เนื่องจากฝ่ายหญิงทำผิดต่อฝ่ายชายหลายครั้งแต่ให้อภัยเสมอ จนกระทั่ง ทำผิดครั้งใหญ่ จนไม่น่าให้อภัย และฝ่ายชายขอแยกทางเนืองจากสุดจะทนกับพฤติกรรมแย่ๆ แต่แต่งงานแล้วพยายามขอฝ่ายหญิงจดทะเบียนสมรสก็ไม่ยอมจด เพราะแม่ฝ่ายหญิงสั่งไว้ แต่ทุนทำร้าน ทำธุรกิจร่วมกัน มา 3 ปี คือเงินของฝ่ายชายตั้งแต่ตั้งร้านใหม่ ยอมขายรถ ยอมจำนองบ้านพ่อแม่จากแบงค์ เอามาหมุนให้ร้านอยู่รอด และในจำนวนนี้เป็นเงินค่าสินสอดด้วย และบางครั้งเงินหมุนไม่พอ ฝ่ายหญิงก็ขอจากทางบ้านบ้างเป็นระยะ แล้วแต่วันว่าขายได้น้อย ได้มาก อยากถามว่ากรณีนี้ ฝ่ายชายสามารถเรียกร้องเอาเงินคืนไอย่างน้อยกึ่งหนึ่งได้หรือไม่ เนื่องจากอาคารพานิชที่ทำร้านก็เป็นผู้หญิง รถคันใหม่ก็เป็นชื่อผู้หญิง แต่เงินที่ผ่อนอาคารพานิชและรถ ใช้เงินในร้านช่วยกันผ่อน ส่วนบ้านที่จำนองนั้น ก็กูร่วมเป็นชื่อฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ซึ่งขณะนี้เหลือหนี้อีก จำนวนหนึ่งจำเป็นต้องส่งชำระแบงค์ทุกเดือน เดือนละหมื่นกว่าๆ ซึ่งขณะนี้ ฝ่ายหญิงไม่รับผิดชอบใดๆ เพราะถือว่าบ้านนั้นไม่ใช่บ้านตนเอง ทำไมต้องชดใช้ แบบนี้เรียกว่าเอาเปรียบ และทางกฏหมายมีการคุ้มครองเรื่องการแบ่งทรัพย์สินสำหรับคู่สมรสที่ไม่จดทะเบียนสมรสหรือไม่ วานผู้รู้ช่วยไขความกระจ่างที ^_^ ตอนนี้ฝ่ายชายได้แต่ตัวกับทรัพย์สินของตนเองเพียงน้อยนิดหลักพันเท่านั้น
ไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่ทำธุรกิจร่วมกัน เมื่อเลิกกัน ฝ่ายชายสามารถ มีสิทธิ์เอาทุนที่ร่วมสร้างคืนมากึ่งหนึ่งได้หรือไม่