YOU&ME ความหลังที่ยังหลอกหลอน

" ฉันขอสาบานว่า ชาตินี้ หรือชาติไหน ๆ ฉันจะรักคุณคนเดียวทุกชาติไป ขอให้เราอยู่คู่กันจนวันตาย "


      
       รุ่งระพิน เธอเป็นผู้หญิงที่ใบหน้าสะสวย  เธองามประหนึ่งเป็นลูกผู้ดีมีชาติตระกูล  แต่ความจริงชีวิตของเธอนั้นต้องเผชิญ

กับความลำบากยากเข็น  ด้วยฐานะที่ค่อนข้างยากจน  ชีวิตวัยเด็กที่ต้อง ทนหิว อดมื้อ กินมื้อ เรียนจบแค่ชั้นมัธยม  

เธอก็ต้องออกมาทำงานที่บริษัทเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในเมืองหลวง  แต่ด้วยความสามารถที่มีและความประพฤติที่ดี

เธอได้เป็นพนักงานรับผิดชอบการเงินของบริษัท  แม้อายุของเธอขณะนั้นเพียง 20ปี   ตั้งแต่รุ่งระพิน ได้เข้ามาทำงาน

ณ ที่แห่งนี้ เธอถูกเติมเต็มความสุขจาก เควิน หนุ่มลูกครึ่งลูกชายเจ้าของบริษัทที่หลงรักเธอตั้งแต่แรกพบ

คอยมาเอาใจเธอ  ซื้อของฝาก  ชวนเธอทานเข้ากลางวันเสมอ  ซึ่งเธอเองก็รับรู้ได้ว่าเควินมีใจให้เธอ  และเธอเองก็เช่นกัน  

แต่ทางรักของเธอและเขาต้องพบอุปสรรคเมื่อ แม่ของเควินนั้นไม่ยอมรับรุ่งระพิน  ถึงแม้เธอจะมีพฤติกรรมที่ดีก็ตาม  

แต่ก็ไม่ได้ห้ามให้คบกันเพราะคิดว่าสักวันลูกชายเขาจะได้พบผู้หญิงที่ดีกว่าและตัดใจจากเธอได้เอง  รุ่งระพินได้แต่คิดน้อยใจ  

และทำดีต่อไปหวังสักวันครอบครัวของเควินนั้นจะเมตตา  เมื่อเวลาผ่านไปผ่านไป 5ปี ทั้งคู่สนิทสนิมผูกพันกันมากขึ้น  

รุ่งระพินยังคงเป็นสาวผู้น่ารักต่อเควินเสมอ  และคอยอยู่เคียงข้างทุกวันเวลา  แต่แล้วความสุขใจของเควินถึงคราวชะงัก

เมื่อแม่ของเขาได้เสียชีวิตลง  เขาเสียใจมาก แม่ผู้เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร จากเขาไปเสียแล้ว  รุ่งระพินได้แต่ปลอบใจห่าง ๆ

อยากให้เวลาเขาทำใจกับเรื่องนี้  หลังจากนั้นไม่นานเควินก็กลับมามีกำลังใจต่อสู้ชีวิตอีกครั้ง  เขาทุ่มเทความสามารถให้กับงาน  

และยังไม่ลืมที่จะยืนเคียงข้างรุ่งระพิน  ทั้งสองร่วมงานกันได้อย่างดีเยี่ยม  ต่อมาทั้งคู่จึงตกลงปลงใจที่จะแต่งงานกัน  

วันที่รุ่งระพินรอคอยมาตลอด  วันที่เธอภูมิใจที่สุดในชีวิต  ความพยายามของเธอทำให้สุดท้ายเธอนั้นได้ครองคู่กับเขาเสียที  

วันแต่งงานของเธอและเขามาถึง  รุ่งระพินในชุดเจ้าสาวสีขาวลายลูกไม้ช่างงดงามประหนึ่งหญิงสาวผู้มีชาติตระกูล  

ดูไม่น้อยหน้าใคร  และไม่มีใครกล้าดูถูกเธอเลยจริง ๆ ฝ่ายเจ้าบ่าวก็ดูดีใช่น้อย  ทั้งคู่ดูเหมาะสมกันจริง ๆ  บรรยากาศในงานเลี้ยง

ช่วงเย็นดูสนุกสนานรื่นเริงใจอย่างยิ่ง และก็ได้เวลาที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาว  ขึ้นกล่าวความรู้สึกในวันสำคัญวันนี้  

เสียงแขกทุกคนในงานเริ่มเบาลง  พร้อมกันตั้งใจฟังเจ้าบ่าวเจ้าสาวพูด เควินได้กล่าวถึง " รุ่งระพิน เป็นผู้หญิงที่พิเศษสำหรับเขา  

เป็นแรงผลักดันในการทำงาน  คอยยืนเคียงข้างกันเสมอและหวังว่าเราจะยืนข้างกันต่อไป "  รุ่งระพินซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก

เธอกล่าวทั้งน้ำตาว่า “ ฉันรักคุณมาก คุณคือคนเดียวที่ฉันจะรักและภักดีด้วยตลอดชีวิต ” เมื่อทั้งคู่กล่าวจบ คุณโรเบิร์ต พ่อของเควิน

ก็ขึ้นกล่าวต่อว่า  ตนนั้นอายุก็มากขึ้นแล้ว  วันนี้ได้เห็นลูกชายพัฒนาขึ้น และเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว  ตนจะขอยกบริษัทให้เควิน

ได้ดูแลต่อไป  ส่วนตนนั้นอยากเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดในบั้นปลายชีวิต  ขอให้เควินและรุ่งระพิน  มีความสุขมาก ๆ  เมื่อกล่าวจบ

เสียงปรบมือของแขกผู้ร่วมงานดังสนั่นดั่งเป็นพยานแห่งความรักของทั้งสอง

        ในค่ำคืนของวันที่แสนพิเศษ  รุ่งระพินและเควินต่างแสดงความรักที่มีให้กัน  ดื่มด่ำในความต้องการของเขาและเธอ
  
ช่างเป็นวันที่ดีที่สุดในชีวิตของสาวรุ่งระพินยิ่งนัก  ใบหน้าของเธอในคืนนั้นขณะหลับฝันยังเห็นรอยยิ้มของเธอได้ชัดเจน  

หนุ่มสาวทั้งสองนอนกอดกันจนถึงรุ่งสาง  ต่างต้องตื่นมาใช้ชีวิตเฉกเช่นดั่งเดิม  แตกต่างเพียงแค่ทั้งสองนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่

แฟนกันอีกต่อไป  ยังมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบร่วมกันในฐานะสามีภรรยา  ต้องร่วมประคับประคองกิจกรรมในก้าวหน้า  

ทั้งคู่ต้องทำงานหลายอย่างจนแทบไม่มีเวลาไปฮันนีมูน  แม้แต่ไปดินเนอร์ยังแทบไม่ได้ไป  รุ่งระพินเธอทนรอคอยวันที่จะได้ไปเที่ยว

พักผ่อนสักครั้ง  เพราะหลังจากแต่งงานมาหลายเดือนยังคงยุ่งอยู่กับงาน  และปัญหาเดิมก็ยังไม่จบแค่นั้นเมื่อบริษัทมีแนวโน้ม

การขายแย่ลงกว่าทุกปี ยิ่งทำให้ทั้งคู่ต้องจริงจังกับเรื่องงานตลอด  รุ่งระพินรู้สึกเหนื่อยและเบื่อเหลือเกิน  หลายครั้งที่เธอ

มักอารมณ์เสียใส่สามี  จนเมื่อเธอรู้สึกไม่ไหวแล้ว จึงอาศัยอยู่บ้านแทน  และให้สามีจ้างพนักงานฝ่ายบัญชีมาใหม่  

ในขณะนั้นเควินต้องต่อสู้กับวิกฤติตกต่ำ  รุ่งระพินคอยเป็นกำลังใจอยู่ห่าง ๆ ไม่นานบริษัทก็กลับมาคล่องตัวอีกครั้ง  

เวลาผ่านไปจากวันที่เขาและเธอแต่งงานกันถึง 3ปี  เธอจึงเริ่มทักท้วงสามีของเธอ  ไหนล่ะที่บอกว่าจะพาไปเที่ยว  

ไปเติมความหวานต่าง ๆ  บางครั้งเธอพูดถึงเรื่องที่ไม่มีเวลาให้กันไป น้ำตาคลอไป  จนกระทั่งวันนั้นเควินได้บอกกับเธอว่า

เขาจะพาเธอไปฮันนีมูนที่ฝรั่งเศส  เธอดีใจมากกอดหอมเควินด้วยใบหน้าที่สุขใจ และเที่ยวบินที่รอคอยก็มาถึง คุณนายรุ่งระพิน

กับสามีเดินทางสู่ทวีปยุโรป ประเทศฝรั่งเศส เดินเที่ยว ช็อปปิง ดินเนอร์หรู ๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่ช่างโรแมนติก 8วัน 6คืน  

กลับทริปที่แสนพิเศษที่สุดในช่วงชีวิตของรุ่งระพิน  วันสุดท้ายกับฝรั่งเศสและเที่ยวบินที่เธอไม่รอคอยก็มาถึง  เธอไม่อยากกลับเลย

อยากหยุดช่วงเวลานี้ไว้นาน ๆ จัง  เครื่องบินที่เธอและเขาโดยสาร ค่อย ๆ ทะยานขึ้นไปเรื่อย ๆ สายตาของรุ่งระพินสบตาเควิน

ดั่งต้องการจะสื่อว่า  จงจำวันนี้ที่เราทั้งคู่นั้นมีความสุขเพียงไร  เธอซบไหล่สามีหลับตาและยิ้มที่มุมปาก  ทันใดนั้นในฝันของเธอ

เหมือนตัวของเธอตกจากตึกสูง  เธอลืมตาตื่นจากฝันเห็นผู้คนบนเครื่องแตกตื่น และร่างกายของทุกคนเสียการทรงตัว

ท่ามกลางความตกใจ เกิดอะไรขึ้นกับเครื่องบินลำนี้ ไม่ทันตั้งตัว เควินได้หลุดจากที่นั่ง  เธอตกใจมาก คว้ามือของสามีสุดที่รักไว้

อย่าปล่อยมือฉัน  เกินต้านทานของแรงดึงดูด เธอไม่สามารถฉุดสามีเธอไว้ได้ เธอกรี๊ด เสียงดังลั่น ก่อนที่ทุกอย่างจะสิ้นสุดลง

ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งแสงสาดส่องเข้ามาในดวงตา เธอค่อย ๆ ลุกจากเตียงของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง  เธอไม่รีรอที่จะลุกและเดินไป

ถามพยาบาลถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น  ขาของเธอแทบไม่มีแรง  แต่เธอก็ฝืนต่อไป  เมื่อพยาบาลเห็นเธอกลับทำสีหน้าตกใจมาก  

แต่เธอต้องตกใจมากกว่าหลายเท่าเมื่อรู้ว่าตนเองไร้สติ  นอนรักษาตัวเองนานถึง 2ปีกว่า  มากกว่านั้นไม่มีใครตอบได้ว่าสามี

ของเธออยู่ที่ไหน จนกระทั่งชายผู้นึงเดินเข้ามาหาเธอ  ยื่นเอกสารบางอย่างให้เธอ พร้อมบอกกลับเธอว่า คุณเควินได้จากคุณไปแล้ว

และนี่เป็นพินัยกรรมของเขา  สิ้นสุดจากเสียงชายคนนั้นเธอ  เธอรู้สึกเหมือนไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกต่อไป  สายไปของเธอพล่าเบลอ

หัวใจของเธอเต้นช้า เธอทรุดตัวลง พยาบาลรีบเขามาช่วยเธอ  สิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเธอต่างไม่มีอะไรเดินหน้าต่อไป

เพราะเธอได้สิ้นสติไปแล้ว

** โปรดติดตามชีวิตของรุ่งระพินต่อจากนี้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่