เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เกิดขึ้นกับเราเมื่อประมาณ 5ปีที่แล้วค่ะ เราไม่รู้ว่าเขาหรือเราใครผิดใครถูก แต่มันเป็นเรื่องนึงที่เราคงจะไม่ลืมไปตลอดชีวิตค่ะ
(ยาวมากค่ะบอกไว้ก่อน)
ตอนก่อนที่จะเรียนจบประมาณปี4 ตอนนั้นเราอายุ 21ปี เราได้ไปรู้จักกับผช คนนึงใน hi5 ซึ่งสมัยนั้นยังฮิตพอๆกับ facebook ในตอนนี้เลยก็ว่าได้ ผช คนนั้นสมมติว่าชื่อMนะคะ เรารู้จักM ใน hi5 เขารับราชการอยู่กทม. ตัวเราอยู่ตจว. เราติดต่อกับทาง hi5ก่อน คือแค่ทักกัน แล้วก็แลกเมล์มาคุยใน msn คุยกันได้ไม่นานMก็ขอเบอร์เรา เราให้ไปแค่ 9ตัว และไม่ได้คิดว่าเขาจะโทรมาจริงๆ ปรากฎเขาพยายามไปหาอีก1ตัวที่เหลือมา ไล่โทรตั้งแต่ 0-9 เราก็โอเคคุย คุยกันจนรู้ว่าเขาทำอะไรที่ไหน เขาเพิ่งจบจากรร.เตรียมทหารได้2ปี และรับราชการอยู่ กลางคืนก็ไปเล่นดนตรีที่โรงแรม เดิมเขาเป็นคนตจว.เป็นคนอีสาน แต่มาสอบเข้ารร.เตรียมทหารได้ตั้งแต่อายุ 15 เราอายุเท่ากัน เขาเป็นคนคุยสุภาพ ออกแนวจะซื่อๆ เวลาจะซื้ออะไรจะคิดแล้วคิดอีก เขาก็โทรมาคุยกับเราทุกวัน เวลาส.อา.ตอนกลางวันเขาจะไปนั่งในร้านเน็ตละคุย msn เปิดกล้องคุยกัน คุยกันทุกอย่างเล่าเรื่องที่บ้านให้ฟัง เขาก็พูดถึงครอบครัวเขาให้ฟัง เรื่องเกี่ยวกับในรั้วรร.เตรียมทหาร (ซึ่งมารู้ทีหลังว่าเขาเป็นรุ่นน้องของกิ๊กเก่าเราคนนึงที่จบจากรร.เตรียมทหารเดียวกันนี้ ไว้ว่างจะเล่าให้ฟังนะคะ) เขาเป็นคนประหยัด เล่าจนถึงเรื่องแฟนเก่าของกันและกันให้ฟัง เหมือนเป็นการแชร์กันมากกว่า ตอนนั้นเรากำลังทำโปรเจคจบมหาลัย ก็เลยคุยกับเขาว่ากำลังจะซื้อโน้ตบุ๊ค แต่คงเอามือ2 เพราะเงินมีไม่ถึงหมื่น เขาก็บอกว่าเด่วเขาช่วยออกเงินเพิ่มให้ ลงมาซื้อกรุงเทพซิ เด่วพาไปซื้อที่พันทิพย์ ด้วยอะไรก็ไม่รู้ทำให้เรากล้าที่จะลงมาหาเขา ไม่ได้เห็นแก่เงินที่เขาจะช่วยออกให้นะคะ แต่เหมือนไว้ใจเขามากเลย และรู้สึกว่าเราก็รู้จักกันมาหลายเดือน เขาก็โอนค่ารถมาให้เราและให้เราลงไปหาเขาที่กทม. มาพักกับเขาก็ได้ เขาวัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเรา เราก็โกหกแม่ว่าจะไปนอนหอกับเพื่อนในเมือง ไปทำโปรเจคจบ ตอนนั่นมีเงินอยู่8พัน Mก็ยังบอกว่าอย่าพกเงินสดมานะกลัวหาย ใส่atmไว้ก่อน จะซื้อค่อยไปกด พอมาถึงกทม.เขาก็ไปรับเราที่หมอชิต เราเจอกันครั้งแรก เขาสูงพอๆกับเรา เราก็โอเคนะ หน้าตาเขาไม่ได้ผิดกับในรูปหรือในกล้องที่เราคุยกันใน msn เราแบบเหมือนบ้านนอกเข้ากรุงมากตอนนั้น เขาก็พาเราไปพักกับเขาที่บ้านพักข้าราชการ อีกวันเขาก็พาไปซื้อโน้ตบุ๊คตามสัญญา เขาเพิ่มเงินให้อีก 6พัน ช่วงที่อยู่กทม.เขาเทคแคร์เราดีนะ พาไปเที่ยวนั่นนี่ แต่ด้วยว่าเขาเพิ่งรับราชการได้ไม่นานก็ยังไม่มีรถส่วนตัว ไปไหนมาไหนเราก็ขึ้นรถเมล์ไปกันค่ะ เราก็ไม่ว่าอะไรค่ะ ออกจะแฮปปี้ด้วยซ้ำและเป็นการขึ้นรถเมล์ครั้งแรกในชีวิต ช่วงที่มาพักกับM 2-3วันรู้สึกมีความสุขมากค่ะ จนรู้สึกดีมากกับM จนเหมือนเราได้รู้จักเขามากขึ้นกว่าที่เราคุยกันแค่ในโทรศัพท์หรือในmsn(เพราะเขาเป็นคนพิมพ์ช้า) จนสุดท้ายเราก็ไม่สามารถห้ามใจกันได้ (อย่าเพิ่งด่าว่าใจง่ายนะคะ) และเขาก็สัญญาว่ายังไงเขาก็จะไม่ทิ้งเรา เขาบอกตอนนี้เราเป็นแฟนกันแล้ว Mก็ชวนเราว่าถ้าฝึกงานเสร็จ และเสนอโปรเจคจบผ่านทำส่งอ.เสร็จ ให้เราลงมาทำงานกทม.ได้ไหม มาอยู่กับเขา หางานที่กทม. เราก็รับปากและคิดว่าถ้าขอแม่ แม่คงไม่ว่าอะไร จนเราก็กลับบ้านตจว.
เขาหรือเรา...ที่เปลี่ยนไป [เรื่องจริงที่ไม่มีวันลืม]
(ยาวมากค่ะบอกไว้ก่อน)
ตอนก่อนที่จะเรียนจบประมาณปี4 ตอนนั้นเราอายุ 21ปี เราได้ไปรู้จักกับผช คนนึงใน hi5 ซึ่งสมัยนั้นยังฮิตพอๆกับ facebook ในตอนนี้เลยก็ว่าได้ ผช คนนั้นสมมติว่าชื่อMนะคะ เรารู้จักM ใน hi5 เขารับราชการอยู่กทม. ตัวเราอยู่ตจว. เราติดต่อกับทาง hi5ก่อน คือแค่ทักกัน แล้วก็แลกเมล์มาคุยใน msn คุยกันได้ไม่นานMก็ขอเบอร์เรา เราให้ไปแค่ 9ตัว และไม่ได้คิดว่าเขาจะโทรมาจริงๆ ปรากฎเขาพยายามไปหาอีก1ตัวที่เหลือมา ไล่โทรตั้งแต่ 0-9 เราก็โอเคคุย คุยกันจนรู้ว่าเขาทำอะไรที่ไหน เขาเพิ่งจบจากรร.เตรียมทหารได้2ปี และรับราชการอยู่ กลางคืนก็ไปเล่นดนตรีที่โรงแรม เดิมเขาเป็นคนตจว.เป็นคนอีสาน แต่มาสอบเข้ารร.เตรียมทหารได้ตั้งแต่อายุ 15 เราอายุเท่ากัน เขาเป็นคนคุยสุภาพ ออกแนวจะซื่อๆ เวลาจะซื้ออะไรจะคิดแล้วคิดอีก เขาก็โทรมาคุยกับเราทุกวัน เวลาส.อา.ตอนกลางวันเขาจะไปนั่งในร้านเน็ตละคุย msn เปิดกล้องคุยกัน คุยกันทุกอย่างเล่าเรื่องที่บ้านให้ฟัง เขาก็พูดถึงครอบครัวเขาให้ฟัง เรื่องเกี่ยวกับในรั้วรร.เตรียมทหาร (ซึ่งมารู้ทีหลังว่าเขาเป็นรุ่นน้องของกิ๊กเก่าเราคนนึงที่จบจากรร.เตรียมทหารเดียวกันนี้ ไว้ว่างจะเล่าให้ฟังนะคะ) เขาเป็นคนประหยัด เล่าจนถึงเรื่องแฟนเก่าของกันและกันให้ฟัง เหมือนเป็นการแชร์กันมากกว่า ตอนนั้นเรากำลังทำโปรเจคจบมหาลัย ก็เลยคุยกับเขาว่ากำลังจะซื้อโน้ตบุ๊ค แต่คงเอามือ2 เพราะเงินมีไม่ถึงหมื่น เขาก็บอกว่าเด่วเขาช่วยออกเงินเพิ่มให้ ลงมาซื้อกรุงเทพซิ เด่วพาไปซื้อที่พันทิพย์ ด้วยอะไรก็ไม่รู้ทำให้เรากล้าที่จะลงมาหาเขา ไม่ได้เห็นแก่เงินที่เขาจะช่วยออกให้นะคะ แต่เหมือนไว้ใจเขามากเลย และรู้สึกว่าเราก็รู้จักกันมาหลายเดือน เขาก็โอนค่ารถมาให้เราและให้เราลงไปหาเขาที่กทม. มาพักกับเขาก็ได้ เขาวัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเรา เราก็โกหกแม่ว่าจะไปนอนหอกับเพื่อนในเมือง ไปทำโปรเจคจบ ตอนนั่นมีเงินอยู่8พัน Mก็ยังบอกว่าอย่าพกเงินสดมานะกลัวหาย ใส่atmไว้ก่อน จะซื้อค่อยไปกด พอมาถึงกทม.เขาก็ไปรับเราที่หมอชิต เราเจอกันครั้งแรก เขาสูงพอๆกับเรา เราก็โอเคนะ หน้าตาเขาไม่ได้ผิดกับในรูปหรือในกล้องที่เราคุยกันใน msn เราแบบเหมือนบ้านนอกเข้ากรุงมากตอนนั้น เขาก็พาเราไปพักกับเขาที่บ้านพักข้าราชการ อีกวันเขาก็พาไปซื้อโน้ตบุ๊คตามสัญญา เขาเพิ่มเงินให้อีก 6พัน ช่วงที่อยู่กทม.เขาเทคแคร์เราดีนะ พาไปเที่ยวนั่นนี่ แต่ด้วยว่าเขาเพิ่งรับราชการได้ไม่นานก็ยังไม่มีรถส่วนตัว ไปไหนมาไหนเราก็ขึ้นรถเมล์ไปกันค่ะ เราก็ไม่ว่าอะไรค่ะ ออกจะแฮปปี้ด้วยซ้ำและเป็นการขึ้นรถเมล์ครั้งแรกในชีวิต ช่วงที่มาพักกับM 2-3วันรู้สึกมีความสุขมากค่ะ จนรู้สึกดีมากกับM จนเหมือนเราได้รู้จักเขามากขึ้นกว่าที่เราคุยกันแค่ในโทรศัพท์หรือในmsn(เพราะเขาเป็นคนพิมพ์ช้า) จนสุดท้ายเราก็ไม่สามารถห้ามใจกันได้ (อย่าเพิ่งด่าว่าใจง่ายนะคะ) และเขาก็สัญญาว่ายังไงเขาก็จะไม่ทิ้งเรา เขาบอกตอนนี้เราเป็นแฟนกันแล้ว Mก็ชวนเราว่าถ้าฝึกงานเสร็จ และเสนอโปรเจคจบผ่านทำส่งอ.เสร็จ ให้เราลงมาทำงานกทม.ได้ไหม มาอยู่กับเขา หางานที่กทม. เราก็รับปากและคิดว่าถ้าขอแม่ แม่คงไม่ว่าอะไร จนเราก็กลับบ้านตจว.