอะ ร้านนี้ ลงมือทำเอง มีพ่อมาช่วยเรื่องที่เราไม่ได้ จ้างเพื่อนที่เป็นช่างไม้มาช่วยนิดๆหน่อยๆ งบบาน เวลายาวนาน แต่พอมันเสร็จมันก็ชื่นใจ
ลื้อเพดานคะ ฝ้ามันไม่สวย มันต่ำ ร้อน อบอ้าว ไม่ชอบเพดานต่ำ แต่ก็ไม่ได้เอาออก สุ่มสี่ สุ่มห้านะคะ พอเปิดดูมันพอไปได้เลย จัดการรื้อออกหมดเลยคะ
ที่ใช้เวลานานที่สุดนี่ เห็นจะเป็นผนังคะ เพระาว่ามันเป็นผนังอิฐ ที่มีสีทาอยู่ประมาณห้าหกชั้น หน้าๆเลยคะ เพื่อนบอกว่า โชว์อิฐสิ ดูในเนท มันสวยมาก เลยจัดเลยคะ โดยที่ไม่รู้เร้ย ว่าอิฐมันเป็นสีดินแดง 5555 พลาดครั้งใหญ่เลยคะ
ตอนแรกเอา brownsoap มาพอกๆ ทิ้วไว้ตอนไปลอนดอน กลับมาคิดว่ามันจะลอกออก เป่าเลยคะ เลยต้องเอาค้อนกะที่กระเทาะ มาแคะออก ฝุ่นกระจาย กระเจิงคะ ตอกมันอย่างนั้น ใช้เวลาทั้งหมด 60 ชั่วโมงคะ ทำคนเดียว ตอกๆๆๆๆ จนคนข้างบนเค้าลงมาบอกว่า จะนอน 555 ก็ขอเค้าว่า อีกไม่กี่วันก็เสร็จเเล้ว เค้าเลย หยวนๆให้คะ
ตอนที่ตอกๆๆๆ นี้ ก็คิดว่า เออ พอเจอผนังปุ๊ป เราจะเอา สีอะไรมาเคลือบ โชวพนัง แหนะ ยังจะอยากโชว์อีกนะ ทำไปก่อน เเล้วคิดทีหลัง 55 อย่าเลียนแบบเด็ดขาดนะคะ แต่ด้วยความที่ชาติที่เเล้วอาจจะทำบุญมาดี 55 ไปเดินร้านวุสดุก่อสร้าง ว้ายยยย เอาไอ่นี่แหละมาต่อ เคยเห็นคนงานที่มาทำบ้านก่ออิฐ สบายทำได้อยู่เเล้ว
คริคริ จัดไปคะ งานมั่ว งานรุ่งรัง งานเลาะ จัดเต็มงานนี้ ก่อไปคะ ทั้งคือ 2 คืนเต็มๆ
มันเลยออกมาแบบที่เห็นนี่แหละคะ ทำเองน้า อิอิ
ดูเหมือนง่ายแต่จริงๆ เยอะๆๆๆๆๆ สองเดือนกว่าจะเสร็จตะ ไหนจะทาสี เคาน์เตอร์ เถียงกะพ่อ พื้นนี้ลงหลังสุดเลยคะ เพราะงบไม่พอ555 เลิกพล่ามเรื่อง ทำร้านดีกว่า มาโชว์ขนมที่ร้านก่อนคะ
ต้องขอบอกเลยว่า หนูเป็นคนที่ชอบ ทานบลูเบอรี่ชีสเค้กมาก ถึงขั้นมีสมุดจดบันทึกของแต่ละร้าน เเล้ว เฉพาะบูลเบอรี่เท่านั้น ไปจดมาตั้ง 200 กว่าที่ สรุปหายคะ !! เเต่ ด้วยความที่ชอบทานมาก เลย จัดการทำสูตร ต้นตำหรับ ก็ลองเสริชดู อันไหนดี เเล้วก็เอามา อะเเดปๆ
อันนี้ โอริโอ้ ชีสพาย นางเอกคะ ร้านจะขายของแบบ แต่งๆ เยอะๆ ตามภาษาคนเยอะ 5555
ชอกโกแลตเค้ก พายบ้าง เเล้วแต่อารมจริงๆคะ แต่ตัวที่ทำขาดไม่ได้ จะมี บูลเบอรี่ ชอกโกแลตเค้ก บราวนี่ ทิรามิสสุ คะ
ว้ายๆๆ ลืมบอก เค้าลงหนังสือพิมพ์ด้วย 5555 เยอะๆๆๆๆ
คนทำงานที่นี่ เหมือนพระเจ้านะ เราเป็นนายจ้างนี่ต้องระวังเลย เพราะรายได้ที่นี่ สูงมาก จ่ายลืมคะ คิดเป็นชั่วโมง ขั้นต่ำ 100 โครน คะ ประมาณ ห้าร้อยห้าสิบ ถึงหกร้อยบาท ต่อชั่วโมง คะ ทำงานได้ไม่เกิน 37 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ทำงานครบปี ได้พักร้อนหนึ่งเดือนเต็มๆ โดยที่บริษัทต้องจ่าย คือเค้าคุ่มครองคนมาก หนูมีปัญหามาเเล้ว สองรอบ เรื่องไม่ดี ไม่เล่าเนอะ 555
ตอนนี้ร้านเค้กได้ปิดตัวลงไปเเล้ว ส่วนลูกค้าสั่งเค้ก ยังมีมาเรื่อยๆคะ ว่างก็ทำส่ง ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ให้เค้าไปจัดแต่ง คิดราคาตามสบายใจ ร้านไหนเยอะก็เลิกส่งคะ ไม่ง้อ 5555 และตอนนี้ ได้เปลี่ยนมาเป็นร้าน juicebar ชื่อว่า JUICEBOX premium juice แทนคะ เป็นร้านน้ำปั่นระดับพรีเมี่ยม ไม่ใช้น้ำเปลี่ยนผสม ไม่มีน้ำตาล เราเอาผลไม้หลากชนิดมาทำเป็นน้ำเเล้วใส่แทนน้ำเปล่ากับน้ำเชื่อ ทำให้ ดึงรสของผลไม้ออกมาได้มากขึ้น น้ำผลไม้จะเข้มข้น ราคาก็แสนจะสบายกระเป๋า คนก็เลยหันมาดื่มน้ำปั่น จากขายได้วันละ ไม่ถึง 10 แก้ว ตอนนี้ หนึ่งชั้วโมงจัดไปเลยคะ 10-20 แก้ว ร้านเพิ่งเปิดได้ สองอาทิสคะ ส่วนตัวร้านก็ยังเหมือนเดิม เพียงแค่เปลี่ยนโต๊ะ ซื้อเครื่องปั่น เปลี่ยนโลโก้ เปลียนเมนู คะ ร้านนี้กำลังไปได้สวยงามเลยคะ )) มีแพลนจะขยายทำเป็น mobile ่ juice bar ไปตามงาน festival ต่างๆด้วยคะ อันนี้กำลังรอนายทุนว่าจะว่าอย่างไรคะ
เปิดมาซักสองสามเดือน ก็ไปเปิดร้านอาหารไทยคะ ด้วยความที่เป็นคนชอบทาน จริงๆเเล้วคิดถึงอาหารไทยที่สุดในสามโลกเลย มีแต่ร้านอาหารจีน ร้านไหนที่บอกทำอาหารไทย ไม่เห็นจะไทยซักอย่าง เลย จัดเลยคะ เปิดๆๆๆๆ มีที่อยู่ที่นึงเป็นร้าน ฮอดด๊อก เบอรเกอร์ ที่ซกมกมาก เเล้วแบบ เข้าไปดูร้านนี่ขอบอกเลยว่า สกปรกสุดๆ ค่าเช่าโอเคคะ ขอต่อรองกับเจ้าของที่ว่า ขอค่าเชาฟรีเดือนนึง เอามาปรับปรุง ให้ด้วย ใจดีมากคะ โปรเจคครั้งนี้ ใช้ระยะเวลาสองสามอาทิตย์ ร้านเสร็จเรียบร้อยคะ เพราะว่ามีประสบการ์ณเเล้ว แต่มีดีเลย์ประมาณ สองอาทิตย์ เพราะว่าจะไปจ้างเค้ามาทาสี ทำผนังกับฝ้า แต่พ่อบอก โอ้ยพ่อทำได้ แต่รอไปคะ สองอาทิตย์ ไม่ยอมมา คนทำเคาน์เตอร์ก็มาไม่ได้เพราะต้องทาสีให้เสร็จ ยมคะ หนูเลยจัดการกูเกิ้ล เเล้ว ลงมือเอง สองวัน เสร็จ ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนอันเป็นที่รัก มันมีหลายขั้นตอจนมาก เดี๋ยวจะมาลง รายละเอียดนะคะ
ตอนทำร้านกาแฟ อายุ 20 คะ สามเดือนถัดมา เปิดร้านอาหารไทย ตอนนั้นอีกสองเดือนอายุย่างเข้า 21 ปี ตอนนี้ เพิ่งจะย่างเข้าอายุ 22 ปีคะ
เดี๋ยวๆมาต่อนะคะ ไปนอนก่อนน้า จุบๆๆๆๆๆ คะ