รถผม ใช้ 2 ระบบ น้ำมัน + LPG
ช่วงนั้นไม่ค่อยใช้แก๊สเท่าไหร่เพราะขับไกล้ๆ ใช้แต่น้ำมัน แต่ผมเริ่มได้กลิ่นน้ำมันเข้ามาในห้องโดยสาร เปิดกระโปรงรถดูเห็นแค่ซึมที่สาย ยังคิดในใจว่าคงแค่ซึมๆเลยไม่สนใจ
ผ่านมาไม่ถึง 1 อาทิตย์
เช้าวันนึง ตอน 6 โมงเช้า ผมสตาร์ทรถตามปกติ สิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น " สายน้ำมันแตก " ครับ แต่ตอนแรกยังไม่รู้เพราะปิดประตู เลยบิดกุญแจอยู่
( พอบิดกุญแจ ปั๊มติ๊กก็ทำงานน้ำมันก็ยิ่งพุ่งออกมา ) จนเริ่มสงสัยลงจากรถมาดู โอ้วววววว !!! น้ำมันนองเลยครับ
เปิดกระโปรงดูน้ำมันเปียกไปหมด พอตั้งสติได้เลย สลับเป็นแก๊ส ขับออกมา ยังคิดในใจว่ายังดีนะที่ติดแก๊สไว้ เพราะผมต้องรีบไปส่งแฟนที่โรงพยาบาลก่อน คิดว่าส่งแฟนเสร็จจะรีบไปซ่อมที่อู่
แต่ยังครับ ยังไม่จบเท่านั้น
ผมขับรถไปส่งแฟนที่โรงพยาบาล ตอนกลับ ผมสังเกตเห็นบางอย่างข้างทาง
เห็นเด็กนักเรียนที่รอรถป้ายรถเมล์ ชี้มาที่รถผมบางคนวิ่งหนีเข้าซอย
เอ๊ะ !! ยังไง
ผมเลยเหยียบเบรค " คุณพระช่วย " !!!!!!!!! เบรคไม่ได้ แป้นเบรคมันยุบลงไปเลย "เป็นไรอีกว่ะ"
คิดในใจ) ทันใดนั้นเองเครื่องดับ ควันไฟสีดำพวยพุ่งมาเต็มกระโปรงหน้ารถ ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่า "จะหยุดรถยังไง" หันไปเห็นเสาไฟฟ้า "เอาว่ะ " ชนเสาหยุดรถไปเลยแล้วกัน ไหนๆก็ไหนๆ เลยบังคับรถ
หันไปทางเสาไฟฟ้าเต็มที่ เพราะไม่รู้ว่ารถจะหยุดเมื่อไหร่ การบังคับทำได้แค่หมุนพวงมาลัยซ้าย-ขวาเท่านั้น เลยจากนี้ไปเป็นเขตชุมชนถ้าไม่หยุดตรงนี้ แล้วปล่อยให้เลยไปในเขตชุมชน คงจะชุลมุนน่าดู เลยบังคับรถเข้าหันเสาไฟ " เสาไฟไกล้เข้ามาทุกที ๆ นับ 5 4 3 2 1 หลับตา " !!!!
เฮ่ย !! ไม่ชน ไม่ชนจริง ๆครับ รถหยุด ห่างจากเสาไฟ ประมาณ 50 เซนติเมตร
รีบลงจากรถ เปิดกระโปรงท้าย ปิดวาล์วถังแก๊ส หยิบถังดับเพลิงขนาดเล็กๆ (พ่อซื้อให้ บอกว่าน่าจะมีติดรถไว้ ตอนแรกกะจะทิ้งแต่ดันได้ใช้)
จากนั้น เดินมาหน้ารถ ดึงสลิงเปิดกระโปรงหน้า เดินไปหน้ารถ โอ้โห !! มันร้อนเกิดจะทนไหว พอดีมีพี่ผู้ชายคนนึงหิ้วน้ำมาให้ 1 ถัง ราดไปที่กระโปรงรถให้ (ต้องขอบคุณจริงๆครับ) แล้วลุงแท็กซี่ ก็วิ่งมาเปิดกระโปรงรถให้ ผมเลยสายผงจากถังดับเพลิงเต็มที่ ดับครับ ดับสนิท
ทันได้นั้นเอง
รถดับเพลิงก็มาถึงพอดี 3 คัน "ย้ำว่า 3 คัน" จริงๆ ผมเลยยกมือไหว้ บอก "พี่ขอบคุณมากนะครับ แต่ผมกับพี่ผู้ชาย แล้วก็ลุงแท็กซี่ ดับกันได้แล้วครับ" พี่ดับเพลิงก็บอกว่า จะให้พี่ช่วยฉีดซ้ำให้มั๊ย จะได้ชัวร์
ผมเลยบอกว่าไม่เป็นไร เค้าก็กลับกันไป
หลังจากนั้นก็ไหว้ขอบคุณพี่ผู้ชายที่ยกน้ำมาให้ แล้วก็ลุงแทกซี่ที่ช่วยเปิดกระโปรง ตอนเดินกลับลุงยังหันมาบอกว่า " ลุงเจอบ่อย "
สรุปแล้วเสียหายเฉพาะที่ภายในกระโปรงรถ เครื่องยนต์ไม่เป็นไร แต่สายไฟใช้ไม่ได้เลย ยางหน้าไหม้หมด ส่วน สี ก็เสียหายแค่ช่วงหน้า ประกันซ่อมให้ครึ่งคัน (ชั้น 2+) ที่เหลืออีกครึ่งคันต้องจ่ายเอง
หลังจากวันนั้นผมก็มานั่งคิดว่าผมผิดที่ใหนบ้าง คร่าวๆก็น่าจะ
1. ความบกพร่องในการตรวจสอบสายน้ำมัน ทั้งๆที่ได้กลิ่น แต่ยังนิ่งนอนใจ
2. ตอนที่เห็นน้ำมันกระจายเต็มห้องเครื่อง น่าจะฉีดน้ำ ล้างคราบน้ำมันออกซะ เพราะผมคิดว่าสาเหตุที่เกิดไฟไหม้น่าจะเกิดจากคราบน้ำมัน ที่ติดตามส่วนต่างในห้องเครื่อง แล้วอาจเกิดการช๊อต เกิดประกายไฟ แล้วเมื่อมาเจอกับคราบน้ำมันที่ติดอยู่พอดี เลยทำให้ไฟไหม้
ผมไม่เคยคิดเลยว่าเกิดจากการติดแก๊ส เพราะผมรู้ดีว่ามันปลอดภัยแล้วก็ไม่ได้ติดไฟง่าย
ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะอยากให้ทุกๆ ท่านสนใจ เอาใจใส่ ในการตราวสอบดูแลรถยนต์ของท่านอยู่เสมอ ผมโชคดีที่ไม่เป็นอะไรเลย แล้วก็สามารถมาถ่ายทอดสิ่งที่ได้รับจากความประมาท ไม่ใส่ใจเท่าที่ควรในการดูแลรักษารถยนต์ ไปเถอะครับ !! ไปเปิดกระโปรง...
แค่สายน้ำมัน แค่สายน้ำมัน แค่สายน้ำมันจริง ๆ
ช่วงนั้นไม่ค่อยใช้แก๊สเท่าไหร่เพราะขับไกล้ๆ ใช้แต่น้ำมัน แต่ผมเริ่มได้กลิ่นน้ำมันเข้ามาในห้องโดยสาร เปิดกระโปรงรถดูเห็นแค่ซึมที่สาย ยังคิดในใจว่าคงแค่ซึมๆเลยไม่สนใจ
ผ่านมาไม่ถึง 1 อาทิตย์
เช้าวันนึง ตอน 6 โมงเช้า ผมสตาร์ทรถตามปกติ สิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น " สายน้ำมันแตก " ครับ แต่ตอนแรกยังไม่รู้เพราะปิดประตู เลยบิดกุญแจอยู่
( พอบิดกุญแจ ปั๊มติ๊กก็ทำงานน้ำมันก็ยิ่งพุ่งออกมา ) จนเริ่มสงสัยลงจากรถมาดู โอ้วววววว !!! น้ำมันนองเลยครับ
เปิดกระโปรงดูน้ำมันเปียกไปหมด พอตั้งสติได้เลย สลับเป็นแก๊ส ขับออกมา ยังคิดในใจว่ายังดีนะที่ติดแก๊สไว้ เพราะผมต้องรีบไปส่งแฟนที่โรงพยาบาลก่อน คิดว่าส่งแฟนเสร็จจะรีบไปซ่อมที่อู่
แต่ยังครับ ยังไม่จบเท่านั้น
ผมขับรถไปส่งแฟนที่โรงพยาบาล ตอนกลับ ผมสังเกตเห็นบางอย่างข้างทาง เห็นเด็กนักเรียนที่รอรถป้ายรถเมล์ ชี้มาที่รถผมบางคนวิ่งหนีเข้าซอย
เอ๊ะ !! ยังไง ผมเลยเหยียบเบรค " คุณพระช่วย " !!!!!!!!! เบรคไม่ได้ แป้นเบรคมันยุบลงไปเลย "เป็นไรอีกว่ะ"คิดในใจ) ทันใดนั้นเองเครื่องดับ ควันไฟสีดำพวยพุ่งมาเต็มกระโปรงหน้ารถ ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่า "จะหยุดรถยังไง" หันไปเห็นเสาไฟฟ้า "เอาว่ะ " ชนเสาหยุดรถไปเลยแล้วกัน ไหนๆก็ไหนๆ เลยบังคับรถ
หันไปทางเสาไฟฟ้าเต็มที่ เพราะไม่รู้ว่ารถจะหยุดเมื่อไหร่ การบังคับทำได้แค่หมุนพวงมาลัยซ้าย-ขวาเท่านั้น เลยจากนี้ไปเป็นเขตชุมชนถ้าไม่หยุดตรงนี้ แล้วปล่อยให้เลยไปในเขตชุมชน คงจะชุลมุนน่าดู เลยบังคับรถเข้าหันเสาไฟ " เสาไฟไกล้เข้ามาทุกที ๆ นับ 5 4 3 2 1 หลับตา " !!!!
เฮ่ย !! ไม่ชน ไม่ชนจริง ๆครับ รถหยุด ห่างจากเสาไฟ ประมาณ 50 เซนติเมตร
รีบลงจากรถ เปิดกระโปรงท้าย ปิดวาล์วถังแก๊ส หยิบถังดับเพลิงขนาดเล็กๆ (พ่อซื้อให้ บอกว่าน่าจะมีติดรถไว้ ตอนแรกกะจะทิ้งแต่ดันได้ใช้)
จากนั้น เดินมาหน้ารถ ดึงสลิงเปิดกระโปรงหน้า เดินไปหน้ารถ โอ้โห !! มันร้อนเกิดจะทนไหว พอดีมีพี่ผู้ชายคนนึงหิ้วน้ำมาให้ 1 ถัง ราดไปที่กระโปรงรถให้ (ต้องขอบคุณจริงๆครับ) แล้วลุงแท็กซี่ ก็วิ่งมาเปิดกระโปรงรถให้ ผมเลยสายผงจากถังดับเพลิงเต็มที่ ดับครับ ดับสนิท
ทันได้นั้นเอง
รถดับเพลิงก็มาถึงพอดี 3 คัน "ย้ำว่า 3 คัน" จริงๆ ผมเลยยกมือไหว้ บอก "พี่ขอบคุณมากนะครับ แต่ผมกับพี่ผู้ชาย แล้วก็ลุงแท็กซี่ ดับกันได้แล้วครับ" พี่ดับเพลิงก็บอกว่า จะให้พี่ช่วยฉีดซ้ำให้มั๊ย จะได้ชัวร์ ผมเลยบอกว่าไม่เป็นไร เค้าก็กลับกันไป
หลังจากนั้นก็ไหว้ขอบคุณพี่ผู้ชายที่ยกน้ำมาให้ แล้วก็ลุงแทกซี่ที่ช่วยเปิดกระโปรง ตอนเดินกลับลุงยังหันมาบอกว่า " ลุงเจอบ่อย "
สรุปแล้วเสียหายเฉพาะที่ภายในกระโปรงรถ เครื่องยนต์ไม่เป็นไร แต่สายไฟใช้ไม่ได้เลย ยางหน้าไหม้หมด ส่วน สี ก็เสียหายแค่ช่วงหน้า ประกันซ่อมให้ครึ่งคัน (ชั้น 2+) ที่เหลืออีกครึ่งคันต้องจ่ายเอง
หลังจากวันนั้นผมก็มานั่งคิดว่าผมผิดที่ใหนบ้าง คร่าวๆก็น่าจะ
1. ความบกพร่องในการตรวจสอบสายน้ำมัน ทั้งๆที่ได้กลิ่น แต่ยังนิ่งนอนใจ
2. ตอนที่เห็นน้ำมันกระจายเต็มห้องเครื่อง น่าจะฉีดน้ำ ล้างคราบน้ำมันออกซะ เพราะผมคิดว่าสาเหตุที่เกิดไฟไหม้น่าจะเกิดจากคราบน้ำมัน ที่ติดตามส่วนต่างในห้องเครื่อง แล้วอาจเกิดการช๊อต เกิดประกายไฟ แล้วเมื่อมาเจอกับคราบน้ำมันที่ติดอยู่พอดี เลยทำให้ไฟไหม้
ผมไม่เคยคิดเลยว่าเกิดจากการติดแก๊ส เพราะผมรู้ดีว่ามันปลอดภัยแล้วก็ไม่ได้ติดไฟง่าย
ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะอยากให้ทุกๆ ท่านสนใจ เอาใจใส่ ในการตราวสอบดูแลรถยนต์ของท่านอยู่เสมอ ผมโชคดีที่ไม่เป็นอะไรเลย แล้วก็สามารถมาถ่ายทอดสิ่งที่ได้รับจากความประมาท ไม่ใส่ใจเท่าที่ควรในการดูแลรักษารถยนต์ ไปเถอะครับ !! ไปเปิดกระโปรง...