ขอตอบบ้าง แต่ไม่แน่ใจว่าจะตรงประเด็นที่ จขกท ต้องการทราบมากน้อยขนาดไหนนะคะ
ขอตอบในฐานะคนทำ pre-order อเมริกาและคนซื้อบ้างในบางโอกาสนะคะ
โดยส่วนตัวแล้วเราคิดว่าทั้งสองทางทำหน้าที่ต่างกันแต่ต่างช่วยซึ่งกันและกันมากกว่าค่ะ
- facebook เป็นการแนะนำร้านค้า รวมไปถึงรายละเอียดของสินค้า และการสั่งซื้อ รวมถึงการติดต่อแบบ interactive ระหว่างลูกค้าและแม่ค้า
- search engine เป็นการค้นหาสินค้าที่ต้องการ และหลายครั้งก็จะเชื่อมโยงไปสู่หน้าสินค้าหรือร้านค้าใน facebook
โดยใช้ key word ที่ user พิมพ์ลงไป ซึ่งผลลัพธ์จากการค้นหาก็จะมีทั้งเพจขายของใน facebook และเวบอื่นๆ  เช่น weloveshopping เป็นต้น

เรามองว่าต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่เกื้อกูลซึ่งกันและกันค่ะ
อย่างเวบเราเองช่วงหลังๆที่ยุ่งๆ ไม่ค่อยได้มีเวลา update เพจตัวเองใน facebook เท่าที่ควร
นอกจากลูกค้าเก่าๆที่ติดต่อซื้อขายกันเป็นประจำอยู่แล้ว ก็มีลูกค้าใหม่ๆเข้ามาเช่นกัน
มีหลายๆคนถามหาสินค้าที่หมดไปนานแล้ว เราก็ถามกลับไปว่าดูมาจากที่ไหนเพราะของชิ้นนั้นๆหมดไปนานแล้ว
เค้าก็จะตอบว่าเห็นจากเวบนู้น นั้น นี้ ซึ่งเป็นเวบเก่าๆที่เคยทำไว้ ก็จะถึงบางอ้อว่าคง search มาแล้วข้อมูลโผล่ว่าร้านเรามีของ
ก็จะบอกไปว่าหาให้ได้ แต่ราคาคงต้องปรับเปลี่ยนตามช่วงเวลาและค่าเงิน อะไรประมาณนี้อ่ะค่ะ

แต่ถ้าในมุมมองของคนซื้อของ online จากแม่ค้าในประเทศ เราก็จะ search หาสินค้าก่อนแล้วค่อยติดต่อไปยังร้านค้าที่สนใจ
แต่เราไม่ค่อยชอบระบบหยิบลงตะกร้าเช่นกันค่ะ ถ้าเจอร้านที่มีของที่อยากได้ แต่ระบบซื้อขายเป็นแบบนี้เราก็บายอ่ะค่ะ
บอกตรงๆ ว่าถ้าเป็นเวบไทย เรายังไม่แน่ใจเรื่องความปลอดภัยและความเสถียรโดยเฉพาะเรื่องตัดเงินผ่านบัตรเครดิต
(แต่ถ้าเป็นเวบอเมริกาอย่าง Amazon, Nordstrom, Coach, New Balance, Drugstore ฯลฯ อันนี้เราวางใจกว่าอ่ะค่ะ)
เราชอบชนิดที่ว่าสามารถสอบถามกับแม่ค้าได้โดยตรง พอใจในราคาก็ตกลงซื้อขายและโอนเงินเลยมากกว่าค่ะ ง่ายดี
แต่ยอมรับว่าการลงรูปสินค้าใน facebook บางครั้งมันหาของยากจริงๆค่ะ บางครั้งเสียเวลานานเหมือนกันกว่าจะเจอของที่ต้องการอ่ะ แหะๆ